เหมือนเคยนะครับ
สีเหลือง ข้อความผม
สีขาว ข้อความพี่ต้น
สีชมพู ข่าวสาร หรือคอมเมนท์อื่นจาก ชาว Facebook
สีเขียว คือสิ่งสำคัญ ต้องอ่านครับ
------------------------------
หายไป 1 วันเต็มๆ ไปทำธุระที่ระยอง และชลบุรี มาครับ
ความเคลื่อนไหว ภาพรวมยังไม่เยอะเท่าไหร่
แต่เน้นไปในแนวทาง การตอบโต้กันไปมา ระหว่าง Team Group กับ คุณเสรี แห่ง ม.รังสิต
ซึ่งระยะหลังๆนี่ รายหลัง เริ่มไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ และดูไปก็จะมีแต่ความตระหนก
โดยใช่เหตุ ทั้งที่จริงๆแล้ว จะไม่เกิดเหตุการณอย่างที่เจ้าตัวบอกแต่อย่างใด"กองเชียร์...ทีมกรุ๊ป เพียบ....แฟนเพจ fb กระหน่ำ like ไม่มียั้ง
หลังประเมินน้ำท่วมกรุงแห้งเร็ว น้ำเหนือลด น้ำทั้งตะวันออก-ตะวันตกไหลไปดี
นายชวลิต จันทรรัตน์ วิศวกรแหล่งน้ำ บริษัททีมกรุ๊ป ประเมินว่าพื้นที่ กรุงเทพฯ
ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกจะคลี่คลายจากสถานการณ์น้ำท่วมภายใน 2 สัปดาห์
หรือประมาณวันที่ 24 พ.ย.เป็นต้นไป
ทั้งนี้เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่หลายจังหวัด
ตอนเหนือของกรุงเทพฯมีน้ำลดลงทุกวัน เช่น จ.อยุธยามีน้ำลดลง 3 ซม.ต่อวัน
รวมทั้งหลังช่วงเทศกาลลอยกระทงไปแล้ว จะเป็นช่วงน้ำทะเลลง ซึ่งช่วยให้
แม่น้ำสายหลักต่างๆ เช่นแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนสามารถระบายน้ำได้เร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในการระบายน้ำในหลายจุดเริ่มดำเนินการได้ผลดีช่วยให้น้ำไม่เข้ามาเติม
ในพื้นที่ต่างๆเพิ่ม น้ำที่เข้ามาทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ซึ่งมีแนวกระสอบทราย
บิ๊กแบ็คยาว 6 กม.กั้นอยู่บริเวณคลองรังสิตประยูรศักดิ์ได้ผลดีสามารถชะลอน้ำให้ลดลง
และแบ่งน้ำไปยังคลองหกวาเพื่อผันน้ำออกไปทางตะวันออก ขณะที่น้ำบางส่วนที่ไหล
ผ่านแนวบิ๊กแบ็คในพื้นที่ที่ประชาชนไม่ยินยอมให้กั้นก็เหลือเพียง 40% จากมวลน้ำ
ทั้งหมดทำให้ภาระน้ำในคลองบางซื่อลดลง และสามารถสูบออกแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทัน
"ขณะนี้ในพื้นที่ตอนใต้ของเขตบางกะปิลงมา เช่น ถ.รามคำแหงด้านหน้า มหาวิทยาลัย
รามคำแหง ซอยเลขคู่ บนถนนลาดพร้าวจะยังอุ่นใจได้ว่าไม่มีน้ำท่วมสูง ซึ่งอาจจะมี
น้ำเอ่อบ้างก็เพียงแค่เฉอะแฉะแต่จะไม่ท่วมสูง โดยผ่านวันที่ 15 พ.ย.ที่น้ำทะเล
ไม่หนุนสูงไปแล้วน้ำจะยิ่งระบายผ่านคลองแสนแสบไปยังคลองประเวศบุรีรมย์
ซึ่งจะดึงน้ำไปที่คลองพระโขนงเพื่อสูบออกได้เร็วขึ้น"
