มีใครคิดเหมือนผม มั้ย ว่า เรื่อง นโยบาย "รถคันแรกจะโทษรัฐอย่างเดียวก็ไม่ได้"

balliblue

นโยบายที่เห็นชัดว่าไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศไทยเลยจริงๆ หาเสียง หากินกับกิเลศคนไทย รายได้น้อย หรือปานกลางที่อยากเป็นหนี้ ไปหลอกให้เค้าซื้อรถเพราะจะไ้ด้ลดตั้ง 1 แสน แต่ถ้าผ่อนไม่ไหว 5 ปี จะทำยังไงกันละ ทีนี้ละยุ่งเลย  

มลพิษก็เยอะ รถก็ติด สุขภาพกายและจิตเสื่อม หลายคนที่บอกคนจนไม่มีสิทธิมีรถขับเหรอ มีครับ แต่ไม่ควรจะไปสนับสนุนหรือเร่งให้เค้ามี ถ้าเค้าไม่กระเสือกกระสนจะมี และจากนโยบายนี้กว่าครึ่งครับ เป็นคนรวยซื้อรถให้ลูก ใช้ชื่อลูก ไม่ใช่คนจนซื้อรถคันแรกของครอบครัวครับ น้อยมาก  อย่างแถวบ้าน คนรู้จัก แถบจะทุกบ้่้าน
ถอยรถกันใหม่ให้ลูก ในปีนี้ทั้งนั้น  เช่น ซื้อให้เพราะเริ่มทำงาน  ไปเรียน ฯลฯ รวมทั้งให้ภรรยาไปจ่ายตลาด

น่าเบื่อนะเรื่องการเมือง แต่ก็ยังคาดหวังให้มันเปลี่ยนแปลงซะที  จิตสำนึกไม่เคยมีเลยนักการเมืองไทย   ไม่เข้าใจว่าเกิดเป็นคนได้อย่างไร เห็นแก่เรื่องผลประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น ไม่คิดบ้างว่าวันนึงลูกมันก็จะอยู่ในประเทศๆนึง ที่ต้องก้มหน้าอายประเทศอื่นที่เค้าพัฒนาไปไกล

พอละ ดราม่าแค่นี้แหละครับ 55
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 23, 2012, 00:39:01 โดย balliblue »



redsun

ผมว่าอะไรก็ตามที่มันไม่ได้เกิดจากอุปสงค์ อุปทานที่เป็นธรรมชาติ
แต่เกิดจากการเก็งกำไร การปั่นกระแส เห็นแก่ส่วนลด ไปเร่ง หรือไปชะลออย่างหนักๆๆ
มันทำให้เกิดการบิดเบี้ยว ระบบพื้นฐานของฝ่ายใดไม่แข็งแรง แข็งแกร่งพอ ก็เสียหายครับ



HYDE--

บ้านผม หลายๆคนก้พูดว่า นโยบาย ไม่ดข้าท่ายังงั้นยังงี้

แต่สุดท้ายก้ใช้สิทธิกันเปนแถว 555555555



ichok

บางอย่างไม่ดี แต่ก็ไม่ได้แย่ ถ้ามองมุมเดียวมันก็จบ สำหรับผมคิดแค่ว่าคนที่จะซื้อรถยนต์ บางคนเค้าไม่ได้มีเงินมาก แต่ต้องใช้รถ ราคา4-5 แสน ต้องหันไปมองรถมือสอง ดอกเบี้ยจ่ายกันน้ำตาไหล แต่นี่สามารถซื้อมือหนึ่งและได้คืนเงิน บวกลบกันแล้วจะไปเอามือสองทำไม ผมว่าตรงนี้ที่ได้ประโยชน์ด้วย ส่วนที่แย่คือเต็นรถ



GRIMDONUT

ผลเสียก็คงจะมีน่ะครับ แต่ผลดีที่ผมนึกออกคือวงจรธุระกิจที่เกี่ยวข้องกับรถยนตร์ทุกประเภทคงเติบโตมากพอสมควรครับเช่นบริษัทฟิมล์กรองแสง,ผ้ายางปูพื้น,คาร์แคร์(รองคิดเล่นๆว่าจะมีรถอีก1ล้านคันมาวิ่งบนถนน ตีสัก5-6แสนคันเพิ่มมาในกรุงเทพและรถใหม่ๆทุกๆคนก็คงรักษารถร้านคาร์แคร์หรือร้านล้างรถทั่วไปคงจะต้องรองรับลูกค้าอีกอย่างมากเลยทีเดียว),อื่นๆอีกคงเกิดเม็ดเงินโตขึ้นพอสมควร ส่วนปัญหาเรื่องซื้อแล้วผ่อนไม่ไหวมันน่าจะเป็นเรื่องของบริษัทไฟแนนซ์หรือธนาคารผู้ปล่อยกู้ให้เช่าซื้อหนิครับว่าจะกลั่นกรองผู้เช้าซื้ออย่างไรให้ดีพอเพราะนโยบายนี่ก็ไม่ได้บังคับให้สินเชื่อต้องปล่อยกู้ให้กับทุกๆคนที่ต้องการเช่าซื้อหนิครับเห็นคนยื่นกู้ไม่ผ่านก็มากมาย ถ้าการปล่อยกู้ทำได้ง่ายๆจนผู้เช่าซื้อไม่มีกำลังจ่ายค่างวดก็ต้องเป็นเรื่องระหว่างผู้เช่าซื้อกับไฟแนนซ์น่าจะถูกต้องกว่าครับ *ส่วนถ้าไม่มีนโยบายพวกนี่ผู้ที่มีงบประมานแถวๆ4-5แสนแต่ก่อนก็คงต้องไปมองรถมือสองซึ่งดอกเบี้่ยจะแพงกว่ารถป้ายแดงมากและที่หลายๆท่านยังไม่ทราบคือการผ่อนรถมือสองจะต้องเสียVATอีก7%จากค่างวดด้วยน่ะคัรบ และถึงจะเป็นการซื้อรถมือสองก็ไม่ได้การันตีอยู่ดีว่าปัญหาคนผ่อนค่างวดไม่ไหวจนถูกยึดรถจะไม่เกิดขึ้นจริงมั้ยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 23, 2012, 01:53:11 โดย GRIMDONUT »
^^MY LOVE MB^^
[/img]



