ผู้เขียน หัวข้อ: พัดลมหม้อน้ำ มีความสำคัญขนาดไหน??... พัดลมหม้อน้ำ 2 ตัว ดียังไง??  (อ่าน 44712 ครั้ง)

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ช่วงนี้อากาศร้อนนะครับ พัดลมหม้อน้ำของคุณเป็นยังไงบ้าง...??

สงสัยนิดหน่อยครับ
ผมขับรถไปห้าง-จอดแวะส่งของ-ขับกลับบ้าน ในระยะทางแค่ 15 กิโลเมตร ในชานเมือง
ขากลับ ได้ยินเสียงพัดลมหม้อน้ำ ดังตลอดเวลา
อายมากครับ พัดลมหม้อน้ำวีออส ดังอย่างกับเครื่องดีเซล วื๊อออๆๆ ตลอดเลย

คุณพ่อบอกว่า ถ้าเป็นแคมรี่หรือวิช มันมีพัดลมหม้อน้ำ 2 ตัว
คุณพ่อกับผมเลยเกิดฉุกใจคิดขึ้นมาได้ว่า
ในขณะที่รถใหญ่ๆแบบแคมรี่ เกิดตัวใดตัวนึงเสีย อีกตัวก็ยังอยู่ บรรเทาได้บ้าง
แต่รถเล็กๆแบบวีออส ถ้ามันเสียขึ้นมา พัดลมมีตัวเดียว รถก็น๊อคเอาได้ง่ายๆ

.................

อยากทราบครับ ว่าคุณให้ความสำคัญกับพัดลมหม้อน้ำบ้างมั้ย??

ดูแลยังไง?? ถ้ามันเสีย เครื่องจะฮีทไปเลยมั้ย
มันต่างกับระบบวาลว์น้ำที่ระบายความร้อนยังไง มันทำงานร่วมกันหรือเปล่าครับ??

ออฟไลน์ kvlegendstar

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 204
ตอบแบบคนความรู้น้อยนะครับ

ผมว่ามันสำคัญมาก ถ้าใช้ในเมือง วิ่งๆ หยุดๆ ถ้าวิ่งต่อเนื่องลมมันพอช่วยได้ครับ

วิธีรักษานี่ผมไม่รู้จริงๆ

เวลามันเสีย มันจะไม่ฮีทไปเลยหรอกครับ แต่ความร้อนมันจะค่อยๆขึ้น ฉะนั้นเป็นหน้าที่ของคนขับที่ต้องคอยดูมาตรวัดอุณหภูมิด้วย และก็ค่อยหมั่นเพียรเช็คน้ำในหม้อน้ำ และ คอยฟังเสียงพัดลมทำงานด้วยว่ามันจะปกติอยู่มั้ย เพราะจากที่เคยๆเห็น พัดลมหมอน้ำ ส่วนใหญ่ที่พังมักจะเป็นกรณีลูกปืนแตก(จากประสบการณืรถบ้านตัวเองนะครับ

ส่วนที่ผมคิดว่า วีออสมันมีตัวเดียว เพราะห้องเครื่องมันเล็กครับ แค่นั้นก็อัดกันจะแย่อยู่แล้ว

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
รถที่เสปคมันมีสองตัว เสียตัวนึง ก็ต้องจอดอยู่ดีครับ ไม่งั้นฮีทขี้นรถพังหมด
รถที่มี ตัวเดียว มันทำงานหลายระดับครับ เบา กลาง แรง ถ้าทำงาน แค่สองระดับ เบา กลาง ก็ต้องจอดอยู่ดีครับ ฮีทขึ้นครับ

ไม่เกี่ยวกับการมีสองตัวดีกว่าหนึ่งตัวแต่ประการใด อยู่ที่การดีไซน์ ครับ

ส่วนเสียงดัง คุณลองไปฟังของเบนซ์ เปอโยต์ จะรู้ว่า ดังกว่ารถคุณหลายเท่าเชียวครับ

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
มันขึ้นอยู่ที่การออกแบบของรถยนต์คันนั้นๆ

