1. Double Wishbones ชื่อบอกแล้วว่า เป็นกระดูกคู่ มันจะจับดุมล้อ แบบ 2 ก้านคู่ขนานกัน ถือเป็นเทคโนโลยีเก่า แต่ก็เป็นเทคโนโลยีที่รถสปอร์ตส่วนใหญ่ใช้กัน มี Handing ดีสุด ถือเป็นช่วงล่างในอุดมคติที่สามารถจูนได้ง่ายที่สุด รถเมกาส่วนใหญ่ก็ใช้แต่ Handing กลับเลวร้ายมากเพราะ Handing มันขึ้นกับปัจจัยอื่นด้วย ส่วนใหญ่จะอยู่ในรถที่มีขนาดพอสมควร แต่รถขนาดเล็กที่ใช้ก็เป็น Honda Civic บางรุ่นเท่านั้น
2. MacPherson strut ผู้คิดค้นชื่อ แมคเฟอสัน จากบริษัทฟอร์ด คิดค้นได้ตั้งแต่ทศวรรษที่ 50 ถ้านึก Double Wishbones ได้ ..... แม็กเฟอร์สัน สตรัท ก็จะมีแค่แขนด้านล่าง ทำให้ประหยัดแขนด้านบนไป ช่วงล่างแบบนี้ เหมาะกับช่วงล่างด้านหน้าของรถขับหน้า (เพราะต้องการพื้นที่ด้านข้างเยอะกว่าขับหลังมาก) อย่างไรก็ดี ค่า Camber มันจะมีค่าความเพี้ยนสูง แถมเป็นช่วงล่างที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อ Handing ที่ดีที่สุด (อย่าลืมว่าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย)
3. Torsion beam คานเหล็ก มันคืออะไร คำอธิบายคือ มันจะเป็นแกนเหล็กตรงๆ แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้สอยภายในห้องผู้โดยสาร โดยเฉพาะด้านหลัง โดยออกแบบให้แกนกลางมันหักวกไปยังล้อ เป็นรูปตัว U คว่ำ แล้วล้อไปอยู่ตรงปลายตัว U ทั้ง 2 ข้างแทน มันเป็นที่นิยมในรถขนาดเล็ก เพราะมันสามารถเพิ่มพ้นที่ใช้สอยด้านหลังได้เพิ่มอีก แถมยังเป็นช่วงล่างที่มีรถคาถูก และสามารถแบ่งโช็ค และสปริงออกจากกัน (หากนึกไม่ออก ลองไปดูโช๊ค และสปริงของรถอย่างแจ๊ส จะแยกกันอยู่) แกนเหล็กที่ยึดล้อทั้ง 2 ข้างด้วยกัน ทำให้มันเป็นได้แค่ กึ่ง-อิสระ เท่านั้น ระดับ handing อยู่ระดับพอใช้เท่านั้น เนื่องจากการให้ตัวของช่วงล่างได้น้อย แต่ข้อดีคือ ประหยัดค่า anti roll Bar ไปในตัว เพราะมันยึดทั้งซ้ายแล้วขวาด้วยเหล็กแกนเดียวกันอยู่แล้ว
4. Multi-link suspension ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า มีหลายแขนจับยึด (อย่างไรก็ดี ถ้าจะเรียกมัลติลิ้งค์ ต้องมี 3 แขนขึ้นไปที่ยึดจับ) การออกแบบก็ขึ้นอยู่กับรถแต่ละยี่ห้อ เช่น BMW ใช้จับแบบ Z (3แขน) หรือ Accord ใช้กระดูกคู่ แต่เพิ่มอีก 1 แขน ก็กลายเป็นมัลติลิ้งค์ แต่ที่เด็ดกว่าคือ Audi ที่มีถึง 4 แขนไปจับ
อย่างไรก็ดี รถสปอร์ตส่วนใหญ่ก็ยังเลือกใช้ กระดูกคู่ แบบก็มีรถสปอร์ตหลายรุ่น ใช้มัลติลิ้งค์ ระดับ Handing นั้นถือว่าเป็นระดับเดียวกัน (ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ และการออกแบบของมัลติลิ้งคื) แต่ข้อเสียของมัลติลิ้งค์ คือ ราคาที่แพงที่สุด แถมยังต้องใช้พื้นที่ว่างเยอะกว่าช่วงล่างแบบอื่น ทำให้ส่วนใหญ่มันไปอยู่ในรถขนาดกลางไปถึงใหญ่มากกว่า