ผู้เขียน หัวข้อ: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่  (อ่าน 22443 ครั้ง)

ออฟไลน์ kukonba

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 361
  • เที่ยวไปให้ทั่วเมืองไทยเถอะครับ
    • อีเมล์
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 14:23:40 »
อีกตั้งสามปีกว่าจะเริ่มใช้...แล้วทำไมต้องรออีกสามปี หรือว่าเพื่อให้ผู้ประกอบการรถยนต์ได้เตรียมตัวเตรียมใจก่อน
ที่จะเริ่มเข้าสู่ระบบอัตราภาษีสรรพสามิตรใหม่ อย่างงี้ก็ช่วยผู้ประกอบการอีกตามเคย คนใช้รถก็เตรียมหาเงินใว้จ่าย

ออฟไลน์ Noctis Lucis Caelum

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 419
  • Life is beautiful and short.
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 14:26:51 »
คันต่อไปผมจะซื้อ Hybrid !! :P

F10 Hybrid เลยครับ 5555+
นั่นคือร่างกายของคุณ ใช้มันให้คุ้ม ใช้ให้พอใจ ...จนกว่าคุณจะต้อง "เสียมันไป"

PLEASE DON'T CALL ME ARROGANT BUT I THINK I'M A SPECIAL ONE

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 14:41:44 »
รอดู BMW i ตะหากครับ ผมว่าน่าจะมีอะไรเด็ดๆ ;D

ไม่ก็คง Active Hybrid 4 ::)



ปล.แล้วเค้าไม่เก็บตามแรงม้าแล้วใช่ไหมครับ งี้พวก ตระกูล 35i ที่เครื่อง 2979 เทอโบ ม้า 300++ นี่ก็เก็บถูกลงใช่ไหม ??

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 14:49:13 »
บริษัทรถ ขายรถแพง   แต่มาโทษภาษีไทย แล้วคนไทยก็จำๆเค้ามาพูด
สรุปบริษัทรถรวยเละเลย

ทำไม all new focus ขายได้ใน option เต็ม โดยไม่บ่นเรื่องต้นทุน
ทำไม mazda3 ผลิตในไทย option หดกว่านำเข้าทั้งคัน
สิ่งที่ต้องจำคือ ต้นทุนการผลิตกับค้าปลีก ราคาคนละเรื่องเลยครับ แต่คนชอบเอาต้นทุนค้าปลีกไปใส่ให้ผู้ผลิต ถามจริงๆที่ลดต้นทุนมันจะได้สักกี่ตังค์ แต่ที่เค้าทำเพราะเป็นการดูถูกคนไทยจริงๆ และมันได้ผลซะด้วยสิ

ถ้างั้นผมขอตั้งคำถามกลับครับ
All New Focus - Margin ต่อคันเท่าไหร่

ส่วนข้อ 2 มาสด้า 3 2.0 ในไทย ชิ้นส่วนนำเข้าจากญี่ปุ่นมากกว่ารถที่ qualify เป็น CKD ปกติ
ถูกจัดเก็บภาษีแพงกว่ารถประกอบในไทย เพราะมี Local Content ไม่เท่ากับที่กำหนด

นอกจากกำไรต่อคันแล้ว ยังมีบริการหลังการขาย การอบรมช่างและผู้แทนจำหน่าย
ฟอร์ด กับ มาสด้า เห็นความแตกต่างค่อนข้างชัดเจนครับ

เรื่องดูถูกคนไทย ผมไม่ทราบว่าจะต้องใช้อะไรเป็นฐานเปรียบเทียบในการอ้างนะครับ
เท่าที่ผมทราบ รถในอเมริกากว่าจะได้มีออพชันเท่าเมืองไทย ต้องซื้อรุ่นท้อปมากมากเท่านั้น
แอร์ออโต้ กุญแจ keyless ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ เบาะหนัง จอ MID ฯลฯ ถ้าไม่ใช่ท้อปจริงส่วนใหญ่ก็ไม่มี
แต่รถในเมืองไทยก็เริ่มเห็นของเล่นเหล่านี้ในรถรุ่นกลางกลาง หรือรถเล็กรุ่นล่างแล้ว ผมไม่คิดว่าเป็นการดูถูกนะ