วงจรการควบคุมของรถแต่ละคัน ต่อให้เป็นพัดลมไฟฟ้าเดี่ยว

หรือคู่เหมือนกัน ฟังก์ชั่นการทำงานไม่เหมือนกัน เช่น พักลมคู่ในรถคันนึง

พัดลมตัวหนึ่งคุมแอร์แยกกับความร้อนโดยสิ้นเชิง ีกคันอาจจะทำงานด้วย

กันเช่นเปิดแอร์ทำงานตัวนึง พออุณหภูมิสูง ระบบจะถูกoverride ให้ทำงาน

สองตัวในสเต็ปแรงขึ้น บางคันเป็นพัดลมไฟฟ้าตัวนึง ทำงานโดยแอร์หรือความร้อนเครื่อง

อีกตัวเป็นพัดลมฟรีปั๊ม(Viscous coupling fan) อันนี้ก็แล้วแต่ ตราบใดที่ระบบ

สมบูรณ์ และหมั่นตรวจสอบการทำงานของพัดลม ก็ไม่น่ามีปัญหา ตราบใดที่

น้ำไม่ขาด พัดลมทำงาน ปั๊มน้ำ วาล์วน้ำ ไม่มีปัญหา ไม่ค่อยมีอะไร

ส่วนเรื่องเสียงดังสำหรับVios ผมว่า ระดับเสียงนั้น อีหนูข้างห้องกระซิบยังดังกว่าครับ

ลองไปดูรถยุโรปดูครับ ทุกยี่ห้อไม่ว่าจะเป็น ยี่ห้ออะไรดังทุกคัน แต่รุ่นใหม่ๆมันดีหน่อย

เพราะใบพัดมันเริ่มเป็นใบกวัก เสียงจะเบาและเวลามันทำงาน มันจะค่อยๆ

เพิ่มสปีด ขึ้นหรือลดลง ถ้าเป็นสมัยก่อน เวลามันทำงาน สเต็ปแรง ก็ทำเลยทันที

เสียงจะอื้ออึง รถรุ่นใหม่มันจะค่อยๆเร่งสปีดขึ้นไป ฟังดูรื่นรมย์กว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2013, 15:39:35 โดย popdemonic »

ออฟไลน์ myalexxp

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 829
รถเสียผมถึงจะซ่อมครับ

ถ้าไม่เสีย ผมไม่ยุ่งเลย กลัว จะบานปลายไปส่วนอื่นๆ

แค่บำรุงรักษาตามคู่มือก็พอแล้วสำหรับผม

ขับปกติ ไม่ซิ่ง ชอบนุ่มๆเงียบๆ สบายๆมากกว่าครับ

รถแต่ละคันที่ใช้ก็เลย ไม่ค่อยมาภาระเรื่องซ่อมจุกจิก

 :)

ออฟไลน์ TnP_PKt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,430
Soluna al50 มี 2 ตัวนะครับ

รถผมเคยเจ้งไปข้างนึง แต่เป็นตัวเล็ก

อยากจะบอกว่าไม่รู้เลยครับ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย

ความร้อนก้ไม่ขึ้น ใช้แก้สด้วยนะครับ ตอนนั้นผมสงสัยว่า

ทำมัยเสียงพัดลมมันดังจัง เลยเปิดฝากระโปรงนั่งดู 15 นาที

ถึงบางอ้อเลยครับ ดับสนิทไปหนึ่งตัว ปกติผมเช็ครถตอนเช้า

ทุกสัปดาห์ แต่ตอนเช้าเครื่องไม่ร้อนเลยไม่รุ้ ว่างๆก้นั่งดูกันด้วยนะครับ

เพราะไม่มีอะไรผิดปกติจิงๆ ความร้อนไม่ขึ้น น้ำไม่หาย

ทั้งๆที่รถผมทั้งติดแก้ส แล้ววิ่งในเมืองตลอดด้วยนะครับ

ออฟไลน์ chaivat

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 177
    • อีเมล์
ยังไม่มีใครตอบ

มันต่างกับระบบวาลว์น้ำที่ระบายความร้อนยังไง มันทำงานร่วมกันหรือเปล่าครับ??

