ตอบตามคำถามของ จขกท.
ปล.ใช้งานกังนี้คิดว่าalmeraเหมาะสมไหมครับ
1.ขับ100-110
2.ขับแบบไม่รีบเจอโล่งต้องแซงไม่ใช่แนวนั้น รักชีวิตครับ 100 ก็เพียงพอถึงช้ากว่าแต่ปลอดภัยกว่า
3.ออกต่างจังหวัดแบบระยะทาง200กิโล 2เดือน/ครั้ง
4.ชีวิตประจำวันน่าจะ ไปกลับที่ทำงาน 60โล
เรื่องนี้ March หรือ Almera ก็ไม่มีปัญหาทั้งนั้นครับ การเร่งส่งตัวรถขึ้นไปถึง 100-110 กม./ชม.
อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย เพราะรถคันใหญ่แต่วางเครื่องจิ๋ว แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่(มาก)
ถ้าคิดว่าไม่ได้เป็นคนขับรถเร็ว ไม่ได้รักอัตราเร่ง ชีวิตนี้ไม่เคยกดคันเร่งไล่บี้ใคร ก็ไม่ใช่ปัญหา
1.nissan almera ความรู้สึกในการขับ ถ้าเทียบกับvios เป็นยังไงมั่งครับ ขับแบบปกติ ไม่แซงปาด ความเร็ว100-110 ปล.ทุกวันนี้ขับvios พี่สาวอยู่ครับ ตอบสนองผมได้หมด ถ้าalmera ได้พอๆกันกับvios จะดีมากเลยครับ
2.เครื่องของnissan almera เป็น แบบ 3สูบ ซึ่งผมไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์เลย สงสัยว่า 3 สูบ มันไมไ่ด้แปลว่าจะเสียง่ายกว่า 4สูบ ในระยะยาวใช่ไมหครับ ปล.ถ้าขับแบบปกตินะ ไม่ทรมานเครื่อง
3.ถ้าในอีก10 ปีข้างหน้าเครื่องเสียไป สามารถหาเครื่อง1.5 มาใส่แทนได้ไหมครับ แล้วถ้าได้มันแค่เอาเครื่องมาลงแล้วก็ใช้ได้เลย หรือต้องเปลี่ยนอะไรใหม่ให้เข้ากับเครื่องด้วยครับ
1. ความรู้สึกควรจะไปลองขับเองครับ ผมไม่เคยขับ Almera แต่ขออ้างอิงจากที่เคยขับ March ละกัน
ขับทางตรง 100-110 ไม่ต่างกันหรอกครับ จะต่างกันก็ตอนเข้าโค้งซึ่งพวงมาลัยของ March ให้ความรู้สึกที่ดีกว่า
การตอบสนองต่อคันเร่ง Vios มี Delay ประมาณ 0.5-1 วินาที แต่มีเรี่ยวแรงกว่า เร่งได้ดั่งใจกว่า
ในขณะที่คันเร่งของ March กดแล้วตอบสนองเลย แต่เกียร์มาดันโง่เป็นบางเวลา ขับแล้วน่าหงุดหงิดพอสมควร
ส่วนเรื่องช่วงล่างเวลาเข้าโค้ง ผมคิดว่าไม่ต่างกัน เวลาใช้ความเร็วแล้วถนนเป็นลอนคลื่น Vios ทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ
March นี่โยนขึ้นโยนลง ไปตามลอนคลื่นถนนเลยทีเดียว ไม่รู้จะเซ็ทมาให้นุ่มอะไรขนาดนั้น ถ้าวิ่งทางไกลอาจจะเหนื่อยครับ
2. กระทู้นี้มีคำตอบครับ ->
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,18074.0.htmlเอาสั้นสั้นก็คือไม่เกี่ยวกัน ต่อให้ขับทรมานเครื่องมันก็พังได้ง่ายเหมือนกันจะกี่สูบก็เถอะ
ดูอย่างพวกมอเตอร์ไซค์สูบเดียว บิดรอบกวาดกันจะแตะหมื่นรอบ เห็นวิ่งกันได้เป็นสิบปียังไม่มีพังเลยครับ
เทียบกันแล้ว เครื่องรอบจัดอย่างมอเตอร์ไซค์ทำงานหนักกว่าเครื่องรถยนต์เยอะ แถมระบายความร้อนด้วยอากาศอีก
3. มันจะเริ่มมีปัญหาก็อีตรงข้อนี้แหละครับ ผมดูจากวัตถุประสงค์ของคุณทั้งหมดแล้ว อยากจะได้รถประหยัด และไม่ขับเร็ว
รวมทั้งเป็นคนขับที่ไม่ทรมานเครื่องอีกด้วย แต่ทำไมถึงคิดว่า 10 ปีเครื่องจะพัง ทั้งทั้งที่รถสมัยนี้วิ่งกัน 20-30 ปี
ถ้าดูแลรักษาตามกำหนดระยะทางเป็นปกติ ก็ยังแล่นกันได้ฉิว ทำระยะทางได้ 2-3 แสนกิโลเมตรแบบไม่มีปัญหาอะไร
อีกอย่างนะครับ ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าตกลงแล้วที่บอกว่าเป็นคนขับรถไม่เร็ว อันนี้คือไม่เร็วจริงจริงรึเปล่า
เพราะผมรู้สึกเหมือนคุณจะห่วงเรื่องอัตราเร่ง และถ้าเครื่องพังยังคิดจะเอา 4 สูบมาลงอีก บอกได้เลยนะครับว่า
แปลงกันเพียบแน่ เพราะพื้นฐาน 3 สูบกับ 4 สูบมันมีหลายอย่างต่างกัน ถึงแม้จะเป็น HR16DE ถูกหั่นก็เถอะ
มาตรวัดรอบก็รับสัญญาณ 3 สูบ คานวางเครื่องก็ทำมาไว้เพื่อรับ 3 สูบ แท่นเครื่องก็ทำมาไว้ให้เครื่องที่ตัวเล็กลง
ถ้าจะวาง 4 สูบ ทำได้สองอย่างคือ 1)แปลงทุกอย่างแบบไทยทำ 2)สั่งของจากประเทศที่มี March 1.5
ซึ่งข้อ 1)ถ้าทำดีก็จบ แต่ถ้าไม่ดีก็ปวดหัวกันไปอีกหลายปี เผลอเผลอค่าทำนี่ก็ใช้เงินที่ประหยัดได้จากการติดแก๊สจนเกลี้ยงครับ
2)อันนี้จบแน่นอน แต่ก็อีกนั่นแหละ ค่าของทุกชิ้นที่สั่งมา ก็คงใช้เงินที่ประหยัไดจากการติดแก๊สจนเกลี้ยงเช่นกัน
ซึ่งถ้าเรื่องนี้เป็นประเด็น ผมว่าลืมเรื่องรถ 3 สูบไปแล้วไปหา 4 สูบปกติใช้เถิดครับ ไม่ได้ว่ารถ 3 สูบไม่ดีนะ
แต่ถ้ามีข้อข้องใจก็ข้ามไปดีกว่า หรือ...ไปหา Brio เพราะมี 4 สูบ ครับ