ถ้าลองเปรียบเทียบดู C200 Standard กับ Camry ราคาต่างกันไม่มาก (เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนของราคารถ)
แต่ออพชันต่างกันหลายอย่างเลย และประกอบในประเทศไทยเหมือนกันทั้งคู่ ถ้าแบบนี้ Merc ดูถูกคนไทยมากกว่าหรือเปล่าครับ

all new focus กับ mazda3 ผมไม่ได้สนใจ margin
แต่หากว่า mazda3 ลำบากขนาดนั้น กลับไปนำเข้าเหมือนเดิมดีกว่ามั๊ยครับ

ส่วนเรื่องศูนย์ ผมคงไม่ต้องพูดหรอก มันไม่ใช่ประเด็นครับ เพราะจริงๆmadza-ford ในหลายๆศูนย์ยังเป็นศูนย์เดียวกันอยู่ บริการที่ผมได้รับอยู่ในระดับเดียวกัน
ส่วนเคสการแก้ปัญหา มันเป็นนโยบายบริษัทแม่ครับ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้เจอปัญหารุนแรงจนสำผัสได้ทั้งหมดทั้งสองบริษัท แต่บอกได้ว่าที่เคยไปดูรถมา มันเหมือนกัน ดีไม่ดีfordบางที่ยัง ดูแลดีกว่าmazda ก็ยังมี

ส่วนที่บอกว่าดูถูกคนไทย  ผมคงไม่ต้องยกตัวอย่างอะไรหรอกครับ ปกติผมซื้อรถตัวtop เสมอไม่เคยมีตัวไหนที่ได้เท่าเทียมหรือมากกว่าเลย

สุดท้าย ถ้าผมทำอะไรให้คุณเดือดมาก ก็ขออภัยด้วยนะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะว่าใคร แค่พูดไปตามที่ผมเห็นซึ่งมันอาจจะผิดก็ได้

ออฟไลน์ Noctis Lucis Caelum

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 419
  • Life is beautiful and short.
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 14:51:48 »
รอดู BMW i ตะหากครับ ผมว่าน่าจะมีอะไรเด็ดๆ ;D

ไม่ก็คง Active Hybrid 4 ::)



ปล.แล้วเค้าไม่เก็บตามแรงม้าแล้วใช่ไหมครับ งี้พวก ตระกูล 35i ที่เครื่อง 2979 เทอโบ ม้า 300++ นี่ก็เก็บถูกลงใช่ไหม ??

ผมคิดว่าน่าจะเก็บตามไอเสียเสียที่ปล่อยออกมาหรือเปล่า

ถ้าเป็นแบบนั้นรถกระบะรุ่นเก่าๆหน่อย เสียภาษีบานเลยสิ

ไม่ค่อยเข้าใจโครงสร้างการคิดภาษีบ้านเราเหมือนกันครับ มีหลายแบบเหลือเกิน เอาแน่เอานอนไม่ได้

อีก 3ปีหน้าค่อยมาลุ้นกันอีกทีกัน
นั่นคือร่างกายของคุณ ใช้มันให้คุ้ม ใช้ให้พอใจ ...จนกว่าคุณจะต้อง "เสียมันไป"

PLEASE DON'T CALL ME ARROGANT BUT I THINK I'M A SPECIAL ONE

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 14:54:30 »
ถ้าไม่คิดตามแรงม้า นี่คือรถที่จะเสียภาษีถูกลงอย่างไม่น่าเชื่อ !! :o

ออฟไลน์ Noctis Lucis Caelum

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 419
  • Life is beautiful and short.
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 14:59:44 »
ชอบคันนี้ตรงที่ทอร์คนี่แหละ 740NM   :D :D :D
นั่นคือร่างกายของคุณ ใช้มันให้คุ้ม ใช้ให้พอใจ ...จนกว่าคุณจะต้อง "เสียมันไป"

PLEASE DON'T CALL ME ARROGANT BUT I THINK I'M A SPECIAL ONE

ออฟไลน์ Amaranthe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 708
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 15:15:03 »
แล้วถ้ารถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน ๆ ไม่มีการปล่อย Co2 หละ