วาลว์น้ำ (Thermostat) ทำหน้าที่กักน้ำในระบบหล่อเย็นของเสื้อสูบไม่ให้มีอุณหภูมิต่ำเกินไป
โดยทั่วไป วาวล์น้ำจะเปิดให้น้ำผ่านไปที่หม้อน้ำ(ด้านบน)ที่อุณหภูมิประมาณ 80 องศาเซนติเกรด
ควบการปิดเปิดโดย Wax ที่อยู่ในตัว วาวล์น้ำเป็นส่วนหนึ่งของระบบหล่อเย็น ปล่อยน้ำไปให้หม้อน้ำ
เป็นระยะๆ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ขับรถตอนฝนตก ตอนกลางคืน ที่สูงๆ วาวล์น้ำใช้งานได้เต็มที่

หมายเหตุ พัดลมไฟฟ้าควบคุมการทำงานด้วน Thermo switch และทำงานพร้อม Compressor แล้วแต่การออกแบบวงจร

ออฟไลน์ -Anonymous-

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,428
  • Catch me if you can !!!
มันขึ้นอยู่ที่การออกแบบของรถยนต์คันนั้นๆ

วงจรการควบคุมของรถแต่ละคัน ต่อให้เป็นพัดลมไฟฟ้าเดี่ยว

หรือคู่เหมือนกัน ฟังก์ชั่นการทำงานไม่เหมือนกัน เช่น พักลมคู่ในรถคันนึง

พัดลมตัวหนึ่งคุมแอร์แยกกับความร้อนโดยสิ้นเชิง ีกคันอาจจะทำงานด้วย

กันเช่นเปิดแอร์ทำงานตัวนึง พออุณหภูมิสูง ระบบจะถูกoverride ให้ทำงาน

สองตัวในสเต็ปแรงขึ้น บางคันเป็นพัดลมไฟฟ้าตัวนึง ทำงานโดยแอร์หรือความร้อนเครื่อง

อีกตัวเป็นพัดลมฟรีปั๊ม(Viscous coupling fan) อันนี้ก็แล้วแต่ ตราบใดที่ระบบ

สมบูรณ์ และหมั่นตรวจสอบการทำงานของพัดลม ก็ไม่น่ามีปัญหา ตราบใดที่

น้ำไม่ขาด พัดลมทำงาน ปั๊มน้ำ วาล์วน้ำ ไม่มีปัญหา ไม่ค่อยมีอะไร

ส่วนเรื่องเสียงดังสำหรับVios ผมว่า ระดับเสียงนั้น อีหนูข้างห้องกระซิบยังดังกว่าครับ

ลองไปดูรถยุโรปดูครับ ทุกยี่ห้อไม่ว่าจะเป็น ยี่ห้ออะไรดังทุกคัน แต่รุ่นใหม่ๆมันดีหน่อย

เพราะใบพัดมันเริ่มเป็นใบกวัก เสียงจะเบาและเวลามันทำงาน มันจะค่อยๆ

เพิ่มสปีด ขึ้นหรือลดลง ถ้าเป็นสมัยก่อน เวลามันทำงาน สเต็ปแรง ก็ทำเลยทันที

เสียงจะอื้ออึง รถรุ่นใหม่มันจะค่อยๆเร่งสปีดขึ้นไป ฟังดูรื่นรมย์กว่า
ตามนี้เลยครับ ใช้ครูซดีเซลอยู่ เวลาอัดหรืออากาศร้อนมากๆ พัดลมก็โคตรดังเลยครับ มีหลายระดับมากๆ เพื่อระบายความร้อนให้ทัน

