Review Toyota Altis 1.8E E85 ของคนที่คาดหวังในตัวของมันมากเกินไป ก่อนอื่นเลยก็ต้องขอสวัสดีท่านสมาชิกและผู้อ่านHLMทุกๆท่านนะครับ ในวันนี้ผมก็ได้มีโอกาสได้สัมผัสรถToyota Altis 1.8E เรียกได้ว่าขับและนั่งจนรู้อาการมันเป็นอย่างดี เรื่องของเรื่องก็คือพี่ชายที่ผมรู้จักมาเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ แล้วได้เช่ารถของทางHertz เอาไว้แต่ที่นี่ล็อคไว้เลยบอกว่าจะเอาCivic FB และจองล่วงหน้าไว้ค่อนข้างนานแต่ปรากฏว่ารถไม่มีคิวทั้งๆที่ก็เห็นจอดอยู่ที่ลานก็งงๆอยู่ แต่แล้ว!!! กลับได้Altis 1.8E มันไม่ได้พิเศษไรกับตัวรถมันหรอกครับ แต่ที่น่าพิเศษ คือเป็นรถใหม่ที่ยังไม่มีป้ายทะเบียน!! วิ่งไปแค่ 127กิโลเมตร นั้นหมายถึงพวกผมเป็นคนได้ใช้รถคันนี้คนแรก 555เรียกได้ว่าเปิดซิงรถกันเลยที่เดียว.....ผมเนื่องจากเป็นเพื่อนร่วมทริปตลอดทาง ก็ได้ทั้งขับทั้งนั่ง ขึ้นดอยอินทนนท์ ขับทางเรียบ ในเมืองรถติด และใช้ความเร็วเรียกได้ว่าครบทุกสถานการณ์ แต่แล้วเอาจริงๆตอนแรกๆที่บ้านผมก็สนใจรถC-seg อยู่ครับ ก็เลยดูๆAltis,Civic,Slyphy,MZ3,EX เรียกได้ว่าสนใจอยู่พอดีและมีรถในตัวเลือกให้ได้ลองพอดีด้วยครับ แต่แล้วเมื่อลองเสร็จผลเป็นไงรอดูตอนท้ายรีวิวกันนะครับ ....
(รูปทั้งหมดถ่ายจากIphone4 อาจจะมีบ้างรูปที่มีลายละเอียดไม่ดี ก็ขออภัยด้วยนะครับ)
Altisโฉมนี้อย่างที่รู้กัน โฉมแรกเป็นโฉมที่อะไรๆก็ดูไม่ลงตัวนักทั้งพวงมาลัยที่เบาเกินไป ช่วงล่างที่นิ่มเกินไป แล้วก็มาถึงช่วงMinorchange โดยจับยัดเครื่องระบบDual-VVT-i มาให้นั้นเองหรือวาล์วแปรผันคู่ไอดีและไอเสีย พร้อมเกียร์CVT 7SP ในรุ่น1.8และ1.6 ส่วน1.6ก็จะเป็นเครื่องDual-VVT-I เกียร์ยัง4สปีดบ้านๆอยู่ครับ แล้วที่นี่ในตัวล่าสุดโตโยต้าก็พึ่งได้ปรับโฉมเมื่อปลายปี2012 อีกเล็กน้อยคือสามารถเติมน้ำมันE85ได้ นั้นคือรุ่นที่ผมกำลังจะรีวิวการเปลี่ยนแปลง ก็จะเป็นกระจังหน้าที่ยืมรุ่นพี่อย่าง 2.0Vมาใส่นั้นเองครับ (ข้อมูลตรงนี้ถ้าผิดตรงไหนแย้งได้นะครับพอดีเขียนเท่าที่รู้) อันนี้ก็น่าจะพอเป็นที่มาได้นิดๆหน่อยๆสำหรับคนที่ยัง งงๆ กับโฉมของมันอยู่....เข้าเรื่องกับตัวเลยก็แล้วกัน
ภายนอก ความจริงก็ไม่อยากจะบ่นอะไรมากในหัวข้อนี้เพราะว่าแต่หละคนตาก็ไม่เหมือนกัน สมองก็ไม่เหมือนกัน จะให้ชอบเหมือนกันก็คงจะแปลกๆอยู่ ข้อนี้ขอพูดในส่วนของความรู้สึกส่วนตัวของผมเองนะครับ ลายเส้นของตัวรถซึ่งผมไม่รู้สิผมกับรู้สึกว่าสมัยนี้โตโยต้ามักจะทำรถเล็กๆให้เหมือนรถใหญ่ๆของเขาอย่างCamry ซึ่งถ้ามองๆกันแล้วเส้นสายของAltisโฉมนี้ก็ใกล้ๆกับ Camry ACV 40 อยู่เหมือนกัน
ด้านหน้า กระจังหน้าลายใหม่(สำหรับรุ่น1.