ขณะนี้เชื่อว่า มวลน้ำที่ไหลเข้ามาตาม ถ.วิภาวดีรังสิต และ ถ.พหลโยธิน รวมทั้ง
ถ.รัชดาภิเษก ที่ไปหยุดอยู่ที่ริมคลองบางซื่อนั้น เป็นจุดสูงสุดและจะไม่รุกล้ำ
ไปไกลกว่านี้แล้ว โดยน้ำเหล่านี้จะไหลลงคลองบางซื่อและถูกสูบออกโดย
เครื่องสูบน้ำ 17 เครื่องเพื่อออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา หากเกิดการทำลายคัน
กระสอบทรายบิ๊กแบ็ค ก็จะส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมบน ถ.วิภาวดี รังสิต
ถ.พพหลโยธิน และ ถ.รัชดาภิเษก มีการท่วมขังยาวนานขึ้นกว่าที่ประเมินเอาไว้
ด้านฝั่งตะวันตก คาดว่าช่วงสุดสัปดาห์นี้มวลน้ำจะไหล ถนนพระราม 2 ซึ่ง
ไม่อยากให้มีการกดดันน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ถนนถูกกัดเซาะ โดยควรปล่อยให้
น้ำไหลข้ามบางๆ สูง 20-30 ซม. เพื่อข้ามไปยังคลองสนามไชย และคลองมหาชัย
เข้าสู่แก้มลิงตามแนวพระราชดำริและระบายลงทะเลต่อไป ขณะที่ กลุ่มพื้นที่ติด
แม่น้ำเจ้าพระยา เช่น เขตบางพลัด จะเริ่มแห้งต่อเนื่องเพราะสามารถปล่อยน้ำลง
แม่น้ำเจ้าพระยาได้ ส่วนพื้นที่ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี น้ำจะลดลงเนื่องจากน้ำ
ได้แบ่งลงที่แม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองสาขาต่างๆ
ส่วนตอนล่างของพื้นที่ฝั่งตะวันตก เช่น ถ.เพชรเกษม เขตบางแค เขตภาษีเจริญ
เขตบางบอน เมื่อระดับน้ำเหนือคลองมหาสวัสดิ์ลดลง ทางรัฐบาลก็จะเข้าไปอุด
รอยรั่วตามประตูระบายน้ำต่างๆ เช่น ประตูระบายน้ำมหาสวัสดิ์ ประตูฉิมพลี และ
ประตูทวีวัฒนา ซึ่งเมื่อซ่อมแซมรอยรั่ว เหล่านี้เสร็จจะทำให้น้ำไม่เข้ามาเติมใน
พื้นที่เพิ่ม
ทางด้าน กรมชลประทานได้มีการเพิ่มเครื่องสูบน้ำ บริเวณคลองภาษีเจริญเพื่อ
เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนแล้ว ขณะที่คลองบางกอกใหญ่ก็จะรับน้ำและเร่งระบาย
ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเช่นเดียวกัน โดยหากดำเนินตามแผนเหล่านี้คาดว่า 2 สัปดาห์
น้ำน่าจะลดลง
พี่ต้น :
นี่สิของจริง...หน่วยงานที่ ถวายรายงานมาตลอด...
ตรงกับสายตา ที่ชาวบ้านในพื้นที่แจ้งระดับน้ำลด...น้ำแห้ง อย่างต่อเนื่อง...
กรมชลประทาน ชี้แจงยืนยัน เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำท่า
ลดลงในระดับต่ำกว่าตลิ่งแล้ว มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ส่วน ปริมาณน้ำค้างทุ่ง
ที่นักวิชาการคาดการณ์ว่าจะเป็น น้ำก้อนใหม่ เข้าเติมกรุงเทพมหานคร (กทม.)