ออฟไลน์ rocky55555

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 630
ผมงงอย่างนึง รถยุโรปที่เคยใช้ทุกคัน พัดลมจะทำงานแทบตลอดไม่มีเสียงเลย เปิดฝากระโปงมามันก็จะหมุนตลอดแต่เบาบ้างแรงบ้างเวลาร้อนมากๆ
แต่พอมาใช้civic พัดลมมันติด ตัด ตลอดเวลา ทำงานไม่เดิน 10 วิก็จะตัด อีก 5 วิมันก็ติด ดูแล้วมีแนวโน้มว่าจะพังเร็วแน่นอนเลย

ออนไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,101
ลองมองแบบง่ายๆครับ
- ถ้าไม่มีพัดลมหม้อน้ำ
  รถวิ่งต่อไม่ได้ เพราะระบายความร้อนของเครื่องยนต์ไม่เพียงพอ
  ถ้าฝืนวิ่งต่อเกิด OVER HEAT เครื่องยนต์เสียหายครับ
  ถ้าฝืนหนักๆใช้จนเครื่องดับเองมีสิทธิเจ๊งถาวร เปลี่ยนเครื่องเท่านั้น (ซ่อมได้แต่ไม่หายครับ)
  
- ถ้าไม่มีวาวล์น้ำ
  รถวิ่งได้นะครับ
  แต่ขณะที่เครื่องยนต์เย็น เช่น สตาร์ทรถตอนเช้า หรือ จอดรถทิ้งไว้นานๆ
  จะทำให้เครื่องยนต์ร้อนช้า เครื่องยนต์ไม่อยู่ในอุณหภูมิใช้งาน
  เครื่องไม่สามารถใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ และสึกหรอสูงมากครับ

วาวล์น้ำทำให้เครื่องยนต์ถึงอุณหภูมิทำงานได้รวดเร็วขึ้น
พัดลมหม้อน้ำช่วยควบคุมอุณหภูมิไม่ให้มากเกินจนทำให้เครื่องยนต์เสียหาย
ทั้งสองตัวจะช่วยกันรักษาให้เครื่องยนต์อยู่ในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2013, 02:37:58 โดย redsun »

ออฟไลน์ YAmodels

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,025
มันขึ้นอยู่ที่การออกแบบของรถยนต์คันนั้นๆ

วงจรการควบคุมของรถแต่ละคัน ต่อให้เป็นพัดลมไฟฟ้าเดี่ยว

หรือคู่เหมือนกัน ฟังก์ชั่นการทำงานไม่เหมือนกัน เช่น พักลมคู่ในรถคันนึง

พัดลมตัวหนึ่งคุมแอร์แยกกับความร้อนโดยสิ้นเชิง ีกคันอาจจะทำงานด้วย

กันเช่นเปิดแอร์ทำงานตัวนึง พออุณหภูมิสูง ระบบจะถูกoverride ให้ทำงาน

สองตัวในสเต็ปแรงขึ้น บางคันเป็นพัดลมไฟฟ้าตัวนึง ทำงานโดยแอร์หรือความร้อนเครื่อง

อีกตัวเป็นพัดลมฟรีปั๊ม(Viscous coupling fan) อันนี้ก็แล้วแต่ ตราบใดที่ระบบ

สมบูรณ์ และหมั่นตรวจสอบการทำงานของพัดลม ก็ไม่น่ามีปัญหา ตราบใดที่

น้ำไม่ขาด พัดลมทำงาน ปั๊มน้ำ วาล์วน้ำ ไม่มีปัญหา ไม่ค่อยมีอะไร

ส่วนเรื่องเสียงดังสำหรับVios ผมว่า ระดับเสียงนั้น อีหนูข้างห้องกระซิบยังดังกว่าครับ

