ระหว่างน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ กับ กึ่งสังเคราะห์ คุณจะเลือกอะไร พร้อมเหตุผลครับ

mewzabahl

ขอความคิดเห็นหน่อยครับ ระหว่างน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ กับ กึ่งสังเคราะห์ คุณจะเลือกอะไร พร้อมเหตุผลครับ  ขอบคุณทุกความเห็นครับ



suarez_7

Fully syn ครับ เพราะมันดีกว่า semi



neung23

ผมเลือกสังเคราะห์ระบุยี่ห้อด้วยคับ

แค่สังเคราะห์มันไม่พอแล้วว ราคาแกลลอนละ 1600-1800 ผมรับได้ เลยไม่สนพวกกึ่งสังเคราะห์
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport



Aek_CM

ไม่งบไม่จำกัดจัดสังเคราะห์ เลยครับ แนะนำ mobil 1 หรือ clastrol edge ครับ



-Anonymous-

สังเคราะห์นะคับ ลื่นกว่า ใช้ได้นาน



IS2000

ส่วนตัวใช้สังเคราะห์ Mobil 1 ครับ
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R



rathkarin

อยากใช้สังเคราะห์ แต่ ศูนย์ฮอนด้า ไส่ 0w 20 มาให้เป็นกึ่งสังเคราะห์อีกแต่บอกใช้ได้หมื่นโล

เปลี่ยนคราวหน้าต้องหิ้วน้ำมันไปเองแล้ว อยากใช้สังเคราะห์ 100% T_Y



Cool Runner

กึ่งสังเคราะห์ก็เกินพอแล้วสำหรับรถผมเพราะไม่ได้ขับความเร็วสูงตลอดเวลา
เปลี่ยนที่ทุก 10,000 โลตลอด ต่อไปกะว่าจะใช้ให้ถึง 15,000 ค่อยเปลี่ยน



BestHuafoo


ส่วนตัววิ่งแต่ในเมือง กึ่งสังเคราะห์ครับ ประหยัดตังและเหมาะสมกับฐานะตัวเอง ณ ตอนนี้
ที่สำคัญเดี่ยวนี้ลากได้ระดับหมื่นโลแล้ว สบายกระเป๋า


ถ้าต้องเล่นสังเคราะห์ 100 ขอเป็นพวก Long-life
ที่ใช้ได้ 20,000 โลต่อการถ่าย 1 ครั้ง(มียี่ห้ออยู่ในใจแล้ว รอแค่ให้รถหมดประกัน)



YenChar

ถ้าขับไม่เกิน 6 พันรอบ
กึ่งสังเคราะห์ก็เหลือเฟือครับ

รถผมลาก 5-6 พันรอบบ่อยๆ เมื่อก่อนใช้สังเคราะห์แท้ของศูนย์บ้าง ของ Mobil1 บ้าง
หลังๆมานี่ ใช้ PTT เพราะถูกครับ(1,450 บาท แถมบัตรเติมน้ำมัน 500)
คุณภาพ บอกตรงๆไม่ต่างกันเลย



Boyd


ถ้าวาล์วฝาสูบเป็นพวกไฮโดรลิค (ตั้งวาล์วไม่ได้) แนะนำให้ใช้แบบสังเคราะห์100%

แต่เพื่อยืดอายุการใช้งานของวาล์วครับ  ;D



mewzabahl

รถที่จะไปเปลี่ยน เป็นjazz mc2012 ครับ อายุ6เดือน วิ่ง 8000+โล(ก่อนพี่ใช้ผมซัดไป6300โล)  พี่สาวใช้ วิ่งน้อยมาก ในเมือง ตกอาทิตละ40-50โลเอง กลับบ้าน120โล เดือนละไม่เกิน2ครั้ง กำลังชั่งจะ ว่าจะเอา กึ่ง หรือสังเคราะห์ 100%ไปเลย ครับ



2k

สังเคราะห์แท้ครับ ความสามารถในการเคลือบชิ้นส่วนหลังจากดับเครื่องทิ้งไว้นานๆดีกว่าและความอึดในการคงสภาพหล่อลื่นเหมือนใหม่ก็ทำได้ยาวนานกว่ากึ่งสังเคราะห์  :)
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com




Dek Prade

เลือกกึ่งสังเคราะห์
เหตุผลพื้นฐานเดิมๆแต่แรก เพราะ ผมต้องการเปลี่ยนถ่ายบ่อยๆ ทุก 5พันโล โดยหวังว่า คราบความสกปรกต่างๆจะไม่สะสมอยู่ในเครื่องยนต์เป็นเวลานานๆ เพื่อลดการสึกหลอแก่เครื่องยนต์ เพราะมันได้ระบายออกไปบ่อยๆ