สีดำซึ่งก็ดูแล้วน่าจะลดต้นทุน5555 แต่ใส่มาก็ทำให้ดูดีสปอร์ตขึ้นพริวขึ้นอยู่เหมือนกันครับ ชุดโคมไฟหน้าเส้นสายทำให้ดูพริวเข้ากับกันชนและบอดี้ของรถ ซึ้งสิ่งที่น่าติสำหรับชุดไฟอันนี้มาก คือไฟสูงความกว้างของมุมที่ให้น้อยมากครับ
ด้านข้าง ไม่มีอะไรมากครับ เล่นเส้นสายจากหน้ารถไปสู่หลังรถ เรียนแบบรุ่นพี่อย่างแคมรี่ แต่ว่าในรุ่นE1 ขึ้นไปจะมีสเกริต์ใส่มาให้เพื่อลดความแก่และทำให้ดูสปอร์ตขึ้นมานิสสสนึง ส่วนล้อแม็ก ยังเหมือนเดิมครับ ใครอยู่กทม.เห็นTaxi ก็คงจะคุ้นกับมันหรือไม่ก็มองตอนรถติดจนเบื่อเพราะมันก็คือวงเดียวกันนั้นเองขนาด195/65/R15 ใส่แล้วก็ดูโอเคครับ ไม่สวยไมน่าเกลียด ล้างง่ายดี แต่ในเมื่อเป็นรุ่น1.8 ลึกๆก็อยากเห็นลายที่ดูดีกว่านี้ครับ
ด้านหลัง ก็ไม่ได้มีอะไรเด่นมากมายเหมือนกันครับ ก็จะมีกันชนหลังที่ด้านล่างทำให้ดูพริวขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน่อยแล้วก็มีรีเฟล็กเตอร์สะท้อนแซงมาให้ตอนกลางคืนครับ แล้วก็มีเซนเซอร์ขี้บ่นของโตโยต้าเวลาถอยมาให้ด้วยครับ (อุปกรณ์พวกนี้เป็นมาตรฐานของรถยุคนี้ที่ต้องมีอยู่แล้ว)
ส่วนชุดไฟหลังที่เป็นหลอดแบบLED แล้วมีติ่งห้อยมาให้นิดนึงครับ แสงถ้าอยู่คันหลังถือว่าเห็นชัดเจนดีครับ และไม่แยงตาเหมือนLED คันอื่น ส่วนความสวนงามแล้วแต่บุคคลจะพิจารณาก็แล้วกัน
ภายนอกก็จบสักที่....ของผมก็บ่นๆไปตามความคิดของผู้เขียนครับ แต่ท่านผู้อ่านจะชอบหรือไม่ชอบแบบไหนอยู่ที่ตัวท่านครับ ส่วนการเข้าออกรถคงไม่ขอพูดถึงนะครับเพราะว่าสรีระของแต่หละคนจะดีก็ควรไปลองเองนะครับส่วนสำหรับผมไม่มีปัญหาครับ นน.70 ส่วนสูง 165 ++ ประมาณนั้นครับ เรื่องเบาะขออธิบายแบบไม่ยาวนักนะครับ
เบาะคู่หน้านั่งสบายดีครับ แต่ติดแค่ตรงที่พิงหัวผมกับรู้สึกดันๆเล็กน้อยแต่สำหรับผมแล้วใช้ได้อยู่ แต่ปัญหาคือ ที่วางแขนมันวางไม่ได้ โคตรเมื่อยเลยผมเป็นคนติดวางแขนมากเวลานั่งข้างคนขับ หรือเวลาขับเองรถติดๆก็จะวางแขนไว้ที่วางแขน ไอนี่วางไม่ได้(เกิดอะไรขึ้น??)จะให้วางที่ขอบกระจกก็ดุสูงเกินสรีระของมนุษย์คนไทยไปหน่อย ยังดีนะที่คอนโซลกลางยังพอวางแขนได้อยู่ อีกสิ่งที่น่าคิคคือ รถเกียร์ออโต้ที่วางขาซ้ายหายไปไหน?? คือจะบอกว่านู่นๆบวมๆจากพื้นรถเป็นที่วางเท้าผมว่าวัสดุชิ้นนั้นดูไม่Make sense ที่จะใช้ในการวางของแค่นี้ขอเหอะใส่มาเถอะครับ รถยุคปี96 อย่างปาเจโร่ ยังใสมาให้เลย