ลองไปดูรถยุโรปดูครับ ทุกยี่ห้อไม่ว่าจะเป็น ยี่ห้ออะไรดังทุกคัน แต่รุ่นใหม่ๆมันดีหน่อย

เพราะใบพัดมันเริ่มเป็นใบกวัก เสียงจะเบาและเวลามันทำงาน มันจะค่อยๆ

เพิ่มสปีด ขึ้นหรือลดลง ถ้าเป็นสมัยก่อน เวลามันทำงาน สเต็ปแรง ก็ทำเลยทันที

เสียงจะอื้ออึง รถรุ่นใหม่มันจะค่อยๆเร่งสปีดขึ้นไป ฟังดูรื่นรมย์กว่า
ตามนี้เลยครับ ใช้ครูซดีเซลอยู่ เวลาอัดหรืออากาศร้อนมากๆ พัดลมก็โคตรดังเลยครับ มีหลายระดับมากๆ เพื่อระบายความร้อนให้ทัน
นั่นสินึกถึงลูกค้าผมขับ คาราเวล T6 มาหาเลย
เสียงพัดลมดังมาก ดังกว่าพัดลมเซียงกงในรถผมซะอีก ;D

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
อุปกรณ์ในระบบระบายความร้อนสำคัญมากทุกตัว ไม่ว่าจะวาล์วน้ำหรือพัดลม หรือปั๊มน้ำครับ

วาล์วน้ำหรือThermostat ทำงานตรงตัว เป็นgate คอยเปิด-ปิด ให้น้ำ flow เข้าไปในblock

หรือกักเอาไว้ตอนที่ยังไม่ถึงอุณหภูมิทำงาน หากตัวนี้ไม่ทำงาน (ศัพท์ช่างลูกทุ่ง

จะเรียกว่าวาล์วน้ำตาย) ก็ฮีทเพราะ ของเหลวมันไม่สามารถนำพา

ความร้อนมาระบายผ่านแผงหน้าหม้อ หรือหากในระบบมีจุดรั่ว ก็ฮีทเพราะ? ต่อให้พัดลม

ทำงานเป่าให้ตาย แต่ในเมื่อไม่มีของเหลวนำพาความร้อนออกจากเครื่องออกมา พัดลม

ทำงานให้ตายก็ฮีทครับ แต่ในบางกรณี หากพัดลมไม่ทำงาน มันก็สามารถใช้งานได้เช่น

ขับรถตอนเช้าๆรถไม่ติดวิ่งโฟลว์เรื่อยๆ ไม่ได้จอดไฟแดงนานๆ เพราะน้ำจะถูกวนผ่าน

แผงหน้าหม้อซึ่งโดนลมปะทะระบายความร้อนจากน้ำตลอดเวลา แบบนี้ก็ไม่ฮีทครับ แตถ้ารถเริ่มติด

หรือมีการแบบเร่งแล้วจอดแบบนี้ ความร้อนสะสมจะมาก แบบนี้ฮีทได้ครับ


ผมงงอย่างนึง รถยุโรปที่เคยใช้ทุกคัน พัดลมจะทำงานแทบตลอดไม่มีเสียงเลย เปิดฝากระโปงมามันก็จะหมุนตลอดแต่เบาบ้างแรงบ้างเวลาร้อนมากๆ
แต่พอมาใช้civic พัดลมมันติด ตัด ตลอดเวลา ทำงานไม่เดิน 10 วิก็จะตัด อีก 5 วิมันก็ติด ดูแล้วมีแนวโน้มว่าจะพังเร็วแน่นอนเลย


อธิบายให้เห็นภาพครับ ระบบแอร์รถยุโรปกับรถญ๊่ปุ่นในสมัยก่อนนั้น จะแตกต่างกันอย่างนึงคือ

