ผู้เขียน หัวข้อ: ระบบตรวจวัดลมยางแบบ Real Time TPMS ถือว่าเป็นระบบความปลอดภัยของรถใช่ไหมครับ ?  (อ่าน 11964 ครั้ง)

ออฟไลน์ reyeshenry

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,082
เห็นตามเนต ศูนย์โตโยต้า และร้านข้างนอก ขายระบบเช็คลมยางแบบ Real Time แบบนี้ ราคาแรงเอาเรื่อง 5,000-10,000 บาทเลยทีเดียว

แต่ก็เข้าใจ ที่แพงเพราะมัน มีประโยชน์จริงๆ

แต่ไหง รถ D-Sec บ้านเราอย่าง camry teana  accord  ในรุ่น Top ที่ราคาเหยียบเกือบ 2 ล้านกลับไม่มีระบบนี้มาให้

เพราะเห็นคนขาย เขาก็บอกว่า มันคือระบบป้องกันความปลอดภัย ของรถชนิดหนึ่งเช่นกัน ไม่แพ้ Airbang ABS  

เพราะคุณสมบัติจากที่ศึกษาผู้ขายบอกว่า  มีดังนี้

- แสดงผลแรงดันลมยาง/อุณหภูมิแต่ละล้อล้อแบบrealtime
-  ส่งเสียงเตือนเมื่อแรงดันลมยาง ต่ำ/สูง กว่าค่าที่กำหนด
- ส่งเสียงเตือนเมื่ออุณภูมิสูงกว่าค่าที่กำหนด
- แสดงผลบนหน้าจอ LCD แบบกราฟฟิคเข้าใจง่าย
-  มีฟั่งชั่นเตือน lowbatt ที่หน้าจอLCD ทั้งที่ตัวเครื่องรับและเซ็นเซอร์ทั้งสี่ล้อ
- ช่วยป้องกันปัญหาและอุบัติเหตุจากปัญหาของยาง
-  ติดตั้งและถอดเองได้ โดยไม่ต้องถอดยางและถ่วงล้อใหม่ประหยัดค่าใช้จ่าย (เป็นแบบจุ๊บลม)
- ความเที่ยงตรงสูงแม้ขับในเส้นทางขรุขระ
- เป็นแบบEXTERNAL ติดตั้งและถอดออกได้เอง ประหยัดไม่ต้องเสียค่าถอดยาง ถ่วงล้อเวลาติดตั้งหรือถอดออก
- มี shock sensor เครื่องจะเริ่มทำงานเองเมื่อมีแรงสั่นสะเทือน(เช่นคุณเปิดปิดประตูและล้อหมุน) และจะหยุดทำงานเมื่อไม่มีการสั่นสะเทือน เพื่อประหยัดพลังงาน  คุณไม่ต้องคอยเปิดปิดเครื่อง
- ตัวเซ็นเซอร์ที่ล้อทั้งสี่ใช้ถ่านนาฬิกา สามารถเปลี่ยนได้เองเมื่อถ่านหมดอายุใช้งานประมาณ2-5ปี ตัวจอแสดงผลใช้ถ่าน AAA 2ก้อน อายุใช้งานประมาณ2ปี(ใช้งาน4ชม./วัน) หรือจะใช้ไฟจากที่จุดบุหรี่ก็ได้เช่นกัน
- ติดตั้งได้ทั้งแบบติดกระจก(ขายืดแบบติดกระจก มีมาให้) หรือตั้งบนคอนโซน(ขาตั้งคอนโซน มีมาให้)
-  บ.Wanvanan Co. Ltd.  ผู้นำเข้าได้ทำการทดสอบมากว่า5 ยี่ห้อเป็นเวลามากว่า 1 ปีจนมั่นใจว่าTYREDOG ดีที่สุดจึงสั่งนำเข้ามาขายพร้อมประกันเปลี่ยนเครื่องใหม่ถ้ามีปัญหาภายใน1 ปี


สำหรับเพื่อนๆ คิดว่า มันจำเป็นไหมครับ ที่จะซื้อ เจ้าเครื่องตัวนี้มาใช้...ดูคุณสมบัติแล้วก็น่าใช้เหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะคนที่ขับรถเร็วๆ  
ผมก็กำลังจะสอบ เจ้าตัวนี้มาเหมือนกันครับ   ไว้จะมารีวิวให้เพื่อนๆ ดูนะครับ....


