ผู้เขียน หัวข้อ: รถลุยนำ้ท่วมมาแล้วพรมข้างใต้รถเปียก ถ้าตากแดดแล้วไม่หายนี้ต้องทำยังไงต่อครับ  (อ่าน 27861 ครั้ง)

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
คือขอเราเหตุการณ์ก่อนนะครับ ที่ว่าลุยๆเนี่ย

คือว่าเมื่อวันที่8 (2วันที่แล้ว) ต้องขึ้นเชียงใหม่พอดี ก็รู็ๆกัันอยู่ว่าถนนสายเอเซียนำ้ท่วม(ตรงบางประหัน)

ผมก็เลยเลี่ยงไปเส้น บางบังทอง-สุพรรณบุรี แล้วที่นี่ก็เลี้ยงเข้ามโนรมย์เพื่อเข้าชัยนาท

แต่ที่นี่ตอนแรกๆก็เลี่ยงเข้าไปก็เห็นว่าฝั่งที่ผมจะต้องวิ่งปิดแล้วเพราะนำ้สูงขึ้นถึงประมาณที่กันทางที่เป็นปูน ผมก็ต้องวิ่งสวนกับคนอื่นซีึ่งฝั่'นั้นยังไม่ท่วม

แต่อยู่ดีๆเห็นนำ้มันเริ่มรั่วเข้ามา ท่าทางไม่ดีผมก็ไม่รู็จะทำไงได้รถมันติดแล้ว สักพักนำ้มันดัีนไอกำแพงปูนพังนำ้ทะลักเข้ามาแรงมากครับ รถนี้แบบว่ารู้สึกได้้เลยว่ากระทบกับ

นำ้อย่างแรงความสูงน่าจะถึงล้อได้ก็โดนรถ10ล้อ ขับผ่านนำ้ก็ขึ้นกระโปรงหน้าแต่ก็โชคดีขับหลุดออกมาได้ทางก็พอสมควรยาวประมาณ 400เมตรได้มั่งครับไม่ได้ดูอะไรเลย

เพราะมันมึนมากๆมาเป็นคลื่นเลย สงสารรถมากๆครับ  

บ่นซะนาน เขาเรื่องเลยดีกว่า
คือว่าเรื่องๆของเรื่องผมถึงเชียงใหม่เข้าบ้านตัวเองก็ 22.00แล้ววิ่งตั้งแต่ ตี5 มันก็เหนื่อยครับ ก็เลยไม่ได้เช็ครถอะไรครับ แต่วันนี้จำเป้นต้องขับเข้าเมืองก็เลยวิ่งดู
ปรากฏว่ารถเหม็นมากเปิดพร่มดู นำ้ฝั่งซ้ยของตัวรถชื้นมากๆครับเป็นนำ้เลยครับ ผมก็เลยพึ่งนำพรมมาตากแต่ว่าอยากรู้ว่าถ้ากินมันไม่หายต้องทำยังไงครับ ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไรครับ แล้วก็อยากรู้ว่าลุยนำ้แบบนี้โอกาสที่ นำ้ซึ้มเข้าทางใต้ท้องรถเป็นไปได้ไมครับลุยประมาณ5-7นาทีประมาณนั้นครับ  ตอนนี้ก็กังวลว่ารถมันจะหายจากกลิ่นไมเพราะว่าหมกไว้นานเหลือเกินครับ  


แต่ว่าตอนที่ลุยเสร็จก็วิ่งๆอยู่ไฟนำ้มันเครื่องขี้นครับ ก็เลยกังวลกลัวว่าปั๊มนำ้มันเครื่องพังกลัวเรื่องใหญ่ก็เลยแวะเช็ค0ที่นิสสัน ตากครับเช็คไปเช็คมาก็แค่ เซ้นเซอร์มันชื้นเฉยๆครับไม่มีปัญหาแต่อย่างใดก็เลยสบายใจไป สรุปตอนนี้พวกเครื่องยนตืระบบเกียร์ระบบไฟฟ้าตัวอื่นไม่มีปัญหาอะไรเลยครับวิ่งดีมากๆครับ แต่ติดแค่กลิ่นข้างในรถครับอัป มากมายครับ