แอร์รถญี่ปุ่นนั้นจะควบคุมความเย็นของระบบแอร์ โดยใช้เทอร์โมสตรัท พอเย็นถึงอุณหภูมิ หนึ่งที่เราpreset ไว้ปุ้บ มันจะตัดการทำงานของคอมเพรซเซอร์แอร์

เมื่ออุณหภูมิในห้องโดยสารสูงขึ้น คอมเพรซเซอร์แอร์จะกลับมาทำงานอีกครั้ง ตรงนี้คือสาเหตุที่ทำไม พัดลมของรถญี่ปุ่นทำๆหยุดๆเป็นพัก

ส่วนรถฝรั่งคอมเพรซเซอร์จะทำงานตลอดเวลา แต่ควบคุมอุณหภูมิในห้องโดยสาร โดยใช้น้ำร้อนในระบบฮีทเตอร์มาผสม ในตู้แอร์จะมีแผงคอยล์เย็น และแผง

คอยล์ร้อน ซึ่งระบบฮีทเตอร์มันก็คือน้ำในหม้อน้ำเรานั่นแหละครับ มีวาล์วเปิดปิดให้น้ำเข้ามาในแผงคอยล์ร้อน การควบคุมอุณหภูมิต่างกัน ระบบแบบรถฝรั่ง

จะมีข้อดีคือ มันคุมอุณหภูมิได้ดีกว่า และตัวจะไม่เหนียวเหนอะหนะครับ แต่ข้อเสียก็มี ในเรื่องของการซ่อมบำรุง ขอข้ามรายละเอียดไปแล้วกัน  พัดลมไฟฟ้า

ของรถญี่ปุ่นโดยมากจะทำงานควบคู่กับหน้าคลัทช์แอร์ และthermo switchของระบบความร้อน เช่น ถ้าคอมแอร์ตัด(clutch disengaged) พัดลมก็หยุดหมุน

ส่วนรถยุโรปนั้น ทำงานโดยหน้าคลัทช์แอร์เช่นกันแต่จะมี pressure switch อยู่ที่แผงคอยล์ร้อน 1ตัว เรียก Hi pressure switch ถ้าอยู่ที่แผงคอยล์เย็น เรียก

low pressure switch พวกนี้จะเป็นตัวสั่งให้ คอมแอร์ทำงาน พร้อมๆกับพัดลมไฟฟ้า ตามสเต็ป ถ้าpressure ไม่ถึงแอร์ก็จะไม่ทำงาน เพราะระบบสันนิษฐานว่า

น้ำยาแอร์รั่ว ถ้าสั่งให้ทำงานคอมแอร์จะพังเพราะน้ำมันคอมในระบบมันจะไหลออกมาพร้อมกับน้ำยา ส่วนถ้าแรงดันเกิดตัวhi pressure switch ก็จะทำงาน

เหมือนsafety switch ตัดการทำงานคอมแอร์ เพราะถ้าปล่อยให้ทำต่อ ระบบอาจจะระเบิดได้ครับ นี่คือสาเหตุว่าทำไมคอมแอร์ของรถยุโรปถึงทำงานตลอดเวลา

ครับ ถ้ามันหยุดทำเมื่อไหร่ นั่นคือมีปัญหาครับ ที่เห็นๆคือตระกูล BMW Audi VW เนี่ยแหละครับ ที่เฟิร์มว่า คอมแอร์ทำงานตลอดเวลา

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
พัดลมหม้อน้ำ ถ้าเลือกได้ ผมจะขอแบบคู่เสมอ และทำงานสองสปีด เบากับแรง
ผมเคยขับ NX ไปแล้วจู่ๆ Watertemp เพิ่มจาก 88 ไปอยู่ 100 ถ้วน ก็เลยจอดรถ
แล้วสำรวจ พบว่าพัดลมเดี้ยงไปหนึ่งตัว เลยเห็นคุณค่าของมันว่านี่ขนาดซัดๆมา
แล้วเจอรถติด มี 1 ตัวมันยังพอเอาตัวรอดได้