ด้านเบาะหลัง ปัญหาคล้ายๆเบาะหน้าคือ วางแขนไม่ได้ ใครขึ้นแท็กซี่ก็ลองๆดูก็ได้นะครับ 5555 ส่วนตัวเบาะเอง ต้นขาและพื้นที่เหนือศรีษะผมไม่มีปัญหา มีแต่ปัญหาคือ เบาะตั้งชั่นมากไปสักนิสสนึงครับ
ภายใน หัวข้อนี้คงจะอธิบายในส่วนของฟั่งชั่นการใช้งานมากกว่านะครับ
เริ่มจากคอนโซลกลางก่อนเลยก็แล้วกันนะครับ ไล่จากบนก็คงเป็นแอร์ที่หน้าตาคงเหมือนกันทุกรุ่น แต่สิ่งที่น่าชมเชยคือไฟฉุกเฉินสามารถกดได้ง่าย โดยที่เวลากดไม่จำเป็นต้องละสายตาจากท้องถนน ร้องลงมาก็เครื่องเสียงที่เสียงจะบอกตรงๆว่ามันก็คือToyota ผมไม่ได้หูทองนะ แต่เนื้อของเสียงมันไม่มีมวลเลยครับ เบสออกก็จริงนะครับ แหลมมาเยอะใสๆก็จริงแต่เสียงกลาง มวลของเสียงมันอยู่ไหน? (อันนี้ก็แล้วแต่หูแต่ควรลองฟังเอง) เครื่องเสียงมีระบบASL มาให้ก็คือเพิ่มเสียงตามความเร็วรถนั้นเอง แต่ที่น่าด่าชิบหายในงานนี้ คือมันไม่มีUSB!!! นี่มันยุค2013แล้วนะครับพี่โต จะให้ผมใช้3.5MMก็แปลกๆ สาย3.5แต่หละเส้นแถบจะรัดคอคนขับได้เลยนะนั้น และที่สำคัญคือมันทำให้คนที่ใช้มือถือฟังเพลงอย่างผมวุ่นวายมากกในการใช้ ทั้งชารจ์ทั้งจะฟังเพลง เพราะฉนั่นวิธีแก้ปัญหาก็คือการWrite MP3 ลงในซีดี(เป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่ทางเลือกที่สะดวกสบายของยุคไอที) ส่วนใครต้องการชารจ์ไอโฟนก็หาสายชาร์จมาจิ้มกับช่องจุดบุหรี่กันเอาเองนะครับ ข้อนี้สำหรับคนอย่างผมที่ใช้มือถือเยอะๆ และต้องการไรที่ง่ายๆ ขอติเลยจริงๆ โตโยต้าควรจะใส่มาได้แล้ว!! Honda City ยังมีเลยไม่ต้องไปไหนไกลVigo ยังมีให้นี้Altisนะเว้ยเฮ้ย!! (เสียงจากผู้ที่เกือบจะได้เป็นลูกค้าโตโยต้า แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง ณ จุดนนี้เหมือนกัน) มันดูเป็นเรื่องเล็กๆแต่เราใช้อยู่ทุกวันมันก็ดูเป็นปัญหาขึ้นมาได้เหมือนกัน ส่วนพวงมาลัย เป็นแบบยูรีเทนครับการใช้งานก็ดีโอเคครับ จับได้สบายดีไม่มีข้อติ แต่อีกที่ๆน่าติคือ สวิสต์ควบคุมกระจกมองข้าง ในตอนกลางคืนไม่มีแซงโพล่มาให้เลย เข้าใจว่าคล่ำได้แต่ว่าบางครั้งตอนใช้ตอนกลางคืน จะกดแล้วหาไม่เจอเงิบได้เหมือนกันครับ อย่างน้อยขอแสงตรงปุ่มพับอย่างเดียวก็ได้ครับ
