ผู้เขียน หัวข้อ: "ซีดาน" เกาะถนนกว่า มีอากาศพลศาสตร์ที่ดีกว่า "แฮชแบค" จริงมั้ยครับ??  (อ่าน 21326 ครั้ง)

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์
ในความเข้าใจของผม

Air drag ก็คือการควบคุมการ ดึงการต้านของลม และควบคุมมันเพื่อให้เกิด Downforce  แรงกดลง
Air drag แปลตรงตัวมัน ก็แปลว่า  แรงดึงของลม ใช่ไหมครับ
ผมก็ฟังตามความเข้าใจของผมเองตามวิดีโอ เป็นการควบคุม ไม่ใช่ลดหรือกำจัด แต่เป็นการ ฉีกทะลุและควบคุมมันให้ผ่านไป

ผมดูจากวิดีโอ ยังไม่พบ อิทธิพลของ Turbulence ที่จำเป็นถึงขนาดต้องมาทำ Spoiler เพื่อแก้เรื่องนี้
หลักๆ หน้าที่ของมันผมก็ยังคิดว่า ทำมาเพื่อ Downforce เป็นหลัก
และ เมื่อสร้าง spoiler มาแล้วการควบคุม Air drag มันก็ต้องตามมาอยู่แล้ว
















ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Air Drag เรียกอีกอย่างให้เข้าใจง่ายว่า Air Resistance

ของอย่างนึง พอมันวิ่งด้วยความเร็ว ตัวมันเองต้องแทรกไปในอากาศ
และขณะที่มันแทรกไป มันก็ไปแทนที่อากาศตามพื้นที่หน้าตัดของตัวมัน
ซึ่งทำให้เกิดแรงเสียดทานระหว่าง อากาศกับวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่
พูดง่ายง่ายคือ อากาศพยายามต้านไม่ให้ของนั้นเคลื่อนที่ได้โดยสะดวก

การออกแบบทั้ง Spoiler และ Wing ต่างต่าง รอบคันรถ ก็มีแบบที่พยายามทำให้ลด Air Drag ให้มากที่สุด
รถจะได้ไม่ต้องใช้พลังงานมาออกแรงเอาชนะแรงต้านของอากาศ แล้วเอาเรี่ยวแรงไปปั่นล้อให้หมุนดีกว่า

ในคลิป F1 หางหลังของรถ F1 ทำออกมาโดยวัตถุประสงค์หลักคือสร้าง Downforce
ปัญหาที่มันตามมาก็คือ พอวิ่งเร็วมาก นอกจากมันจะสร้าง Downforce ได้มากเป็นหลายร้อยกิโล
มันยังทำให้เกิด Air Drag ต้านไม่ให้รถวิ่งได้เร็วด้วย พอวิ่งเข้าทางตรง เดี๋ยวนี้ถึงได้มีระบบ DRS
พับครีบของหางหลังซะ ลด Downforce และ Air Drag ลง จะได้ทำความเร็วหน้าพิทได้เร็วขึ้น

มันเป็นของคนละเรื่องเดียวกัน ที่การออกแบบมักจะนำมาเกี่ยวข้องกัน
เพราะถ้าออกแบบ Spoiler ให้สร้าง Downforce อย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึง Air Drag ที่ตามมา
มันก็จะไปถ่วงรถ ทำให้อัตราเร่งเฉื่อยชา กินน้ำมันมหาศาล ส่วนในทางกลับกัน การทำครีบต่างต่าง
หรือสปอยเลอร์ตูดเป็ดเล็กเล็ก สามารถทำให้ลด Air Drag ลงได้มหาศาล โดยที่ตัวมันไม่ได้สร้าง Downforce เท่าไหร่ก็มี
นอกจาก Civic Hybrid ES, Volt แล้ว ลองไปหาดู EVO 8MR ก็มีครีบเล็กเล็กเอาไว้จัดการเรื่อง Air Drag เหมือนกัน

รถเก๋งอาจจะไม่รู้สึก แต่ยิ่งของที่มีหน้าตัดใหญ่มากมาก Turbulence จะชัดเจนกว่า
ถ้าจำได้สมัยเราเรียนฟิสิกส์กันตอนมัธยม จะชอบมีโจทย์ว่า เราขี่จักรยานใกล้รถบรรทุกพอ
และรถบรรทุกวิ่งเร็วพอ เราจะไม่ต้องปั่นอะไรเลย เพราะ Turbulence ที่วิ่งผ่านท้ายรถไปแล้วตลบกลับ
มันจะทำให้จักรยานเราไหลไปข้างหน้า ตามท้ายรถบรรทุกไปติดติดเอง

ถ้านึกไม่ออก ต้องบอกว่า อากาศและน้ำ สามารถใช้หลักการเดียวกันได้ ในเรื่องสสารที่ไม่คงรูปร่างแบบนี้ (Fluid/Air)
เวลาแล่นเรือไปในทะเล ท้องเรือกินระดับน้ำทะเลลงไปลึกกว่าผิวน้ำ พอวิ่งผ่านไปน้ำที่ถูกแหวกออกก็ไหลกลับเข้ามาแทนที่
เกิดเป็น Turbulence อยู่ท้ายเรือ คลื่นม้วนตลบเข้าหากันตรงกลาง (คนละเรื่องกับแนวคลื่นที่เกิดจากหัวเรือแล้วบานออก)
อากาศก็เหมือนกันนั่นแหละครับ แต่ผมเห็นด้วยกับคุณเรื่องนึงคือ รถคันเล็ก วิ่งช้าช้า 100-120 กม./ชม.
มันไม่ได้มีผลเรื่อง Turbulence และ Downforce มากขนาดนั้นหรอก ที่เค้าออกแบบสปอยเลอร์มาเพื่อความสวยงามเป็นหลัก
แล้วส่วนใหญ่ จะไปเน้นเรื่องทำให้ลด Air Drag ลงด้วย ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานจะได้ลดลง ประหยัดน้ำมันมากขึ้น

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์

 ;D

ก็คงเป้นอย่างที่ admin พูดมาละครับ
ที่เวลา สร้างสปอร์เลอร์มามันจะเกิด Air Drag หรือแรงต้านเพิ่มขึ้นใช่ไหม
เลยต้องมาออกแบบให้มันต้านน้อยลง

ส่วน เรื่อง  Turbulence มันคงมีจริง แต่คงไม่มากระทบ กับ รถเท่าไหร่

หน้าของ Spoiler เรียงตามน้ำหนัก และการใช้งาน น่าจะประมาณนี้ไหมครับ

รถแข่ง
1.Downforce
2.Air Drag,
3.Turbulence

รถบ้าน

1.สวยงาม
2.Downforce ( ผมเห็นรถหลายคัน ออกมามาไม่ยักกะ ให้มีแรงกดลงเลยด้วยซ้ำ)
3 .Air Drag,