ก็ใช้คำว่า ยอดขายพิสูจน์ "ทุกอย่าง" ความหมายคือ เมื่อใช้ยอดขายเป็นเกณฑ์ ใครมีเลขมากกว่า แปลว่าเหนือกว่า "ทุกอย่าง"
แล้วคำว่า "ทุกอย่าง" ของคุณ "ยกเว้น" อะไรไว้บ้างละครับ?
ถ้ายกเว้น รถคนละเซกเมนต์ ยกเว้นสมรรถนะช่วงล่าง ยกเว้นความแข็งแรง ยกเว้นความปลอดภัย ฯลฯ...แล้ว "ยอดขาย" มันจะพิสูจน์ "ทุกอย่าง" ตรงไหน?
ผมถึงได้บอกว่า คำนี้ไม่ถูก ยอดขายสะท้อนได้แค่ความนิยมครับ ส่วนเหตุผลแห่งความนิยมนั้น เป็นอีกเรื่องนึง อาจนิยมเพราะราคาถูก อาจนิยมเพราะราคาแพง อาจนิยมเพราะโก้เก๋ มีสไตล์ ซึ่งเหตุผลแห่งความนิยม "ก็ไม่ได้เป็นตัวพิสูจน์ทุกอย่างเช่นกัน"
โทรศัพท์แบรนด์จีน มียอดขายมากกว่า Samsung มากกว่า iPhone ยอดขายพิสูจน์ทุกอย่าง...หรือเปล่า?
ผมไม่รู้ว่าคุณอายุเท่าไร่นะครับ เคยศึกษาเรื่องการตลาดมาบ้างหรือเปล่า หรือพิจารณาคำว่า "ยอดขาย" อย่างไร
ที่ผมบอกว่า ยอดขายจะเป็นตัวพิสูจน์ทุกอย่าง ผมหมายความตามนี้เลย
เวลาที่เราพิจารณายอดขายของสินค้าหนึ่งๆ เราจะบอกได้อย่างไรว่าสินค้านั้นขายดีหรือไม่ ตรงใจผู้บริโภคหรือเปล่า ก็ต้องเปรียบเทียบกับยอดขายของปีที่ผ่านๆมา Feedback ของลูกค้า และเทียบกับคู่แข่ง
ซึ่งทั้งนี้ เวลาเราเปรียบเทียบยอดขาย ก็ต้องเทียบกับสินค้าในเซกเม้นเดียวกันอยู่แล้วครับ
ท่านคิดยังไงที่เอามือถือจากจีนมาเทียบกับ iPhone หรือ Samsung
แค่โพสมาแบบนี้ผมก็ว่าน่าตลกแล้ว ท่านต้องเอายอดขายของโทรศัพท์ประเภทเดียวกัน ราคาใกล้เคียงกัน มาเปรียบเทียบกันครับ
ผมจะยกตัวอย่างให้พอเห็นภาพ ว่ายอดขาย ที่ท่านบอกว่า บอกได้แค่ความนิยมนั้น มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เพราะคำว่าความนิยม มันมีปัจจัยที่ส่งผลถึงเรื่องนี้มากมาย
ตัวอย่างเช่น ทำไมยอดขายของ Nissan Teana ถึงดีกว่า Honda Accord ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ Accord เป็นผู้นำมาตลอด นั้นเพราะลูกค้าอยู่ๆหันมานิยม Nissan Teana หรือ Honda ออกรถกั้กออฟชั่นเหรอครับ ก็ไม่ใช่ถูกไหมครับ เป็นเพราะคุณภาพ และความพึงพอใจของลูกค้าล้วนๆ
หรือแม้กระทั่ง Altis ซึ่งถ้าเราไม่คิดจำนวนรถ Fleet ที่ทำพวก Taxi ออก ยอดขายของ Civic ก็แซงนะครับ เพราะรถทำออกมาได้ดีกว่าจริงๆ แต่ยี่ห้ออื่นๆก็ยังเทียบไม่ได้ในหลายๆเรื่อง
ผมไม่ได้มาตอบ เพราะจะเชียร์เจ้าตลาดนะครับ เพราะไม่ใช่ว่าเจ้าตลาดจะขายดีไปซะทุกรุ่น
เวลาเราพิจารณาแนวทางการพัฒนาสินค้า ไม่ใช่ไปนั่งเที่ยวจับผิดสินค้าของคู่แข่ง หรือโทษว่าผู้บริโภคนั้น เลือกเพราะค่านิยม เลือกเพราะติดยี่ห้อ
แต่ต้องคิดว่า ทำอย่างไรเราถึงจะทำให้สินค้าเราไปอยู่ในใจผู้บริโภคให้ได้ต่างหาก ไม่อย่างนั้นโตโยต้าเอง คงไม่สามารถไปยิ่งใหญ่ในอเมริกา ซึ่งมีFord และ GM เป็นเจ้าตลาดได้
เหมือนกับ TV ของ Samsung ก็คงผงาดเหนือ Sony ไม่ได้ ถ้าเค้ามัวแต่คิดจะตามอยู่ตลอดครับ
ก็ที่อธิบายมาทั้งหมด คุณก็เห็นด้วยอยู่เป็นนัยแล้วว่า ยอดขาย ไม่ได้พิสูจน์ "ทุกอย่าง"