ป.ล.คิดๅดู แล้วว่าอีกด้านนึงทำไมต้องมาพังตอนตรูพอดีหวะ แต่คิดอีกด้านนึงก็แบบว่ารอดมาได้ก็โชคดีแล้ว ขับลุยนำ้ครั้งนี้ประสบการณ์จริงๆครับไม่เคยขนาดนี้เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 10, 2011, 17:55:14 โดย toon_thanarit »

ออฟไลน์ GUDJA-MAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,649
ผมเคยให้ร้าน รื้อพรมพื้นรถออกมาซัก
ตอนนั้นผมทำราคา 1,700 บาท (6-7 ปีที่แล้ว)
 
http://tcwcarrecon.com/

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
ถ้าพรมเปียกเยอะ รื้อแน่นอนครับ ซักพรมไม่ได้ ซักได้ก็เฉพาะด้านบน(ที่เราเหยียบ)

ข้างใต้ไม่แห้งแน่นอน

แนะนำให้เข้าคาร์แคร์ รื้อพรมเอาออกมาซักเลยจ้า  แต่ถ้าพอมีเวลารื้อเองก็ได้นะครับ มันมันต้องดูก่อนว่ารถเราเนี่ย มีอะไรทับพรมอยู่บ้าง อย่างรถผมเพิ่งเปลี่ยนพรมไปหมาดๆ ซึ้งรื้อเองไม่ได้ เนื่องจากตู้แอร์มันทับพรมอยู่ ถ้าอยากรื้อเองคือต้องตัดพรม หรือไม่ก็ต้องถอดประกอบคอนโซลเอง

ออฟไลน์ vellcap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,984
โหหห น่ากลัวมากเลยนะครับ แต่คุณก็โชคดีมากแล้วที่ออกจากตรงนั้นมาได้

ออฟไลน์ Northbridge

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 751
ผมก็เคยทิ้งไว้ไม่หาย สุดท้ายต้องรื้อพรมออกมาครับ พรมพื้นรถที่บังเราจากเนื้อเหล็กรถเลยน่ะนะครับ

พ่อผมทำเองที่บ้าน รื้อเบาะออกมาหมดเลย เลาะกาบข้างออก ทิ้งไว้วันสองวันก็หายครับ

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
ยังไงก็ต้องขอขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นมากๆเลยนะครับ :)

ณ ตอนนี้คงต้องเริ่้มจากพืิ้นฐานที่ไม่เสียเงินก่อนครับ เพื่อกลิ่นจะหายไปบ้าง

แต่ถ้า มันไม่หายจริงๆ คงต้องทำตามท่านสมาชิกบอกไว้แล้วหละครับ คึือก็ไม่คิดว่ามันจะชิ้นเข้ามาได้ขนาดนี้ลุยประมาณ5-7นาที ก็ไม่คิดว่าจะเข้ามากแต่ลูบๆแล้วเออหวะมันชิ้น เซ้งจิตจริงๆครับ

ยังไงก็ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นจริงๆนะครับ แล้วไม่ทราบว่าถ้าทำวิธีรื้อพรมออกมาจนถึงเนื้อเหล็กถ้าจ้างเขาทำจะประมาณกี่บาทครับ อยากถามไว้เป็นข้อมูลหน่อยเพื่อตากแดดแล้วไม่หายครับ

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
เสียตังให้เค้ารื้อเถอะครับ

อย่างน้อยๆก็หายขาด+อบฆ่าเชื้อโรคก็ดีครับ
น้ำท่วม มันสกปรก+เหม็น

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
รื้อออกมาซักดีกว่าครับ ให้สะอาดไปเลยทีเดียว

ออฟไลน์ karn5811

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 595
    • อีเมล์
รถของเจ้าของกระทู้ รุ่นอะไรหรอครับ รู้แต่เป็นนิสสัน ?

