ผู้เขียน หัวข้อ: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004  (อ่าน 67718 ครั้ง)

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 02:04:34 »
ผมมารีวิว ค่าดูแลรักษาอาการป่วยไข้ของเจ้า E39 523i ปี2004 คับ

ยังไม่ลงละเอียดนะคับ ผมใช้มือถือถ่ายรูปบิลค่าใช้จ่ายตั้งแต่ได้รถคันนี้มาเลย

คันนี้เป็น e39 คันที่2 ของผมเอง และเป็นคันที่3ที่ผ่านมาในบ้านผมทั้งหมด ไม่นับรวม e46 330i อีกคัน อันนั้นแยกออกไปก่อนคับเพราะยังไม่ได้ทำรีวิวออกมา

อย่าเพิ่งสยองกับ BMW นะคับ แต่คันฟ้า(คันล่าสุด)ไม่มีอาการเสียต้องลุยซ่อมแบบคันน้ำตาลคันเก่าผม จึงอยู่ในปริมาณปรกติ ที่เอามาเป็นเกณฑ์สำหรับผู้ที่สนใจได้

ปล.ในบิลจะเห็นวิวัฒนาความสนิทระหว่างลูกค้ากับเจ้าของอู่ เรียกชื่อเล่นลงในบิลแล้วคับ  :o
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 06, 2012, 03:23:38 โดย 내가 제일 잘 나가 »
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 02:10:18 »
เริ่มจากอาการยอกนิยมของรุ่นนี้ คือเบรคสั่น ต้องแก้ด้วยยา Brembo กล่องสีแดง เป็นจานเบรคแบบเดิม เอามาใส่แทนของเดิม ที่มันคดง่าย หาได้ในเน็ตคับ
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 02:12:38 »
เริ่มจากหมวดช่วงล่าง ส่วนมากบิลที่ลายมือไม่สวยเป็นของ "บางพลัดศูนย์ล้อ"

ผมเพิ่งมาดูว่ารถคันนี้ตั้งศูนย์บ่อยมากๆ ถึงมากที่สุด รวมถึงถ่วงล้อด้วยบ่อยมาก

แต่คันนี้อยู่กับผมมา เกือบๆปี เปลี่ยนล้อไป4ลายแล้วคับ  :o

ในบิลใบที่สอง ตอนผมไปใส่ สปริงโหลด H&R + โช๊ค Bilstein B8 และให้ช่างเช็คช่วงล่างใส่พวกลุกยางยางกันกระแทกไปเลย เปลี่ยนพวกของเล็กๆน้อยๆที่ต้องรื้อเยอะๆไปเลยทีเดียวได้ไม่ต้องมีปัญหาเล็กๆน้อยตามหลังมา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 06, 2012, 02:15:25 โดย 내가 제일 잘 나가 »
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 02:16:11 »
นี่บิลส่วนตั้งศูนย์คับ นี่เฉพาะของบางพลัดนะ ไม่รวมสนามเป้าศูนย์ล้อ  :'(

ซึ่งผมว่าเยอะกว่า เพราะส่วนมากถ้าล้อใหญ่ผมจะไปถ่วงจี้ที่สนามเป้ามากกว่าเพราะจี้ให้4ล้อ บางพลัดจะถ่วงกับเครื่องถ่วงให้ถ้าเป็นล้อหลัง ล้อหลังผม 275/30/19 ถ้าไม่จี้ยากนักจะหายาสั่น และถ้ามันสั่นจากข้างหลัง มันจะเหมือนรถมันจะดิ้นๆ ตุ๊บๆๆๆๆ จากข้างหลังเหมือนรถเสียศูนย์เลยคับ  :'(

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 06, 2012, 02:19:15 โดย 내가 제일 잘 나가 »
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 02:29:54 »
นี่เป็นส่วน อาการเสียตามอายุขัยแล้วคับ นำเสนอโดยอู่ Berlin Motor ซ.วัดลาดปลาดุก บางบัวทองคับ เป็นอู่ที่เชี่ยว BMW + Mini ทีเดียวเลยคับ และราคาไม่แพงเท่าไหร่ด้วย ช่างจะเชี่ยวระบบไฟของรถมากคับ ไม่ใช่เฉพาะช่วงล่าง ระบบไฟนะ

