« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2009, 23:42:54 »
อะแฮ่ม ในเมื่อมีการคุยกันถึงรถเฟียต กระผมท่าทางจะอยู่เฉยๆ บ่ได้ซะแล้ว ยิ่งท่านผู้เกินเอา printed ad รถผมมาลงด้วย ว่าแต่ ไปหามาจากไหนเหรอครับ มีอีกไหมครับ อยากเอามาเก็บไว้ ฮี่ๆ
ขออณุญาติเหลาหน่อยละกันนะครับ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรถเฟียตในไทย คิดว่าหลายๆคนก็คงอยากจะรู้ ผมเองก็อยาก share เพราะเด็กรุ่นหลังๆ ก็คงจะรู้จักรถยี่ห้อนี้มาจากเจ้า 500 ตัวใหม่ แต่หารู้ไม่ว่าสมัยก่อน เฟียตนี่ขายดีพอๆ กันกับ โตต้าเลยนะครับทั่น! อู่รถแถวบ้านผมสมัยเด็กๆ มีรถเฟียตจอดเต็มไปหมด

ถึงตอนนี้ ขอนำบทความซิ่งได้เคยมีผู้สูงอายุมีประสบการณ์ คนหนึ่งบอกเล่าผ่านเว็บปิดแห่งหนึ่ง มาเล่าสู่กันฟังละกันครับ
=========================
บทที่ 1 กรรณสูต เจนเนอรัลแอสเซมบลี จวบจนถึงจุดอวสานก็ยังดูไม่จืด
โดย ทรงเกียรติ ชาติวัฒนานนท์
(จาก
http://www.gotomanager.com)
ก่อนถึงจุดอวสานของ บริษัท กรรณสูต เจนเนอรัล แอสเซมบลี จำกัด มีหลายสิ่งหลายอย่างเป็นตัวบ่งบอกสาเหตุแห่งความล้มเหลว สิ่งเหล่านั้นได้ถูกบันทึกไว้ในตำนานของบริษัทเอง ถูกสะสมมาหลายปี และเมื่อแก้ไขกันด้วยการที่ต่างคนต่างคิดว่าความคิดตัวเองเท่านั้นที่เลอเลิศ ความสามารถของตัวเองเท่านั้นที่เหนือฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างจึงพังลงมาให้เป็นเป็นบทเรียนครั้งแล้วครั้งเล่า
โศกนาฏกรรมของบริษัทกรรณสูตเจนเนอรัล แอสเซมบลี จำกัด ผู้ประกอบรถยนต์รายใหญ่รายหนึ่งของประเทศไทยซุบซิบกันมาตั้งแต่ปี 2526 เมื่อ กรรณสูต เจนเนอรัลแอสเซมบลี หยุดการผลิตรถยนต์เฟียตโดยสิ้นเชิง
ปี 2527 เดือนสิงหาคม บริษัท กรรณสูต เจนเนอรัลแอสเซมบลี จำกัดสั่งชิ้นส่วนถอดแยกประกอบหรือที่เรียกกันว่าซีเคดี อันเป็นซีเคดีของรถยนต์เฟียตจำนวน 48 คัน เข้ามาในประเทศไทยแต่ก็ไม่สามารถที่จะไปรับชิ้นส่วนดังกล่าวที่ท่าเรือได้ ปล่อยให้ค้างเติ่งอยู่ที่นั่นจนถึงปัจจุบัน
ปี 2529 เดือนกันยายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสั่งเพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั่นก็หมายความว่า การอยู่ยืนยงในตลาดหลักทรัพย์มากว่า 10 ปี ได้จบสิ้นลงแล้ว
ต้นปี 2530 กระแสข่าวแพร่สะพัดอีกระลอกว่า เจ้าหนี้รายใหญ่ทั้งหลายไม่ว่าสถาบันการเงินและบุคคลธรรมดาต่างเตรียมเข้ายึดกิจการ
กระแสข่าวแพร่ออกมาตั้งแต่จากโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ที่บางชันจากท่าเรือ ตลาดหุ้น และจากศาล ไม่ว่าที่นั่นจะเป็นศาลแรงงาน ศาลแพ่ง หรือศาลอาญา
กาลอวสานถึงแม้ไม่ใช่วันสองวันนี้แต่ก็เป็นที่คาดกันว่าคงจะอีกไม่ยาวนาน