อันที่จริง แบบธรรมดา กึ่งสังเคราะห์ ก็ดูน่าจะเพียงพอ กับการใช้งานแบบบ้านๆ เฉลี่ยวันละ 50 กม. เฉลี่ยแล้วก็ต้องเข้ารับบริการ ทุกๆ 3 เดือน
 
ส่วนราคา แบบธรรมดา กึ่งสังเคราะห์ นั้นต่างกันไม่มาก   จึงเลือก ของที่มีคุณสมบัติการปกป้องที่ดีกว่า
แต่ แบบ100%และ กึ่งสังเคราะห์  ก็ดูจะไม่ได้เปรีบกว่ากันเท่าไหร่ เพราะ จ่ายแพงกว่ากัน 1 เท่าตัว แต่ก็ยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายไปอีก 1เท่าตัวเช่นกัน

ดังนั้น กึ่งสังเคราะห์  จึงน่าจะเหมาะกับ Life Style ของผมที่สุด  เพราะได้เจอน้ำมันใหม่ๆทุก5พันโล และ หวังผลในบริการการเป่ากรอกอากาศและตรวจเติมของเหลวต่าง บ่อยขึ้น ในราคาที่จ่ายคิดเฉลี่ยรายปี เท่าเดิม!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 17, 2012, 10:03:23 โดย Dek Prade »



hutzero

สังเคราะห์ครับ

เหตุผล   ไม่อยากเปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยๆ  เพราะใช้รถเยอะ  เดือนนึง 5 พันโล  เข้าทุกเดือนเสียเวลาครับ



boykung

D-max รถส่งของใช้กึ่งสังเคราะห์ castrol เปลี่ยนที่หมื่นโล เพราะมันครบหมื่นไวมาก

ตอนนี้ไมล 14x,xxx แล้วครับ เครื่องยังฟิตๆอยู่เลย

ก่อน แสนโลผมใช้เบอร์ 30 นะครับ หลังแสนโลผมใช้เบอร์ 40
Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016



Elros

สังเคราะห์ครับ
เพราะมันเหมาะกะ life style และรถ
รถผม service ทุก 15000 โล
ใช้สังเคราะห์ ก็เปลี่ยนพอดี

แถมถนอมรถด้วย
ถึงส่วนใหญ่จะไม่ได้อัดหนักๆ
แต่ก็มีบางครั้งที่ต้องใช้รอบสูงๆ
เลยเหลือดีกว่าขาด แล้วราคาก็ไม่ได้ทำให้เดือดร้านครับ



Phongrapee

ผมแหวกแนวเลย ใช้ base oil เปลี่ยนทุก 5000 กม. ใช้ของ mobile ไม่ก็บางจาก แต่ส่วนใหญ่จะ mobile



YF-19

สังเคราะห์ 100 % ดีกว่าอยู่แล้วครับ  แต่มันแพง

รถบ้านทั่วไป เอาแค่ กึ่งสังเคราะห์ ก็เหลือๆ แล้วครับ ถ้าไม่ได้เท้าหนัก กดลากรอบ เอามันส์ประจำ

ส่วนรถเทอร์โบ หรือพวกพลังแรงสูงทั้งหลาย ก็ควรจะใช้สังเคราะห์ อยู่แล้ว ยกตัวอย่าง C200 ที่บ้านก็บังคับใช้สังเคราะห์ scirocco ก็บังคับใช้  สังเคราะห์(แถมยังให้เปลี่ยนที่ 15000) อีกต่างหาก

แต่ถ้าชอบ สังเคราะห์ ก็ใส่ได้ครับ ดีด้วย แต่ควรจะใช้นานหน่อย ซัก 15000+ ค่อยเปลี่ยนครับ เสียดาย ;D ;D ;D



jaesz

ไม่ตายตัวครับ อยู่ที่รถและการขับขี่

ถ้าเป็นรถที่ใช้แบบรอบต่ำ ๆ ความร้อนน้อย ๆ ขับจ่ายตลาด ผมใช้กึ่งสังเคราะห์ครับ

ขับทางไกล ต่างจังหวัด รถติดหนัก เร่งรอบ ลากรอบ วาล์วน้ำเปิด 87 - 92 แบบรถยุโรป ใช้สังเคราะห์แท้ครับ