วางเครื่อง 523 เป็น 540 มาหลายคันแล้ว มี Bentley + Porsche มาซ่อมด้วยคับ

ใบแรกเป็นใบรับขวัญคันฟ้านี่โดยเฉพาะ เอามาก็ถ่ายของเหลวอันดับ1คือ น้ำมันเครื่อง + ใส้กรองก่อนเลย น้ำมันที่อู่ใช้เป็น Castrol 5w-30 แบบเดียวกับในศูนย์ ง่ายๆคือน้ำมันมาจากศูนย์นั่นแหละคับ ส่วนมันจะมายังไงอย่าไปสนเลยคับ เรื่องยาว  ;D และได้ขึ้นฮ๊อยท์ดูช่วงล่างกับรอยน้ำมันรั่วทั้งหลาย ปรากฎว่าเจอคันชักหลวมนิดเดียวแต่ผมก็เลยจัดซะหน่อยรับขวัญ  :D

ส่วนใบที่2 เจอแจ็คพอทคับ ได้มาเดือนกว่าๆ แอร์ร้อนข้างเดียว เช็คน้ำยาแล้วไม่ขาด ซวยล่ะ คอยล์เย็นรั่ว โดนไปทั้งชุดใหญ่ คอยล์+โอริง+ฯลฯ จำไม่ได้แล้วคับ + Resistant แอร์ หรือ หนามแอร์ไปอีก 1 และมีจานเบรคหน้าซึ่งใช้ของ ATE วิ่งได้ไม่ถึง3วัน แม่มคดอีกแล้ว!!!!!!!!!

จริงๆในบิลที่2ต้องมี วาวล์วฮีตเตอร์ด้วยคับ ตัววาวล์เปิด-ปิด น้ำร้อนเพื่อลดความเย็นระบบแอร์ แอร์รุ่นนี้มันไม่ตัดแล้วคับ ตอนขับไม่มีการตัดต่อแอร์ให้เห็นเลย แต่จะใช้วิธีลดกำลังลงสเหมือน Inverter Technology แต่ถ้ายังไม่พอ จะเอาน้ำร้อนไปช่วย



หน้ามืดไปเลยรอบนี้ ไปถูกหวยแอร์ไม่เย็นเข้า
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 02:31:11 »
ได้มาซักพักถึงเวลา Preventive maintenance ซ่อมล่วงหน้าก่อนเสียจริง

ไปเปลี่ยน ปั้มน้ำ วาวล์วน้ำ ท่อน้ำทั้งหลายก่อนมันจะมาก่อเรื่องให้ต้องกินข้าวลิงระหว่างทาง

แต่!!! ช่างที่สุดแสนจะน่ารัก ไม่ได้ยึดท่อน้ำใต้กระปุกพักน้ำไว้ในตำแหน่งมัน เลยไปอยู่หน้าคอมแอร์โดนปั่นท่อน้ำขาด ในบิลเขียนราคาไว้ แต่จริงๆไม่ได้จ่ายส่วนนี้คับ

ใบที่สองเป็นการกลับอู่ หลังจากหนีน้องน้ำท่วมกรุงฯ ไปหลบภัยที่ นครศรีธรรมราช เกือบเดือน ตอนขาไปมีเรื่องหม้อน้ำรั่ว แต่ไว้ก่อนคับ หาบิลศูนย์หาดใหญ่ไม่เจอ

ทั้งขาไปและกลับไม่มีอะไรน่ากังวล นอกจากหลุม บรรลัยทั้งหลาย ช่วง สุราษฯ--ชุมพร-ประจวบฯ ช่วงประจวบหลุมโหดมาก ใหญ่กว่าล้ออีก  >:(

พอมาถึงกรุงได้ 2-3 วัน เครื่องเสียงเหมือนซูบารุเลยคับ แพร่ดๆๆๆๆ ตอนเร่ง ผมไม่สงสัยเลย เลขไมล์กับ หลายๆอย่างมันได้อายุมันแล้ว ตอนแรกช่างเปลี่ยนให้ตัวเดียวก่อน อีก 2เดือน สุดท้ายมันเสียพร้อมกัน2ตัว จาก6สูบเหลือ4สูบ วิ่งมันดีคับ เสียงเหมือน Subaru เป๊ะเลย  ;D