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 03, 2012, 11:43:48 โดย thepowermancity »

ออฟไลน์ Headman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,148
เคยเห็นระบบนี้ใน Citroen c6 คันเดียวเองครับ real time สุโค่ยเลย
แต่ว่า c6 มัน 3 ล้านขึ้นไปน่ะครับ เลยมีมาให้  ;D บอก และเตือนคนขับได้ทันทีว่ายางข้างไหนมีปัญหาหรือเปล่า
เรารักจ่าโท :))))

ออฟไลน์ Monstruo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 380
Citreon C5 ตัวเก่ามี tire pressure sensor ในล้อครับ แต่ไม่มีการบอกแรงดันแบบ real-time
แต่จะเตือนเมื่อแรงดันอ่อนว่า Tyre(s) Deflated หรือถ้าอ่อนกว่าค่าที่กำหนดมากๆ ก็จะเตือนว่า Tyre(s) Punctured (ยางรั่ว)
ที่เตือนนี่ไม่บอกด้วยนะว่าล้อไหน  >:(

เหมือนจะดีใช่ใหมครับ?
แต่... sensor แต่ละตัวจะติดอยู่กับจุ๊บลมยางภายในล้อแม็ก
กลายเป็นว่าลมยางที่รั่วครั้งหนึ่ง นั้นรั่วเพราะ sensor เนี่ยแหละ
แถม sensor ยังต้องเปลี่ยนทุกๆ 4-5 ปี (ตัวละ 4,xxx บาท)

ท้ายสุดจึงให้ศูนย์ถอด sensor ออกให้หมด
เพราะมันทำให้รถจุกจิกขึ้น เสียค่าบำรุงรักษาโดยไม่จำเป็นมากขึ้น  :-\
แล้วทำเหมือนรถคันอื่นๆ คือเช็คแรงดันลมอย่างสม่ำเสมอ

ออฟไลน์ ^Yimm@^

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,107
มีก็ดีครับ แต่ไม่จำเป็นครับ หมั่นเช็คลมยางเป็นประจำอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง

ออฟไลน์ Headman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,148
Citreon C5 ตัวเก่ามี tire pressure sensor ในล้อครับ แต่ไม่มีการบอกแรงดันแบบ real-time
แต่จะเตือนเมื่อแรงดันอ่อนว่า Tyre(s) Deflated หรือถ้าอ่อนกว่าค่าที่กำหนดมากๆ ก็จะเตือนว่า Tyre(s) Punctured (ยางรั่ว)
ที่เตือนนี่ไม่บอกด้วยนะว่าล้อไหน  >:(

เหมือนจะดีใช่ใหมครับ?
แต่... sensor แต่ละตัวจะติดอยู่กับจุ๊บลมยางภายในล้อแม็ก
กลายเป็นว่าลมยางที่รั่วครั้งหนึ่ง นั้นรั่วเพราะ sensor เนี่ยแหละ
แถม sensor ยังต้องเปลี่ยนทุกๆ 4-5 ปี (ตัวละ 4,xxx บาท)

ท้ายสุดจึงให้ศูนย์ถอด sensor ออกให้หมด
เพราะมันทำให้รถจุกจิกขึ้น เสียค่าบำรุงรักษาโดยไม่จำเป็นมากขึ้น  :-\
แล้วทำเหมือนรถคันอื่นๆ คือเช็คแรงดันลมอย่างสม่ำเสมอ

ผมเก็นมันมี ขีดๆ บอกน่ะครับ เหอๆๆ  ;D
เรารักจ่าโท :))))

iam_naam

  • บุคคลทั่วไป
ปัญหาที่เิกิดขึ้นกับอุปกรณ์นี้คือ

 - หัววัดมันหายค่อนข้างง่ายครับ
 - ความทนทานต่อการสั่นสะเทือนและแรงกระแทก รวมถึงน้ำและความร้อน
 