ส่วนการควบคุมเครื่องปรับอากาศ เรื่องความเย็นยังไงโตโยต้าโคตรแชมป์ เปิดแปปๆๆเย็นมากครับ ข้อเสียจะเยอะยังไงแต่วันที่อากาศร้อนๆเข้ามานั่งในรถคันนี้ก็อาจจะพอมีใจให้มันได้บ้าง 555...การใช้งานใช้ได้ง่ายครับ แบ่งปุ่มปรับอุณหภมิและพัดลมชุดเจนดีครับ แต่น่าเสียดายไฟที่เป็นเหมือนคิ้วสีส้ม กับติดแค่เส้ยเดียวถ้าคุณไม่ได้เปิดไล่ฝ่าหน้าและหลัง นั้นคือคุณจะไม่เห้นความสวยงามของมันเลยครับ .....แต่การใช้งานอะกดปุ่มไรต่างๆมันง่ายจริงครับ แต่ว่าหน้าจอเอาจริงๆทั้งพัดลมและอุณหภมิน่าจะมาอยู่ในถบเดียวกันไม่น่ามีกลมๆมากั้นเนื่องจากจะได้มองเห็นได้สะดวกกว่านี้ครับ ข้างล่างจากชุดปรับอากาศก็ช่องAUX แล้วก็รูเปล่าๆ ทำรอUSBมาใส่มั้งครับ...เห็นแล้วอยากเจาะเอง 5555
คันเกียร์ การใช้งานโอเคครับเป็นเกียร์แบบ คันบันได มีบวกลบมาให้ แต่ติดตรงเวลาเล่น+ - ฐานของคันเกียร์ดูเหมือนคันเกียร์ของMidnightเลยครับ 555 โยกแรงๆรถตัวเองกลัวพังน่าดูครับความสวยงามแล้วแต่คนครับ รสนิยมไม่เหมือนกัน
มาตรวัด ในคันนี้เป็นเกรด E ซึ่งมาตรวัดจะเหมือนในร่น J ครับมี จอMID มาให้ มีทั้งอัตราสิ้นเปลื้องRealtimeและAVG,Speed AVG, ระยะเวลาในการขับขี่,ระยะทางที่สามารถขับขี่ต่อไปได้,นาฬิกา (ผมเล่นไม่ทุกอันครับ แต่ข้อมูลส่วนนี่อ้างอิงมาจากโบรชัวร์ของทางToyotaครับ) มาตรวั้ดตัวนี้ผมกลับมองว่าเป้นมาตรวัดที่มองได้ง่ายมาก จัดไว้อย่างเป็นระเบียบ แซงสีส้มตอนกลางคืนไม่แยงตา ต่างกับหน้าปัดในรุ่นG-V ที่เป็นออฟตริตรอน มันหรูและก็สวยอยู่แต่การใช้งานจจริงๆผมว่ามันไม่เวรคิ์ครับ ข้อนี้ยกให้ใช้ง่ายครับ
การเข้าออกรถ ใช้กุญแจสหกรณ์ของโตโยต้าเช่นเคยครับ
มาดูกันที่สมรรถนะดีกว่าครับ
ในAltis ตัวนี้เป็นตัว 1.8 ใช้เครื่องยนต์2ZR-FE 4สูบเรียง พ่วงDual-VVTi แรงม้าสูงสุด140/6400รอบ ส่วนแรงบิตอยู่ที่ 176.4 N-M /4000 รอบ พ่วงด้วยเกียร์CVT ล็อคอัตราทดพูเลย์ไว้7จังหวะ พร้อมบวก+ - ที่พอให้ความสนุกได้นิสสนึง คันเร่งคันนี้เป็นแบบคันเร่งไฟฟ้าเรียบร้อยแล้วครับ แต่การตอบสนองไม่ดีเลย์เหยียบเป็นมาครับงานนี้ มาดูความรู้สึกการขับขี่ดีกว่าครับ
