ผู้เขียน หัวข้อ: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise  (อ่าน 9520 ครั้ง)

ออฟไลน์ ball1424

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 18
    • อีเมล์
สวัสดีครับ
          ผมเพิ่งสมัครเป็นสมาชิกใหม่
         ผมสนใจอยากซื้อ BMW ซีรี่5 E60 ซึ่งมี 2 รุ่น คือ 520i และ 525ise
แต่ตอนแรกผมมองรุ่น 520D แต่ว่ามันแพงไปครับเลยตัดออกก่อน
ที่นี้ก็เลยเหลือ 2 รุ่นนี้ จากการที่ผมศึกษาในเวปBMW มาบ้าง ส่วนใหญ่เชียร์ให้เล่น 525ise เนื่องจาก option เยอะกว่า และราคาไม่หนี 520i มากนัก

แต่เนื่องด้วย 525ise เป็นระบบพวงมาลัยไฟฟ้า ในขณะที่ รุ่น 520i เป็นระบบธรรมดา จึงทำให้เสียค่าซ่อมสูง
นั่นหมายความว่าoption ยิ่งมาก ยิ่งทำให้เสียค่าซ่อมสูงขึ้น   (ส่วนตัวไม่ซีเรียสเรื่องความแรงที่น้อยกว่าหรือเรื่องของoption)

รุ่น 520i ไม่ค่อยมีคนพูดถึงเลยครับ มันไม่ดีหรือเปล่าครับ หรือ ว่าเมืองนอกไม่มีรุ่นนี้ เลยทำให้หาอะไหล่จากเชียงกงยาก

คิดแบบนี้ถูกมั้ยครับ ถ้าเป็นเพื่อนๆ มีความคิดเห็นว่าอย่างไร
1.ควรซื้อที่ราคาเท่าไรดี
2.ค่าซ่อมบำรุงรักษาแพงมั้ย
3.ถ้าได้รถมา ผมเตรียมค่าซ่อมไว้ประมาณ 200,000 บาท จะอยู่ในงบมั้ยครับ ( ค่าเกียร์เห็นบอกว่าราคา 7-8 หมื่นบาท, ค่าซ่อมแอร์ 3-4 หมื่นบาท)


ผมมีประสบการณ์กับรถยุโรปอยู่บ้างคือ ตอนนี้ผมใช้Benz W124 E220อยู่ครับ ส่วนมากถ้าซ่อม ผมซ่อมอู่บ้าง ดัดแปลงเองบ้าง

ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ :)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 24, 2013, 12:46:22 โดย ball1424 »

ออฟไลน์ berm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 520
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 13:34:46 »
520i อย่าเอาเลยครับ จำนวนรถมีน้อย แถมมันเป็นเครื่อง 2.2 ลิตร 170 แรงม้า
 
ซึ่งผมคิดว่า อะไหล่บางตัวมันใช้กับรุ่น 525 ไม่ได้ อะไหล่น่าจะหายากอยู่

หาเล่นเป็น 523i (ตัวไมเนอร์) หรือ 525i ตัวไม่ se (ตัวยังไม่ไมเนอร์) ก็ได้ครับ

ถ้ากลัวเรื่องพวงมาลัย active steering  ราคาไม่หนีกันเท่าไหร่ ล้านต้นๆ พอหาได้

ออฟไลน์ ball1424

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 18
    • อีเมล์
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 15:31:23 »
ขอบคุณครับ
สรุปไม่น่าเล่นใช่ไหมครับ 520i เนี่ย
งั้นผมคงต้องมอง 525i ไม่ se ครับ
523i เครื่องฝาเทานี่เห็นว่าเครื่องตัวนี้ไม่ค่อยดีหรือเปล่าครับ
จะกัดฟันเล่น ดีเซล ก็เสียดายเงิน
เรื่องค่าซ่อมบำรุงอย่างอื่น ท่านใดมีข้อมลูรบกวนบอกกล่าวด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ  8)

ออฟไลน์ berm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 520
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 17:46:12 »
ลองหาข้อมูลใน bmwsociety ดูนะครับ จะมีสมาชิกท่านนึงที่ชื่อ ter(enforce)

