ยังดีเจอแค่กล้วยไม่ใช่ป.ปืน
คนสมัยนี้นี่แปลกนะครับทำท่าเหมือนรีบร้อนมากๆๆจะพาคนเจ็บโคม่าไปส่งโรงพยาบาลทั้งที่จริงแล้วไม่ได้มีความจำเป็นขนาดนั้น ถ้าคนที่รีบจริงๆจะไม่มาเสียเวลาปาดหน้าหรือเอาคืนคันที่ขับช้าเลยเพราะเค้ามีธุระที่เร่งด่วนกว่ากันมาก แคมรี่คันนั้นก็แค่เข้าเซเว่นซึ่งไม่น่าจะมีห้องน้ำให้ใช้บริการการเพราะเค้าไม่ให้คนนอกเข้าไปอยู่แล้ว
เร่งแบบงี่เง่าหาเรื่องคนอื่นแบบนี้ผมก็เคยเจอมาเหมือนกัน สองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เองที่ห้างเมก้าบางนา รถหลายๆคันที่ต่อด้านท้ายน่าจะกันได้ ผมเข้าห้างจากทางบางนาตราดฝั่งขาออกที่ขึ้นสะพานกลับรถแล้วชิดซ้ายจะเข้าตัวห้าง ผมก็เข้าห้างมาแล้วมาทางซ้ายที่จะต้องไปจอดรถตรงเขตที่มีร้านอาหารด้านนอกเยอะๆๆน่ะ ทีนี้พอถึงตรงทางโค้งที่เลนขนาด1.5เลนจะบีบเลหือเลนเดียวผมก็ชลอรถลงเพราะว่าพอพ้นโค้งไปปุ๊บก็จะเจอเนินชลอรถแบบสามเหลี่ยมที่ค่อนข้างชันเหมือนกัน ถ้าไม่ชลอกระแทกแรงๆรถพังหมด
ตอนก่อนเข้าโค้งนั้นเองก็มีแคปทิว่าสีขาว(คนใช้รุ่นนี้สงสัยจะเกลียดผม
)พุ่งมาอย่างเร็วปาดเข้าข้างหน้าผมก่อนเข้าโค้งเฉียดหน้าผมไปนี๊ดดดดดเดียวเอง ผมก็บีบแตรสามทีพร้อมกระพริบไฟสั้นๆ1ครั้งเพราะว่าโมโหกับการขับขี่แสนบ้าคลั่งของเค้าที่แซงทางโค้งกระชั้นชิด พอผ่านโค้งไปแล้วก็จะมีการวางกรวยแบ่งช่องเดินรถเป็นสองช่องทางผมก็เปิดไฟเลี้ยวเปลี่ยนเลนชิดขวาครับเพราะกะว่าจะไปกันคนละทางไม่ตามกันอยู่แล้ว เค้าก็อยู่เลยนซ้ายไป แคปทิว่าคันนั้นก็มีท่าทีแปลกๆที่จอดหยุดอยู่กับที่แล้วไม่ยอมไปไหนซึ่งก็ผิดปกติแล้ว ผมก็ตรงไปด้วยความเร็วปกตินะไม่ได้เร่งอะไรพอรถสองคันขนานกันเท่านั้นแหละแคปทิว่าคันนั้นเร่งเครื่องหมายจะมาปาดหน้าทันที ชนิดที่ว่าทะลุกรวยที่วางไว้กันเลยทีเดียว
แต่ผมก็พอเดาท่าทีออกเลยเร่งไม่ยอมให้เข้ามาปาดหน้าได้ไม่อย่างนั้นได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแน่ๆ
เรื่องมันไม่จบแค่นั้นเพราะเหมือนว่าที่เค้าปาดหน้าไม่ได้ยิ่งสุมไฟความคลั่งของเค้าให้ร้อนกว่าเดิม พอจังหวะที่ผมชลอรถลงก่อนขึ้นเนินสามเหลี่ยม (ฟังดูทะลึ่งนิดๆนะ
) แคปทิว่าคันนั้นก็มาจี้ท้ายผมอีกแบบกระชั้นชิดอย่างเร็วและเสี่ยงชนท้ายมากๆครั้งที่สองแล้วที่จงใจหาเรื่องแบบนี้ ทันทีที่ลงเนินปุ๊บผมหมดความอดทนเปิดประตูเดินลงไปหาด้านคนขับทันที คนขับเป็นผู้ชายท่าทางอายุสามสิบนิดๆหัวล้านๆรูปร่างค่อนข้างผอมตัวไม่สูง ข้างๆเหมือนจะเป็นภรรยาที่มีทีท่าตื่นตระหนกพยายามห้ามเต็มที่ เค้าไม่ลงมาจากรถหรอกนะแต่เปิดกระจกตะคอกผมทันที "มึมจะขับช้าทำไมเกะกะถนน" ผมก็ตอบเค้าไปว่า "แล้วมึมไม่เห็นเหรอว่าเป็นทางโค้งแล้วก็มีเนินนี่ก็จะเข้าลานจอดรถแล้วมึมจะรีบไปไหน" คนขับก็เหมือนอึ้งสักพักแล้วก็พูดอกมาว่า "มึมอยากจะมีเรื่องใช่มะ" พอจบประโยคของเค้าผมก็คว้ากรวยกั้นรถขึ้นมาทันที กะว่าจังหวะที่เค้าเปิดประตูลงรถลงหัวโผล่ลงมาเมื่อไหร่ผมจะฟาดให้เต็มที่เลย ตอนนั้นผมคิดว่ารังแกกันถึงขนาดนี้แล้วคงจะหนีไม่ได้อีกแล้วคงต้องเปิดก่อน ใส่ก่อนได้เปรียบ
แต่ตานั่นเค้ากลับไม่ลงมาแฮะได้แต่จ้องผมจากผมรถแล้วก็พูดว่า "มึมจะเล่นแบบนี้ใช่ไหม ได้ ด้ายยย" แล้วก็ปิดกระจกค่อยเลื่อนรถแซงรถผมที่ขวางข้างหน้าไปอีกทาง อ้าวเฮ้ยยยยจุดชนวนหาเรื่องแล้วหนีกันง่ายๆแบบนี้เรอะ?
สรุปแล้วไอ้หมอนี่ก็เป็นอีกคนนึงที่มีรถเอาไว้รังแกคนอื่น คิดว่ามีรถแล้วมีอำนาจแล้วเหลิงเอามาใช้ในทางที่ผิด คงจะเคยรังแกคนอื่นมาหลายครั้งแล้วคนอื่นยอมจนเหิมเกริมตามมาราวีผมถึงสองครั้ง โดยที่ผมไม่ได้ไปปาดหน้าหรือทำอะไรเค้าเลย มีแต่ผมโดนกระทำทั้งนั้น คงจะเสพย์ความรุนแรงจากที่ไหนสักแห่งมาแล้วมาใช้กับคนอื่นๆในสังคมจริงด้วยพฤติกรรมที่ต่ำช้า มันฮาตรงที่พออีกฝ่ายแข็งข้อพร้อมจะมีเรื่องด้วยแล้วแต่กลับอึ้งแล้วเห่าหนีไป คนสมัยนี้มันสุดแสนจะบ้า กร่าง โง่ เซ่อจริงๆเฮ้อๆๆๆ