คิดง่ายง่ายครับ
ดึงรวดเดียว จะเร็วจะช้าก็แล้วแต่ แต่จาก P แล้วมาหยุดที่ D เลย
สมองกลเกียร์รับรู้ว่าจะเข้าเกียร์ D ก็ขยับสลักปลดล็อคออก
แล้วจัดการเปลี่ยนจากตำแหน่งเกียร์ว่าง มาใส่เกียร์เดินหน้าให้
ข้อเสีย ถ้าดึงเร็วมากแบบไม่ถนอมบ่อยบ่อย กระชากลงมาพรวดเดียว
ตัวล็อกคันโยกของเกียร์ซึ่งเป็นพลาสติก ที่ทำไว้มันมีสเตป อาจจะสึกหรือแตกได้
ทางแก้ เดินไปเซียงกง หิ้วด้ามเกียร์มาราคา 1,xxx บาทก็จบ
อีกแบบหนึ่ง เข้าเกียร์ P -> R -> N -> D
รถเข้าเกียร์ถอยหลังทีนึง ปลดเกียร์ว่างทีนึง ใส่เกียร์เดินหน้าทีนึง
แบบนี้คันเกียร์ไม่พัง แต่เกียร์เข้าเข้าออกออก โอกาสสึกหรอที่เกียร์มากกว่าอยู่แล้วครับ
เรายังเคยคุยกันเลยว่า เวลารถติดสั้นสั้นควรแช่ไว้ในเกียร์ D แล้วเหยียบเบรกไว้
เพราะการเปลี่ยนสลับไปมา ระหว่าง N กับ D บ่อยบ่อย แรงดันน้ำมันเกียร์ที่เข้าทีออกที
จะทำให้เกียร์สึกหรอได้เร็วยิ่งขึ้น และโบกมือลาไปก่อนวัยอันควร
ทางแก้ ไปซื้อเกียร์ลูกใหม่ เซียงกงอย่างต่ำ 2x,xxx -1xx,xxx ใส่แล้วยังไงก็ไม่เหมือนเดิม
อย่าสับสนว่ามันเป็น Step การทำงานนะครับ มันไม่ใช่เลย ถ้ามันต้องเป็น Step นั้นจริง
มีใครรถติดไฟแดงที่เกียร์ N แล้วจะใส่เกียร์เดินหน้า แล้วผลักไป R ก่อนให้มันเข้าถอยหลัง
แล้วค่อยดึงลงมา D มั้ยครับ? ไม่มีหรอก ก็ใส่เกียร์ D ออกตัวไปเลย
แต่ติดไฟแดงผมไม่สนับสนุนให้ใส่เกียร์ P เพราะบางทีเราเผลอนึกว่าเกียร์ N
พอออกตัวปั๊บ โยกลงหนึ่งจังหวะ กดคันเร่งพรวด รถถอยขึ้นไปจอดบนกระโปรงหน้าคันหลังกันพอดีครับ