MUK

กึ่งสังเคราะห์เปลี่ยน 7000-10000 กิโลเมตร  สังเคราะห์เปลี่ยน 10000-15000 กิโล กึ่งถูกกว่า สังเคราะห์แพงกว่า แต่ดีกว่า เลือกเอาตามงบประมาณ และคุณภาพของรถด้วย เครื่องที่เคยใช้กึ่งควรใ้ช้กึ่งต่อไป เพราะใช้สังเคราะห์แท้ ก็จะไม่มีประโยชน์เต็มร้อยเปอร์เซนต์ครับ



lekoasus

ใช้สังเคราะห์ 100 ครับ
เพราะโดนกรอกหูว่าดีกว่า
ส่วนตัวไม่รู้สึกว่าดีกว่า เพราะไม่ใช้เครื่องยนต์ ฮิ



popdemonic

ผมจะถ่ายสังเคราะห์100%ต่อเมื่อขี้เกียจถ่ายบ่อย

ส่วนกึ่ง ราคาถูกกว่า ถ่ายบ่อยกว่าหน่อยหรือบางทีก็ถ่ายพอๆกับใช้สังเคราะห์100%

เหตุผล หากใครทราบเรื่องเครื่องยนต์กลไก จะทราบว่า จริงๆแล้วมันไม่มีความจำเป็นอะไรขนาดนั้น

นอกเหนือจากเหตุผลทางการตลาดล้วนๆ ปกป้องได้ไม่ต่างกันหรอกครับ ผมเห็นสังเคราะห์100%

เครื่องพังเยอะแยะเลยครับ ของถ้ามันจะพังจะหลวมลำพังแค่น้ำมันแกลลอนละพันกว่าบาท ช่วยไม่ได้ครับ

ผมลองสลับกึ่ง กับ100%ใช้ดูแต่เอายี่ห้อ ชั้นนำหน่อย บอกตรงๆลื่นไม่ลื่นผมไม่รู้สึกเลย รถผมบูสต์2บาร์

เครื่องเบนซินเดิมๆ ใส้ในเดิมๆ ใช้กึ่งสังเคราะห์ครับ ให้ไว้เป็นข้อมูลครับ ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี

ผมจับมันกรอกกึ่งสังเคราะห์โลด อัดหนักๆoil temp ผมก็ดูไม่ออกอีกว่ามันขึ้นช้าร็วกว่ากันรึป่าว แต่ผมเป็นพวก

สเกลความรู้สึกหยาบนะบางคน อาจจะไวกว่าผม ผมเองถ้าไม่ทำอะไรให้มันชัดเจน เรื่องความแรงผมไม่ค่อยจะรู้สึกเท่าไหร่ครับ 



HYDE--

สังเคราะ 100 ครับ สำหรับผม มันลื่นกว่าจนรุ้สึกได้ แต่ต้องดุยี่ห้อด้วยนะคับ
และหลายๆครั้งผมก้ใช้รอบสูงบ่อย ขับนอกเมืองเป็นหลักด้วย ใช้รถประมานวันละ 50-100 โล
แถมยังติดแก้สอีก



promt

กึ่งสังเคราะห์ครับ ถูกกว่า 2.2 เท่า
ประหยัดเงิน เอาไปให้ความสุขเราดีกว่า



AyeBAng

น้ำมันสังเคระห์ 100% มีดีที่ โครงสร้างโมเลกุลของน้ำมันจะไม่ถูกทำลายไปในระหว่างการเสียดสี หรือกล่าอีกในหนึ่งนั้น ความสามารถในการช่วยหล่อลื่นจะไม่สูญเสียไประหว่างการใช้งาน นี่เป็นเหตุผลข้อหนึ่งในการยีดอายุการเปลี่ยนถ่ายให้นานขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม ในน้ำมันหล่อลื่นจะมีสารเคมีต่าง ๆ มากมายช่วยเพิ่มคุณสมบัติให้น้ำมันหล่อลื่นมีคุณสมบัติดีขึ้น (นอกเหนือจากโครงสร้างโมเลกุลของตัวมันเองแล้ว) และจะสูญเสียหรือคุณภาพลดลงไปในระหว่างการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันสังเคราะห์ หรือไม่สังเคราะห์ก็ตาม นอกจากนี้ เขม่าที่ปนอยู่น้ำมันหล่อลื่น ก็เป็นตัวทำให้การหล่อลื่นลดลงด้วย
รถแทกซี่ที่ใช้แก้ส NGV แต่วิ่งได้เป็น 2-3 แสน กม. โดยไม่เป็นอะไรเลย ใช้น้ำมันหล่อลื่นประเภทไหน ?
คิดดูนะครับ เราใช้รถมากเหมือนแท็กซี่ไหม รถเราความร้อนมากเท่ารถติดแก้สไหม ทำไม รถแท็กซี่จึงทนได้
ผมใช้น้ำมันหล่อลื่นเกรด ธรรมดา เน้นเปลี่ยนตามระยะทาง เคร่งครัดครับ




popdemonic

ผมเพิ่มเติมให้อีกนิด เทคโนโลยีน้ำมันเครื่องมันไปไกลกว่า เทคโนโลยีเครื่องยนต์ราวๆ20ปี

base ของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ที่ขายๆกันอยู่ทุกวันนี้ บางคันยังใช้พื้นฐานจากเครืองเมื่อ20ปีที่แล้ว