ไม่มีในแผนผัง เพราะ รถกลุ่มนี้คงยังยากที่จะเกิดในไทยสินะ

และถ้ามีจริง ภาษีจะเก็บกี่ % หนอ

ออฟไลน์ Headman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,152
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 15:37:51 »
แล้วรถเก่าล่ะครับ?
เรารักจ่าโท :))))

ออฟไลน์ iKrit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,713
  • Blue. Just BLUE.
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 16:55:46 »
ขึ้นช่วงเปลี่ยนรถใหม่ครอบครัวผมพอดีเลย T-T
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก

ออฟไลน์ paulmoderndog

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,783
    • อีเมล์

ออฟไลน์ spiritofsoul

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 104
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 19:01:38 »
พวก Ecoboost ก็จะราคาถูกลง หรือเปล่า  :P

ออฟไลน์ pongisra

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,459
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 20:16:15 »
คันต่อไปผมจะซื้อ Hybrid !! :P

F10 Hybrid เลยครับ 5555+

F10 hybrid อยู่ในกลุ่มที่ราคาขึ้นนะครับ ตอนนี้ 10% อันใหม่แพงกว่านี้เพราะปล่อยไอเสียเกิน 100g/km ชตากรรมเดียวกับ camry hybrid

ออฟไลน์ i-din

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 458
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 20:19:49 »
เผื่อจะช่วยให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ
ว่าราคาจะปรับไปขนาดไหน



มติครม จาก คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20121218/147520/%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A1.%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C.html#.UNG9f-Rg-Sp

มติครม.ปรับภาษีสรรพสามิตรถยนต์
ครม.มีมติเห็นชอบปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ เพื่อแก้ไขการบิดเบือน-สร้างความเป็นธรรม โดยจัดเก็บภาษีตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)
                         18 ธ.ค. 55  ครม.มีมติเห็นชอบปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาการบิดเบือนโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีรถยนต์ และเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ของโลก ซึ่งจะเปลี่ยนภาษีสรรพสามิตรถยนต์ทั้งระบบ โดยจัดเก็บภาษีตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
                         ทั้งนี้การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ โดยคิดตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะเป็นการคิดภาษีจะแบ่งตามประเภทรถยนต์ 7 ประเภท ประกอบด้วย
 
                         1. รถยนต์นั่ง และรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี ปล่อยก๊าซไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 30% ปล่อยก๊าซ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 35% และปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 40%
                         2. รถยนต์นั่งประเภทอี 85 และรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี ปล่อยก๊าซฯไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 25% ปล่อยก๊าซ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 30% และปล่อยก๊าซฯเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 35%
                         3. รถยนต์แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี ปล่อยก๊าซฯไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 10% กรณีปล่อยก๊าซเกิน 100-150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 20% และปล่อยก๊าซเกิน 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 25% และปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 30%
                         4. รถยนต์กระบะที่ไม่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 3% และปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 5%
                         5. รถยนต์กระบะที่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซฯไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 5% และปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 7%                             
                         6. รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (ดับเบิ้ลแคป) มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250ซีซี ปล่อยก๊าซฯไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 12% และปล่อยก๊าซฯเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 15%
                         7. รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซฯไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 25% และปล่อยก๊าซฯเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 30%
 
                         โดยที่ ครม.มีความเห็นชอบในการประชุมฯครั้งนี้ เห็นควรว่าให้มีช่วงระยะเวลาในการปรับตัวของผู้ประกอบการรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2559 เนื่องจากกระทรวงการคลังวิเคราะห์ผลกระทบว่าการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการบางราย ทั้งนี้มีการคำนวณรายได้ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ในปีดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2554 เป็นเงิน 25,693 ล้านบาท
                         แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังเสนอให้มีการเก็บอัตราภาษีสรรพสามิตนำเข้ารถจักรยายนต์ขนาดกระบอกสูบ 800-1,000 ซีซี ที่ปัจจุบันมีการจัดเก็บอยู่ที่ 103% โดยจะมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 20% เป็น 123% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.เป็นต้นไป คาดว่าจะช่วยให้มีรายได้จากการเก็บภาษีส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็นวงเงินประมาณ 150 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังให้เหตุผลว่า ผู้ที่สามารถซื้อรถจักรยานยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดดังกล่าวได้เป็นผู้มีฐานะเพียงพอที่จะชำระภาษีเพิ่มเติม