เครื่องยนต์ตัวนี้จะเอาจริงๆ ในความรู้สึกของผม2ZR ไม่ใช่เครื่องที่อืด ตัวเครื่องมีแรงพละกำลังมาให้เยอะอยู่ครับแต่เมื่อจับคู่กับเกียร์CVT บางครั้งการขับขี่ดูไม่ร้าวใจหนัก(ข้อนี้พอเข้าใจนะเพราะCVT) คันนี้ถ้าเหยียบเต็มตีนออกตัวไปเลยแรงๆ เครื่อง1.8มันทำงานได้ดี เกียร์CVTไล่ลื่นดีครับ แถมยังมีการทำตัวแอบเลี่ยนแบบเกียร์เฟืองคือ มีการเปลี่ยนรอบให้เห็นอย่างชัดเจน ถ้าเปลี่ยนเข้าโหมดM จะรู้สึกมีแรงดึงเล็กๆให้เล็กๆครับ เรืองอัตราเร่งไม่ได้จับเวลามานะครับแต่จากความรู้สึกก็ไวพอสมควรครับ ส่วนความเร็วที่ขับในการทดลองอยู่ในช่วง 100-140กม./ชม. ถนนมันไม่ค่อยเอื้อสักเท่าไรแต่ก็เป็นช่วงความเร็วที่คนธรรมดาใช้กัน การขับขี่อัตราเร่งแซงช่วงทางเรียบในช่วงที่ผมขับทำได้ดีเลยหละครับ การออกตัวแซงยาวๆเปรี้ยวได้นิดๆกับเครื่องยนต์ตัวนี้ไหลลื่นดีมากครับ เมื่อจับคู่กับเกียร์CVT แต่ช่วงที่ผมไม่ได้ขับคือช่วงที่พี่ผมขับในการขึ้นดอยอินทนนท์ ต้องการการเร่งแซงรถคันข้างหน้าที่ฉับพลัน(ใครเคยขึ้นดอยนี้จะรู้จังหวะดีๆยาวๆมันมีน้อยครับ) ตอนนั้นเป็นช่วงที่พี่ผมขับแบบเหยียบมิดตบเกียร์เพื่อจะเร่งเเซงให้พ้น แต่สิ่งที่ตะลึงมันไม่ได้เกิดขึ้นตอนทางราบสิครับมันดันมาเกิดขึ้นบนดอยที่เราต้องการเรียกพลังอย่างเต็มที่รถเหมือนไม่มีอาการพยายามออกตัวดีดออกไปจนลากไปถึง5พันรอบถึงจะรู้สึกมีแรงพุ่งมาให้ใช้เหมือนมีอะไรมาดึงหลังเอาไว้แบบบอกไม่ถูก นี้มันอะไรกัน??? มันเป็นคำถามที่หาคำตอบได้ยากแบบงงๆๆเหมือนกูเหยียบติดเหล็กแล้วน่าจะทำตัวให้รู้ว่าคนขับรีบบนะ แต่มันกับไม่เป็นอย่างงั้น(จุดนี้ก็บอกกล่าวให้ฟังนะครับ และมีจังหวะนึงรถติดตรงตีนดอยทางไม่ชั่นเลยแต่ไอนี่ใส่เกียร์Dไว้ มันไหลถอยหลังได้ ซึ่งมันไม่ควรจะไหลเลยด้วยซำ้สำหรับความชั่นแค่นิดหน่อย และเป็นรถใหม่ระบบเกียร์น่าจะมีการถ่ายทอดกำลังได้อย่างเต็มที่อยู่) แต่ถ้าสำหรับผมที่ได้ขับในช่วงถนนปกติแล้วเรียกได้ว่าคนที่ขับรถแก่ๆอย่างA33ได้มาขับรถรุ่นใหม่แบบนี้ ก็รู้สึกดีกดสนุกเหมือนกันครับ คันเร่งถ้าขับในเมืองใครไม่ชินจะรู้สึกว่ามันพุ่งมาก เพราะว่าเหยียบไปไม่ถึง1/2ของคันเร่งรถจะคิดดาวน์เปลี่ยนต่ำแหน่งพูเลย์ให้เลยครับ ในส่วนของโหมด+- การใช้งานไม่มีการดีเลย์ อย่างที่พบในCamry ACV40 ที่บางครั้งเหมือนนิสๆๆนึงคือตบแล้วกูขอคิดนิดนึง
.