แล้ว ณ วันที่เครื่องตัวนั้นดีไซน์ออกมา API น้ำมันเครื่อง ณ ตอนนั้น มันคงต่างจากตอนนี้ไปไกล

รถบางคันเครื่องยนต์ที่ใช้งานกัน ณ ปีทีมันออก ในโลกยังไม่มีใครรู้จักน้ำมันเครื่องสังเคราหะห์

100% เลยด้วยซ้ำ มีแต่multi grade oil,Dino oil กันทั้งนั้นครับ แต่ของแบบนี้ว่ากันไม่ได้ครับ

ถ้าการใช้น้ำมันเครื่อง100% มันแค่ยืดให้เครื่องหลวมช้าลงไปสัก30,000-50,000กิโลเมตร

ผมว่าผมใช้Semi ดีกว่าครับ แมร่งไม่ต่าง แต่ถ้ามันช่วยยืดอายุไปได้สัก100,000-200,000โล

เออแบบนี้สังเคราะห์100%มันเจ๋งจริง



adis

ผมเลือก สังเคราะห์ 100 % ครับ ราคาแพงกว่าจริง แต่คุ้มกว่าครับ
โมเลกุลของสังเคราะห์แท้ จะเรียบเสมอกว่ากึ่งสังเคราะห์ การปกป้องก็จะดีกว่า
  น้ำมันกึ่งสังเคราะห์ไม่ได้หมายความว่า มันมีสังเคราะห์แท้กับธรรมดาอย่างละครึ่ง ๆ นะครับ
   แค่มีสังเคราะห์แท้ผสมอยู่ 20 % ก็ถือว่ากึ่งสังเคราะห์แล้ว ( ถ้าผมเข้าใจไม่ถูกต้อง เพื่อน ๆ ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ เพราะทราบมาจากไหนผมจำไม่ได้เสียแล้ว ) ดังนั้น โมเลกุลของกึ่งสังเคราะห์ก็จะไม่ราบเรียบ ปกป้องเครื่องยนต์ได้ด้อยกว่าสังเคราะห์แท้
   อายุของสังเคราะห์แท้ก็ยาวกว่า จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อย ผมเปลี่ยนทุก 20000 โล หรือปีละครั้งครับ
   พร้อมเปลี่ยนไส้กรองด้วย
   แต่ผมก็จะเลือกเกรดของสังเคราะห์แท้เพิ่มเติมประกอบไปด้วยนะครับ เพราะตัวสังเคราะห์แท้เองก็มีอยู่หลายเกรด
   ซึ่งผมเลือกยี่ห้อที่มี มาตรฐาน API SM ซึ่งมีคุณภาพสูงสุดในขณะนี้ รองลงมาก็จะมีรหัส SL ก็ใช้ได้ แต่ถ้าเป็นรหัส SJ ผมก็ไม่เอาครับ
   อีกอย่างหนึ่ง ผมเองเคยลองใช้ทั้งกึ่งสังเคราะห์และสังเคราะห์แท้ กับรถตัวเอง คันเดียวกัน
   ความแตกต่างมันชัดจนภรรยาผมที่ไม่ทราบเรื่องน้ำมันเครื่องที่ผมเปลี่ยนยังออกปากเลยว่า รถมันเงียบ เรียบ ลื่นขึ้น
   ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของการใช้สังเคราะห์แท้ก็ประหยัดกว่าใช้กึ่งสังเคราะห์ครับ

    ผมใช้รถน้อยครับเพราะมีสองคันสลับกันใช้ สัปดาห์นึงก็เลยใช้รถไปทำงาน 3 วัน อีกคันก็จอด
    ซึ่งรถที่ใช้น้อยอย่างนี้ ถือว่าเครื่องยนต์ทำงานหนักนะครับ
   หรือถ้ารถที่วิ่งระยะมทางสั้น ๆ ความเร็วไม่สูง สภาพการจราจรติดขัด อย่าเข้าใจผิดว่าใช้งานไม่หนักนะครับ
    ที่จริงลักษระการใช้รถน้อย จอดบ้าง ขับบ้าง หรือวิ่งระยะทางสั้น ๆ สภาพจราจรติดขัด เครื่องยนต์และเกียร์จะทำงานหนัก
    จึงควรใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพสูง และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ก่อนระยะที่คู่มือกำหนด ซึ่งคู่มือรถบางรุ่นบางยี่ห้อเค้าก็จะบอกมาครับ
     ลองอ่านคู่มือให้ละเอียดดูด้วยครับ

เดี๋ยวไงผมจะโพสความรู้เรื่องน้ำมันเครื่องให้อีกทีนะครับ  เพื่อน ๆ จะได้อ่านกัน ได้ความรู้ดีครับ ผมรวบรวมมาอีกทีไม่ได้เขียนเองหรอกครับ