ส่วนลูกรอกนั่นไม่มีไรคับ โดนน้ำหม้อน้ำรั่วใส่เลยดัง ก็เปลี่ยนไปซะ แล้วเซ็นเซอร์อุณภูมิ ก่อนไปใต้ ฝนตกหนักที่พระราม4 สูงเกือบมิดครึ่งล้อ หลุดหาย อุณหภูมิเลยกลายเป็น ติดลบ 50 องศา แอร์เลยเย็นแบบไม่ลืมหูลืมตาเลยต้องทำใจเปลี่ยนไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 06, 2012, 02:40:10 โดย 내가 제일 잘 나가 »
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 02:41:03 »
นี่แหละ ไอ้ตัวแสบ ทำผมเกือบตาย

ออกจากบ้านไม่ถึง5นาที กำลังจะขึ้นทางด่วน มันฮีตไปสุดเข็ม เล่นเอาแต๋วแตก แทบบ้า เข็มดีดไปสุดขนาดนั้น ฝาไม่โก่งคับ ยังรอด

ตอนแรกที่บอกว่าทำ ปั้มน้ำ ท่อน้ำ แต่ร้านอะไหล่ส่งวาวล์วน้ำมาผิดรุ่น ส่งของปี 97 โนสเดี่ยวมา ใส่ไม่ได้เพราะรุ่นนี้เป็น วาวน้ำไฟฟ้าแล้ว เลยมาโดนรอบหลังนี่รายการเดียว เล่นเอาเซ๋งมากๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 06, 2012, 02:44:04 โดย 내가 제일 잘 나가 »
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 02:45:44 »
ส่วนนี้เป็นผลพวกจากการไม่เปลี่ยนทีเดียวทั้งหมด

กำลังไปเที่ยวกับเพื่อนอยู่ดีๆเครื่องสะดุดๆ คอยล์จุดระเบิดเสียพร้อมกัน2ตัว เลยให้เปลี่ยนที่เหลือทั้ง5หัว รอบที่แล้วเปลียนไปหัวเดียว พร้อมทั้งหัวเทียนไปด้วยเลย

แบตเตอรี่ที่เปลี่ยนไป เป็นของ Boliden SMF 100amp คับ แบบแห้งสนิทไม่ใช่ Maintenance Free
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 06, 2012, 02:49:10 โดย 내가 제일 잘 나가 »
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 02:50:13 »
อันนี้แถมคับ  ;D

เป็นของ e46 330i คันเก่าผมก่อนเปลี่ยนมาเป็น e39 523i อีกรอบ เพราะ e46 มันแคบ นอกนั้นดีมากๆ อาการจุกจิกที่คนชอบว่ามันจุกจิกต้องดูแล้วคับ 4สูบหรือ6สูบ

ผมใช้มา8เดือน มันไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย .... หรือผมไม่ยอมซ่อมหว่าาา ;D ;D ;D  

คัน 330i ได้มาตอนช่วงถังแตกหลังจากซ๋อม e39 523i คันน้ำตาลไปเกือบ2.4แสน   :'(
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 06, 2012, 03:25:25 โดย 내가 제일 잘 나가 »
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 02:59:55 »
ส่วนนี้เป็นรายการที่เคยซ่อมคันน้ำตาล บิลผมถ่ายไว้ในรีวิวคันน้ำตาลอีกเว็บนึง

และบิลแถมเข้าของใหม่ไปหมดแล้ว เลยไม่อยากขุดมาอีก เก็บไว้ในความทรงจำ(ที่อยากเอาไปโยนทิ้งทะเลแบบฉากจบไททานิค)