ออฟไลน์ capton

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 378
ใช้อยู่ครับ มันดีตรงรู้ว่าลมเท่าไหร่ อุณหภูมิเท่าไหร่ ข้อเสีย จุ๊บกันขโมยต้องใช้เวลาถอดเข้า ถอดออก พอควร แต่ผมเข้าใจว่า ไม่ช่วยป้องกันยางระเบิด

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,162
คิดว่าไม่จำเป็นครับ

เปลี่ยนยางตรงเวลา ตรงระยะ
หมั่นเติมลมยางทุกๆ 1-2 เดือนสำหรับลมธรรมดา
และ 6 เดือนสำหรับไนโตรเจน
น่าจะดีกว่าครับ

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11,966
มีดีกว่าไม่มีครับ ไม่ต้องละเอียดขนาดนี้ก็ได้ ถ้าแรงดันน้อยผิดปกติแล้วแจ้งก็พอ
Camry US 2.5 มีนะครับ แต่ของไทย....ให้ซื้อเพิ่มเอง

จำไม่ได้ว่าครูซมีหรือเปล่า โฟกัสก็ยังไม่ได้ลอง

ออฟไลน์ chean

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 292
    • อีเมล์
แค่นี้ผมขับรถ ผมก็โรคจิตพอล่ะ ไอ้นี้เป็นไรไหม  ไอ้โน้นเป็นไรไหม

ถ้าต้องมีบอกระดับลมยางแบบ real time อีก มองทุกครั้งที่นึกถึง

รับรอง.....ผมตายแน่

ออฟไลน์ ck_win

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 337
ใช้อยู่ ดีมากครับ วัดได้ตรงมาก
ครั้งนึงลมมันค่อยๆ ซึมออกเหลือ 26 ลองตรวจดูถึงรู้ว่าโดนตะปูมา
แล้วเวลาใช้ไม่ต้องไปดูมันตลอดเวลานะ เราตั้งได้ว่าแรงดันลดลงเหลือเท่าไหร่แล้วให้เครื่องเตือนครับ

ออฟไลน์ beebird

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,052
    • อีเมล์
ดีครับ ใช้งานได้เยี่ยมเลย ข้อเสียอย่างเดียวคือ กลัวหาย แม้ว่าจะมีแหวนล๊อค แต่ก็อดเสียวไม่ไ่ด้อันละ 1 พันบาทนะครับ

ุ้ถ้าจะให้ดี แนะนำแบบที่ Sensor อยู่ในยางน่ะครับ ตอนติดตั้งอาจดูวุ่นวายนิดหน่อยแต่ สบายใจอุ่นใจอย่างมากครับ โดยเฉพาะรถติดแก๊สโดนัทแบบผม (ไม่มียางอะไหล่) ต้องใช้เจ้านี่คอยช่วยเพิ่มความอุ่นใจครับ ผมพกที่ซีลยางแบบฉุกเฉินไว้ 1 กระป๋อง และปั้มลมชนาดพกพา ติดรถไว้เสมอครับ 

jAk

  • บุคคลทั่วไป
อุปกรณ์นี้มีประโยชน์มากครับ อย่างที่ด้านบนบอกไว้ ถ้าโดนตะปูฝังในยางจะไม่รู้เลยว่าลมซึม

จนมันแบนมากถึงจะเห็นได้ด้วยตาเปล่า ยิ่งถ้าเป็นการวิ่งทางไกลยิ่งเสี่ยงต่อยางแตกได้อีกถ้าลมยางอ่อนเกินไป

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,243
เชคลมยางทุกสัปดาห์ก็น่าจะประหยัดเงินได้ดีกว่ามังครับ เงินตั้งหมื่นผมว่าแพงนะครับ รถผมมีระบบนี้ติดมาด้วย แต่ผมก็เช็คลมยางเรื่อยๆครับ