ผู้เขียน หัวข้อ: ถามเรื่อง เครื่องยนต์ + ช่วงล่าง + ยาง (3 in 1)  (อ่าน 5589 ครั้ง)

ออฟไลน์ vellcap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,984
เรื่องที่ 1 เครื่องยนต์

ถ้ารถ 2 คันเหมือนกันหมดทุกอย่าง น้ำหนัก 1.5 ตันเท่ากัน เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะเหมือนกัน(5 AT) เฟืองท้ายเท่ากัน ต่างกันที่เครื่องยนต์ และ อัตราทดเกียร์ 5
คันที่ 1 เครื่องยนต์ Benzine 2.0  160 แรงม้าที่ 6500 Rpm  แรงบิด 195 Nm ที่ 4200 Rpm
คันที่ 2 เครื่องยนต์ Benzine 2.5  135 แรงม้าที่ 5400 Rpm  แรงบิด 244 Nm ที่ 2100 Rpm

รอบเครื่องที่ความเร็ว 110 Km/H ที่ตำแหน่งเกียร์สูงสุด(เกียร์ 5) รถคันที่ 1 อยู่ที่ 2000 Rpm  รถคันที่ 2 อยู่ที่ 2300 Rpm

ในภาพรวมรถสองคันนี้จะมีบุคลิกอย่างไร , อัตราเร่งคันไหนดีกว่า , Top Speed คันไหนสูงกว่า

และในการใช้งานแบบนี้คันไหนดีกว่ากัน
1.ใช้งานในเมือง เร่งออกตัว - เบรคบ่อยๆ
2.ขับทางไกล ความเร็วคงที่ ไม่มีเนิน  
3.ขับขึ้นเขา - ลงเขา  
4.เร่งแซงแบบกดคันเร่งติดพื้นรถ
5.คุณจะเลือกคันไหน


เครื่องยนต์ของ Honda CRV G3 2.0 (R20A1) มีวิธีไหนที่จะทำให้มันแรงขึ้นได้  โดยที่ไม่กินน้ำมันมากกว่าเดิมหรือกินกว่าเดิมไม่มาก  ไม่พึ่งระบบอัดอากาศ
และสุดท้ายไม่ทำให้เครื่องพังครับ  ไม่ทราบว่าจะพอมีวิธีไหนบ้างครับ  ใช้งบประมาณมากแค่ไหน
ตอนนี้รู้สึกว่ารถมันอืดมากกว่าเดิม  กลัวว่าเวลาจะแซงกับขึ้นเขาไม่ไหวครับ


เรื่องที่ 2 ช่วงล่าง
รถสองคันนี้ช่วงล่างจะมีบุคลิกอย่างไรครับ
คันที่ 1  shock absorber ความหนืดสูง(แข็ง)  คู่กับ  Springs อ่อน
คันที่ 2  shock absorber ความหนืดต่ำ(อ่อน)  คู่กับ  Springs แข็ง


เรื่องที่ 3 ยาง
ยางบางรุ่นที่มีการแบ่ง Inside กับ Outside อย่างยางรุ่น Potenza Re050 , Adrenalin RE001 -002 , Turanza Gr90 เป็นการแบ่งเพื่ออะไรครับ  
เห็นยางรุ่นใหม่ๆนิยมกันมาก  แล้วถ้าแบ่งแบบ one way rotation ก็พอจะเดาได้ว่าน่าจะช่วยในการรีดน้ำ


ช่วยจัดลำดับยางรุ่นต่อไปนี้ ในด้านต่างๆให้ด้วยครับ
1.Bridgestone Adrenalin RE002
2.Bridgestone Turanza GR90
3.Bridgestone Turanza AR10
4.Bridgestone My01
5.Yokohama A-Drive
6.Yokohama Earth-1
7.Yokohama Advan Db Decibel
8.Michelin Pilot Sport 3
9.Michelin Primacy LC

ช่วงเรียงลำดับความเด่นด้านต่างๆ ครับ อย่างน้อยขอข้อละ 3 นะครับ
1.เกาะถนนดี บนถนนแห้ง
2.รีดน้ำดี บนถนนเปียก
3.นุ่มนวล
4.ในภาพรวมไม่ดี
5.เงียบ
6.ทนทาน
7.หักเลี้ยวได้ทันใจ
8.ลายยางสวย
9.ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกตัวไหน


ขอบคุณครับ  ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2011, 14:52:19 โดย vellcap »

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
Re: ถามเรื่อง เครื่องยนต์ + ช่วงล่าง + ยาง (3 in 1)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2011, 15:30:45 »
ข้อแรก

คันที่ 2 มีแรงบิดมากกว่า แรงม้าถึงไม่มากแต่ก็มาที่รอบต่ำกว่า
หมายความว่า คันแรกจะเป็นแนวรถซิ่งรอบสูง ขับมันส์ แต่ต้องลากรอบ
คล้ายๆกับ B16A รอบต่ำๆคลานๆ ขับลำบาก แรงบิดไม่ค่อยมี รถไม่ค่อยวิ่ง
แต่รอบสูงเมื่อไหร่ วิ่งกระจาย
ส่วนคันที่สอง จะคล้ายๆแคมรี่ 2.4 เครื่อง 2AZ คือ แรงบิดรอบต่ำสูงๆ
ขับง่าย เร่งดี แต่หมดลมเร็ว รอบสูงๆไปแรงหมดแล้ว

ผมเลือกคันแรก เพราะใช้งานได้ครอบคลุมกว่า ขับง่าย ไม่เหนื่อย
ถ้าถามถึงความประหยัด บอกตรงๆว่าดูเหมือน 2.0 จะเอาเปรียบไปหน่อย
ถามแบบนี้ 2.5 เสียเปรียบอยู่แล้ว เกียรทดมาเท่ากัน
ถ้าเอา 2 คันนี้มาอัดแข่งกัน คันแรกน่าจะชนะเพราะม้าเยอะกว่าถึง 25 ตัว
แต่ถ้าให้ขับไปตจว. ขับไปเที่ยว คันนี้สองน่าใช้งานกว่า

ถ้าเครื่อง 2.0 เหมือนกัน คันนึงแรงบิดสูงม้าน้อย คันนึงแรงบิดต่ำม้าเยอะ ค่อยสูสี

เรื่อง CRV บอกตรงๆว่าทำแค่ท่อ กรอง กล่อง เฮด ช่วยได้ครับ แต่ได้ไม่มาก
อาจจะขับสนุกขึ้น ตอบสนองดีขึ้น แรงขึ้นนิดหน่อย แต่ไม่มากครับ
รถบ้านๆ โมฯยาก ขนาดเก๋งยังขุนไม่ขึ้นเลยครับถ้าไม่เล่นถึงเทอร์โบ

เรื่องที่สอง ขอผ่าน เพราะไม่เก่งเรื่องนี้
แต่ถ้าให้เลือก คงเน้นที่โช๊คหนืดๆแข็งๆก่อน สปริงแข็งโช๊คนิ่ม นั่งแล้วเวียนหัว

เรื่องที่สาม ส่วนตัวผมชอบ Michelin เพราะที่บ้านมีตัวแทนฯ
ส่วนตัวผมใช้ Primacy LC อยู่ แต่ผมเชียร PS3 เพราะการขับขี่ PS3 ดีกว่า
LC ใช้มา 2 ปี เริ่มดังแล้ว และแก้มยางมันย้วยไปหน่อย
ส่วน BS จะต่างกับ Michelin ตรงที่แก้มยาง BS จะแข็งกว่า
พวกยางสปอร์ต BS จะแข็งและมั่นใจเวลาเข้าโค้ง

ออฟไลน์ MC Stradale

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,520
Re: ถามเรื่อง เครื่องยนต์ + ช่วงล่าง + ยาง (3 in 1)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2011, 15:53:29 »
เรื่อง top speed นี่มันอยู่ที่แรงม้าครับ แต่ถ้าขับใช้ความเร็วคงที่ แล้วเร่งแซงบ่อยๆ โดยไม่ใช้ความเร็วสูงมากขนาดว่า 140-160 เครื่อง 2.5 ม้าน้อย บิดเยอะ น่าจะตอบสนองได้ดีกว่านะครับ การออกตัวแรงๆ ก้ต้องอาศัยแรงบิด และก้แรงบิดอีกหนะแหละครับที่ช่วยได้ดีเวลาขึ้นเขา
ถ้าจะไม่พึ่งระบบอัดอากาศผมคิดว่าก้น่าจะต้องจูนกล่องใหม่หละครับ ถ้าหาคนจูนเก่งๆได้ ก้ทำให้เครื่องแรงขึ้นโดยประหยัดน้ำมันขึ้นได้ด้วยครับ