ผ้าเบรคหน้า textar  1350
จานเบรค เบรมโบ 4000
หม้อน้ำเบิกศุนย์ 17450
เสาอากาศติดกระจกหลัง 2400 bmwoption
กาบเบาะ 1030 ต่อข้าง
สวิตปรับเบาะไฟฟ้า 7400 ศูนย์
คอยล์จุดระเบิด 1450
หัวเทียน 300
น้ำมันเบรค 350 ไม่รวมค่าแรง
ปั้มพาวเวอร์ 11000
air mass 9500
หลอดซีน่อน 8000 1คู่
หลอดไฟตัดหมอก M 1400 ต่อ1หลอด
ยอยเพลากลาง 4515 บาท ศูนย์
ตุ๊กตาเพลากลาง 800 ไม่รวมค่าแรง (แพง)
ผ้าเบรคหลัง textar 1900
น้ำมันเกียร์ GM ลิตรละ 800 ใช้7ลิตร
ใส้กรองน้ำมันเครื่อง 280
กรองแอร์ 1100 ต่ออัน
ฝาปิดรางเบาะ คล้ายๆ3ง่าย ชุดละ 3000 ต่อเบาะ1ตัว มี4ชิ้น
กุญแจไม่มีรีโมทใช้สตาทกับไขรถ 5xxx Barcelona
กระปุกพักน้ำ 4500
ท่อน้ำใหญ่ เส้นละประมาน 1100-1500
ท่อน้ำไต้กระปุกพักน้ำ2เส้น 2900
คอมแอร์ 16780
คอยล์เย็นเบิกศูนย์แท้ๆ 14000
ไดเออร์ 1xxx
วาว+น้ำยา+หนามแอร์ 4500
กระจกบังลมหน้า 24000 รวมคิ้วกระจก (แบบมี rain sensor)
ยางปัดน้ำฝน 1250 บอชแท้กล่องดำ
ฝากระโปรงหน้าเบิกศูนย์ 8000 ไม่รววมทำสี
ไฟหน้าซีน่อน ข้างละ 38000
ไฟตัดหมอกแท้ 3800 ต่อข้าง
คิ้วกันชน 2100 ต่อข้าง กันชน M

--------------------------

- แผงพลาสติกปิดชุดเกย์หน้าปัด (ไม่รวมสวิตซ์)    1,300 บาท (อู่บอกเบิก 0 บางนา)
- ท่อน้ำมันพาวเวอร์                                     1,380 บาท (อู่บอกเบิก 0 บางนา)
- ท่อแรงดันน้ำมันพาวเวอร์                             1,650 บาท (อู่บอกเบิก 0 บางนา)
- เหล็กรัดท่อน้ำมันพาวเวอร์            40 x 3 =      120 บาท
- สกรูยึดแผงใต้ท้องตัวใหญ่                              110 บาท
- คลิปยึดแผงใต้ท้อง                                        80 บาท
- ค่าแรงหยอดหล่อลื่นลูกหมาก                           300 บาท
- ค่าแรงถอดล็อคเกียร์ว่าง                                 400 บาท
- บุชล็อคลายไม้ ตัวละ                                      80 บาท
- สายพานแอร์                                      1,138.50 บาท (หลังลด10%)
- สายพานไดชาร์จ                                 1,750.50 บาท (หลังลด10%)
- คอยล์จุดระเบิด Bosch                          1,400-1,710 บาท (แล้วแต่อู่)
- กระป๋องพักน้ำ                                        2,565 บาท (หลังลด 10%)
- ขั้วหลอดไฟท้าย                                        315 บาท (หลังลด 10%)
- หลอดไฟหรี่เล็ก                                      22.50 บาท (หลังลด 10%)
- หลอดไฟเลี้ยว                                        49.50 บาท (หลังลด 10%)
- ตุ๊กตาเพลากลาง                                     1,200 บาท
- ยอยเพลากลาง                                       2,300 บาท

**จากคุณ pchrist เว็บ e39thailand

----------------------------------------------

- เซ็นเซอร์เพลาลูกเบี้ยว ไอเสีย แท้เบิกศูนย์   4,200
- เซ็นเซอร์อุณหภูมิภายนอก แท้เบิกศูนย์       2,150
- ปั้มติ๊ก  (ไม่แน่ใจว่า แท้ หรือ เทียบ)         6,500
- ปั้มเพาเวอร์                                  12,800
- ยางใบปัดน้ำฝน 1 คู่                             980
- ยางฝาวาล์วเครื่อง                             2,180
- เซ็นเชอร์ PDC  หลัง แบบตัว L               4,400
- ชุดซ่อมแร๊ค                                   8,000