อีกระลอก ขณะนี้สามารถระบายออกลงทะเลได้ประมาณ 121 ล้าน ลบ.ม./วัน
ระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ จ.สมุทรปราการ อีกประมาณ
50-60 ล้าน ลบ.ม./วัน ขณะเดียวกันสามารถซ่อมสถานีสูบน้ำและคันกั้นน้ำใน
จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี เสร็จแล้ว 12 แห่ง จาก 14 แห่ง
ขณะนี้ปริมาณน้ำกระจายอยู่ในทุ่งตอนบนด้านฝั่งตะวันออกและตะวันตกของ
แม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 4,394 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็นฝั่งตะวันออก 1,831 ล้าน ลบ.ม.
ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา 2,563 ล้าน ลบ.ม. (ข้อมูลวันที่ 9 พ.ย.)
ด้านกลุ่มบริษัท ทีมกรุ๊ป โดย นายชวลิต จันทรรัตน์ วิศวกรแหล่งน้ำ ประเมินว่า
หลังจากวันที่ 15 พ.ย.เป็นต้นไป น้ำทะเลจะลดระดับลงจากเดิมมาก เป็นเหตุให้
สามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้ดีขึ้น โดยแม่น้ำท่าจีนระบายได้ 40-50 ล้าน ลบ.ม./วัน
แม่น้ำเจ้าพระยาระบายได้ 300-350 ล้าน ลบ.ม./วัน สถานการณ์น้ำใน กทม.โดยรวม
ฝั่งตะวันออกน้ำทรงตัวทั้งหมด เพราะ กทม.สามารถระบายน้ำออกได้วันละ 30 ล้าน ลบ.ม.
น้ำเข้าแค่ 20 ล้าน ลบ.ม.
ดังนั้น หลังวันที่ 24 พ.ย.นี้ ถนนสายหลักใน กทม.จะปลอดน้ำ ยกเว้นฝั่งธนบุรีที่
ติดพื้นที่นครปฐม จะลดลงช้าหน่อย แต่น้ำมวลใหญ่จากทางเหนือจะไม่มีแล้ว ชวลิต ระบุ
อย่างไรก็ตาม ทีมกรุ๊ปได้หักล้างทฤษฎีของ เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงาน
เพื่อสิ่งแวดล้อม มูลนิธิอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ที่ระบุก่อนหน้านี้ว่า น้ำจะท่วม
ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และน้ำจะท่วมนานร่วม 1 เดือน ว่า น้ำทางเหนือทั้งหมดลดลงทุก
จังหวัด เมื่อมาถึงคลองรังสิตประยูรศักดิ์น้ำไปคลองหกวา 60% รั่วคัน 40% จากนี้ไปถึง
วันที่ 15 พ.ย. ระดับน้ำจึงจะลดลงเรื่อยๆ ถนนรามคำแหง ซอยลาดพร้าวเลขคู่จะปลอดภัย
ถนนศรีนครินทร์ก็จะรอด หากคุมน้ำที่คลองประเวศบุรีรมย์ให้ลงคลองพระโขนงและสูบออกได้
น้ำจะไม่ข้ามไปเขตห้วยขวาง ขณะที่รัชดาภิเษกจะอยู่แค่หน้าโรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค สรุป
ปริมาณน้ำจะทรงตัวไม่ขยายวงท่วมไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะฝั่งตะวันออก ถนนจะแห้งตั้งแต่
วันที่ 24 พ.ย.เป็นต้นไป เพราะน้ำด้านเหนือ กทม.สามารถระบายลงคลอง 13 ได้ ทำให้น้ำ
ลำลูกกาก็จะลด ขณะที่น้ำที่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ก็สามารถเปิดบานลงเจ้าพระยาหลังระดับ
น้ำลดต่ำกว่าตลิ่งแล้วหลังจากนี้
ขณะที่ถนนพระราม 2 เสนอปล่อยให้น้ำไหลผ่านถนนในระดับ 20-30 ซม. แล้วใช้คลองมหาชัย
และคลองสนามชัยช่วยระบายน้ำออก หลังจากนี้ฝั่งตะวันตกตั้งแต่คลองมหาสวัสดิ์น้ำจะลดลง
ภายใน 2 สัปดาห์
หลังวันที่ 15 พ.ย. ระดับน้ำจากเดิมที่เคยขึ้นสูงถึง 2.7 ม. จะลดลงเหลือเพียง 1-1.5 ม.