ออฟไลน์ vellcap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,984
Re: ถามเรื่อง เครื่องยนต์ + ช่วงล่าง + ยาง (3 in 1)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2011, 16:10:49 »
จูนกล่องใช้งบประมาณมากไหมครับ  สำหรับคันนี้ผมขอแค่เร่งแซงได้ดีขึ้นนิดหน่อย กับ ให้มันขึ้นเขาไหวก็พอแล้วครับ

AnubisTT

  • บุคคลทั่วไป
Re: ถามเรื่อง เครื่องยนต์ + ช่วงล่าง + ยาง (3 in 1)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2011, 16:53:52 »
เครื่องยนต์
  คันที่ 1 เครื่องยนต์ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นแรงม้า ซึ่งหาได้ในรถเก๋งซีดานทั่วไป
  คันที่ 2 เครื่องยนต์ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นแรงบิด ซึ่งปกติจะพบในรถ SUV ที่มีน้ำหนักมาก หรือเครื่องยนต์ไฮบริด
  - อัตราเร่ง 2 ดีกว่า 1
  - ความเร็วสูงสุด 1 เร็วกว่า 2
  ถ้าให้เลือก ขอเลือก 1 เน้นประหยัด  ;D ;D
  สำหรับการอัพเกรด R20 ใน CR-V ก็ควรทำเรื่อง อากาศ  น้ำมัน ไฟ ซึ่งก็คือทำระบบไอดีไอเสียให้กินง่ายถ่ายคล่องกว่าเดิม แล้วปรับเปลี่ยนข้อมูล ECU ในส่วนของ อัตราส่วนผสมของน้ำมันและอากาศ กับองศาจุดระเบิด ซึ่งจะทำโดยการใช้กล่องพ่วง หรือเฟลชรอม ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ช่วงล่าง
  คันที่ 1 นิ่มหนึบ แบบมีย้วย
  คันที่ 2 ดีด กระเด้ง

ยาง
  ที่เลือกมานั้นอยู่ในหลายกลุ่มมาก ทั้ง sport, comfort, economy ซึ่งข้อดีข้อเสียมันก็ขึ้นอยู่กับประเภทของมันอยู่แล้ว แต่ไม่ขอเรียงลับดับแล้วกัน เพราะไม่เคยใช้ครบทุกรุ่นที่กล่าวมา แต่ถ้าให้เลือกจริงๆ คงเลือก RE002, PS3 เพราะชอบชับรถเร็ว สาดโค้งแรง

ออฟไลน์ MC Stradale

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,520
Re: ถามเรื่อง เครื่องยนต์ + ช่วงล่าง + ยาง (3 in 1)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2011, 20:16:03 »
จูนกล่องใช้งบประมาณมากไหมครับ  สำหรับคันนี้ผมขอแค่เร่งแซงได้ดีขึ้นนิดหน่อย กับ ให้มันขึ้นเขาไหวก็พอแล้วครับ

ถ้าปรับอน่างเดียวคงไม่เท่าไหร่ครับ ไม่รู้ราคาที่แน่นอน

แต่ถ้าจะซื้อกล่องใหม่ ถ้าเป็นมือสอง ก้มี 6 พันอัพครับ หรือถ้าใหม่ๆดีๆเลย ก้ 2-3 หมื่น หรือแพงกว่าก้มีครับ

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: ถามเรื่อง เครื่องยนต์ + ช่วงล่าง + ยาง (3 in 1)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2011, 21:58:41 »
เรื่องที่ 1.

