ทำไงดีอยากได้ f10 แต่ ถ้า 5 ปีหาย 2 ล้านเหมือนทำงานฟรีเลยครับ

PEAY

  ดูจากสถิติรถ BMW  สมมุติว่าราคา 3 ล้านพอหมด bsi ราคาจะเหลือประมาณ 1 ล้าน เท่านั้น เท่ากับ เงิน 2 ล้านหายไปภายใน 60 เดือนตกเดือนละ 33333.33 บาท ผมว่าเงินก้อนนี้ถ้าผมตัดสินใจซื้อนี่
  สู้เอาไปลงทุนดี ๆ 5  ปีนี่มี 10 ล้านได้เลยนะครับ อยากถามว่าผมควรทำไงดีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 29, 2013, 18:28:22 โดย PEAY »



syamana

เล่น F10 เป็นตัวดีเซลสิครับ 520d 525d ขนาด E60 520d ราคายังแรงอยู่อ่ะครับ



f1rstgot

เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องปกติของรถยนต์ครับ
รถยนต์ เขาขายให้สำหรับคนที่มีความพร้อมครับ
ถ้าคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะหมดไปเดือนละ3หมื่นกว่าบาทเป็นเวลา5ปี สบายๆ ก็จัด
แต่ถ้า คิดแบบที่พิมพ์มาอยู่ ผมว่าอย่าเพิ่งซื้อครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 29, 2013, 18:35:43 โดย f1rstgot »



|||

คำตอบอยู่ในคำถามครับ
เอาเงินไปลงทุน รอ 5 ปีให้ได้ 10 ล้าน
แล้วค่อยซื้อ BMW

คนที่พร้อมจะซื้อ BMW สักคัน
เงินหายไปเดือนละ 3หมื่น น้อยกว่าค่าเที่ยวค่ากินของเยอะครับ
ถ้าเงินหายไปเดือนละ 3หมื่นแล้วคุณเครียด แปลว่าคุณยังไม่พร้อมครับ



kruttha

แบบนี้ไงครับ ผมถึงซื้อสด เพราะจะได้เสียแต่ค่าเสื่อม ไม่เสียค่าดอก
คิดว่าซื้อของขวัญให้ชีวิตบ้าง ความสุขล้วนๆ หมด BSI ก็ขายซื้อรุ่นอื่น



Alcatraz

คำตอบอยู่ในคำถามครับ
เอาเงินไปลงทุน รอ 5 ปีให้ได้ 10 ล้าน
แล้วค่อยซื้อ BMW

คนที่พร้อมจะซื้อ BMW สักคัน
เงินหายไปเดือนละ 3หมื่น น้อยกว่าค่าเที่ยวค่ากินของเยอะครับ
ถ้าเงินหายไปเดือนละ 3หมื่นแล้วคุณเครียด แปลว่าคุณยังไม่พร้อมครับ


+1 เอามาทั้งๆที่ไม่พร้อม จะทุกข์มากกว่าสุขแน่ๆ



mypop

ถ้าเท่ากับทำงานฟรี หันมาเล่น คัมรี่ ไอบริด หรือ แอคคอร์ด g9 ตัวท๊อปก็ได้ครับ

รายได้ส่วนเกินผมสามารถผ่อน BM ได้เดือนละ 5.5  หมื่นสบายๆ แต่ผมเสียดายตังค์ ไปผ่อน ACC G9 ตัวล่างสุด เดือนละ 2.5 หมื่น

อีกสามหมื่น ฝากธนาคาร ครับ

ผ่านไป 5 ปี เงินหายแค่ 5-6 แสน เฉลี่ยแค่เดือนละหมื่นครับ



MystogaN

ไม่พร้อมก็อย่าเลยครับ จริงๆ ถ้าไม่งั้นซื้อพวกรถ Sport จะตกน้อยกว่าพอสมควรครับ



neutrino

ผมว่า "ความอยากและความเสียดายเงินที่หดหายไป" คนเองก็สรุปได้แล้วนี่ครับ ถ้าเป็นผม ผมจะลดละเลิกความอยากครับ ผมเคยอยากได้รถ(วัตถุ) แบบอยากได้ไม่ได้ แทบเรียกว่าถ้าไม่ได้จะคลั่งให้ได้ แล้วพยายามเก็บเงินหามาให้ได้ แต่พอเงินที่เก็บได้ใกล้ครบ ผมเกิดเสียดายเงินขึ้นมาครับ และความอยากก็หดหายไปเอง ครานั้นทำให้ผมเข้าใจสัจจธรรมเลยว่า "ความอยากก็คือกิเลสเท่านั้น" เมื่อมันเข้ามาหาเราได้ มันก็ออกจากตัวเราได้ครับ แล้วผมก็ได้นำเงินนั้นไปซื้อพันธบัตรแทน 555



Sman

ถ้าไม่พร้อมอย่าซื้อครับ

รถราคาสูง เวลาลงก็เยอะตามไปด้วยครับ

ที่บอกลงน้อยน่ะ กี่ล้านครับ

รถผมหมดบีเอสไอก็ขายไปครับ ซื้อมา 2.6 ล้านบาท ใช้ไป 5 ปี ขายได้ 1.1 ล้านบาทครับ ราคาก็หายไปจริงๆ ครับ