ผู้อาศัยใกล้แนวคลองรังสิตประยูรศักดิ์ คลองมหาสวัสดิ์ คลองพระพิมลราชา และคลอง
พระอุดม ระดับน้ำจะลดลงอย่างรวดเร็วมาก รวมในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ประชาชนสามารถ
ย้ายกลับเข้าบ้านได้โดยไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ยกเว้นย่านบางใหญ่และ
ตอนเหนือคลองมหาสวัสดิ์ที่อาจผันผวน น้ำทรงน้ำนิ่งแต่ก็แค่เล็กน้อย ชวลิต ระบุอย่างไรก็ตาม นายเสรี ก็ยังค้านหัวชนฝา
บรรทัดต่อไปนี้ ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ
เพราะจากข้อมูลต่างๆแล้ว ผมขอบอกว่า "เชื่อถือไม่ได้ครับ""กลัวเสียหน้า...ปากกาไม่มีจะหัก.. 2 สำนัก..ค้านทีมกรุ๊ป ..........(ไม่เห็นด้วยกด like เยอะๆนะ)
ซ้ำเติม /ข่มขืน ...สมองชาวบ้าน 2 สัปดาห์นี้ กทม.น้ำไม่ลด?
11 พฤศจิกายน 2554 เวลา 07:47 น. |
เสรี แย้งข้อมูล....เถียงหัวกระแทกฝา โดยย้ำว่าระดับน้ำที่ท่วม กทม.
ทั้งสองฝั่งจะทรงตัวในระดับนี้ไปอีกประมาณ 1 เดือน ไม่ว่าจะเป็น
ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน และถนนลาดพร้าว เนื่องจากล่าสุด
เจ้าหน้าที่ได้เปิดช่องให้น้ำไหลผ่านคันบิ๊กแบ็กบริเวณดอนเมือง และ
ถนนจันทรุเบกษาตามที่ชาวบ้านร้องขอ แต่หากสามารถรักษาระดับน้ำ
ในคลองบางซื่อได้และสามารถสูบออกเจ้าพระยาได้ น้ำก็จะไม่รุกคืบ
ไปมากกว่านี้ได้ แต่จะไหลไปตามระบบระบายน้ำของ กทม. ลงแม่น้ำ
ลำคลองไปเรื่อยๆ ในช่วง 1 เดือน โดยในบางพื้นที่อาจถึงหลังปีใหม่ (ถ้าเรื่องจริงไม่ตรง ปลาไหลจะเกิด)
ขณะที่มวลน้ำใหญ่ที่ยังไม่ไหลลงมา กทม. ยังมีอยู่จริง แต่ตอนนี้น้ำทั้งหมด
ได้เป็นผืนเดียวกันแล้ว และจะค่อยๆ ไหลลงมาในระดับที่เห็นจนกว่าจะหมด อาจารย์เสรี
ยืนยัน มวลน้ำเหนือ กทม. ขึ้นไปด้านตะวันออกมีประมาณ 3,300 ล้าน ลบ.ม. ไหลเข้า กทม.
900 ล้าน ลบ.ม. แต่มาเพียง 30% นอกนั้นส่วนหนึ่ง จะค้างทุ่งกับน้ำที่จะระบายไปทางแม่น้ำ
ท่าจีน 30% ส่วนอีก 40% ลงแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนฝั่งตะวันตกเหลืออีก 1,000 ล้าน ลบ.ม.
ที่จะเข้ามา
ประเด็นคือไม่ใช่แค่ 30% ที่จะเข้า มวลที่อยู่ใน กทม.ชั้นใน คันพระราชดำริ 400 ล้าน ลบ.ม.