ระบบช่วงล่าง ข้อนี้ผมขอจัดเต็มหน่อยครับ จุดนี้ผมหวังไว้มากเพราะได้ยินว่าปรับปรุงแล้ว การขับขี่ในเมืองยอมรับว่าขับง่ายนิ่มนวลดีครับ แต่ว่าเมื่อคุณผ่านท่อน้ำ Bumper ทุกสิ่งจะเปลี่ยนไปเหมือนมันไม่ซับแรงกระแทกเลย มันตึงตังเอามากครับ เมื่อใช้ความเร็วสูงช่วง100-130 การขับขี่ทางเรียบๆดูจะเป็นไรที่มีความสุขนะครับ แต่เมื่อผ่านทางที่ดูไม่ค่อยเรียบนัก รอยต่อถนนแลดูทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะว่าช่วงล่างดูไม่นิ่งและดูไม่เก็บแรงสั่นสะเทือนเอาซะเลยและแสดงอาการดิ้นๆเวลาผ่านรอยต่อถนนหรือลงคอสะพาน เข้าใจว่าเป็นTorsion Beam แต่!!! ทำไมChev Cruze ยังสร้างศรัทธาให้คนหันมาชอบช่วงล่างของเขาได้ ซึ่งก็เป็นคานแข็งเหมือนกัน แต่ทำไมToyota ถึงไม่สามารถทำให้รถของเขา เขาสู่ใจของคนที่ชอบขับรถได้เลย ...จุดนี้ผมหวังจะเห็นการพัฒนาของโตโยต้าต่อๆไปนะครับ
ระบบพวงมาลัยข้อนี้ขับในเมืองสบายดีครับมีความเป็นพวงมาลัยไฟฟ้าคือเบา คล่องตัวดีระยะฟรีเมื่อขับทางไกลรู้สึกได้ว่ามีพอประมาณให้เป็นรถที่ขับแล้วดูสบายๆๆ ไม่เลี้ยวปุ้ป หันหัวปัปอันนั้นก็เกินไป แต่ทุกอย่างมันจบ เมื่อเจอกับช่วงล่างชุดนี้วิ่งเร็วๆความเร็วสูง ดูไม่ค่อยมีความมั่นใจสักเท่าไรเหมือนพวงมาลัยจะไม่นิ่งทั้งๆที่เอาจริงๆมันนิ่งแต่มันมาจากช่วงล่างที่แลดูไม่มั่นคงนัก เมื่อไรโตโยต้าจะสร้างศรัทธาให้ผมได้สักที่เรื่องช่วงล่าง ตอนแรกๆคิดว่าจะดีแล้วนะ ขับยาวๆจริงๆ เฟลเลย
เบรกเบรก ถ้าถามตัวผมการหยุดระยะต่างๆทำได้ดีในเกรดรถเท่านี้ แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบคือความรู้สึกของแป้นเบรกคือเบรกค่อนข้างตื้นเหยียบไปไม่เยอะดึงกันซะเร็วไว หัวทิ่มทันใด ข้อนี้คงต้องใช้เวลาปรับตัวกับมันนานสักหน่อย เพราะปกติผมขับA33 เหยียบจะดูลึกๆแต่มั่นคงดูดเท้าดีครับ แต่ไอนี่ดูตื้นๆไปสักหน่อย(เบรกอาจจะยังไม่พ้นรันอินของมัน แต่อาการของมันก็น่าจะมีส่วนจากพื้นฐานของการเซ็ตติ้ง)
อัตราความสิ้นเปลื้อง ข้อนี้รถยังอยู่ในช่วงรันอิน แต่สำหรับผมได้จับ ในช่วงขึ้นดอยอินททนนท์พอดี ถังนี่รวมถึงการขึ้นดอยนะครับวิ้งไป 286.4กิโล เติมกลับไป 32 กิโล ตัวเลขออกมา8.95 กม./ล. ถือว่าดูไม่เลวร้ายเลยครับขึ้นดอยลากรอบ แซงเป็นระยะ(แต่รถบนดอยก็โคตรติด ขึ้น8โมงลงมาได้15.00 ) ส่วนทางราบความเร็วเฉลี่ย 100-130 เร่งแซงพอสมควรครับ ในมาตรวัดMIDแจ้งว่า9.2กม./ล. เรียกได้ว่าไม่โม้จนน่าเกลียดครับ