แต่รถสมัยนี้เหลือ 1 ตัว Tiida ก็มีตัวเดียว ผมก็กลัวมันพังระหว่างเดินทางไกล
แต่มาคิดอีกที..จะยากอะไร รถเพิ่งวิ่งมา 65,000 ผมก็จับเปลี่ยนมอเตอร์
พัดลมมันซะเลย แล้วเอาตัวเก่าที่ยังไม่เสีย เก็บไว้ในรถ ทีนี้เราก็มีระบบสำรอง
แม้ไม่สะดวกนักแต่การเดินทางก็สามารถเป็นไปได้โดยสบายใจขึ้น

พัดลมเป็นสิ่งสำคัญ สำคัญแค่ไหน เอาเป็นว่ารถ Tiida ผมหลังจากติดเทอร์โบไป
ถ้าซัดตึงๆ Watertemp ไปที่ 100 ประจำ ตอนหลังแก้ใหม่ เวลาซัดจะลงมาเหลือ
92 ..ผมทำอะไรไปหรือ? แค่ต่อวงจรให้พัดลมสปีดเบาทำงานตลอดเวลาเท่านั้นเอง
พัดลมโทรมเร็ว..แต่มอเตอร์ตัวละกี่บาทล่ะ ไม่เห็นคิดมาก
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
แล้วถ้ามีการต่อให้ไอเย็นจากในช่องแอร์เป่าออกมาในห้องเครื่องแบบเอื่อยๆเบาๆล่ะครับ? มันจะกว่าพัดลมธรรมดาเป่าไหม?
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออนไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,101
ผมงงอย่างนึง รถยุโรปที่เคยใช้ทุกคัน พัดลมจะทำงานแทบตลอดไม่มีเสียงเลย เปิดฝากระโปงมามันก็จะหมุนตลอดแต่เบาบ้างแรงบ้างเวลาร้อนมากๆ
แต่พอมาใช้civic พัดลมมันติด ตัด ตลอดเวลา ทำงานไม่เดิน 10 วิก็จะตัด อีก 5 วิมันก็ติด ดูแล้วมีแนวโน้มว่าจะพังเร็วแน่นอนเลย


อธิบายให้เห็นภาพครับ ระบบแอร์รถยุโรปกับรถญ๊่ปุ่นในสมัยก่อนนั้น จะแตกต่างกันอย่างนึงคือ

แอร์รถญี่ปุ่นนั้นจะควบคุมความเย็นของระบบแอร์ โดยใช้เทอร์โมสตรัท พอเย็นถึงอุณหภูมิ หนึ่งที่เราpreset ไว้ปุ้บ มันจะตัดการทำงานของคอมเพรซเซอร์แอร์

เมื่ออุณหภูมิในห้องโดยสารสูงขึ้น คอมเพรซเซอร์แอร์จะกลับมาทำงานอีกครั้ง ตรงนี้คือสาเหตุที่ทำไม พัดลมของรถญี่ปุ่นทำๆหยุดๆเป็นพัก

ส่วนรถฝรั่งคอมเพรซเซอร์จะทำงานตลอดเวลา แต่ควบคุมอุณหภูมิในห้องโดยสาร โดยใช้น้ำร้อนในระบบฮีทเตอร์มาผสม ในตู้แอร์จะมีแผงคอยล์เย็น และแผง

คอยล์ร้อน ซึ่งระบบฮีทเตอร์มันก็คือน้ำในหม้อน้ำเรานั่นแหละครับ มีวาล์วเปิดปิดให้น้ำเข้ามาในแผงคอยล์ร้อน การควบคุมอุณหภูมิต่างกัน ระบบแบบรถฝรั่ง

จะมีข้อดีคือ มันคุมอุณหภูมิได้ดีกว่า และตัวจะไม่เหนียวเหนอะหนะครับ แต่ข้อเสียก็มี ในเรื่องของการซ่อมบำรุง ขอข้ามรายละเอียดไปแล้วกัน  พัดลมไฟฟ้า