ไม่เห็นเหมือนกันเลยครับ ตกลงมันอันเดียวกันหรือเปล่าครับ

ออฟไลน์ WinniE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 893
  • TO THE WORLD BEST...K5
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 22:40:03 »
ผมลองเอาเครื่องยนต์ของ Accord 2013, Altima 2013 และ Camry 2012 มาคิดดู(ทั้งหมดอ้างอิงจากเว็บ USA และ Singapore)

1AZ-FE (Camry 2.0) ปล่อย CO2 204 g/km เสียภาษี 40%

2AR-FE (Camry 2.5) ปล่อย CO2 187 g/km เสียภาษี 35%

2AR-FXE (Camry Hybrid) ปล่อย CO2 137 g/km เสียภาษี 20%

K24 Earthdream (Accord 2013) ปล่อย CO2 180 g/km เสียภาษี 35%

QR25DE (Altima 2013) ปล่อย CO2 174 g/km เสียภาษี 35%

เท่ากับว่า D-Segment ผลิตในประเทศแทบทุกรุ่นตั้งแต่ 1 ม.ค. 2559 จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5% สินะครับ นอกจากว่าค่ายรถจะทำให้ลดการปล่อย CO2 ต่ำกว่า 150 g/km ได้ ถึงจะเสียภาษีเท่าเดิม

Edit : ภาษีที่คำนวณข้างบนยังไม่ได้คิดแบบรองรับ E85 นะครับ ถ้ารองรับจะลดลงไป 5%

ส่วนอันนี้เป็นของ 2013 Mazda 6 นะครับ(เผื่อจะเข้าไทย)

2.0 SKYACTIV-G ปล่อย CO2 129 g/km เสียภาษี 30% ถ้ารองรับ E85 จะเสียแค่ 25%

ปล. ว่าแต่ทำไมเว็บ Honda Korea ถึงบอกว่าเครื่อง K24 Earthdream เสป็คเกาหลีใต้ปล่อย CO2 แค่ 139 g/km เองล่ะเนี่ย ???

http://www.hondakorea.co.kr/html/automobile/models/accord/accord_spec01.jsp
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2012, 23:47:33 โดย WinniE »
2003 Honda Accord 2.4 E
2007 Nissan Frontier Navara King Cab 2.5 SE

ออฟไลน์ pongisra

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,459
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 23:01:33 »
ผมลองเอาเครื่องยนต์ของ Accord 2013, Altima 2013 และ Camry 2012 มาคิดดู(ทั้งหมดอ้างอิงจากเว็บ USA และ Singapore)

1AZ-FE (Camry 2.0) ปล่อย CO2 204 g/km เสียภาษี 40%

2AR-FE (Camry 2.5) ปล่อย CO2 187 g/km เสียภาษี 35%

2AR-FXE (Camry Hybrid) ปล่อย CO2 137 g/km เสียภาษี 20%

K24 Earthdream (Accord 2013) ปล่อย CO2 180 g/km เสียภาษี 35% อันนี้ถ้าเติม E85 ได้ก็เสีย 30% เท่าเดิม(camry teana ก็เช่นกัน) ขอให้รุ่นที่มาปีหน้าเป็น E85 มารอเลย ;D

QR25DE (Altima 2013) ปล่อย CO2 174 g/km เสียภาษี 35%

เท่ากับว่า D-Segment ผลิตในประเทศแทบทุกรุ่นตั้งแต่ 1 ม.ค. 2559 จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5% สินะครับ นอกจากว่าค่ายรถจะทำให้ลดการปล่อย CO2 ต่ำกว่า 150 g/km ได้ ถึงจะเสียภาษีเท่าเดิม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2012, 23:03:12 โดย pongisra »