ตามที่คุณ YenChar บอกครับ คันแรกซิ่งรอบจัด (แต่จริงจริงก็ไม่ได้จัดอะไรนะ แต่จัดเมื่อเทียบกับคันที่สอง)
คันที่สองแนวขับเรื่อยเรื่อย ไหลไหล ไม่ต้องเล่นรอบสูง

ดังนั้น คันที่สองใช้งานในเมืองดีกว่า เพราะไม่ต้องเค้นรอบ
แต่ที่เหลือนั้น คันแรกดีกว่าหมด

จริงจริงผมจะบอกว่า ที่สมมติมามีความแปลกอยู่นิดนึงครับ
ปกติรถที่เครื่องใหญ่ แรงบิดเยอะในรอบต่ำ มักจะเซ็ทเกียร์มาให้ห่างกว่าด้วย
เพราะว่าไม่จำเป็นต้องใช้รอบสูง และเวลาเร่งสามารถรักษารอบให้อยู่ในช่วง
Powerband ได้นานกว่า ใช้ประโยชน์จากแรงม้าและแรงบิดได้มากกว่า
พวกทดจัด หมดไว รอบกวาดแว้ดแว้ดแว้ด ซึ่งจะเหมาะกับคันแรกมากกว่า

เรื่อง CR-V

อยากให้หาสาเหตุให้เจอก่อนครับ รถวิ่งมากี่ กม. แล้ว ถ้าวิ่งมาเยอะ
เริ่มมีการสึกหรอของลูกสูบ บ่าวาล์ว และชิ้นส่วนต่างต่างหรือไม่
เพราะถ้ามันสึกหรอ ก็จะต้องไปแก้ตรงนั้นก่อน ถ้าไปตกแต่งเพิ่มเลย
สิ่งที่ได้คืนมาจะไม่คุ้มค่า แล้วแถมจะไม่คงทนอีกด้วย

เรื่องการจูนกล่องกับรถเดิม วางเครื่องจากโรงงาน ผมคิดว่าไม่คุ้มค่านัก
เพราะส่วนใหญ่แล้วม้าขึ้นน้อย แรงบิดขึ้นนิดเดียว ลงทุนจ่ายค่ากล่อง ติดตั้ง จูน
ไปร่วม 30,000 บาทเป็นอย่างน้อย แต่ได้มาแค่ 5 แรงม้า กับแรงบิดเพิ่มขึ้น 2-3 Nm
กดคันเร่งอาจจะเบาเท้าขึ้น แต่มันก็คงไม่ได้ต่างหน้ามือเป็นหลังมือ

แถมด้วยว่า CR-V มันกินน้ำมันเพราะทรงของรถ ขนาด และน้ำหนักด้วยครับ
เจอเครื่อง 2.0 เข้าไป ก็ไม่ต่างอะไรจาก Cefiro A32, A33 เครื่อง 2.0 แหละ
โดนต้องมาลากตัวถังที่หนัก และต้านลม ก็ต้องบริโภคมากเป็นธรรมดา

ทางแก้เดียวที่จะง่ายที่สุด คงจะเป็นการไปหา 2.4 มาลงแทน
ผมคิดว่า อัตราสิ้นเปลืองจะเท่าเดิม หรือเผลอเผลอจะดีขึ้นเสียด้วยซ้ำ
เพราะไม่ต้องลงคันเร่งมาก เวลาจะส่งรถขึ้นไปวิ่งที่ความเร็วสูงสูง

เรื่องที่ 2

คันแรกนุ่มหนึบ แต่จังหวะ Rebound อาจจะช้าเกินไป
ทำให้อาการรถออกมา Response ช้า ถ้าเจอทางที่โหดโหดหน่อย
สุดท้ายช่วงล่างจะยุบจนไม่มีที่เหลือให้ยุบอีก แล้วก็เสียอาการครับ

คันที่สอง กระเด้ง (ไม่ใช่กระด้างนะ) และดีดดิ้นไปตลอดทาง
คันนี้ไม่น่าขับที่สุด อาการไม่ต่างจากช่วงล่างหลังของ Civic ES เลย

เรื่องที่ 3

เรื่องนี้ผมเดา 50% นะ แต่ยางที่เป็น Inside, Outside นั้น
ออกแบบเนื้อยาง ลายดอก และโครงสร้างหน้ายางมาให้มีความแข็งแรงไม่เท่ากันครับ
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพเต็มที่ที่สุด ก็เลยต้องระบุให้เป็น Inside, Outside ไว้

Rotation นั้น นอกจากจะรีดน้ำแล้ว ก็มีประเด็นเรื่อง Traction ด้วยเหมือนกันครับ

ข้อจัดลำดับยางนี่ผมขออนุญาตจริงจริงนะครับ ไม่ไหวครับ เยอะมากกกก
และบางตัวก็ไม่เคยแตะด้วย ละไว้ให้ผู้รู้ท่านอื่นละกันครับ