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
รถของเจ้าของกระทู้ รุ่นอะไรหรอครับ รู้แต่เป็นนิสสัน ?
Cefiro A33  2.0  Executive V6 ครับ

ออฟไลน์ prysakol

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 133
ผมเคยทำแบบง่ายๆ

เอากระดาษหนังสือพิมพ์ไปวางบนพรมที่เปียก ให้มันดูดน้ำขึ้นมา

เปียกก้อเปลี่ยนใหม่.  ทำไปสักอาทิตย์ บวกกับจอดตากแดดไว้

แล้วหาน้ำหอมมาฉีดดับกลิ่น ก้อพอไหวนะครับ

ลองดูครับ

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
ผมเคยทำแบบง่ายๆ

เอากระดาษหนังสือพิมพ์ไปวางบนพรมที่เปียก ให้มันดูดน้ำขึ้นมา

เปียกก้อเปลี่ยนใหม่.  ทำไปสักอาทิตย์ บวกกับจอดตากแดดไว้

แล้วหาน้ำหอมมาฉีดดับกลิ่น ก้อพอไหวนะครับ

ลองดูครับ
ผมลืมวิธีนี้ไปได้ยังไง รถพ่อผมๆก็เคยทำครับ ปรากฎว่ามันก็หายครับ แต่ตอนนั้นก็นำ้เข้าแค่โซนเดียวคือเบาะหลังซ้าย(ตอนนั้นซีนยางมันมีปัญหาแล้วจอดใต้ทางหลังคานำ้ไหลพอดี) แต่คันนี้พ.ท.ชื้นมันมากกว่าหน่อยระดับความแชะก็พอๆกัน ครับ ยังไงก็อยากจะเรียนตรงๆว่าไม่ได้จะดื้อหรือไม่ยอมทำอะไร แต่ว่าก็อยากจะทำอะไรที่มันSAVEเงินแล้วถ้าไม่หาย ค่อยไปวิธีที่ที่เราต้องเสียเงินจริงๆครับ เพราะว่าผมจากที่อ่านแนวความคิดของ เพื่อนๆสมาชิก แล้วก็แนะนำให้นำพรมถอดออกมาดูจะเหมาะสมกว่าแ่น่นอนครับ ...ยังไงก็ขอบคุณYenchariรวมถึงคุณ keanetona การ photoshop และ prysakol ด้วยนะครับ
ที่เขามาแนะนำครับ  ;)

ออฟไลน์ prysakol

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 133
อีกอย่าง

มันจะมีก้อนถ่านดูดกลิ่นขายในซุปเปอ์มาเกต แผนกพวกเครื่องหอม

ก้อพอช่วยได้เวลาปิดประตู

ลองดูครับ

ออฟไลน์ Lertvarit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,212
แนะนำว่าถอดพรมออกมาซัก + ซับน้ำตรงพื้นตัวถังให้แห้ง น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ
FD 1.8 + ACV40 Hybrid + E90 LCI 320d sport 
And My new stuff  E60 LCI 520D sport

ออฟไลน์ Aphutylfc

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 241
ถอดไปให้เค้าซักเถอะครับ ตากหลายๆแดดหน่อยน่าจะหาย

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
ผมเคยทำแบบง่ายๆ

เอากระดาษหนังสือพิมพ์ไปวางบนพรมที่เปียก ให้มันดูดน้ำขึ้นมา

เปียกก้อเปลี่ยนใหม่.  ทำไปสักอาทิตย์ บวกกับจอดตากแดดไว้

แล้วหาน้ำหอมมาฉีดดับกลิ่น ก้อพอไหวนะครับ

ลองดูครับ
ผมลืมวิธีนี้ไปได้ยังไง รถพ่อผมๆก็เคยทำครับ ปรากฎว่ามันก็หายครับ แต่ตอนนั้นก็นำ้เข้าแค่โซนเดียวคือเบาะหลังซ้าย(ตอนนั้นซีนยางมันมีปัญหาแล้วจอดใต้ทางหลังคานำ้ไหลพอดี) แต่คันนี้พ.ท.ชื้นมันมากกว่าหน่อยระดับความแชะก็พอๆกัน ครับ ยังไงก็อยากจะเรียนตรงๆว่าไม่ได้จะดื้อหรือไม่ยอมทำอะไร แต่ว่าก็อยากจะทำอะไรที่มันSAVEเงินแล้วถ้าไม่หาย ค่อยไปวิธีที่ที่เราต้องเสียเงินจริงๆครับ เพราะว่าผมจากที่อ่านแนวความคิดของ เพื่อนๆสมาชิก แล้วก็แนะนำให้นำพรมถอดออกมาดูจะเหมาะสมกว่าแ่น่นอนครับ ...ยังไงก็ขอบคุณYenchariรวมถึงคุณ keanetona การ photoshop และ prysakol ด้วยนะครับ
ที่เขามาแนะนำครับ  ;)