เหนือคลองแสนแสบ 200 ล้าน ลบ.ม. อยู่ที่อื่นอีก 100 ล้าน ลบ.ม. ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
ที่น้ำจะลดใน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ต้องเข้ามาอีก 900 ล้าน ลบ.ม. ตอนนี้น้ำเข้ามาวันละประมาณ
15 ล้าน ลบ.ม. แต่ กทม.มีศักยภาพดูดออกวันละ 30-40 ล้าน ลบ.ม. ฉะนั้น 900 ล้าน ลบ.ม.
ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 60 วัน ไม่มีทางที่จะ 2 สัปดาห์ ส่วนฝั่งตะวันตกอย่างช้าสุด 1 เดือน
ถึง 1 เดือนครึ่ง
ด้าน อาจารย์ชัยยุทธ ชินณะราศรี ภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
พระจอมเกล้าธนบุรี (มาช่วยเพื่อน) เห็นไปในทางเดียวกับอาจารย์เสรี ว่า ในขณะที่
ยังไม่สามารถสกัดมวลน้ำที่ไหลเข้า กทม.ได้ จึงระบุไม่ได้ว่าอีก 2 สัปดาห์สถานการณ์น้ำ
ใน กทม.จะดีขึ้นถึงขั้นที่ว่าถนนต่างๆ จะแห้ง เพราะความสามารถในการสูบน้ำออกยัง
น้อยกว่าปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามา
ขณะนี้น้ำทะเลหนุนสูง กทม.ต้องปิดประตูน้ำ มิให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งสูงกว่าไหล
เข้ามาในคูคลองชั้นใน ส่วนน้ำเหนือที่ไหลเข้ามาก็ไม่ได้ไหลลงคูคลองเพื่อสูบออกไป
เพราะคูคลองเหล่านี้มีสิ่งกีดขวางและตื้นเขินเกินกว่าจะใช้ระบายน้ำได้ สังเกตได้จาก
อุโมงค์ยักษ์ที่เตรียมไว้ระบายน้ำนั้น มีน้ำไหลลงในปริมาณที่น้อยมาก ดังนั้นน้ำส่วนใหญ่
ที่ไหลไปตามผิวดิน จึงเอ่อท่วมขยายวงกว้างต่อไป จนกว่าจะออกไปสู่ทะเลได้ น้ำไหล
บนผิวดินความเร็ววันละ 1 กิโลเมตร ดังนั้นกว่าที่น้ำซึ่งท่วมขังใน กทม.จะไหลไปออก
สู่ทะเลต้องใช้เวลาอีกนับเดือน
ชัยยุทธ กล่าวว่า แม้จะสามารถปิดกั้นแนวคันกั้นน้ำ หรือกั้นกระสอบยักษ์ตอนเหนือ
ได้ทั้งหมด แต่ก็จะต้องเผชิญปัญหามวลชน ที่ถูกน้ำท่วมขังระดับสูงต่อต้านตามมาอีก
จึงไม่มีทางเลยที่จะปิดกั้นมิให้น้ำไหลเข้ามาในพื้นที่ กทม.ได้^
^
^ ข้างบนนี้ ย้ำอีกทีนะครับว่า ไม่้องไปเชื่อมากนัก ฟังหูไว้หูก็พอ-------------------------------------
กทม.ผู้ว่า กทม.เพิ่งตื่น แคะขี้ตา ก่อน..แจ้งว่า ถนนสายหลักจะต้อง แห้งภายใน 2 สัปดาห์
เนื่องจาก ขณะนี้ปริมาณน้ำในทุกพื้นที่ลดลงแล้ว (เชื่อๆ แล้วคร้าบ)
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำลดในทุกพื้นที่
เช่นที่ ถนนวิภาวดีรังสิตลด 17 เซนติเมตร บิ๊กแบคในช่วง 24 ชั่งโมง ลดลง 8 เซนติเมตร
คลองสองใน 8 วันที่ผ่านมาลดลง 11 เซนติเมตร ขณะเดียวกันเขตบางบอน เขตบางแค และ
ถนนเพชรเกษม น้ำลดลงจากเดิม และเชื่อว่าภายใน 2 สัปดาห์ จะสามารถทำให้เส้นทางสายหลัก
น้ำแห้ง แต่ถนนในซอยเล็กอาจต้องใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์--------------------------------------
ส่วนฝั่งธนบุรีมีคำถามเรื่อง Big BagTanison Techamongkolkul :
พี่ต้นครับอยากถามว่าทำไมเขาไม่วางbig bag ทางฝั่งตะวันตกบ้างมีเพื่อนฝั่งทนสงสัยครับพี่ต้น :
ก็มีทางรถไปสายใต้ เป็นแนวที่ 1 และ แนวที่ 2 คือตลอดเกาะกลางถนนเพชรเกษมน่ะครับ...