ใช้ 530i เค้าจะเอาบิลค่าซ่อมในศูนย์ มาให้ดู ถ้าถามผมก็ต้องบอกว่าอะไหล่แพงมากๆๆ

แต่ถ้าเทียบกับ benz w211 ผมว่าก็ไม่หนีกันเท่าไหร่ ส่วนที่ว่าซื้อเท่าไหร่ ตอนนี้ปี 04

เต้นท์รับเข้าน่าจะแปดแสนกว่าๆครับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 19:10:00 »
525i เถอะครับ

แต่ระวังแรคพวงมาลัยให้ดีๆครับ รุ่นนี้

ออฟไลน์ Mr.Mee

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 35
    • อีเมล์
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 19:12:54 »
ไม่เคยใช้ 520i
แต่ขอแชร์ว่า ไม่น่าเล่น เพราะค่าตัวรถ เทียบกับตัวที่สูงกว่าพอเป็นมือ 2 น่าจะต่างกันไม่มาก
กินนำ้มันดีไม่ดีจะกินกว่ารุ่นพี่ เพราะเครื่องเล็กกว่า แบกนำ้หนักเท่ากัน ซ่อมก็ไม่น่าจะถูกกว่า

ผมใช้  523i ซื้อเพราะไม่อยากได้พวงมาลัยไฟฟ้า
ใช้มา 12x,xxx.- km. รู้สึกว่ารถมันไม่ได้จุกจิกเลย มีเสียให้เห็นทีเดียวตลอดการใช้งานคือแอร์ไม่เย็น
และอยู่ในช่วงตอนมี BSI  
หลัง  BSI หมด 5  ปี ตอนนั้นวิ่งไป 8x,xxx km.- ซ่อมข้างนอก มาเฉลี่ย 2-30,000.-  บาท
ต่อทุก 10,000.-  km ซ่อมแบบเปลี่ยนอะไหล่  

กินนำ้มัน 6-7-8 km/l ในเมือง มากสุดที่ทำได้คือ 11+- km/l โดยรวมถือว่าพอใจครับ

แต่ทุกวันนี้ย้อนคิดทีไรก็รู้สึกว่าน่าจะซื้อ 520d ครับ

ออฟไลน์ ball1424

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 18
    • อีเมล์
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 20:45:27 »
ไม่เคยใช้ 520i
แต่ขอแชร์ว่า ไม่น่าเล่น เพราะค่าตัวรถ เทียบกับตัวที่สูงกว่าพอเป็นมือ 2 น่าจะต่างกันไม่มาก
กินนำ้มันดีไม่ดีจะกินกว่ารุ่นพี่ เพราะเครื่องเล็กกว่า แบกนำ้หนักเท่ากัน ซ่อมก็ไม่น่าจะถูกกว่า

ผมใช้  523i ซื้อเพราะไม่อยากได้พวงมาลัยไฟฟ้า
ใช้มา 12x,xxx.- km. รู้สึกว่ารถมันไม่ได้จุกจิกเลย มีเสียให้เห็นทีเดียวตลอดการใช้งานคือแอร์ไม่เย็น
และอยู่ในช่วงตอนมี BSI 
หลัง  BSI หมด 5  ปี ตอนนั้นวิ่งไป 8x,xxx km.- ซ่อมข้างนอก มาเฉลี่ย 2-30,000.-  บาท
ต่อทุก 10,000.-  km ซ่อมแบบเปลี่ยนอะไหล่ 

กินนำ้มัน 6-7-8 km/l ในเมือง มากสุดที่ทำได้คือ 11+- km/l โดยรวมถือว่าพอใจครับ

แต่ทุกวันนี้ย้อนคิดทีไรก็รู้สึกว่าน่าจะซื้อ 520d ครับ

520d นี่เป็นตัวแรกก็ได้ใช่ไหมครับ หรือต้องเป็นเครื่องรุ่นใหม่
ราคา 520d ส่วนที่แพงกว่า  525 ก็อยากเอามาซ่อมบำรุง 525 น่ะครับ
เลยไม่อยากไป 520d

[/quote]
525i เถอะครับ

แต่ระวังแรคพวงมาลัยให้ดีๆครับ รุ่นนี้
ขอบคุณครับคงเป็น 525 ไม่ se

[/quote]
ลองหาข้อมูลใน bmwsociety ดูนะครับ จะมีสมาชิกท่านนึงที่ชื่อ ter(enforce)