SitdownstrikE

ขอไม่เอ่ยถึงผลเสียสำหรับคนผ่อนไม่ไหวละกัน


แต่ผลเสียโดยรวมของประเทศ  เป็นที่แน่นอนว่า นโยบายนี้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกับช่วยเหลือคนที่ต้องการซื้อรถคันแรก

ผมว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจคิดผิดมหันต์ เพราะเงินรั่วไหลออกไปให้เจ้าของบริษัทรถยนต์ไม่น้อยเลย
นโยบายนี้ -> เจ้าของบริษัทรถ ยุ่น, มะกัน รวยขึ้น, รัฐรวยขึ้น, ประชาชนหนึ่งล้านคนจนลง มีหนี้สิน มีภาระ
การกระตุ้นเศรษฐกิจของจริง -> ต้องทำให้ประชาชนรวยขึ้น ถึงจะหมุนเวียนได้ดี และทั่วถึง

ผมว่ามันค่อนข้างจะกลับทิศกันเลยนะครับ

ตอนนี้มองเห็นแค่รัฐได้ประโยชน์จากส่วยของบ.รถยนต์ และในเรื่องการใช้พลังงานในระยะสั้นอันใกล้นี้ แค่นี้เอง
(เป็นผลเสียต่อโลก และการจราจรอีกด้วย)



ssk30868

ปีที่แล้วน้ำท่วม อุตสาหกรรมเสียหายหนัก คนต่ามข่าววงการรถยนตร์ก็เห็นๆรู้ๆกันอยู่
ผู้ผลิตชิ้นส่วนเสียหายหนัก ถ้าไม่มียอดสั่งซื้อมาก็ต้องปิดโรงงานกันเป็นแถบๆ พวกนี้มีทั้งเจ้าของคนไทย ทั้งญี่ปุ่น ลูกจ้างส่วนมากเป้นคนไทยล้วนๆ
หรือไม่ก็ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ รัฐก็ต้องเอาเงินไปโปะอยู่ดี ไม่งั้นอยู่ไม่ได้ รัฐต้องควักเนื้อไปให้พวกนี้กู้เพื่อจะเปิดโรงงานได้ต่อ
มีนโยบายนี้ขึ้นมาแทนที่จะเจ๊งกัน กลับขายดี มีโบนัสแจกกันเป็นแถบๆทั้งคนขาย คนผลิต ชิ้นส่วนเล็กใหญ่ นี่คือข้อดี

ส่วนเงินรั่วใหลไปให้ญี่ปุ่นนี่มันก็ได้ตอบแทนมาจากการเก็บภาษีในรูปแบบปรกติ ทั้งจากผู้ผลิตในรูปแบบของภาษีรายได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
และภาษีที่จะได้รับเป็นเงินในระยะยาวจากผู้ใช้รถ ในรูปแบบของภาษีสรรพสามิต ของผู้ใช้น้ำมัน

อีกอย่างเขาไม่ได้ควักเงินไปจ่าย เขาใช้วิธีการคืนภาษีสรรพสามิต
วิธีการแบบ อัฐยายซื้อขนมยาย ไม่ใช่ควักเนื้อกรีดเลือดไปจ่าย อย่าเข้าใจผิด

ส่วนข้อตำหนิแบบ คนผ่อนไม่ใหวเยอะแยะ รถติดรู้ใหว อะไรพวกนี้อ่านแล้วเพลียแคมมากๆ

คนซื้อแล้วผ่อนไม่ใหวเป็นหนี้ มันก็เรื่องของเขากับไฟแนนซ์ ฝ่ายการเงินไฟแนนซ์ก็ต้องประเมินความเสี่ยง ให้ผ่านไม่ผ่าน มีหลักทรัพย์ มีคนค้ำใหม
การให้ไฟแนนซ์ ก็คือการลงทุนชนิดหนึ่งที่จะได้รับผลตอบแทนมาเป็นดอกเบี้ย หรือเบี้ยหัวแตก ไฟแนนซ์ไม่ได้โง่หรอกครับไม่งั้นแบงค์ไม่มีทางรวย
คนที่มันผ่อนไม่ใหวจริง แต่งสเตทเม็นท์มาหลอกไฟแนนซ์ พวกนี้เป็นความผิดของรัฐหรือ?

ผมว่านโยบายนี้ดี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แบบเฉียบพลัน ใช้บ่อยๆไม่ได้
แต่ใช้ครั้งนี้ถูกกับสถานการณ์แล้ว  

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 23, 2012, 01:49:34 โดย ssk30868 »



tae23

ปีที่แล้วน้ำท่วม อุตสาหกรรมเสียหายหนัก คนต่ามข่าววงการรถยนตร์ก็เห็นๆรู้ๆกันอยู่
ผู้ผลิตชิ้นส่วนเสียหายหนัก ถ้าไม่มียอดสั่งซื้อมาก็ต้องปิดโรงงานกันเป็นแถบๆ พวกนี้มีทั้งเจ้าของคนไทย ทั้งญี่ปุ่น ลูกจ้างส่วนมากเป้นคนไทยล้วนๆ
หรือไม่ก็ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ รัฐก็ต้องเอาเงินไปโปะอยู่ดี ไม่งั้นอยู่ไม่ได้ รัฐต้องควักเนื้อไปให้พวกนี้กู้เพื่อจะเปิดโรงงานได้ต่อ
มีนโยบายนี้ขึ้นมาแทนที่จะเจ๊งกัน กลับขายดี มีโบนัสแจกกันเป็นแถบๆทั้งคนขาย คนผลิต ชิ้นส่วนเล็กใหญ่ นี่คือข้อดี

ส่วนเงินรั่วใหลไปให้ญี่ปุ่นนี่มันก็ได้ตอบแทนมาจากการเก็บภาษีในรูปแบบปรกติ ทั้งจากผู้ผลิตในรูปแบบของภาษีรายได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
และภาษีที่จะได้รับเป็นเงินในระยะยาวจากผู้ใช้รถ ในรูปแบบของภาษีสรรพสามิต ของผู้ใช้น้ำมัน

อีกอย่างเขาไม่ได้ควักเงินไปจ่าย เขาใช้วิธีการคืนภาษีสรรพสามิต
วิธีการแบบ อัฐยายซื้อขนมยาย ไม่ใช่ควักเนื้อกรีดเลือดไปจ่าย อย่าเข้าใจผิด

ส่วนข้อตำหนิแบบ คนผ่อนไม่ใหวเยอะแยะ รถติดรู้ใหว อะไรพวกนี้อ่านแล้วเพลียแคมมากๆ

คนซื้อแล้วผ่อนไม่ใหวเป็นหนี้ มันก็เรื่องของเขากับไฟแนนซ์ ฝ่ายการเงินไฟแนนซ์ก็ต้องประเมินความเสี่ยง ให้ผ่านไม่ผ่าน มีหลักทรัพย์ มีคนค้ำใหม
การให้ไฟแนนซ์ ก็คือการลงทุนชนิดหนึ่งที่จะได้รับผลตอบแทนมาเป็นดอกเบี้ย หรือเบี้ยหัวแตก ไฟแนนซ์ไม่ได้โง่หรอกครับไม่งั้นแบงค์ไม่มีทางรวย
คนที่มันผ่อนไม่ใหวจริง แต่งสเตทเม็นท์มาหลอกไฟแนนซ์ พวกนี้เป็นความผิดของรัฐหรือ?

ผมว่านโยบายนี้ดี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แบบเฉียบพลัน ใช้บ่อยๆไม่ได้
แต่ใช้ครั้งนี้ถูกกับสถานการณ์แล้ว  



เห็น ด้วยครับ  มองให้ลึกมองให้ยาว หลังน้ำท่วมใหญ่ จะมีคนตกงานขนาดไหน ผลกระทบอะไร บ้างคิดแล้วสยอง

นโยบายนี้ เหมือน คนกินไวอะกร้า  คึกตักสุดๆตอนได้ยา  แต่ไม่คงทน อิอิ



honoiuiu

ผมว่ากลับกันนะโทษคนอย่างเดียวไม่ได้ต้องโทษรัฐ


ประเทศไทยยังมีคนโง่และคนคิดโง่ๆเยอะมากนะครับเยอะกว่าที่หลายๆคนรู้อีกเพราะงั้นต้องโทษคนที่ทำให้คนโง่มีช่องทางสิครับ


นโยบายดีไม่ดีก็มีวิเคราำะห์มาแล้วตั้งเยอะ ไทย ฝรั่ง ยุ่น คนที่ชอบคงเป็นคนที่หาเรื่องไม่ชอบฝั่งตรงข้ามตัวเองไม่ก็พวกเดียวกะที่ผมบอกอ่ะครับก็คือโง่ันั่นแหละอยากพูดให้เคลียร์ ;D



Exeter

นโยบายรถคันแรก...ประชานิยมนี้ก็เหมือนซื้อเสียงดีๆนี่เองครับ แทนที่จะรณรงค์ให้ประหยัดพลังงาน?? รถเพิ่มมาเจ็ดแปดแสนคัน?? ปัดโธ่  :-\
เงินไหลออกต่างชาติไปไม่รู้เท่าไร สู้เอาเงินมาพัฒนา public transportation ไม่ดีกว่าหรอ
ปล. ผมไม่ได้ใช้สิทธินี้นะคร้าบบ



nekoyaki

ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ครับ แต่ก็ใช้สิทธิ์ และก็ไม่คิดว่าจะเป็นความผิดร่วมของคนใช้สิทธิ์คนอื่นแต่อย่างใด แต่ละคนมีเหตุผลของตนเอง ซึ่งผมเคารพในเหตุผลของเขา

เหตุผลของนโยบายนี้ ผมก็เคารพ แต่ไม่เห็นด้วยครับ



myalexxp

ขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งนั้นครับ

 :D



Newhang

ผมว่า ถึงจะมีนโยบาย มาแต่ถ้า คนเราไม่ เกิดกิเลศเห็นแก่เงิน 1 แสน  ก็คงไม่ซื้อหรอกนะครับผมว่านะ
ปล. เป็นคำพูดของแม่ผมเอง  เพราะ บ้างคนสภาพทางการเงิน ไม่พร้อม แต่ก็ยังอย่างจะออก เพราะ เห็นแก่ เงิน 1 แสน

ถ้าทุกคนคิดได้แบบนี้ก็ดีสิครับ
แต่คำตอบนั่นคือทำไมยังมีคนเป็นหนี้บัตรเครดิต และคนเป็นหนี้ npl เป็นหนี้นอกระบบ

มองแบบด้านเดียวมันก็ถูก แต่มันไม่ใช่ความจริง เพราะเราคิดแบบที่แม่คุณว่าได้คือมองเราเป็นที่ตั้งก่อน แต่พอคิดกลับกันแล้วคนอื่นเค้าคิดได้แบบคุณแม่มั๊ย แล้วสัดส่วนแบบไหนมากกว่า เป็นกทม หรือคน ตจว  และจังหวัดโซนไหน ทุกอย่างมีผลหมด


สรุปคือต้องโทษนโยบาย   และเป็นนโยบายที่ไม่เป็นธรรมด้วย
แต่ผมรักษาสิทธ์นะ   ;D 



Entropy

คนคิดเก่ง จะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรดี แล้วอะไรที่ใครก็อยากมี..รถไง
พอคนซื้อรถ ก็เกิดการจ้างงานภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ดี
ยางรถขายดี ยางพาราขายได้
การท่องเที่ยวก็ดีขึ้น จนรถติด555
ทำให้คนขยันหางานทำ มาส่งหนี้รถมากขึ้น
แต่ปัญหาก็ตามมาอีกเยอะ รถติด มลพิษ .....เพี๊ยบ



kris-lack

ผมว่ากลับกันนะโทษคนอย่างเดียวไม่ได้ต้องโทษรัฐ


ประเทศไทยยังมีคนโง่และคนคิดโง่ๆเยอะมากนะครับเยอะกว่าที่หลายๆคนรู้อีกเพราะงั้นต้องโทษคนที่ทำให้คนโง่มีช่องทางสิครับ


นโยบายดีไม่ดีก็มีวิเคราำะห์มาแล้วตั้งเยอะ ไทย ฝรั่ง ยุ่น คนที่ชอบคงเป็นคนที่หาเรื่องไม่ชอบฝั่งตรงข้ามตัวเองไม่ก็พวกเดียวกะที่ผมบอกอ่ะครับก็คือโง่ันั่นแหละอยากพูดให้เคลียร์ ;D
เห็นด้วยค่ะ ถ้าเห็นแก่คนจนจริงต้องมีนโยบาย (ประชานิยม) ที่มีประโยชน์กับคนจนจริงๆ



Headman

ผมเห็นด้วยนะ กับนโยบาลนี้นะครับ
เห็นด้วย เพราะว่ามันสนับสนุนให้คนมีรถที่ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใช้น่ะครับ

ไม่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยอย่างแรง คือ ไอ้พวกที่บ้านมีรถอยู่แล้วหลายคันก็ ดันจะไปพยายามหาเอาชื่อคนที่ไม่เคยเป็น
เจ้าของรถมาเป็นเจ้าของไอ้เจ้ารถคันใหม่ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วมันไม่สมควรเลย
ผมถือว่า น่าเกลียดมากครับ

อีกประเภทหนึ่งคือ...พวกไม่รู้ความสามารถของตนเอง
ซื้อเงินผ่อนมาเพราะเห็นว่าได้ส่วนลด
แต่ไม่ได้ดูกำลังตัวเองเลยว่ามีปัญญาผ่อนหรือเปล่า.....แบบนี้ก็ เกินพอไปนะครับ สุดท้ายไอ้รถพวกนี้ก็จะออกมาอยู่ตามเต็นมือ 2 มากมาย.....เห็นแล้ว เห้อออ

และอีกอย่างนึงก็คือ เค้าน่าจะจัดโครงการกันแค่ 2 หรือ 3 แสนคัน ไม่ใช่ให้ออกกันมาเกือบล้าน โอ้ แม่ เจ้า.....

ตอนนี้ใครอยู่ชลบุรี เย็นๆ เข้าเมืองไม่ต้องเอารถเข้าเลย จักรยานอย่างเดียว ดีที่สุด....รถเข้าไม่มีที่วิ่ง ไม่มีที่จอด.....
verified profiles for adult dating - https://privateladyescorts.com - private sex dating site



kan.kom

ถ้าภาครัฐ สนับสนุนรถยี่ห้อคนไทย แล้วให้คืนภาษี 2 แสน ผมว่า ผมเห็นด้วย
ผมอยากเห็นโครงการรถแห่งชาติอะ



boykung

มีคนรู้จัก ให้บริการรถเช่า เกณฑ์ญาติๆมาซื้อรถเพื่อเอาภาษีคืน

ได้ข่าวว่าล่าสุดออกรถไปแล้ว 20 คัน ได้คืนก็ 2ล้าน กำไรเห็นๆสำหรับธุรกิจแบบนี้
Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016



Automotive Innovations

นานาจิตตังครับ แต่เพื่อนมันก็บ่นนะว่าทำไมต้องนโยบายนี้ไม่เห็นจะมีประโยชน์ตรงไหนเลย รถติดอีก ผมเลยบอกว่าจะโทษรัฐอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องโทษคนแห่ไปซื้อมากกว่า ที่ไปเนี่ยผมคิดว่าอยากได้ตังคืนมากกว่า แล้วบางครอบครัวหรือบางกลุ่มก็มีรถหลายคันอยู่แล้ว ไปซื้ออีก เดี๋ยวคอยดูยอดจองในงานมอเตอรฺโชว์ 80,000 คันอีก เป็นอีโค่คาร์ซะส่วนใหญ่ มาวิ่งกันรถติดอีก  ความคิดเห็นผมนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 23, 2012, 10:13:26 โดย Kittitouch 55 »
Toyota Camry 2.0G ACV41 2012 MC Black Interior
Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 2WD MY 2017
Ssangyong Stavic SV270  2006
Honda HR-V EL 2016 My Own
Toyota Fortuner 2.4V 2WD Big MC 2020
Haval H6 PHEV 2022
Mercedes-Benz E220CDI W210 2001



beebird

พอดีว่าแฟนทำอยู่ที่ศูนย์รถแห่งนึง แต่ว่าไม่ได้เป็นเซลล์นะครับ ... เดินผ่านแผนกขาย คนแน่นตลอด โต๊ะแทบไม่มีนั่ง ลูกค้าที่เข้ามายืนๆดูวนๆรอบรถ เซลล์ยังไม่พอจะต้อนรับเลย บางคนมอเตอร์ไซค์มา เดินวนรอบรถ วนรอบรถอีก นัยน์ตาไม่ได้บ่งบอกว่าจะมีความสุข หลังจากการได้จองรถเลย มีแต่ความกังวลจะเอาดีไม่เอาดี เป็นแบบนี้หลายคู่มากครับ ... เหมือนความโลภ อยากได้สิทธิ์มาครอบงำ ไม่รู้ว่าคิดดีแล้วหรือยัง การใช้รถ 5 ปีเนี่ย นอกจากที่ผ่อนๆไปแต่ละเดือน ยังมีค่า น้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ค่ายาง ค่าประกันปีละหมื่นกว่าบาทอีกนะเออ ไม่รู้คิดกันมั่งป่าว 



popdemonic

เข้ามาตอบอีกทีว่า ทำไมรัฐบาลถึงไม่ออกนโยบาย ผ่อนเมียคนแรก บ้างครับ ถ้ามีนะผมจะไปยื่นสิทธิ์คนแรกเลย  ;D



12ay13an

บ้านผม หลายๆคนก้พูดว่า นโยบาย ไม่ดข้าท่ายังงั้นยังงี้

แต่สุดท้ายก้ใช้สิทธิกันเปนแถว 555555555

555 เหมือนกันเลยครับแถวบ้านผมก็บ่นกันท่าโน้นท่านี้มีมาได้ยังไงนโยบายแบบนี้ แต่ก็ใช้สิทธิกันเป็นแถว ผมว่าถูกต้องอย่าง จขกท. ว่าหละครับ จะโทษรัฐอย่าเดียวก็ไม่ได้ ต้องโทษคนที่ใช้สิทธิโดยไม่จำเป็นด้วย  แต่ก็ต้องเห็นใจคนที่เค้าต้องการใช้รถจริงๆนะครับ อย่างตามต่างจังหวัดนี่พวกเกษตรกรต้องการใช้รถก็เยอะเหมือนกันนะครับใช้ขนผลผลิตทางการเกษตร แถวจังหวัดผมก็เยอะนะครับซื้อมาเพื่อขนผลไม้จากสวนเพื่อมาขายจากมะก่อนใช้รถกระบะเก่าๆบางบ้านก็ใช้มอเตอร์ไซแบบลากพ่วงเอา หรือการเดินทางไปไหนมาไหนตามต่างจังหวัด ตามชนบทมันไม่ได้ง่ายดายเหมือน กทม. นะครับ  บางครอบครัวอาจจะซื้อรถอีกคันเพื่อให้แม่ขับไปส่งไปรับลูกที่โรงเรียน จากที่มะก่อนให้นั่งรถประจำทางเอาถ้าเกิดวันใดวันนึงมีงานกลุ่มทำที่บ้านเพื่อนหรือเรียนพิเศษกลับบ้านช้าหน่อยก็ตกรถประจำทางครับ  แล้วเด็กพวกนี้เค้าจะกลับบ้านยังไง ค่ำมืดตามต่างจังหวัดทางก็เปลี่ยวอันตรายครับ หรือว่าเวลามีวันหยุด วันปีใหม่ วันหยุดเทศกาลต่างๆเกิดอยากจะพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดก็จะได้มีรถขับพาครอบครัวไปเที่ยวกันหาความสุขในวันหยุด คือ อยากให้เห็นใจคนที่อยู่ต่างจังหวัดด้วยครับ วิถีชีวิตมันไม่เหมือนกับคนกรุง  ผมว่านโยบายมันก็มีทั้งผลดีและผมเสีย ส่วนผลเสียมันก็มีส่วนมาจากคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนก็มีครับ เพราะซื้อโดยไม่จำเป็น เพราะเพียงเห็นแก่ได้เงินคืน 100000
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 23, 2012, 11:11:21 โดย 12ay13an »



AIMU

คนส่วนใหญ่ตอบแบบคนอยู่ในกรุงเทพ
ลองมองภาพกว้างแบบบ้านนอก
บ้านอยู่ในหมู่บ้านขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากหมู่บ้านมา 5 กิโลถึงถนนดำ ขี่รถไปอีก 15 กิโลถึงตัวอำเภอ ซื้อของชำ ใส่ถุงหิ้วขนาดใหญ่คล้องแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 2  ข้างข้างหลังมีกล่องอีกใบมัดกับท้ายรถ คนนี้ขี่รถไปซื้อของอย่างนี้ทุกวันตอนตี 3 กลับมาตี 5 กลัวอยู่ทุกวันว่าจะมีรถพ่วงมาสอยไป
อีกคนทำงานในตัวจังหวัดขี่รถออกจากหมู่บ้าน 2 กิโลถึงถนนดำ ขี่เข้าเมืองอีก 10 กิโล เพื่อมาทำงานเป็น sales ขายรถ มองดูคนอื่นมาถอยรถใหม่ออกจากศูนย์ทุกวัน เลิกงาน รับลูก 2 คนจากโรงเรียน ซื้อข้าวแกง ซ้อนลูก 2 กลับบ้าน ขี่รถระวังเป็นห่วงลูกรักทั้ง 2 คน
คนพวกนี้เป็นคนที่เป็นจะเป็นฐานเสียงให้กับรัฐบาล เพราะนโยบายนี้ รัฐก็ใช้นโยบายรถคันแรกจูงใจเขา
ถามว่า 2 คนนี้อยากได้รถไหม เค้าได้ประโยชน์จากโครงการนี้จริงๆไหม เพราะระบบขนส่งมวลชนมันไม่ได้เอื้อกับการใช้ชีวิตของเขาใช่ไหม
แล้วคิดดูว่าคนบ้านนอก ถ้าสร้างบ้านปูนหลังใหญ่ มีรถยนต์ขับ มันเป็นเครื่องบ่งบอกฐานะทางสังคมเค้าเหมือนกัน
ลองดูคนอีกคนอยู่กรุงเทพ พักอยู่คอนโดที่โฆษณาว่าเดิน 10 ก้าวถึงรถไฟฟ้า เดิน 3 นาที 5 นาที ถึงรถใต้ดิน ไปทำงานสีลม-สุขุมวิท แต่ออกรถคันแรกมาขับ ตื่นตี 5 ขับรถออกจากบ้าน 6 โมง ถึงที่ทำงาน 9 โมง ถามว่าคนนี้ควรขับรถไปทำงานหรือเปล่า แต่คนๆนี้ใช้ net มาด่ารัฐบาลเรื่องโครงการรถคันแรกทำรถติด
กลายเป็นเสียงคนหลังดังกว่า เหมือนกับคำที่ว่า คนต่างจังหวัดเลือกรัฐบาล คนกรุงเทพล้มรัฐบาล
ถามผมว่าชอบไหม ผมตอบว่าถ้ากูได้ด้วยก็ชอบ แต่ถ้าผลในภาพรวมต้องว่าผู้ที่ได้ใช้ประโยชน์จริง คือได้เงินคืนกลายเป็นคนที่มี lifestyle ที่ไม่ต้องใช้รถก็ได้ แค่คำว่าเผื่อ
คนที่ต้องใช้จริงหลายคนยังไม่พร้อม ก็มานั่งกุมขมับเรื่องผ่อน มันกลายเป็นว่ามองเห็นคนที่ควรใช้ และได้ใช้เหลืออยู่ไม่กี่คนในโตรงการ ถ้าเข้าโครงการ 1 ล้านคัน แล้วได้ประโยชน์ซัก 1 แสน ก็เป็นว่าเราจ่ายให้คน 10 เพื่อให้คนที่ได้ประโยชน์แต่ 1 คน
ปล. ผมก็ว่าจะไปจอง vios รับรถซักปลายปีหน้า รับเงิน 1 แสน ซื้อเพราะความกิเลสล้วน อยากขี่เก๋ง ซื้อพี่โตเพราะเข้าconcept passion พี่โตเขา ตอนนี้ผมก็ใช้รถกระบะ 4 ประตู ที่จดในนามชื่อร้านผม ได้รถใหม่ก็ทำเป็นร้านขอเช่ารถผม ใช้เป็นค่าใช้จ่ายทางร้านให้เสียภาษีน้อยลง(อย่าพูดดังเดียวสรรพากรรู้เข้าจะมารีดเลือดผม) แล้วเอาเงินมาผ่อนรถต่อ ผมนี้แหละคนที่ไม่สมควรใช้สิทธิ์โครงการนี้แต่ก็ใช้



beebird

เข้ามาตอบอีกทีว่า ทำไมรัฐบาลถึงไม่ออกนโยบาย ผ่อนเมียคนแรก บ้างครับ ถ้ามีนะผมจะไปยื่นสิทธิ์คนแรกเลย  ;D
เดี๋ยวมีคนที่สอง ที่สาม ตามมาแน่ๆ นำทางมาแบบนี้



nogia

"บอกได้แค่...ติดมากมาย รถติดมากมาย ไม่มีใครช่วยได้หรอกรถติดนี้...
ติดอยู่บนถนน มันมากมาย เปิดเลนซ้ายมันทุกที...
ถึงเมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่จะติดทุกนาทีที่ขับออกไป..." - บี้ สแกมบุ  :)
Nissan Teana 200XL SPORT SERIES 2010
Honda CR-V 2.0AWD 2013
Toyota Vios G รุ่น "เจมส์สั่งได้ คุณก็สั่งได้"



Nuzz

เคยมีคนบอกผมว่า ประเทศที่เจริญแล้ว ไม่ใช่ประเมศที่คนมีรายได้น้อยมีรถขับ แต่เป็นประเทศที่คนมีรายได้เยอะๆ ก็พอใจที่จะใช้ระบบขนส่งมวลชน ผมเห็นท่าว่าจะจริงแฮะ




12ay13an

ผมว่าผลที่ได้จากนโยบายนี้ อาจจะทำให้คนหันกลับมาใช้การขนส่งมวลชนมากขึ้นก็ได้ครับ ;D



xex

เป็นกรรมจริง ๆ ที่เกิดมาเป็นคน ต้องใช้รถ
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2012, 11:11:06 »
ผมไม่เขินอายที่จะบอกว่า ผมก็ฉกฉวยผลประโยชน์จากการคืนภาษีรถครั้งนี้เช่นกัน  ทั้งที่   ไม่เห็นด้วย  เพราะสุดท้ายมันก็ส่งผลเสียในอนาคตให้เราต้องปรับตัวมีมาตรฐานสังคมที่ดีขึ้นด้วยการเปลี่ยนรถทุก 5 ปี เพื่อไม่ให้ตกยุค หรือราคารถขายต่อตกกระแทกพื้น   ชีวิต 5 ปีของผมต้องคอยเก็บเงินเพิ่มเติมในส่วนของ  "ค่าเปลี่ยนรถ"  ทั้ง ๆที่รถมันอยู่ได้ถึง 10 ปีชิว ๆ  ด้วยการไม่ขับซิ่ง มีความรักรถ ดูแลเอาใจใส่มันให้มันอยู่ไปนาน ๆ  ต่อไปนี้ความคิดแบบนี้จะเริ่มหมดไป  ออกรถมาก็กระทืบมันเข้าไป  5 ปีก็เปลี่ยนแล้ว ขายทิ้งก็ไม่ได้ราคาซะด้วย  แต่ถึงแม้ประชานิยมจะมีผลเสีย แต่อีกด้านหนึ่งก็คือ มันมีความดีของมันคือ  มันจะนำไปสู่จุดจบ  ซึ่งตอนนั้นจะเป็นครูสอนใจคนให้ได้คิดได้และเริ่มปรับตัวใหม่  และปฏิเสธนโยบายประชานิยมได้ด้วยตัวเองไม่ต้องมีใครมาจูงความคิดให้เมื่อยปากอย่างทุกวันนี้  เรียกง่าย ๆ ก็คือ  "ไม่เห็นโลงศพก็ไม่หลั่งน้ำตา"  ตอนนั้นสังคมจะดีขึ้นอยู่พักนึง  และก็กลับมาจุดมืดดำบอดอย่างเช่นทุกวันนี้อีก  มันจะวนเป็นอย่างนี้แหละ  แต่ในคนรุ่นที่ 4 จะนำบทเรียนนี้ไปใช้สอนกันในห้องเรียน  จะเกิดการพัฒนาทางความคิดขึ้น  คือ  ทำให้มนุษย์มีสติปัญญาสูงขึ้น  มองคนยุคเราเป็นพวกคนโง่ป่าเถื่อนที่นิยมพูดโกหกคำโตให้คนหมู่มากเชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตา เพียงเพื่อให้ตัวเองดูเป็นคนดี   มีคนมากราบขอบคุณที่ให้โอกาสชีวิตที่ดีขึ้น(มันก็คือระบบทาสดี ๆ นี่เอง)  คนยุค ก่อน ร.5 ถ้าเราหลงไปยุคนั้นแล้วไปพูดว่าเรามีเสรี คนจะว่าบ้าเอา เพราะการมีเสรีก็คือ การออกไปอดตาย ไม่มีคนปกป้อง  โดนคนที่ชั่วยิ่งกว่าไล่จับไปเป็นทาส อยู่ดี  นี่คือวงเวียนแห่งระบบที่เราเกิดมาเป็นคนรู้ภาษาต้องเจอ  คนยุคนั้นคงมองว่าเรานักประชาธิปไตยนักรักเสรีภาพ เป็นพวกปัญญาอ่อนด้วยซ้ำไป  เพราะเขาอยู่กับความจริงที่ขมขื่นอันไม่ลวงหลอก เวลาคนพวกนี้ไปรบ ไปตายแทนคนอื่น เขาไม่รู้สึกเสียวเหมือนคนยุคนี้เลย  ความตายเป็นจุดหมายสูงสุดด้วยซ้ำ  ผิดกับคนยุคนี้ที่พอยัดเสรีภาพใส่สมองเข้าไป ก็รักตัวกลัวตายเห็นแก่ตัวอย่างสุดขีด  กลายเป็นภาวะแย่งกันกิน และไม่แบ่งให้ใคร  มือยาวสาวได้สาวเอา กวาดให้เรียบ  เร่งสร้างทายาทปั๊มออกมากินต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ  ไม่มีวันจบสิ้น  ซึ่งผมมองว่านี่คือ "การเป็นทาสอย่างสมบูรณ์แบบ"  นี่คือสิ่งที่นักคิดนักเขียนหรือผู้มีอำนาจและอยากมีอำนาจต้องการที่สุด 

ผมก็รู้ดี  แต่ก็คว้าโอกาสกำเงินแสนไว้ก่อน  และยังช่วยเร่งปฏิกิริยาฟองสบู่แตกให้เร็วขึ้น  ซึ่งผมก็หวังจะได้เห็นมันอีกเป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่ครั้งแรกนั้นประเทศนี้มันรอดมาได้อย่างหวุดหวิดด้วยการที่ประชาชนช่วยกันปิดไฟ...! 


เมื่อพูดถึงผลดีจากการที่ผมได้ประโยชน์จากการคืนภาษีหรือนโยบายประชานิยม ก็มาพูดถึงผลกระทบเชิงผลเสียกับประชาชนคนใช้รถตัวจริงบ้างว่าเป็นยังไง

รถมือสองราคาตกฮวบหายไปแสนห้า  เบนซ์คันละ 2 ล้าน ปีหน้าอาจได้เห็นราคาเหลือไม่ถึงแสน   และไม่ต้องคาดหวังว่า คนจนจะได้ประโยชน์รีบแห่ไปสอยมือสองมาใช้  ซึ่งคนจน(ผมก็จน)ซื้อกันไปหมดแล้วในปีนี้  คนมีเงินยังขี้เกียจไปสอยมาเก็บไว้บ้านเลยครับ เพราะปีต่อไปราคามันจะตายอยู่ที่หลักหมื่นด้วยซ้ำไปแล้วจะโง่ซื้อมาเป็นเศษเหล็กทำไมเล่า แค่คิดว่าจะใช้เป็นรถสำรองยังสิ้นคิดเลย  ปลายปีหน้าราคาEco Car สองแสนอาจได้เห็นกันแล้ว   ราคามือสองมันร่วงทั้งระบบ  คนที่ได้ประโยชน์จริง ๆ ไม่ใช่ประชาชนหรอกครับ   พ่อค้าเต๊นท์ทั้งนั้น  สามารถกำหนดราคาได้เลย เช่น รถตลาดอย่างวีออส โฉมแรก ก็กดมันซะ แสนต้น ๆ คนที่เอารถมาขายก็ต้องยอมแล้วละครับ เพราะต้องไปรวมเงินก้อนนำไปวางดาวน์เอารถใหม่  สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อไปกับประชาชน ในอนาคตยังไง  ผมมองยาวไปอีกสองปี สามปีนี้  คนไทยจะอยู่ในสภาพแบบผู้เจริญแล้วทำกัน(ผมยังขอเป็นคนเถื่อนต่อดีกว่า)  คือ     "ต้องเตรียมเก็บ - หาเงินเปลี่ยนรถทุก 5 ปีให้สัมพันธ์กับราคาตก"  ผู้ผลิตรถหรือจะเรียกว่าพ่อค้าใส่สูทขายเทคโนโลยีราคาสูงแต่รถ ก..ก  ก็ได้ประโยชน์เต็ม ๆ อีกแล้ว ขายรถได้ง่าย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วก็จี้ให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ  ร่างกฎหมายห้ามใช้รถเกิน 5 ปีวิ่งบนถนนในเมืองหลวงก่อนก็แล้วกัน   ผมคิดออกเลยว่า ยุคนั้นจะเป็นอย่างไร  ในขณะที่ผมยังจนอยู่เลย   คนในระบบ หรือเรียกให้ชื่อสวยหรูก็คือ ประชาชน มันก็เหมือนทาสทางระบบ  มันเป็นระบบ ที่ใช้ควบคุมอีกระบบ วนลูบอยู่อย่างนี้ไม่มีทางหลีกได้ ยกเว้นคนมันไม่มีเงินจะใช้จ่ายแล้วนั่นแหละ  ระบบพ่อค้าถึงจะล่มสลายลงได้  แต่ก็ชั่วคราว  พอฟื้นฟูกลับมาได้  คนก็จะ"เริงตัว" กลับมาทำอย่างนี้อีกไม่รู้จักจบจักสิ้น 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 23, 2012, 12:15:47 โดย xex »



NINENOI

เข้ามาตอบอีกทีว่า ทำไมรัฐบาลถึงไม่ออกนโยบาย ผ่อนเมียคนแรก บ้างครับ ถ้ามีนะผมจะไปยื่นสิทธิ์คนแรกเลย  ;D

เกรงว่าจะไม่ได้ครับท่านเพราะส่วนใหญ่ถือคติ   เมียเงินสด รถเงินผ่อน  ซื้อเพิ่มไม่ได้ ตีเทิร์นก็ไม่ได้
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น



Pasakorndvm

เข้ามาตอบอีกทีว่า ทำไมรัฐบาลถึงไม่ออกนโยบาย ผ่อนเมียคนแรก บ้างครับ ถ้ามีนะผมจะไปยื่นสิทธิ์คนแรกเลย  ;D

เกรงว่าจะไม่ได้ครับท่านเพราะส่วนใหญ่ถือคติ   เมียเงินสด รถเงินผ่อน  ซื้อเพิ่มไม่ได้ ตีเทิร์นก็ไม่ได้

แต่แปลกดูแลดียังไงก็เก่าไว พอเก่ามาก ๆ ไม่ค่อยได้ขับเก็บไว้บูชา นั่งมองรถรุ่นใหม่ ๆ ด้วยใจละห้อย
'19 Honda Civic EL