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2012, 23:35:37 »
Hybrid Hybrid Ecocar Ecocar

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2012, 00:10:52 »
บริษัทรถ ขายรถแพง   แต่มาโทษภาษีไทย แล้วคนไทยก็จำๆเค้ามาพูด
สรุปบริษัทรถรวยเละเลย

ทำไม all new focus ขายได้ใน option เต็ม โดยไม่บ่นเรื่องต้นทุน
ทำไม mazda3 ผลิตในไทย option หดกว่านำเข้าทั้งคัน
สิ่งที่ต้องจำคือ ต้นทุนการผลิตกับค้าปลีก ราคาคนละเรื่องเลยครับ แต่คนชอบเอาต้นทุนค้าปลีกไปใส่ให้ผู้ผลิต ถามจริงๆที่ลดต้นทุนมันจะได้สักกี่ตังค์ แต่ที่เค้าทำเพราะเป็นการดูถูกคนไทยจริงๆ และมันได้ผลซะด้วยสิ

ถ้างั้นผมขอตั้งคำถามกลับครับ
All New Focus - Margin ต่อคันเท่าไหร่

ส่วนข้อ 2 มาสด้า 3 2.0 ในไทย ชิ้นส่วนนำเข้าจากญี่ปุ่นมากกว่ารถที่ qualify เป็น CKD ปกติ
ถูกจัดเก็บภาษีแพงกว่ารถประกอบในไทย เพราะมี Local Content ไม่เท่ากับที่กำหนด

นอกจากกำไรต่อคันแล้ว ยังมีบริการหลังการขาย การอบรมช่างและผู้แทนจำหน่าย
ฟอร์ด กับ มาสด้า เห็นความแตกต่างค่อนข้างชัดเจนครับ

เรื่องดูถูกคนไทย ผมไม่ทราบว่าจะต้องใช้อะไรเป็นฐานเปรียบเทียบในการอ้างนะครับ
เท่าที่ผมทราบ รถในอเมริกากว่าจะได้มีออพชันเท่าเมืองไทย ต้องซื้อรุ่นท้อปมากมากเท่านั้น
แอร์ออโต้ กุญแจ keyless ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ เบาะหนัง จอ MID ฯลฯ ถ้าไม่ใช่ท้อปจริงส่วนใหญ่ก็ไม่มี
แต่รถในเมืองไทยก็เริ่มเห็นของเล่นเหล่านี้ในรถรุ่นกลางกลาง หรือรถเล็กรุ่นล่างแล้ว ผมไม่คิดว่าเป็นการดูถูกนะ

ถ้าลองเปรียบเทียบดู C200 Standard กับ Camry ราคาต่างกันไม่มาก (เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนของราคารถ)
แต่ออพชันต่างกันหลายอย่างเลย และประกอบในประเทศไทยเหมือนกันทั้งคู่ ถ้าแบบนี้ Merc ดูถูกคนไทยมากกว่าหรือเปล่าครับ

all new focus กับ mazda3 ผมไม่ได้สนใจ margin
แต่หากว่า mazda3 ลำบากขนาดนั้น กลับไปนำเข้าเหมือนเดิมดีกว่ามั๊ยครับ

ส่วนเรื่องศูนย์ ผมคงไม่ต้องพูดหรอก มันไม่ใช่ประเด็นครับ เพราะจริงๆmadza-ford ในหลายๆศูนย์ยังเป็นศูนย์เดียวกันอยู่ บริการที่ผมได้รับอยู่ในระดับเดียวกัน
ส่วนเคสการแก้ปัญหา มันเป็นนโยบายบริษัทแม่ครับ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้เจอปัญหารุนแรงจนสำผัสได้ทั้งหมดทั้งสองบริษัท แต่บอกได้ว่าที่เคยไปดูรถมา มันเหมือนกัน ดีไม่ดีfordบางที่ยัง ดูแลดีกว่าmazda ก็ยังมี

ส่วนที่บอกว่าดูถูกคนไทย  ผมคงไม่ต้องยกตัวอย่างอะไรหรอกครับ ปกติผมซื้อรถตัวtop เสมอไม่เคยมีตัวไหนที่ได้เท่าเทียมหรือมากกว่าเลย