ใช้ 530i เค้าจะเอาบิลค่าซ่อมในศูนย์ มาให้ดู ถ้าถามผมก็ต้องบอกว่าอะไหล่แพงมากๆๆ

แต่ถ้าเทียบกับ benz w211 ผมว่าก็ไม่หนีกันเท่าไหร่ ส่วนที่ว่าซื้อเท่าไหร่ ตอนนี้ปี 04

เต้นท์รับเข้าน่าจะแปดแสนกว่าๆครับ
ก็ไปนั่งอ่านอยู่นานละครับโหดมากๆๆๆๆ ถ้าเข้าศุนย์ จะลองหาอู่นอกดูครับ
ส่วนราคาแบบนี้จะหาได้ที่ไหนครับประมาณว่าจะซื้อแพงกว่าเต้นน่ะครับ

ออฟไลน์ suaii

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 53
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 21:59:39 »
เต้นย์กับศูนย์ใครตีเข้าโหดกว่ากันคับ เทรินศุนย์ 525ise 04 จะได้เท่าไรคับ

ออฟไลน์ CookiE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 875
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 22:06:53 »
ตอนซื้อผมก็เลือกระหว่าง 525i และ 525iSe นะครับ

สุดท้ายเลือก 525iSe เนื่องจากทรงของพวงมาลัยล้วน ๆ

จากการใช้มา พวงมาลัยไฟฟ้าแบบแอคทีพมันซ่อมได้ครับ ของผมตอนนั้นซ่อมไปตอนวิ่ง 120k ตอนนี้ 200k

เกือบ ๆ ปีครึ่งละ วิ่งทุกวัน วิ่งยาว วิ่งเร็ว มุดมันส์ ยังไม่เคยเสียอีกเลย เสียค่าซ่อมไป 6,500 บาท

(มีอุปกรณ์ 7 ตัวที่มีความเสี่ยงจะเสียสำหรับแร็คไฟฟ้า แต่ละตัวราคาไม่เท่ากัน แต่ก็ไม่แพงมาก ประมาณนี้ละ)

ออฟไลน์ Mr.Mee

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 35
    • อีเมล์
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 23:03:01 »
ตอนซื้อผมก็เลือกระหว่าง 525i และ 525iSe นะครับ

สุดท้ายเลือก 525iSe เนื่องจากทรงของพวงมาลัยล้วน ๆ

จากการใช้มา พวงมาลัยไฟฟ้าแบบแอคทีพมันซ่อมได้ครับ ของผมตอนนั้นซ่อมไปตอนวิ่ง 120k ตอนนี้ 200k

เกือบ ๆ ปีครึ่งละ วิ่งทุกวัน วิ่งยาว วิ่งเร็ว มุดมันส์ ยังไม่เคยเสียอีกเลย เสียค่าซ่อมไป 6,500 บาท

(มีอุปกรณ์ 7 ตัวที่มีความเสี่ยงจะเสียสำหรับแร็คไฟฟ้า แต่ละตัวราคาไม่เท่ากัน แต่ก็ไม่แพงมาก ประมาณนี้ละ)

รบกวนแนะนําหน่อยครับว่าตอนนี้ service ที่ไหน หลังไมค์ก็ดี thank you kub

ออฟไลน์ ball1424

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 18
    • อีเมล์
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เมษายน 24, 2013, 23:28:43 »
ตอนซื้อผมก็เลือกระหว่าง 525i และ 525iSe นะครับ

สุดท้ายเลือก 525iSe เนื่องจากทรงของพวงมาลัยล้วน ๆ

จากการใช้มา พวงมาลัยไฟฟ้าแบบแอคทีพมันซ่อมได้ครับ ของผมตอนนั้นซ่อมไปตอนวิ่ง 120k ตอนนี้ 200k

เกือบ ๆ ปีครึ่งละ วิ่งทุกวัน วิ่งยาว วิ่งเร็ว มุดมันส์ ยังไม่เคยเสียอีกเลย เสียค่าซ่อมไป 6,500 บาท