Toyo Proxes T1R   
235/45 ZR17
ยางผลิตช่วง Q3 ปี  2010  เส้นละ             4,600

บูชปีกนกหน้าล่าง                                  500
บูชหนวดกุ้ง                                        900
ยางกันฝุ่นลูกหมากหนวดกุ้ง                       100
ยางกันฝุ่นลูกหมากกันโครงหน้า                     50
กันฝุ่นแร็ก                                         250
ปีกนกบนหลัง                                   3,000
ปีกนกหน้า                                      8,000
ลูกหมากปรับมุม TOE                          2,100
บูชลูกหมากปีีกนกหลัง                             200
แผงรอบเลี้ยว ( คืออะไรมิรู้ Huh?)                 300   
ถ่วงล้อ  หน้า-หลัง                                 450
ตั้งศูนย์  หน้า-หลัง                                 480

จากคุณ popy เว็บ e39thailand
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 03:17:27 »
และนี่เป็นรายการของแต่งที่ทำไปคร่าวๆนะคับ

ล้อ BMW E60 550i oem USA Spec

หน้ากว้าง 8.5 นิ้ว ET18 -- หลังหว้าง 10 นิ้ว ET 28.5  120,000 บาท สั่งจาก EBAY มา
ยาง Nitto INVO 245/35/19 - 285/30/19 | หน้า เส้นละ 8900 หลังเส้นละ 11,500 = 40,800 บาท รวมทั้งล้อทั้งยาง เกือบ 170,000 บาท  :'(

----------

ล้อชุดที่2 AC SCHNITZER TYPE3 ขอบ18 หน้าหลังเท่ากัน 8.5 นิ้ว มือ2 ราคาชุดละ 25,000 เปลี่ยนมาเล็กลงเพราะออกต่างจังหวัดบ่อยมาช่วงนั้น เลยจำใจขายชุดเก่าไป (หาเรื่องเอาตังมาหมุน  ;D )
ตอนแรกมียาง Goodyear ปี04 ติดมา ใช้ได้4เดือนต้องเปลี่ยนเพราะคู่หลัง ฉีกรอบวงเลย ไปเปลี่ยน Bridgestone RE-002 235/40/18 มาเส้นละ 7,800 ที่ติวานนท์ยางยนต์ โดนไป 31,200 บาท *เสียงดังมาก และ โคตรกระด้างเลยคับ แก้มแข็งมากกกก เจอเส้นชลอความเร็วที รถสะท้านเหมือนจะแยกร่างเลย  >:( * แต่เกาะถนนสุดๆ

-----------

ล้อชุดที่ 3 AC SCHNITZER TYPE3 เป็นรุ่น FORGED ลายเดิมแต่อัพเกรดขนาดขึ้น และ ขนาดหน้าหลังไม่เท่ากัน  ;D เป็นขอบ 19 หน้าขนาด 8.5นิ้ว หลัง 9.5 นิ้ว
ประกบยาง Goodyear Eagle F1 Asymmetric2 ได้สดร้อนๆ จากเดิมไปใส่ Nitto NT-555 เฉพาะคู่หน้ามาแปปนึงเพราะรอ GY ไม่ไหว และตอนนั้นยางหลังยังเป็น ยี่ห้อ Wanli ของจีน ซึ่งถือว่าโอเคนะคับ ไม่แย่ ไม่ดังด้วย เงียบกว่า นิตโตอีก

Goodyear Eagle F1 Asymmetric2 ที่ใส่ไป ขนาด 245/35/19 - 265/30/19 จริงๆข้างหลังจะใส่ 275 แต่มันไม่มียางเลยใส่ 265 มาแทนจะได้ดูบางลงด้วย  ;D
คู่หน้าโดนไปเส้นละ 9,400 หลังโดนไปเส้นละ  11,100 ที่เกรียงกลการ รามอินทรา กม.4  :'(

ยาง Goodyear Eagle F1 Asymmetric2 ดีมากคับ ตอนแรกก็ลังเลๆ ระหว่าง Hankook แต่ราคาต่างกันนิดเดียว เลยจัดมาซะเลย ตามคำแนะนำของคุณ popdemonic