สุดท้าย ถ้าผมทำอะไรให้คุณเดือดมาก ก็ขออภัยด้วยนะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะว่าใคร แค่พูดไปตามที่ผมเห็นซึ่งมันอาจจะผิดก็ได้

ผมยังไม่ได้อารมณ์เสียอะไรเลย ผมก็แสดงความคิดเห็นของผมจากข้อมูลที่ผมทราบมา ซึ่งอาจจะไม่เหมือนคุณเท่านั้นเอง

ตอบประเด็นที่คุยกันต่อ

1. อ้าว เห็นพูดถึงเรื่องต้นทุน กับ option ว่าทำไมฟอร์ดขายได้ มาสด้าขายไม่ได้ บริษัทรถขายแพงเอง ดูถูกคนไทย
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องกำไรขาดทุนต่อคันเหรอครับ เพราะผมเข้าใจว่าถ้าบริษัทยอมกำไรน้อยลงแบบฟอร์ด ก็น่าจะขายรถถูกลง
หรือไม่ก็ราคาเดิมแต่เพิ่มออพชัน หรือผมตีความที่คุณเขียนมาผิดครับ?

2. ทำไม่ได้ครับ ไม่มีฐานการผลิตในฟิลิปปินส์สำหรับรถเก๋งแล้ว

3. ผมคิดว่าการพูดเรื่องดูถูกหรือไม่ดูถูก น่าจะพูดในภาพรวมของคนที่ซื้อรถทั้งประเทศนะครับ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะคนซื้อรุ่นท้อปเท่านั้น
คุณอาจจะมองว่าการซื้อตัวท้อปแล้วได้ไม่ครบเท่าเมืองนอกเป็นเรื่องถูกดูถูก แต่สำหรับผมการเกลี่ยออพชันลงมารุ่นกลางกลางให้ดีกว่าเมืองนอก
ผมมองว่าเป็นการพยายามจัดสรรออพชันให้เหมาะกับความต้องการของคนไทย และเงินที่คนไทยยอมจะจ่ายสำหรับรถคันนึงมากกว่า

เรื่องศูนย์บริการฟอร์ดและบริษัทแม่ อยู่ตรงนี้ผมเจอมาเยอะครับ เรียกว่าคุณ Newhang ยังโชคดีที่ไม่เจออะไรแย่แย่แบบที่ผมพบมาครับ

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2012, 07:59:15 »
ผมมองว่าเรื่องการดูถูกคนไทยเสมือนคำเปรียบเปย มันน้อยกว่าต่างประเทศจริงมั๊ย ผมว่าคงไม่ต้องพูดเยอะ และในเรื่องที่ว่าเกลี่ยoption ซึ่งมันมีจริง แต่อุปกรณ์มาตรฐานยังคงเหนือกว่า ในราคาที่ถูกกว่าด้วย

ในเรื่อง mazda ford เป็นเพียงการยกตัวอย่างชนิดนึงที่มีความคลายคลึงกันในตลาด แต่จริงๆถามว่าเปรียบกับตัวอื่นได้มั๊ยก็คงได้   ลองสังเกตดีๆครับ civic fb รุ่นนี้ทำไมถึงขึ้นราคาน้อยกว่าที่น่าจะเป็น แต่ผมเองก็ไม่อยากพูดเพราะปัจจัยมันเยอะกว่า mazda ford
ส่วนต้นทุนการหั่นราคา คือสิ่งที่คนไทยกลัวบริษัทรถจะไม่ได้กำไร  เลยเกิดคำถามว่าทำไมnew ford focus ถึงใส่option ในขนาดที่ d segment อายเลยทีเดียว แต่บางคนยังกลัวว่าถ้าd segment ใส่จะขาดทุน
อันนี้คือสิ่งที่ผมอยากให้เห็นภาพเท่านั้น

