ผู้เขียน หัวข้อ: ตอบคำถามคุณเนยครับ  (อ่าน 5032 ครั้ง)

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
ตอบคำถามคุณเนยครับ
« เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 06:05:17 »
To : คุณเนยและทุกท่านที่ช่วยตอบคำถามครับ

สืบเนื่องจากกระทู้นี้

http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,16131.0.html

ข้อ 2
ผมแปลกใจว่าเอาอะไรวัด ถึงบอกว่าเหยียบเร่งแซงแล้วได้เท่านั้นเท่านี้
ตอนแซงกดคันเร่งเท่าไหร่ครับ กดนานเท่าไหร่ รอบอยู่ที่เท่าไหร่ ความเร็วก่อนแซงเท่าไหร่
เพราะผมขับ Jazz i-DSi ของแฟนบนบูรพาวิถีและมอเตอร์เวย์ ในวันที่ต้องรีบมากมาก
ผมก็ส่งมันขึ้นไป 160-170 ได้ อาจจะไปถึงช้าหน่อย แต่ก็ไปถึงได้แบบไม่ต้องลุ้นมาก

จริงจริง น้ำมันเครื่อง Valvoline ก็ดีอยู่แล้วครับ ยิ่งเบอร์ใสขนาดนี้ยิ่งไม่น่าเป็นประเด็น
มันก็กลับไปที่ประเด็นเดิมอีกแหละครับ ว่าเครื่องเดิม 110 แรงม้า (หรือ 88 แรงม้า?)
น้ำมันเครื่องเบอร์ต่างกันนิดเดียว มันไม่ได้ให้ผลแรงม้าต่างกันมากหรอกครับ
พวกรถเทอร์โบ หรือโมดิฟายมาแรงม้ามากมาก เวลาเปลี่ยนชนิดน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเชื้อเพลิง หรือ Configuration นิดหน่อยก็มักจะเห็นผลมากกว่า ซึ่งก็ไม่แปลก
สมมติว่า เปลี่ยนน้ำมันเครื่องมีผล 3% บนแรงม้า รถ Evo มี 280 แรงม้า 3% ก็ปาเข้าไป 8.5 ตัว
ในขณะที่รถเราเรา มี 110 แรงม้า มันก็ขึ้นมาแค่ 3 ตัว เจอเกียร์ออโต้สูญเสียแรงไปอีก ก็หดไปอีก

ถ้าอยากรู้ว่าอันไหนดีไม่ดี ไปหาเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่องมาติดเลยครับ
อะไรที่รักษาแรงดันได้คงที่กว่า อันนั้นก็ให้ประสิทธิภาพการหล่อลื่นที่ดีกว่า
ส่วนเจ้าไหนทำแล้วได้แรงม้ามากกว่า ผมว่าคงต้องไปขึ้น DynoTest วัดกันสถานเดียวครับ


ผมขออธิบายดังนี้ครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบครับ

---คุณ YenChar ครับ ผมก็ใช้ Lenso รุ่น Light S2 กับ ที่ล้อ
จะมีสติกเกอร์แปะไว้ว่า Lenso Super Light Weight Racing Wheel
ที่ล้อพิมพ์น้ำหนักไว้ที่ 5.8 KG รองรับน้ำหนักได้ 500 KG

-- คุณ AnubisTT ครับ ตอนแรกผมกะว่าถ้าผ่อนรถหมดปลายปีนี้
ก็จะเก็บตังค์เปลี่ยนล้อใหม่ครับ อยากได้ล้อฟอร์ช ตอนแรกคิดว่า ถ้า Enkai ญี่ปุ่น
ขอบ 15 วงละประมาณ 7,800 บาท ก็ถูกกว่า Buddy Club หน่อย ก็ประหยัดตังค์ได้หน่อยนึง
แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ล้อ Buddy Club น่าสนใจกว่าครับ (ถ้าจำไม่ผิด ล้อ Buddy Club
P1-QF ที่เจ้านายเก่าใส่กับ Jazz รุ่นที่แล้ว หนัก 4.9 kg ครับ)

-- คุณ Nuay@Protege ครับ ล้อ Buddy Club
P1-QF ที่เจ้านายเก่าใส่กับ Jazz รุ่นที่แล้ว (เครื่อง I-DSI 88 แรงม้า)
ก็ดุ้งได้ครับ เขาขับบนถนนพระราม 2 กับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช
กลับมา ยังมาเล่าให้ผมฟังเลยครับ ว่าตกหลุมตรงไหนไม่ตก
ไปตกหลุมหน้าศูนย์ Toyota เขายังขำเลยครับ
เป็นล้อหลังซ้าย ขอบล้อเบี้ยวไปหน่อย แต่ยางเสียหายเยอะ
ยางขนาด 195/50/15 ของ Yokohama รุ่นAdvance AD-07 เขาเลยเปลี่ยนเอา
MY-01 ของ Bridgestone มาใส่แทนเพื่อประหยัดเงิน (ลายคล้ายๆ กัน)