ออฟไลน์ vellcap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,984
Re: ถามเรื่อง เครื่องยนต์ + ช่วงล่าง + ยาง (3 in 1)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2011, 00:44:49 »
ขอบคุณทุกความเห็นครับ

พี่เนยครับ CRV คันนี้วิ่งมาแล้วเกือบๆ 6 หมื่นกิโลเมตรครับ(3 ปีพอดี)
ถ้ายางรถยนต์ เขาผลิตออกมาเป็น One way Rotation + Inside Outside ประสิทธิภาพคงสูงมาก
แถมตอนเปลี่ยนยางคงสนุกนั่งไล่ดูตำแหน่งต่างของยาง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 23, 2011, 00:54:26 โดย vellcap »

ออฟไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,101
Re: ถามเรื่อง เครื่องยนต์ + ช่วงล่าง + ยาง (3 in 1)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2011, 01:41:33 »
คันที่ 1 เครื่องยนต์ Benzine 2.0  160 แรงม้าที่ 6500 Rpm  แรงบิด 195 Nm ที่ 4200 Rpm
คันที่ 2 เครื่องยนต์ Benzine 2.5  135 แรงม้าที่ 5400 Rpm  แรงบิด 244 Nm ที่ 2100 Rpm

    ด้านเครื่องยนต์ :

        - คันที่2 แรงบิดสูงสุดมากกว่า คันที่1 ( 244 > 195 )
        - คันที่2 แรงบิดสูงสุดมาที่รอบต่ำกว่า คันที่ 1 ( 2100 < 4200 )
        - คันที่2 รอบแรงบิดสูงสุด ห่างจากแรงม้าสูงสุด = 3300 Rpm (5400 - 2100)
          คันที่1 รอบแรงบิดสูงสุด ห่างจากแรงม้าสูงสุด = 2300 Rpm (6500 - 4200)
          จะเห็นได้่ว่าคันที่2 มีช่วงแรงบิดสูงสุด ห่างจาก แรงม้าสูงสุดมากกว่า คันที่1 (3300 > 2300)
     
          ด้านเครื่องยนต์น่าจะพอสรุปได้ว่า
          เครื่องยนต์ของรถคันที่2 น่าจะมีสมรรถนะมากกว่าคันที่1
          เช่น มีแรงบิดสูงสุดสูงกว่า , แรงบิดสูงสุดมาในรอบที่ต่ำกว่า, ช่วงแรงบิดสูงสุดถึงแรงม้ากว้างกว่า
                (เผลอๆรอบตอนแรงม้าสูงสุดของเครื่องที่2 ยังน่าจะมีแรงบิดที่ใกล้เคียงแรงบิดสูงสุดของเครื่อง1 เสียด้วยซ้ำ)

                แต่!! มันยังสรุปไม่ได้ครับว่ารถคันไหนวิ่งอย่างไร ต้องดูอัตราทดเกียร์ด้วยครับ



    ด้านอัตราทดเกียร์ :
         
       - ถ้าทดเกียร์เฟืองใหญ่(เกินไป) แรงบิดของเครื่องตัวที่ 2 มันจะกลายเป็นเรื่องที่มีเกินจำเป็น
         (เหมือนเอานักเพาะกายมาวิ่งแข่งกับนักวิ่งอาชีพ ประมาณนั้นอ่ะครับ)
         จนทำให้เครื่องตัวที่1 ใช้ความได้เปรียบของรอบเครื่องที่มีมากกว่า ขึ้นมาเทียบได้ครับ


       - ถ้าทดเกียร์เฟืองเล็ก(เกินไป) แน่นอนเครื่องตัวที่ 2 ได้เปรียบเกือบทุกประการ
         แม้เครื่องตัวที่ 1 จะมีรอบให้ใช้มากกว่าแต่บางที อาจจะมี top speed ต่ำกว่าเครื่องตัวที่ 2 ก็ได้
         อันเนื่องมาจากมีแรงบิดไม่พอสำหรับการไปถึงในความเร็ว top speed นั้นๆครับ

        มันจึงเป็นที่มาว่าทำไม แต่ละเครื่องยนต์ แต่ละนิสัย แต่ละบอดี้ ถ้าจะให้ได้ประโยชน์สูงสุด
        จึงต้องมีอัตราทดเกียร์ที่ต่างกันไปครับ