ทำวิธีนี้หาย แต่ยังไงก็ไม่หมดครับ
พอเอารถไปจอดตากแดด น้ำที่อยู่ใต้พรม มันก็จะระเหยขึ้นมาบนพรมให้ได้เห็นอีก ถ้าได้เห็นรถผมแล้วนะรุ้ว่าทำยังไงมันก็ไม่แห้งแน่ๆ
ถ้าจะให้ดี ต้องรื้อแบบนี้เลยครับ http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,15728.msg234347.html#msg234347

ส่วนถ้าจะเอาไปทำ เค้าจะคิดค่าซักประมาณ 1700 ส่วนค่ารื้อก็ 700 ครับ โดยประมาณนะ

เอาง่ายๆครับ ลองเปิดพรมขึ้นมาดู ถ้าข้างใต้เข้าขี่นเปียกหรือแฉะล่ะก็ รื้อเถอะครับ

ออฟไลน์ PapaRo@ch~*

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,100
ถ้าพื้นที่ที่เปียกไม่เยอะนัก
ใช้หนังสือพิมพ์สอดใต้พรมไป แล้ววางด้านบนอีกที เปลี่ยนทุก 2-3 วัน

ถ้าพื้นที่ที่เปียกเยอะมาก ก้อไปร้านซักพรมเถอะครับ

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
อีกอย่าง

มันจะมีก้อนถ่านดูดกลิ่นขายในซุปเปอ์มาเกต แผนกพวกเครื่องหอม

ก้อพอช่วยได้เวลาปิดประตู

ลองดูครับ

ซื้อถ่านที่เค้าแบ่งขายถุงล่ะ 20 ก็ได้ครับ เหมือนกัน ผมเคยทำน้ำหกในรถเยอะมาก มีกลิ่นอับด้วย ก็จอดรถตากแดด 2-3 วัน เปิดประตูรถค้างไว้แล้วเอาพัดลมมาเป่า แล้วก็เอาถ่านนี่แหละ (ใส่ตู้เย็นลดกลิ่นอับก็ได้) ใส่ทั้งถุงไว้เป็นสัปดาห์เลย จะไปไหนมาไหนถ้าไมมีคนนั่งก็วางไว้อย่างนั้น ถ้ามีก็ค่อยเอาออก แล้วกลิ่นอับก็หายไป
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ TTL

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,277
ยังไงก็ต้องขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับ

วันนี้ ก็จอดตากแดดไว้ทั้งวัน เอาพรมทุกอย่างออกมาหมด(ไม่ใช่พรมที่พื้นเหล็กรถนะครับไม่มีปัญญาทำ) วันนี้ก็โชคดีแดดแรงโคตรๆครับ ก็เลยทำให้ดีขึ้นเยอะกินหายไปเยอะกะว่าจะตาก

อีก 2-3 วันครับ  ถ้าไม่หายก็คงต้องรื้อตามที่คุณ Satanic za' และเพื่อนๆคนอื่นๆให้คำแนะนำมาครับ ถึงยังไงเรื่องรื้อพรมถ้าทำก็คงกลับกทม.ไปทำเพราะไม่รู้ขากลับจะเจอของดีเขาหรือไม

แต่ตอนนี้จากที่ผมสังเกตุอาการแล้วเวลากดพรมแรงๆมันไม่มีนำ้แล้วครับมีก็จะเป็นนิดๆหน่อยครับ อาการดีขึ้นเยอะครับคงต้องรอดูกันหน่อยครับ