จะโกรธาไปใย พิจารณาดูให้ดีๆ ว่าจุดเน้นของผมอยู่ที่ประเด็นอะไร
ที่ผมแสดงความเห็นไป ยังไม่ได้โจมตีหรือยกยอสินค้ายี่ห้อใดเป็นการเฉพาะเลย ผมไม่ได้เน้นไปที่ตัวสินค้าด้วยซ้ำ
ผมเน้นคำว่า "ยอดขาย" "ทุกอย่าง" ซึ่งวลีนั้น ผมเห็นว่ามันไม่จริง แต่เห็นชอบเอามาใช้กัน อาจจะเพราะเคยได้ยินมา ฟังแล้วรู้สึกเหมือน "เออ ใช่เว่ย

"
หรือหากได้พูดวลีนี้แล้ว ทำให้อีกฝ่ายอึ้ง ตอบไม่ถูก....แต่ยังไงๆ ผมก็ยังเห็นว่า วลีนี้ มันไม่จริงอยู่ดี
ซึ่งจริงๆคำว่า "ทุกอย่าง" มันต้องไม่ยกเว้น ต้องไม่มีเงื่อนไข ถ้ายกเว้น แล้วมันจะทุกอย่างได้ยังไง
ห้ามจอดรถทุกชนิด ยกเว้น รถ จยย.
ห้ามจับสัตว์น้ำทุกชนิด ยกเว้นปลาหมอ

แต่ต่อให้มีเงื่อนไขว่า "ในเซกเมนต์เดียวกัน" ลองดูตัวอย่างครับ
รถที่มียอดขายมากกว่า จะประหยัดน้ำมันกว่ารถที่มียอดขายน้อยกว่า
รถที่มียอดขายมากกว่า จะแรงกว่ารถที่มียอดขายน้อยกว่า
รถที่มียอดขายมากกว่า จะสวยกว่ารถที่มียอดขายน้อยกว่า
รถที่มียอดขายมากกว่า จะมีสมรรถนะที่ดีกว่ารถที่ยอดขายน้อยกว่า
รถที่มียอดขายมากกว่า จะปลอดภัยกว่ารถที่มียอดขายน้อยกว่า
รถที่มียอดขายมากกว่า จะมีนวัตกรรมมากกว่ารถที่มียอดขายน้อยกว่า
รถที่มียอดขายมากกว่า จะทนทานมากกว่ารถที่มียอดขายน้อยกว่า
รถที่มียอดขายมากกว่า จะมี defect ในเชิงปริมาณหรือในเชิงความรุนแรงน้อยกว่า รถที่มียอดขายน้อยกว่า
รถที่มียอดขายมากกว่า จะมีราคาถูกกว่ารถที่มียอดขายน้อยกว่า
-------------------------- ฯลฯ --------------------------------
(เยอะละครับ...ยกตัวอย่างไม่ไหว)
ลองตอบคำถามด้วยคำตอบ F T จากตัวอย่างข้างบน ถ้าทุกตัวอย่างเป็น T หมด นั่นละครับ "ยอดขายพิสูจน์ทุกอย่าง"
เช่นนี้แล้ว วลีที่ว่า ยอดขายมันจะพิสูจน์ทุกอย่าง มันจะยังเป็นจริงอีกหรือ?