สรุป
เป็นรถที่ตอนแรกๆเอาจริงๆคุณพ่อเสนอมาให้เพราะเป็นToyota แต่ก่อนที่บ้านเคยใช้AE101 แล้วรู้สึกดีใข้อยู่3-4ปี แต่เป็นรถที่ดีเลยหละครับ อะไหล่ตามตลาดเยอะก็เลยกลับมามองอัลติส รู้สึกแอบผิดหวัง ส่วนเรื่องการออกแบบผมเฉยๆนะภายในใช้งานง่าย แต่ว่าการจัดวางตำแหน่งในการนั่งไม่ค่อยดีสักเท่าไร เครื่องยนต์แรงขับสนุกพอตัวแต่เมื่อต้องการพลังสูงๆกับต้องใช้เวลาที่กว่าจะเอาออกมาได้ค่อนข้างนาน ระบบช่วงล่าง+เบรก ผิดหวังเยอะเลยหละครับ
สรุปข้อดีข้อเสีย
ข้อดี1.ขายต่อราคาดี ตามแนวToyota
2.อะไหล่หาง่ายเมื่อมันเก่า
3.เครื่องยนต์มีพละกำลังดีในการใช้ความเร็วทั่วไป
4.คอนโซลใช้งานง่าย
5.ดูจากตัวเลขอัตราสิ้นเปลื้องดูแล้วมีภาพของความประหยัดอยู่พอสมควรครับ
ข้อเสีย1.ช่วงล่างซับแรงกระเทือนแย่
2.เบรคตื้นจนเกินไป
3.เครื่องยนต์กำลังดีก็จริง แต่บางเวลาต้องการเรียกใช้แรงๆเร็วๆทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลยครับ
4.ภายในพลาสติกดู ป็อกแป็กไปหน่อย
5.วางแขนข้างประตูไม่ได้ ,เบาะหลังชั่นไปสักหน่อย
6.ไม่มีช่องเสียบUSB มาให้ในรถ ราคาเท่านี้ ยุค2013แล้วนะครับ
ทั้งหมดที่รีวิวิมานั้น ไม่ได้ต้องการใส่ไข่ ตีฟองอะไรนะครับ แต่เป็นประสบการณ์ที่ผมพบเจอมาเองกับตัว ไม่ใช่ว่าเป็นรถที่ไม่ดี แต่มันอาจจะเป็นรถที่ไม่เข้ากับสไตล์ผม ควรไปลองเองเลยครับ อย่ามัวแต่เสียเวลามาอ่านรีวิว อย่าคิดจะไปเทสที่0..ถ้าคุณอยากรู้ต้อง "เช่าขับเอง " สักวันสองวันเกินพอครับ. สนใจรถคันไหน ออกทริปตจว.หรือจะลองเช่าขับ ก็ลองดูครับ ได้รู้อาการของรถเลยจริงๆว่ามันเป็นยังไง สำหรับผมแล้วมันยังไม่ถูกตัดจากตัวเลือกรถในกลุ่มC-segของผม แต่มันจะไปอยู่เป็นลำดับสุดท้ายสำหรับผมครับ
ยังไงก็ขอบคุณผู้อ่าน ที่อ่านจนจบ และก็ขอบคุณพื้นที่บอร์ดHLM ที่เอื้อเฟื้อพ.ท.ให้ ทำรีวิวในครับนี้นะครับ
(แสดงความเห็นได้ตามอัธยาศัย ครับ ถ้าใครใช้Altis รุ่นนี้อยู่อ่านแล้วไม่พอใจก็ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ แต่การรีวิวครั้งนี้เป็นการรีวิวที่ มาจากความคิดความรู้สึกของผมที่ได้สัมผัสครับผม ขอบคุณมากครับ)