ข้อน้ำมันเครื่อง  ผมขออธิบายจากการที่ผมขับไม่ได้อิงทฤษฎีอะไรนะครับ
-- ประมาณเดือน ก.ค. ปี 2552
รถ Honda City ZX ปี 2007 เครื่อง VTEC (110 แรงม้า)
น้ำมันเครื่องศูนย์ 10W30 + เบนซิน 95 ของ เชลล์ ขับบนบูรพาวิถีมุ่งหน้าชลบุรี
ช่วงล่างเดิมๆ มีแต่ล้อ Lenso 15 นิ้ว+ยาง RE001
ความเร็วตอนนั้นประมาณ 110 กม./ชม. รอบเครื่องประมาณ 2,500 รอบ
วิ่งอยู่เลนกลาง ด้านหน้าห่างออกไปประมาณ 6-7 ช่วงคันรถ
มีรถกระบะวิ่งอยู่ ประมาณการความเร็วรถกระบะประมาณ 90 – 100 กม./ชม.
ซึ่งผมน่าจะไปจ่อท้ายรถกระบะใน 10 วินาที
มองกระจกรถเลนขวาว่าง ผมหักออกขวาสุด kick down แล้วนับถอยหลัง
จาก 10 – 0 รอบเครื่องกวาดจาก 2500 ไปที่ 5000 รอบต่อนาที ที่ความเร็ว 150 กม./ชม.
พอนับถึง 0 ผมก็แซงกระบะคันนั้นพ้น เหยียบแช่ต่ออีกประมาณ 5 วินาที
แล้วค่อยๆ ผ่อนความเร็วลง หักกลับเข้าเลนกลางในระยะปลอดภัย
กลับมาที่ความเร็วเดินทางเดิมคือ 110 กม./ชม.

-- 12 – 13  ก.พ. 2554
น้ำมันเครื่อง Valvoline 5W30+V Power Sohol 95 ของเชลล์
(ช่วงล่างใหม่ โช้ค Monroe รุ่น Original+สปริงโหลด Tanabe NF210+ผ้าเบรก na-p+ ยางมิชลิน
Pilot Sport 3 ที่พึ่งเปลี่ยนมาเมื่อ 8 ก.พ. 2554 ใช้งานมาแค่ 200 กม. ก่อนจะไปทริปนี้กับเพื่อน)

เหตุการณ์คล้ายด้านบน บนเส้นทางบูรพาวิถีมุ่งหน้าชลบุรีเหมือนกัน
เพียงแต่เหยียบแซงแล้ว มันได้แค่ประมาณ 140 กม./ชม. รอบเครื่องก็ประมาณ 5000 รอบต่อนาทีเหมือนกันครับ

ก็เลยแปลกใจว่า Valvoline มันลื่นจริง ในรอบต้นและรอบกลาง แต่พอรอบสูง เหมือนมันใสไปนิดหรือเปล่าอันนี้ผมเดาเอา

จากที่เคยอ่านกระทู้ใน pantip มีคนนึงใช้ Civic FD 1.8 แล้วใช้ Valvoline 5W30
เขาบอกว่าเครื่องลื่นดี แต่เหมือนเครื่องไม่มีกำลัง พอเปลี่ยนมาเป็น Mobil 1 0W40 รู้สึกได้ว่าเครื่องมีกำลังให้เรียกใช้ตลอดเวลา ซึ่งผมก็เคยลองใช้ Mobil 1 0W40 ช่วง ก.ย. 2552- เม.ย. 2553
รู้ได้เลยว่า รอบต้นรถอืดไปเยอะ อาจเป็นเพราะน้ำมันเครื่องข้นมากเกินไป+เครื่องผมเล็กเกินไป

ส่วนเรื่องติดเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง ก็อยากติดครับ เพียงแต่ขี้เกียจฟังทางบ้านบ่น
ก็เลยไม่ได้ติดครับ

แต่อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณคุณเนยมากๆ สำหรับความคิดเห็นครับ

-- ส่วนผ้าเบรก NSport U Spec กับรถโมเดล มีท่านใดพอทราบบ้างครับ ขอบคุณครับ

My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: ตอบคำถามคุณเนยครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 06:36:09 »
1. ผมไม่เห็นความจำเป็นใดใด ที่จะต้องมาตั้งกระทู้ใหม่แบบนี้ครับ
ถ้าอยากคุยกับผมต่อเรื่องไหน เราสามารถ PM คุยกันได้
ผมไม่ติดขัดแต่อย่างใดเลยครับ หลายท่านในนี้ก็คุยกับผมอยู่ทาง PM

2. ผมคิดว่าหัวข้อกระทู้ มันก็ไม่เหมาะอยู่ดีครับ ตอบคำถามตั้งหลายคน
แต่ตั้งหัวข้อกระทู้ว่าตอบผมคนเดียว เหมือนเรามีประเด็นอะไรกันอยู่อย่างนั้นแหละ