ทางเหนือ กทมงรามอินทรา กั้นน้ำไว้ให้ตั้งเยอะ ไม่งั้นลาดพร้าว นวลจันทร์ บ้านนายก มี 1 เมตร แน่ๆ
ทางใต้...ในแผ่นที่ ถนนพระราม 2 จะต้องโดน / แต่ถ้าเอาลูกโลก มาวางแทนแล้วชี้ พระราม 2 จะไม่โดน
ถ้าน้ำฝั่ง ธน จะขีดเส้นตรงๆ จากไหนไปไหน ....ตามแนวรางรถไฟเลยครับ...
วันนี้ รถไฟสายใต้ ไปโน้นแล้ว....ไปเริ่มต้นทาง ที่ นครปฐม แล้วครับ (ลืมลงข่าวให้)
ดังนั้น..ทางน้ำ จะตรงๆ คู่ขนานไป เสมอกับถนนพระราม 2 ที่นี้ ระหว่างที่น้ำพุ่งตรงๆไปนั้น..
ปีกน้ำ เฉพาะปีกซ้ายนะ ปลายปีก อาจจะมา ลอดใต้ถนน พระราม 2 น่ะครับ..
จุดศูนย์กลางของน้ำไหล (ถ้าจะเปรียบเป็นพายุนะ) ค่ำๆนี้อยู่แถวๆ กระทุ่มแบน..
พรุ่งนี้...คอยดู อาจจะมีข่าว ปลาตาย ที่ อัมพวา
เพราะอะไร..คลองดำเนินสะดวก ช่วยรับน้ำไป ทั้งๆ ที่ผิวน้ำที่หน้าตลาดอัมพวา
ตามธรรมชาติ จะมีระดับสูงกว่า น้ำท่าจีนอีกด้วย....แต่เชื่อลึกๆ นะ สิ่งศักดิ์สิทธิ
มีจริงปัญหาร้ายแรงจะเบาบาง...เพราะคนเรา ทำบุญมากขึ้น รู้จักการให้มากขึ้น...555
น้ำแรก ไปตั้งแต่พี่เขียนข่าวว่า ปลาตาก ที่ปากน้ำท่าจีนแล้ว...กี่วันแล้วหว่า...
4-5 วันกระมัง...และขบวนน้ำกำลังตามลงไปติดๆ
บางปลาม้า ก็ยุบหาย วันละ 1 ฟุต....ค่อยๆไล่ พื้นที่ต่ำลงมาเรื่อยๆ 3 ฟุต เท่ากับ 90 ซม.....
อาทิตย์เดียวต่อพื้นที่หางน้ำนะ... คนสิงห์บุรี คนอ่างทอง ทั้งจังหวัด เขาก็เห็นว่ายุบประมาณนี้...
แต่ไม่มีข่าว ข่าวไม่สนุก ไม่เร้าใจ ก็ ไม่ตื่นเต้น"
-----------------------------
กระทุ่มแบน เร่งขยายทางเดินน้ำ..ส่งผลดีต่อ ถนนพระราม 2
ให้น้ำไหลคู่ขนานตามแนวถนน ตรงไปยาวไป ปากน้ำมหาชัย...
นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึง
กลุ่มชาวบ้านที่มารวมตัวเรียกร้องบริเวณถนนพุทธสาคร ต.สวนหลวง
อ.กระทุ่มแบน วานนี้ (10 พ.ย.) ว่า กลุ่มชาวบ้านต้องการ ให้ขุดเจาะร่องน้ำ
ริมถนนพุทธสาคร เพื่อเป็นทางเดินของน้ำที่จะทำให้ท่วมในพื้นที่ตำบล
อ้อมน้อย และตำบลสวนหลวง ไหลลงคลองภาษีเจริญได้เร็วขึ้น
จึงเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีทั้งทางหลวงชนบท กรมทางหลวง แขวงการทาง
โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ สำนักชลประทานที่ 11 ผู้นำท้องถิ่น
และตัวแทนชาวบ้านมาหารือกันเพื่อหาทางออก และได้ข้อสรุปว่า จะมีการ
ขุดเจาะร่องน้ำบริเวณดังกล่าวขนาดความกว้าง 2-2.5 เมตร ลึก 40 เซนติเมตร
และยาว 50-100 เมตร ตามความเหมาะสม เพราะต้องขอเวลาให้สำนักชลประทานที่ 11
ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเครื่องใหม่ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันน้ำท่วมกระทุ่มแบน คาดว่า
จะขุดเจาะได้หลังเที่ยงวันนี้ (11 พ.ย.) และหลังจากขุดเจาะร่องน้ำเสร็จแล้วจะประเมิน
อีกครั้งว่า สามารถช่วยผันน้ำให้ไหลลงสู่คลองภาษีเจริญได้มากน้อยเพียงใดในการ
รองรับน้ำหรือการผันน้ำในคลองภาษีเจริญ.เขตบางพลัด....เกาะกระแส แจ้ง 7 วัน น้ำจะแห้ง
วันนี้รถทุกชนิด วิ่งได้แล้ว...(ไม่ค่อยคุย เท่าไหร่)
น.ส.สุรีย์ วัชนะประพันธ์ ผอ.เขตบางพลัด เปิดเผยว่าระดับน้ำในพื้นที่
ลดลงเฉลี่ยวันละ10-15ซม. ถนนจรัญสนิทวงศ์เกือบตลอดทั้งสายตั้งแต่เชิงสะพาน
พระราม7 เป็นต้นมาทั้งขาเข้าและขาออก เริ่มแห้งใกล้กลับสู่สภาวะปกติแล้วรถเล็กวิ่ง
ได้ตามปกติ มีบางช่วงของถนนจรัญสนิทวงศ์ ที่ยังไม่สามารถระบายน้ำได้ อาทิ รพ.ยันฮี
ถึงแยกบางพลัด ได้พยายามเร่งสูบน้ำออกให้ได้มากที่สุดคาดภายใน 7 วันจากนี้สถานการณ์
จะกลับสู่ปกติ----------------------------------
ฝั่งตะวันออกของ กทม 
Update 11/11/2554 เส้นทางวงแหวนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออก ด่าน อ.ธัญบุรี ยังปิดซ่อมอยู่นะครับ
ถนนวงแหวนตะวันออก...รอกู้ระดับน้ำอีกหน่อยนะครับ....เย็นๆค่ำๆ ถ้าเปิดให้รถวิ่งแล้ว...จะรีบบอกนะครับ...
วันนี้จะขับรถไปอีสาน...รถเล็กๆ ไม่อยากผ่านน้ำไปอ้อมนิดๆที่ อ.บางปะหันนะ
แต่จะตรงไปก็เส้น อ.วังน้อย ก็สบายๆ ...รีบไป โต้ลมหนาวกันได้แล้วครับ...
Update 11/11/2554 เส้นทาง อ.วังน้อย สามารถวิ่งได้ครับ
ภาพอาจไม่สวย แต่ก็ตั้งใจทำให้ดูกันครับ
By: กรมทางหลวง---------------------------------------
ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม จะมาอัพเดทให้อีกในคืนนี้ครับ อาจเป็นกระทู้ใหม่ไปเลย