(มีอุปกรณ์ 7 ตัวที่มีความเสี่ยงจะเสียสำหรับแร็คไฟฟ้า แต่ละตัวราคาไม่เท่ากัน แต่ก็ไม่แพงมาก ประมาณนี้ละ)
ขอที่ทำด้วยคนทำที่ไหนอ่ะครับจะได้เก็บไว้เป็ยข้อมูล

ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: เมษายน 25, 2013, 08:20:59 »
ผมเล็งมาตลอดเลย 525ise รวมไปถึง 520d ด้วย แต่ส่วนตัวเจอ 520d หลายคันเสียงดังมากๆ หลังจากขึ้นปีที่ 3 เลยตัดใจไปหา 525ise แต่ต้องหาตัวที่ซ่อมแร็คพวงมาลัยแล้วนะ เพราะสำคัญที่ SE มีคือเบาะ comfort นั่งสบายอย่างบอกใคร เล่น series 5 ต้องทำใจ เห็นบิลค่าซ่อมแล้วก็หนาวๆ แต่ตัดใจเพราะชอบ บอดี้ E60 มากกว่า F10 เยอะเลย พอต้องหาอีกคัน ผมทำการบ้านแบบสุดๆ ราคาก็พอดีไม่เกิน 2m สำหรับรุ่น sport สุดท้าย แต่สุดท้ายไม่ผ่าน ผบ เลยไปจบที่ X1 สำหรับคันต่อไป เพียงเพราะ BSI เจงๆ ครับ

ผมว่าหากรถหมด BSI แล้ว อาจจะต้องเตรียมค่าซ่อมมากกว่านั้นนะ เผื่อๆ ไว้อะครับ แต่ body สวยมาก จับใส่ชุด M5 นะ สุดแล้วครับ ตัวนี้
S3 - F30
X1 - E84

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,662
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: เมษายน 25, 2013, 10:42:25 »
525iSE ผมใช้อยู่คับ

ก่อนซื้อเช็คประวัติมาแล้ว ทำแอร์อู่นอกมาแล้ว ทำแร็คศูนย์มาแล้วถึงน่าซื้อ รุ่นนี้ถ้าไม่ใช่ตัวท็อปผมมองข้ามหมด แค่เบาะมันก็กินขาดแล้วคับ พวงมาลัยตัวนี้ขับในเมืองสบายมากๆ เก็บเสียงดี นุ่มหนึบ ขับสบาย แต่ฟีลลิ่งสู้ E39 ไม่ได้เลย อันนั้น หนึบหนับเหมือนตุ๊กแกติดถนน แต่แลกด้วยความทันสมัยกับสวยขึ้นเป็นกอง


แร็คตัวนี้ถ้าแค่รวนๆค่าซ่อมหลักพันเองคับ ยกเว้นแกนสึก เสียหายเยอะมันถึงต้องเปลี่ยนทั้งเส้น ถ้าแบบนี้เป็นแสน

เกียร์ลองขับดูกระตุกรึปล่าวถ้ามีก็ผ่านไปเลย แต่ถ้าไม่มีเอามาแล้วจับถ่ายน้ำมันเกียร์ซะก็จบ หาข้อมูลดีๆนะคับ น้ำมันต้องของมันเฉพาะ เบิกข้างนอกไม่ถึงหมื่นรวมกรองเกียร์ ถ้าทำที่ศูนย์อย่างน้อยๆ2หมื่นปลาย

แอร์ คอมแอร์3-4หมื่น ตู้แอร์ ทั้งคู่อันนี้รถผมทำมาแล้วรอดตัวไป ถ้าเบิกใหม่หมดอะไหล่ศูนย์ทำอู่นอก เจ้าของเก่ารถผมหมดไปเกือบแสน

นอกนั้นรุ่นนี้ผมว่าอาการจุกจิกน้อยลงกว่า e39 เยอะเลยคับ จุดซ่อมเล็กๆน้อยๆมันน้อยลง(หรือมันยังไม่เริ่มพัง) คันเก่าผม e39 ปี04 เก่ากว่าคันนี้เกือบๆปี แต่จุกจิกกว่าเยอะคับ  

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 25, 2013, 10:51:14 โดย teera_tech »
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ ball1424

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 18
    • อีเมล์
Re: อยากซื้อ BMW 520i น่าซื้อมั้ย หรือ รุ่น 525ise
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: เมษายน 25, 2013, 17:45:33 »
ผมเล็งมาตลอดเลย 525ise รวมไปถึง 520d ด้วย แต่ส่วนตัวเจอ 520d หลายคันเสียงดังมากๆ หลังจากขึ้นปีที่ 3 เลยตัดใจไปหา 525ise แต่ต้องหาตัวที่ซ่อมแร็คพวงมาลัยแล้วนะ เพราะสำคัญที่ SE มีคือเบาะ comfort นั่งสบายอย่างบอกใคร เล่น series 5 ต้องทำใจ เห็นบิลค่าซ่อมแล้วก็หนาวๆ แต่ตัดใจเพราะชอบ บอดี้ E60 มากกว่า F10 เยอะเลย พอต้องหาอีกคัน ผมทำการบ้านแบบสุดๆ ราคาก็พอดีไม่เกิน 2m สำหรับรุ่น sport สุดท้าย แต่สุดท้ายไม่ผ่าน ผบ เลยไปจบที่ X1 สำหรับคันต่อไป เพียงเพราะ BSI เจงๆ ครับ

ผมว่าหากรถหมด BSI แล้ว อาจจะต้องเตรียมค่าซ่อมมากกว่านั้นนะ เผื่อๆ ไว้อะครับ แต่ body สวยมาก จับใส่ชุด M5 นะ สุดแล้วครับ ตัวนี้
ค่าซ่อม 2 แสนไม่พอหรือครับว๊ากกกกกกกกกกกกก............จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก
สงสัยต้องกลับไปจุดเริ่มอีกครั้ง 555
แต่มันสวยบาดใจจริงๆครับรุ่นนี้


525iSE ผมใช้อยู่คับ

ก่อนซื้อเช็คประวัติมาแล้ว ทำแอร์อู่นอกมาแล้ว ทำแร็คศูนย์มาแล้วถึงน่าซื้อ รุ่นนี้ถ้าไม่ใช่ตัวท็อปผมมองข้ามหมด แค่เบาะมันก็กินขาดแล้วคับ พวงมาลัยตัวนี้ขับในเมืองสบายมากๆ เก็บเสียงดี นุ่มหนึบ ขับสบาย แต่ฟีลลิ่งสู้ E39 ไม่ได้เลย อันนั้น หนึบหนับเหมือนตุ๊กแกติดถนน แต่แลกด้วยความทันสมัยกับสวยขึ้นเป็นกอง


แร็คตัวนี้ถ้าแค่รวนๆค่าซ่อมหลักพันเองคับ ยกเว้นแกนสึก เสียหายเยอะมันถึงต้องเปลี่ยนทั้งเส้น ถ้าแบบนี้เป็นแสน

เกียร์ลองขับดูกระตุกรึปล่าวถ้ามีก็ผ่านไปเลย แต่ถ้าไม่มีเอามาแล้วจับถ่ายน้ำมันเกียร์ซะก็จบ หาข้อมูลดีๆนะคับ น้ำมันต้องของมันเฉพาะ เบิกข้างนอกไม่ถึงหมื่นรวมกรองเกียร์ ถ้าทำที่ศูนย์อย่างน้อยๆ2หมื่นปลาย

แอร์ คอมแอร์3-4หมื่น ตู้แอร์ ทั้งคู่อันนี้รถผมทำมาแล้วรอดตัวไป ถ้าเบิกใหม่หมดอะไหล่ศูนย์ทำอู่นอก เจ้าของเก่ารถผมหมดไปเกือบแสน

นอกนั้นรุ่นนี้ผมว่าอาการจุกจิกน้อยลงกว่า e39 เยอะเลยคับ จุดซ่อมเล็กๆน้อยๆมันน้อยลง(หรือมันยังไม่เริ่มพัง) คันเก่าผม e39 ปี04 เก่ากว่าคันนี้เกือบๆปี แต่จุกจิกกว่าเยอะคับ 


แล้วเสียค่าซ่อมประมาณปีละเท่าไหร่ครับ
แบบใช้งานทั่วไปน่ะครับ ไม่รวมรายการหนักๆอย่างที่ว่ามาอ่ะครับ