รีวิวนี้ผมตั้งใจจะทำเป็น Memo ไว้สำหรับรถคันนี้นะคับ ไม่ได้มีเจตนาจะโอ้อวดหรืออะไรเลย
เพราะหากผมขายรถคันนี้ไปแล้วจะได้มีเครื่องเตือนความจำว่า ควรไปขับ Eco Car แทนได้แล้ว หาตังเองได้เป็นเรื่องเป็นราวเมื่อไหร่ค่อยมาเล่นอีกที  เมื่อปัจจัยพร้อมจริงๆ

อาจจะมีเนื้อหาที่เวิ่นเว้อไปบ้าง ขออภัยด้วยคับ รีวิวฉบับที่2 ยังมิอาจกล้า Turn Pro

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามคับผม  ;)
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ time traveler

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 120
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 08:00:53 »
ชื่นชมมากมากๆ ครับ เก่งและอดทนมาก  :D ส่วนผมไปไม่ถูกเลย เพราะเวลานี่สำคัญมากสำหรับผม   ขอบคุณครับช่วย review อีกนะครับ

ออฟไลน์ chaiz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 966
    • อีเมล์
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2012, 12:39:48 »
สุดยอดเลยครับ รักค่ายใบพัดจริงๆ

ส่วนผม ไม่มีความรู้เล้ย  :'(

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2012, 13:06:23 »
เรื่องช่วงล่าง ขอทำประวัติเก็บหน่อยนะคับ

ตอนแรกมาโช๊คเดิมขับได้เดือนกว่าๆ ยกขึ้นฮ๊อยท์เจอโช๊ครั่ว เลยขับเปลี่ยนโช๊คเดิม Sachs Super Touring ไป4ต้นพร้อมลูกยางทั้งหลาย 18900 พอดิบพอดี

หลังจากนั้น2วัน ได้ล้อ 19 มา ใส่แล้วโย่งมาก เลยต้องดิ้นรถไปหา สปริง H&R มาใส่กับโช๊คเดิม นิ่มโอเค Firm ขึ้นได้ระดับนึงและดีดเด้งนั่งกันมึนหัวเลย แต่เกิน120ย้วยเหมือนโช๊คเดิมเลย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 07, 2012, 13:09:13 โดย 내가 제일 잘 나가 »
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2012, 13:07:33 »
ไม่ถึง2เดือนได้ฤกษ์ไปใส่ Bilstein B8 กับสปริง H&R เดิม แข็งบ้าๆเลยคับช่วงแรกนั่งนี่เหมือนเกวียนไม่มีผิด พอวิ่งไปซัก500-600กิโลเมตรเริ่มจะเข้าที่ ถือว่าใช้ได้เลยคับ
แต่วิ่บูรพาวิถีความเร็วสูงๆ เจอร่องถนนยังดีดเด้งอยู่คับ ค่อนข้างไม่พอใจ เพราะผมขับทางยาวความเร็วสูงบ่อยมาก เกิน 160 - 180 ขึ้นไป เจอลอนถนนมันดีดขึ้นรถหมด เจอรอยต่อทางด่วนกระแทกปั้งเข้ามาเลย เหมือนไม่มีระบบช่วงล่างอะไรเลย  :(  >:(
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

promt

  • บุคคลทั่วไป
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2012, 14:07:11 »
โอ้วว..

ค่าดูแล เอาเรื่องเหมือนกัน

ออฟไลน์ NineKlao

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,907
  • ชีวิตไม่ได้เป็นดังที่คิด ก็มันคือชีวิตนี่
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2012, 14:16:09 »
ขอแนะนำ KoniSport ครับ ดีเพราะมันปรับหนืดได้ครับ

H&R ดีดกว่า Eibach พอควรครับ

ออฟไลน์ flyboy

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 117
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2012, 00:26:58 »
อ่านแล้วเกรงๆกับค่าดูแลรักษาเลย ผมสนใจจะหา 320d มาใช้ แต่ยังกังวลเรื่องค่า maintenance นี่แหละครับ ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ครับ

ออฟไลน์ GaB

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 273
  • #StickShiftLife
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2012, 23:44:14 »
ได้ข้อมูลดีมากๆเลยครับ

กำลังรอรีวิว E46 330i อยู่ อนาคตถ้าอะไรหลายๆอย่างพร้อมจะหามาใช้บ้างครับ (ไม่รู้อีก 5 ปีมันจะเก่าเกินไปรึยัง?)