3. เรื่องล้อและยาง ถ้าตกหลุมขนาดยางพังแม็กคดตรงขอบ ผมคิดว่าไม่ใช่หลุมธรรมดาแล้วครับ
ที่ผมพูดถึงนี่คือกรณีทั่วไป ล้อปกติ กับยาง 195/50R15 น่าจะเพียงพอซับแรงกระแทกแล้ว
แต่ไม่รวมถึงการเกิด "อุบัติเหตุ" ขับรถตกหลุมครับ แบบนั้นล้อ Forged ก็แตกได้เหมือนกัน

4. เรื่องอัตราเร่ง ผมคิดว่าถ้าจะทำง่ายง่าย ก็แค่ขับรถขึ้นทางด่วนพร้อมนาฬิกาจับเวลา
วิ่งลอยลำ 100 แล้วกดคันเร่งพร้อมกดจับเวลา พอถึง 150 แล้วยกก็เท่านั้นครับ
ครั้งต่อไปพอเปลี่ยนน้ำมันเครื่องก็ลองอีกที จะได้ทราบกันไปเลยว่าอะไรเป็นอะไร
ผมไม่ได้บอกนะครับ ว่าน้ำมันเครื่องต่างกันจะทำให้อัตราเร่ง"ไม่"ต่างกัน
ผมเพียงแต่บอกว่า มันตอบได้อยากจากการใช้ความรู้สึกและคาดคะเนเอา
ยิ่งรถเป็นเกียร์ CVT ยิ่งตอบลำบาก เพราะรอบความเร็วของเครื่องยนต์ และความเร็วของรถ
มันไม่จำเป็นต้องอยู่ที่เดิม แทบจะไม่มีความสัมพันธ์ใดใดเลยทั้งสิ้น ดังนั้น การบอกว่า
กด 5,000 รอบแล้ววิ่งได้ 150 กับอีกทีได้ 140 มันเลยยังหาข้อสรุปไม่ได้ ในมุมมองของผมครับ

คราวหน้า ไม่ต้องตั้งกระทู้ถึงผมโดยตรงนะครับ ขอร้องงงง...

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: ตอบคำถามคุณเนยครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 07:27:31 »
ก่อนอื่นต้องกล่าวขอโทษคุณเนยด้วยครับ

เนื่องจากผมตอบในกระทู้เก่าแล้ว

แต่เห็นไม่มีใครตอบเพิ่มครับ

แล้วเรื่อง PM ผมต้องขอโทษจริงๆ ครับ
ที่ลืมนึกถึงไป เลยมาตั้งกระทู้ใหม่ขอกล่าวขอโทษอีกครั้งครับ

และขอให้สัญญาว่าจะไม่ตั้งกระทู้
โดยระบุว่าถามคุณเนยอีกเด็ดขาดครับ

ท้ายนี้ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ
และกล่าวขอโทษอีกครั้ง ที่อาจจะทำให้คุณเนย
ไม่พึงใจครับ



My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: ตอบคำถามคุณเนยครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 07:51:57 »
เอ่อ ขอโทษเหมือนกันครับที่ทำให้เข้าใจผิดไปอีก

ผมไม่ได้ไม่พอใจอะไรครับ เพียงแต่คิดว่าถ้าตั้งกระทู้ถามแบบกว้างกว้าง
คุณจะได้รับความคิดเห็นจากหลายท่านมากกว่า ซึ่งมีประโยชน์กับตัวคุณเอง
และผมไม่ได้จะห้ามไม่ให้คุณตั้งระบุกระทู้ถึงผมนะครับ เพียงแต่สำหรับกระทู้นี้
ผมแค่ติงว่าหัวข้อกระทู้มันไม่ตรงกับเนื้อหา ที่คุยกันกับหลายคนเท่านั้นเองครับ

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: ตอบคำถามคุณเนยครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 09:16:31 »
การทดสอบความแรงด้วยวิธีการวิ่งบนเส้นทาง เป็นวิธีที่ใช้ได้กับกรณีความแรงต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างเช่น รถเทอร์โบ ปรับบูสท์เพิ่มประมาณ 3-4 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว อันนี้เห็นผล

แต่ถ้าเป็นการเปลี่ยนแปลงชนิด 3-5 แรงม้า เห็นผลยากครับ โดยเฉพาะกับรถเกียร์อัตโนมัตินั้น
อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ต่างกันก็ส่งผลต่ออัตราเร่งได้ พฤติกรรมการตอบสนองของรถก็เปลี่ยนไปด้วย

ถ้าเป็นการทดสอบชนิดที่ต้องวัดความต่างของม้า 10 ตัวหรือน้อยกว่า มี 2 วิธี
1) คลอง 5 และต้องดูความชื้นในอากาศ กับอุณหภูมิ Intake ด้วยว่าต้องเท่ากัน
2) ไดโน่ ซึ่งก็แพงอยู่

ไดโน่ 1 ชั่วโมง 2-2,500 บาท ถ้าเอาน้ำมันเครื่อง 4 ยี่ห้อมาลองถ่ายเปลี่ยน แล้วขึ้นวัด
ค่าน้ำมันเครื่อง 6-8 พัน ค่าไดโนอาจมีอย่างต่ำๆ 5,000 เลยไม่มีใครยอมทำ 555
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8