ของรถญี่ปุ่นโดยมากจะทำงานควบคู่กับหน้าคลัทช์แอร์ และthermo switchของระบบความร้อน เช่น ถ้าคอมแอร์ตัด(clutch disengaged) พัดลมก็หยุดหมุน

ส่วนรถยุโรปนั้น ทำงานโดยหน้าคลัทช์แอร์เช่นกันแต่จะมี pressure switch อยู่ที่แผงคอยล์ร้อน 1ตัว เรียก Hi pressure switch ถ้าอยู่ที่แผงคอยล์เย็น เรียก

low pressure switch พวกนี้จะเป็นตัวสั่งให้ คอมแอร์ทำงาน พร้อมๆกับพัดลมไฟฟ้า ตามสเต็ป ถ้าpressure ไม่ถึงแอร์ก็จะไม่ทำงาน เพราะระบบสันนิษฐานว่า

น้ำยาแอร์รั่ว ถ้าสั่งให้ทำงานคอมแอร์จะพังเพราะน้ำมันคอมในระบบมันจะไหลออกมาพร้อมกับน้ำยา ส่วนถ้าแรงดันเกิดตัวhi pressure switch ก็จะทำงาน

เหมือนsafety switch ตัดการทำงานคอมแอร์ เพราะถ้าปล่อยให้ทำต่อ ระบบอาจจะระเบิดได้ครับ นี่คือสาเหตุว่าทำไมคอมแอร์ของรถยุโรปถึงทำงานตลอดเวลา

ครับ ถ้ามันหยุดทำเมื่อไหร่ นั่นคือมีปัญหาครับ ที่เห็นๆคือตระกูล BMW Audi VW เนี่ยแหละครับ ที่เฟิร์มว่า คอมแอร์ทำงานตลอดเวลา


พัดลมหม้อน้ำ ถ้าเลือกได้ ผมจะขอแบบคู่เสมอ และทำงานสองสปีด เบากับแรง
ผมเคยขับ NX ไปแล้วจู่ๆ Watertemp เพิ่มจาก 88 ไปอยู่ 100 ถ้วน ก็เลยจอดรถ
แล้วสำรวจ พบว่าพัดลมเดี้ยงไปหนึ่งตัว เลยเห็นคุณค่าของมันว่านี่ขนาดซัดๆมา
แล้วเจอรถติด มี 1 ตัวมันยังพอเอาตัวรอดได้

แต่รถสมัยนี้เหลือ 1 ตัว Tiida ก็มีตัวเดียว ผมก็กลัวมันพังระหว่างเดินทางไกล
แต่มาคิดอีกที..จะยากอะไร รถเพิ่งวิ่งมา 65,000 ผมก็จับเปลี่ยนมอเตอร์
พัดลมมันซะเลย แล้วเอาตัวเก่าที่ยังไม่เสีย เก็บไว้ในรถ ทีนี้เราก็มีระบบสำรอง
แม้ไม่สะดวกนักแต่การเดินทางก็สามารถเป็นไปได้โดยสบายใจขึ้น

พัดลมเป็นสิ่งสำคัญ สำคัญแค่ไหน เอาเป็นว่ารถ Tiida ผมหลังจากติดเทอร์โบไป
ถ้าซัดตึงๆ Watertemp ไปที่ 100 ประจำ ตอนหลังแก้ใหม่ เวลาซัดจะลงมาเหลือ
92 ..ผมทำอะไรไปหรือ? แค่ต่อวงจรให้พัดลมสปีดเบาทำงานตลอดเวลาเท่านั้นเอง
พัดลมโทรมเร็ว..แต่มอเตอร์ตัวละกี่บาทล่ะ ไม่เห็นคิดมาก

ได้ความรู้เพียบเลยครับ สนุกมากครับ  :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2013, 10:34:39 โดย redsun »