ถึงปัจจุบัน E46 จะตกรุ่นไปไกลแล้ว แต่ผมยังมองว่าภายนอกมันสวยลงตัวที่สุดครับ (ส่วนตัวชอบกว่า F30 อีก)

GeMiNi

  • บุคคลทั่วไป
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2012, 22:37:40 »
ราคาโหดเอาเรื่องเลยนะครับเนี่ย :(

ออฟไลน์ jumpon77

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,372
    • อีเมล์
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กรกฎาคม 14, 2012, 19:36:13 »
ส่วนนี้เป็นผลพวกจากการไม่เปลี่ยนทีเดียวทั้งหมด

กำลังไปเที่ยวกับเพื่อนอยู่ดีๆเครื่องสะดุดๆ คอยล์จุดระเบิดเสียพร้อมกัน2ตัว เลยให้เปลี่ยนที่เหลือทั้ง5หัว รอบที่แล้วเปลียนไปหัวเดียว พร้อมทั้งหัวเทียนไปด้วยเลย

แบตเตอรี่ที่เปลี่ยนไป เป็นของ Boliden SMF 100amp คับ แบบแห้งสนิทไม่ใช่ Maintenance Free
  อ๋ออู่นีผมรู้จักคับ จริงผมสนิทกับช่างใหญ่คับผม
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008 Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003

ออฟไลน์ ChiLun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,382
  • F10 525d M sport
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2012, 03:00:53 »

5series ตัวนี้เป็นรถที่classicสำหรับผมครับ จนถึงวันนี้ยังชอบอยู่ ไม่รู้ไปติดใจอะไร

เคยบอกแฟนว่าถ้าตังค์เหลืออยากซื้อมือ2ซักคัน แต่ไม่ทราบจริงๆว่าซ่อมกันขนาดนี้

เห็นแบบนี้คงสู้ไม่ไหวเหมือนกันครับ

ออฟไลน์ emperor

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 53
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 15:57:37 »
e46 323i ผมก็ซ่อมประมาณนี้ มีมาเรื่อยๆ ใช้ไปซ่อมไปเพลินดีครับ
แต่ของผมต้องเปลี่ยนพวกช่วงล่างยกชุดสวิงอาร์มมิเนียม ฯลฯ อีกมากมาย
แต่ก็รักมันนะครับ แลกมาซึ่งความสุขตอนขับ ตอนนี้มีปัญหาแต่ยังไม่ได้ทำคือวิ่งราวๆ 100-120
รถจะมีเสียงฮัมเหมือนเปิดหน้าต่างแล้วลมเข้าพอวิ่งเร็วกว่านั้นก็จะหาย

อยากลองถามผู้รู้ว่าอาการนี้น่าจะเป็นที่อะไรครับ ตั้งศูนย์แล้วก็ไม่หาย

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,659
Re: Maintenance Cost Review ของ BMW E39 523i ปี2004
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 23:19:57 »
e46 323i ผมก็ซ่อมประมาณนี้ มีมาเรื่อยๆ ใช้ไปซ่อมไปเพลินดีครับ
แต่ของผมต้องเปลี่ยนพวกช่วงล่างยกชุดสวิงอาร์มมิเนียม ฯลฯ อีกมากมาย
แต่ก็รักมันนะครับ แลกมาซึ่งความสุขตอนขับ ตอนนี้มีปัญหาแต่ยังไม่ได้ทำคือวิ่งราวๆ 100-120
รถจะมีเสียงฮัมเหมือนเปิดหน้าต่างแล้วลมเข้าพอวิ่งเร็วกว่านั้นก็จะหาย

อยากลองถามผู้รู้ว่าอาการนี้น่าจะเป็นที่อะไรครับ ตั้งศูนย์แล้วก็ไม่หาย

บานบังคับทิศทางตู้แอร์รึปล่าวคับ

ปุ่มที่เป็น วงกลมๆ1อันกับวงกลม A อีกอัน ลองกดเปลี่ยนดูคับ คันเก่าผมเล่นเกือบแสนกว่าจะหาเจอ ไปไล่ยกช่วงล่างกันสนุกเลย
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport