- ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล ผมคิดว่าเสียภาษีแค่ตอนไปรับรางวัลเสียอีก
- ส่วน อิชิตัน ส่ง SMS ฟรี ไม่ใช่เหรอครับ
- ขอบ่นหน่อย ทุกวันนี้แค่หายใจก็แทบจะต้องเสียภาษีแล้ว ภาษีที่เราโดนมันสารพัดมาก เช่น
VAT ที่รวมไปกับสินค้า และบริการต่าง ๆ
ภาษีโรงเรือน
ภาษีบำรุงท้องที่
ภาษีป้าย
ภาษีที่ดิน
ภาษีรถยนต์
ภาษีเงินได้
ถ้าที่ดินของเราถูกทิ้งไว้ให้รกร้างว่างเปล่าไม่ได้ทำประโยชน์จะถูกปรับเงินอีก
เก็บสารพัดอย่าง แต่ชีวิตความเป็นอยูก็ไม่เห็นจะดีขึ้น
- ขอสอบถามครับ
1 ในเมื่อเราได้รางวัลเป็น รถ เป็น บ้าน ฯลฯ ซึ่งไม่ใช่เงิน ทำไมต้องเสียภาษีปลายปี
เป็นชาวบ้านตาดำ ๆ รายได้ต่ำ ซวยโคตร ถ้าไม่มีเงินจ่าย เพราะได้เป็นวัตถุมา ไม่ใช่เงิน
แต่ดันต้องเสียเงิน
2 สำหรับบริษัทที่มาแจกรางวัล เขาก็เอามูลค่ารางวัล
เหล่านั้นไปหักภาษีของบริษัทเขาใช่ไหมครับ แสดงว่าเขาได้ประโยชน์มากกว่าของที่เสียไปอีกนะ
3 ถ้าได้รางวัลเป็น แพคเกจท่องเที่ยวต่างประเทศ ต้องเสียภาษีอย่างไรบ้างครับ
ตอบข้อ 1 ครับ เพราะรางวัลที่เราได้มาถือเป็นเงินได้ครับ ตามมาตรา 40 ซึ่งสามารถตีเป็นตัวเงินได้ เช่น บ้านมูลค่าเท่านั้นเท่านี้ รถมูลค่าเท่านั้นเท่านี้
จึงต้องนำไปคิดภาษีเงินได้ครับ มันติดตรงที่เราต้องโดนหัก ภาษี ณ ที่จ่าย ไงครับ ตัวนี้ล่ะคือหลักฐานว่าเราได้รางวัลเป็นมูลค่าเท่าไร แล้วมันก็จะขึ้นโชว์ที่กรมสรรพากรว่าเราถูกหัก ภาษี ณ ที่จ่าย
ซึ่งเรามีหน้าที่ต้องขอคืนเพราะเราถูกหัก โดยจะไปหักออกจากการคำนวณ ภงด. ไงครับ ถ้าไม่เอาไปคำนวณ คราวนี้ล่ะ สรรพากรจะมาคำนวณย้อนหลังให้เอง หนาวๆๆๆ
ตอบ ข้อ 2 อันนี้แล้วแต่เงื่อนไงครับ เข้าข่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจหรือไม่ ถ้าใช้ก็เอามาหักค่าใช้จ่ายของบริษัทได้
บริษัทเค้าฉลาดไงครับ แทนที่จะเอาเงินไปเสียภาษี นิติบุคคล ให้สรรพากร เอามาแจกลูกค้าเพื่อเอาใจลูกค้า และหักค่าใช้จ่ายได้ด้วย
ตอบ ข้อ 3 อันนี้ก็น่าจะใช้นะ ถ้าเราได้โดยไม่โดน หักภาษี ณ ที่จ่าย ใครๆก็ไม่อยากยื่นครับ เช่นคุณขาย หมูปิ้งได้วันละ 2000 บาท ไม่มีใครไปยื่นแบบครับ สรรพากรก็ไม่รู้ แต่จริงๆตามกฏหมายต่้องยื่น
ก็เพราะมันไม่มีหลักฐานไงครับ แต่ ไอ้เจ้าตัวภาษี ณ ที่จ่ายนี่ล่ะ มันมัดตัวเรา ว่าเรามีเงินได้ไงครับ
ขอเสริมข้อมูลให้ชัดเจนยิ่งขึ้นนะครับ
ข้อ 1 รายได้ หรือทรัพย์ที่สามารถตีค่าเป็นเงินได้ ทุกอย่างต้องเสียภาษีครับ ขึ้นอยู่กับว่าของที่ได้มานั้นจัดหมวดหมู่อยู่ในประเภทไหน กรณีในกระทู้นี้คือ รถยนต์ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ได้จากการเสี่ยงโชค จัดเป็นรายได้ประเภท 40 ( 8 ) ครับ จะมีเกณฑ์ที่ใช้ในการหักลดหย่อนแตกต่างจากเงินได้ประเภทเงินเดือนที่เราคุ้นเคยกัน
ในกรณีของเงินได้จากการเสี่ยงโชคนั้น ตามกฏหมายไม่ได้กำหนดอัตราการลดหย่อนไว้ จึงต้องใช้การลดหย่อนแบบตามจริง (คือเอาใบเสร็จมายื่นให้สรรพากรทราบว่ามีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากทรัพย์นี้เท่าไหร่) แต่เพื่อความง่ายในการคำนวนสรรพากรได้กำหนดแนวทางปฎิบัติในกรณีนี้ไว้คือ ให้คิดค่าใช้จ่ายเพื่อหักแบบเหมาที่ 75% ของเงินได้
ฉะนั้นถ้าได้รางวัลนี้มาจริงๆ โดยสมมติว่าไม่มีรายได้อย่างอื่นเลยตลอดปีภาษี (ราคารถ 8,000,000 บาท) จะต้องจ่ายภาษีทั้งหมดดังนี้
- จ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5% วันรับรางวัล เป็นเงิน 400,000 บาท
- หักค่าใช้จ่ายได้ 75% ฉะนั้นเหลือเงินได้ที่ต้องนำไปประเมินภาษี = 8,000,000 x 25% = 2,000,000 บาท นำมาคำนวนภาษีตามเกณฑ์ปกติ ได้ดังนี้
150,000 - 500,000 คิดร้อยละ 10 = 35,000
500,000 - 1,000,000 ร้อยละ 20 = 100,000
1,000,000 - 2,000,000 ร้อยละ 30 = 300,000
รวมเป็นเงินภาษีที่ต้องจ่าย 435,000 บาท
- เมื่อหักเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย แล้ว 400,000 บาท จะเหลือภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่มเติม 35,000 บาท ครับ
ข้อ 2. สำหรับบริษัทที่แจก โดยปกติสามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซื้อของมาแจกให้ลูกค้าไปเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ แต่บางกรณีอาจจะหักเป็นค่าใช้จ่ายไม่ได้ทั้งหมดครับ ขึ้นกับการตรวจสอบของสรรพากร
ข้อ 3. ถ้าได้เป็นแพคเกจท่องเที่ยว ก็ต้องเอามูลค่าของรางวัลมาคำนวนเหมือนข้อ 1 ครับ