ผมเติมบางจากนะครับ แต่ผมคิดต่างในบางมุม
ปตท. กระทรวงการคลังถือหุ้น 51% ตามนี้ครับ
ดังนั้น ผมคิดว่า กำไรที่ได้มา เปลี่ยนเป็น เงินปันผล
1. คืนกระทรวงการคลัง
2. ผู้ถือหุ้นรายย่อย (ที่มีคนไทยซื้อหุ้นด้วย)
แต่ Shell เป็นบริษัท ของอังกฤษ เงินปันผล หลังจ่ายเงินเดือนให้คนไทยแล้ว ก็ส่งกลับอังกฤษ ซึ่งมีราชวงษ์อังกฤษถือหุ้นด้วย "เงินออกนอกประเทศ" นะครับ
Esso ผู้ถือหุ้นเป็นบริืษัท ExxonMobil International Holdings Inc. 65.43% ดังนั้น เงินปันผล มันก็ส่งกลับประเทศมัีนไป
และราคาน้ำมันใส พวก Esso Shell มันก็อิงตาม ปตท. นั่นแหละ ถ้ามันแน่จริง ทำไมมันไม่ลดราคาน้ำมันลงมาล่ะ ปล่อย ปตท. ขึ้นคนเดียวมันก็มีกำไรเท่ากับ ปตท. นั้นแหล่ะ นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอก มันไม่ได้ต่างอะไรกันเลยครับเพียงแต่ ปตท. เป็นฉากหน้าที่รัฐบาล จะนำมาอ้างอิงให้กับบริษัทน้ำมันต่างประเทศครับ
อีกอย่างหนึ่ง ผมขอเล่าความหลังในการจัดตั้ง ปตท. แบบย่นย่อนะครับ
ปตท. จัดตั้งขึ้นเนื่องจาก ช่วงภาวะวิกฤตน้ำมันแพงในสมัยนั้น Shell Esso บริษัท ต่างชาติ ร่วมกันโขกสับ ขึ้นค่าน้ำมัน จนรัฐบาลต้องดำเนินการจัดตั้งเพื่อจัดหาน้ำมัน มาสู้ราคากับบริษัทต่างชาติที่ขายราคาแพง
ประมาณนี้แหละครับ
ผมไม่ได้บอกว่า ปตท. "ดี" เพราะตอนนี้ ปตท. ก็เป็นบริษัทมหาชนไปแล้ว ซึ่งคำนึงแต่ผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้น เหมือนกับบริษัทอื่นๆทั่วๆไป (เพราะใครที่ทำให้ ปตท.เป็น บมจ.) แต่กระนั้น ปตท. ก็ยังมีเงินปันผล เข้ามาเป็นรายได้ให้แก่ประเทศในทางหนึ่งด้วย
ดังนั้น ตัวผมเอง จึงเติม "บางจาก E20" เพราะ บัตรเครดิตกรุงศรีมันมีส่วนลด
ไม่เติมอย่างอื่น หุหุหุ
ปล. บางจาก มี ปตท. ถือหุ้น 27.22% กระทรวงการคลัง 9.98% ^^