รอดู สเป็คว่าใส่ VSA มาให้ป่าว
ถ้าไม่ใส่นี่ เตรียมด่าไว้แล้ว
Altis ที่มี VSA ก็ต้องเป็นรุ่น 2.0 นี้ครับ ราคาก็ตั้ง 1.064 MB แพงกว่านะ
เทียบกับ
Prius ตัว low 1.199 MB
Civic Hybrid ตัว low 1.035 MB (ถูกกว่าตั้ง แสน หกนะครับ)l
ส่วนที่บอกว่า เครื่อง Prius ใหญ่กว่า หรือเป็น ระบบเต็มกว่า แต่ แต่ มันไม่ได้มีราคาถึง แสนหก หรอกนะครับ แค่นั้นนะ
ส่วนต่าง 164,000 บาท ของทั้งสองรุ่นนี้ผมว่าน่าจะเป็นตามนี้นะครับ
Civic Hybrid vs. Prius (เทียบตัวถูกสุด)
- 1.5 (110 แรงม้า) vs. 1.8 (136 แรงม้า) - ทั้งนี้ซีวิคจะเบากว่าพรีอุสอยู่ประมาณ 100 กว่ากิโล อาจจะทำให้ผลต่างไม่ห่างกันมากอย่างที่คิด แต่ที่แน่ๆพรีอุสน่าจะมีสมรรถนะภาพรวมดีกว่าอยู่ดี ทั้งนี้ผมจะหาเวลาไปทดลองขับอีกครั้งเพื่อเปรียบเทียบคร่าวๆครับ
- ออกตัวด้วยเบนซิน+ไฟฟ้า vs. ไฟฟ้าล้วน - คิดว่าส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองจริง ไม่มากก็น้อย คาดว่าพอเอาเข้าจริง ถ้าเป็นอย่างของ Jazz HB (ฮอนด้าเคลมไว้ที่ 20 กม/ลิตร) เพื่อนใช้อยู่เวลาขับในเมืองได้แค่ 13-14 โลลิตรจากที่ถามเพื่อนมา ส่วนพรีอุสแฟนผมใช้ในเมืองตก 17-19 โลลิตร บนเงื่อนไขสภาพการจราจรคล้ายคลึงกัน สงสัยเหมือนกันว่า Civic HB ที่เคลมไว้ 18 km/l จะทำได้เท่าไหร่ เพราะแจ๊ซของเพื่อนนี่ดูๆแล้วประหยัดกว่าตัวเบนซินไม่มากเลย
- 4 Airbags vs. 7 Airbags - 3 ใบที่ได้เพิ่มมาเป็นเหนือเข่าคนขับลูกนึง กับหน้าต่างประตูหลังสองลูก
- เบาะธรรมดา vs. เบาะไฟฟ้า
- กระจกมองหลังธรรมดา vs. แบบปรัดลดแสง
- เบาะหลังพับไม่ได้ vs. พับได้ราบ
- มาตรวัด multiplex vs. แบบ HUD ยิงขึ้นกระจก (เผื่อใครสงสัย HUD ของพรีอุสกลางวันสว่างชัดเจนอ่านง่ายครับ ไม่มีปัญหาเรื่องมองไม่เห็นแม้แสงจัด)
สิ่งที่ Civic มี แต่ Prius ไม่มี ที่ราคานี้ คือ
กล้องส่องภาพด้านหลัง (แต่ยังสงสัยอยู่ว่าของซีวิคนี่คือใช้แสดงผลบน MID หรือเปล่า หรือว่าโบรชัวร์ผิด? ผมนึกว่ากล้องหลังมันจะต่อกับจอนาวิอย่างเดียวเลยไม่น่ามีในตัวถูกอะครับ)
เสริมอีกนิดว่าเรื่อง Bluetooth และระบบวิทยุ ทั้งคู่มีเหมือนกันนะครับ และเรื่องกระจกมองข้างนั้น ปรับ และพับไฟฟ้าแล้วเช่นกันสำหรับพรีอุส ยกเว้นแค่จอดเข็นไม่ได้ ซึ่งเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัยครับ แต่สามารถนำไปปลดระบบได้ไม่ยาก หรือจะทำเองก็ได้ครับ DIY ในคลับ Thaiprius มีลงกันอยู่
ถ้าเทียบเป็นจุดต่อจุดแบบนี้จะเห็นว่ามันก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่หลายรายการ แม้ขยับมาดู Civic 1.5HB Top มาเทียบแทนก็ยังจะเห็นว่ารายการที่ผมบอกมาก็จะยังไม่ต่างกัน เพราะรุ่นธรรมดากับท๊อปซีวิคต่างแค่เบาะหนังกับระบบนำทาง ซึ่งก็จะไปจัดอยู่ในรายการที่ซีวิคมี พรีอุสไม่มี ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณพร้อมจ่ายเงินแลกหรือไม่ ต้องการใช้สิ่งเหล่านั้นหรือไม่ ถ้าไม่ การจบที่ Civic 1.5 ดูจะเป็นทางออกที่ลงตัวพอแล้วหละครับ ทั้งนี้ต้องรอดูสมรรถนะจริง และความประหยัดเมื่อเทียบกับตัวเบนซิน และเมื่อเทียบกับตัวคู่แข่งอย่างพรีอุส ว่าจะคุ้มค่าหรือไม่
เพราะถ้าออกมาว่าสมรรถนะอาจจะดีกว่าที่คิดอย่างที่แจ๊ซ HB ทำได้ แต่ถ้าอัตราสิ้นเปลืองออกมาไม่ดีอย่างที่เคลม (เหมือนแจ๊ซอีกเช่นกัน) การขยับไปเล่น Prius หรือลดเงินลงมาเล่น 1.8 เบนซินธรรมดาในท้องตลาดที่มีส่วนต่างแสนสองแสน ก็คงคุ้มค่ากว่ากันแน่นอนครับ
งานนี้เชื่อว่าคงกระเทือนยอดพรีอุสรุ่นล่างในช่วงแรกๆอยู่ไม่มากก็น้อย ซึ่งอันที่จริงจากปริมาณพรีอุสบนท้องถนนจะเป็นรุ่นTop ไม่ก็ Top option กันกว่า 90% ที่ผมเห็นว่าคงโดนแย่งยอดกันไปคือบรรดา C segment 2.0 ลิตรนั่นแหละ อยู่ที่ว่าจะเลือกแรง หรือเลือกประหยัด
ถ้ามองยอดที่ฮอนด้าตั้งไว้ที่ 600 คันต่อเดือน ผมยังสงสัยอยู่ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ ปกติซีวิคมียอดขายต่อเดือนประมาณ 2000-3000 คัน การเพิ่มขึ้นมาอีก 600 คันแน่นอนว่าต้องมีการกินยอดของตัว 2.0 ออกไปบ้าง ดังนั้นฮอนด้าน่าจะคาดหวังยอดรวมอยู่ที่ 2500-3500 คันโดยประมาณเมื่อคิดรวมยอดขายเบนซินเข้าไปด้วย การเพิ่มยอดขายอีกประมาณ 20-25% แบบนี้จากการเปิดตัวรุ่น HB ทั้งสองรุ่นย่อย ผมยังมองไม่ออกว่าเอาเข้าจริงๆจะเข้าเป้าได้อย่างง่ายดายหรือเปล่า คงต้องลุ้นเอาใจช่วยฮอนด้ากันต่อไป
จะได้เห็นโตโยต้าขยับตัวหาทางทำราคา หรือเพิ่มรุ่นย่อย/เพิ่มความคุ้มค่าให้แก่ผู้บริโภคที่มองพรีอุสบ้าง