ถือเป็นก้าวที่สำคัญของฟอร์ดเค้าแล้วกันครับ
การทำเทคโนโลยีแบบนี้ในรถราคาเท่านี้ คงมีระบบซับซ้อนพอสมควร
เพราะฉะนั้น ระบบที่ซับซ้อน ต้องการมาลงรถตลาดคงมีโอกาสเจอมากกว่ารถคลาสแพงขึ้นหรือรถหรูแน่นอนครับ
( ผลิตเยอะกว่าก็ควรจะเจอปัญหาเยอะกว่าหน่ะครับ )
การควบคุมคุณภาพคงทำได้ยากกว่ารถหรูหน่ะครับ ไม่งั้นคงขายราคานี้ไม่ได้
กลับกัน ถ้าเป็นแบบรถตลาดบ้านเรา โต หรือ ฮอน คงไม่มีทางทำอย่างแน่นอนครับ
เพราะกำไรมันน้อย ปัญหามันเยอะ เสี่ยงต่อภาพพจน์บริษัท ...
ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหนเป็นพิเศษนะครับ มันขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละค่ายหน่ะครับ
เรื่อง Product Packaging และ Positioning น่ะ เข้าใจครับ ว่าแต่ละค่ายมีนโยบายไม่เหมือนกัน
แต่ผมคงไม่เห็นด้วยเรื่องที่บอกว่า เทคโนโลยีมากขึ้นในรถตลาด ก็ต้องยอมรับกรรมเรื่องปัญหาจุกจิกเยอะกว่ารถหรู
ในลักษณะทำนองว่า ในฐานะที่คุณเองก็อยากได้ของเยอะกันนัก ก็ทำให้แล้วนี่ไง มีปัญหาก็อย่าบ่นมากก็แล้วกัน
แบบนี้ผมว่าไม่ไหวครับ ถ้าจะทำรถอุปกรณ์เยอะให้ดีไม่ได้ และสร้างภาระให้ลูกค้าแทน ก็อย่าทำเลยครับ
ผมขอบอกค่ายรถที่คิดแบบนี้ว่า ถ้าเรื่อง QC และการทดสอบ Prototype ก่อนขายจริง ยังไม่สามารถควบคุมปัญหาได้
แล้วคิดจะทำออกมาขายให้ลูกค้า นอกจากคุณไม่ควรมาผลิตรถขายแล้ว คุณควรจะกลับไปปรับทัศนคติบางอย่างใหม่
ก่อนที่จะทำธุรกิจอะไรใดใดต่อไปในอนาคตด้วยครับ