ออฟไลน์ SignifeR

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,953
  • Impreza Type GDG WRX
    • ร้านหนังสือผ้าสำหรับเด็ก IGGY BOOK
    • อีเมล์
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2012, 14:34:24 »
ไปปรับลดภาษีเงินได้แทน มาขึ้นภาษีรถ จริงๆมันก็ไม่ผิดนี่ เพราะไปลดตัวแรก คนได้ประโยชน์มากกว่านะครับ
แต่เรื่องลดภาษีรถคันแรก ผมเองไม่เห็นด้วยหรอก บิดเบือนโครงสร้างทุกอย่างอ่ะนะ

แต่ต้องอย่าลืมว่า ระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ๆ ก็เริ่มก่อสร้างไปได้พอสมควรแล้ว ไม่นานนี้คงมีรถไฟฟ้ามาหานะเธอกันมากขึ้น
จุดนี้เอง ที่จะทำให้ เรื่องการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล น้อยลงไปด้วย

มองยาวๆ อีก 3 ปี  5 ปี มันน่าจะชัดเจนขึ้น และเมื่อถึงจุดนั้น รถมือสองจาก โครงการรถคันแรกก็จะระบายออกสู่ตลาด
และเป็นยุคทองของรถมือสองอีกครั้ง 5 5 5  รอสอยอ่ะ
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,487
    • อีเมล์
Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2012, 15:43:06 »
ขนาดโฟกัส option จัดเต็มขนาดนี้ ขายถูกขนาดนี้
ยอดขายยังน้อยกว่า Nissan Sylphy เลย

ถ้าโฟกัสขายราคาสูงกว่านี้ คงขายไม่ออกเข้าไปใหญ่

นั่นแสดงว่าคนทั่วไป (ที่ไม่ได้บ้ารถ) ไม่ได้ต้องการออฟชั่นที่มากมายเลย
ขอเพียงแค่เค้าขับรถได้ปลอดภัย ขับดี ใช้งานได้ดี ตามความต้องการ เป็นส่วนมากของประเทศ

ในความคิดของผม พูดถึงเฉพาะในแง่ของการทำธุรกิจก็ต้องคำนึงถึงฐานกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นสำคัญ
ถ้าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการ จะทำให้ทำไม จะเสียค่าเปิดฐานการผลิตเพิ่มไปทำไม
ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นหลายสิบล้าน หลายร้อยล้าน เพื่อมารองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเพียงแค่ 3% ของทั้งหมด
และในระดับ C-Segment ยอดขายเกือบทั้งหมดอยู่ที่รุ่นกลางๆ สู้เอาเงินลงทุนที่ว่านั่นมาเพิ่มออฟชั่นที่จำเป็นเกลี่ยมาให้รุ่นกลางๆ
ทำให้ผู้ซื้อส่วนใหญ่ได้รับออฟชั่นที่ดี เมื่อเทียบกับราคาดีกว่าครับ

เอาอย่างง่ายๆ เทียบ Focus 1.6 กับ Sylphy 1.6 สิครับ
ใครตั้งราคา ให้ออฟชั่น สมเหตุสมผลกว่ากัน ในภาพรวม ห้องโดยสาร การใช้งาน ออฟชั่น ราคา ฯลฯ

ผมว่ามันเป็นเทคนิคการตลาดและเป็นเรื่องของเศรษฐศาสตร์มากกว่า

กรณีแรก Focus ขาย 1.059 ล้าน สมมติ กำไรคันละ 59,000 บาท ขายได้เดือนละ 850 คัน กำไรที่ได้ 50.1 ล้าน
กรณีสอง Focus ขาย 1.159 ล้าน สมมติ กำไรคันละ 159,000 บาท ขายได้เดือนละ 200 คัน กำไรที่ได้ 31.8 ล้าน

เป็นคุณๆจะเลือกกรณีไหนครับ

ยอดขายสูงกว่า ฐานลูกค้ามากกว่า ชื่อเสียงมากกว่า แต่ยอมแลกกับกำไรต่อคันน้อยกว่า เหนื่อยกว่า
ผมว่ามันคือทางออกที่ดีสำหรับฟอร์ดที่จะอยู่รอดในตลาดครับ
ตราบใดที่ฟอร์ดยังเน้นแต่จะขาย แต่ไม่ปรับปรุงทัศนคติและบริการหลังการขายใหม่