Tonge

ถ้าซื้อไหว ไม่เดือดร้อน มีเงินเก็บไว้ยามฉุกเฉินแล้วก็ซื้อเลยครับ รางวัลชีวิต
อยากทราบครับว่า ลงทุนอะไรได้กำไร200%ครับ สนใจอยากลงทุนบ้าง



somchailek

ถ้าใช้รถส่วนมากในสภาพรถติดในกทม. ไม่ได้มีโอกาสenjoyกับสมรรถนะของรถ
แนะนำใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ 



promt

เอาเงินไปลงทุนให้ได้ 20 ล้านก่อน

ค่อยมาซื้อครับ



kimmeng21

เคยมีสมาชิกท่านนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า  :)

"โอกาส มันก็เหมือนสายน้ำ ที่ไหลผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ถ้าคุณไม่ตักตวงมันไว้ สายน้ำมันก็จะไม่ไหลย้อนกลับ"



adminope

คุณภาพมันก็ตามราคาอะคับ

ของถูก mass mass ก็อาจจะมี value มากกว่าระดับนึง
แต่ระดับ f10 หรือว่า e ผมว่า มันก็mass ระดับที่เรียกว่าราคาไม่เวอหรอกคับ

ตามแรงเงิน และคุณภาพชีวิต



sukhontha

คุณก็คงไม่แตกต่างจากผม ..เสียดายเงินหากจะขี่รถดี ๆ ก็ได้ขี่แต่รถมือสอง...ที่เขาเบื่อแล้ว...ให้ออกใหม่ก็ทำใจไม่ได้ตอนขายต่อ..



tap-mzr

รถมีหลายระดับ เหมือน สิ่งของต่างๆ ครับ เหมือน นาฬิกา เหมือน เครื่องเสียง

รถมีประโยชน์เหมือนกัน คือ พาจุด A->B แต่คุณค่าทางจิตใจต่างกัน

.... ผมซื้อรถเก่าๆ มา มีเรื่องให้ทำตลอดเวลา ขับไปเก็บไป

... มีแต่คนถามว่าทำไมไม่ซื้อมือ 1 ก็บอกว่า คันนี้เป็นรถสนองความต้องการครับ มือ 1 รถแบบนี้ซื้อไม่ได้หรอกครับไม่มีปัญญา

บ้านไม่ได้รวยครับ แต่ผมชอบแบบนี้ ไม่ได้อวดว่ารวยด้วย ยังขึ้นรถไฟฟ้า ต่อรถเมล์ครับ

...แต่ซื้อคันนี้มาก็เป็น เงินสดที่ไม่เดือดร้อนอะไรเลย ซ่อมอีกแสนก็ไม่เดือดร้อน

ดังนั้น ถ้าไม่เดือดร้อนอะไรก็ซื้อเถอะครับ รางวัลชีวิต

ถ้าเงินยังไม่มาก...หาความสุขที่เราคว้าถึงดีกว่าครับ... รถทุกคันมีคุณค่าของมันครับ ...

ปล. อีกไม่นานผมก็จะแต่งงาน ... เป้าหมายผมคือ รถญี่ปุ่นที่ไม่ต้องดูแลมัน ไปอีก 5 ปี เดิมๆ ... ขับเดิมๆ ไม่แต่ง ส่งลูกเรียน ส่งแฟนทำงาน
คน ... รัก ... รถ ..   .. รถ ... รัก ... เจ้าของ



Eddy5659

ตามความเห็นผมนะ ผมว่าถ้า2ล้านที่ตกไปมันทำให้สะเทือนใจ ท่านยังไม่ควรถอยนะครับ
ผมเองเคยหลง F10 หัวปักหัวปำ อยากได้ 525d มาก แต่ถ้าซื้อไปผมจะเหลือตังแค่ล้านกว่าบาท ผมเสียดายตัง
ประกอบกับผมได้ลูกชายฝาแฝด เลยต้องระงับอารมณ์ไป

มาถึงตอนนี้ขับ 2.0g extremo acv40 ก็ยังโอเครอยู่ ถึงแม้จะเกลียดความโครงเครง และความหน่วงของคันเร่ง
แต่อีก2-3ปี ถ้าผมยังไม่เปลี่ยนที่ทำงาน ผมจะไปถอยรถดีเซลยกสูงขับและ มันส์กว่า ส่วน BMW ยังไงก็ต้องได้ครอบครองซักวัน
เพียงแต่ตอนนี้ ยังไม่เหมาะ ผมว่าถ้าผมทำงานไปซัก 10 ปี ผมคงจะได้เชยชมแน่ๆ ตอนนี้ทำงานมาได้แค่ 4 ปี ก็ต้องรอคอยต่อไป อิอิอิ
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic



JJ

เอาเงินไปลงทุนก่อนแล้วถ้าพร้อมค่อยซื้อครับ  ;D



dht_tubes

ถามเอง แต่ก็มีคำตอบในใจอยู่แล้ว

งั้นแนะนำให้หามือสองครับ รอซักนิด อดใจซักหน่อย

ตอบโจทย์ได้แน่ ประหยัดตังค์ด้วย

แต่ต้องระวังเหมือนกันนะครับว่า ถ้าเอาไปลงทุนอาจจะไม่เหลือกลับมาซื้อ ก็เกิดขึ้นได้เช่นกันครับ

ขอให้โชคดีได้รถสมความปรารถนา



secrecyguy

D Segment ญี่ปุ่นก็เพียงพอครับ เมื่อยังไม่พร้อมก็ใจเย็นครับ




gorilla

ถ้ารายได้สุทธิผมไม่ถึง 3แสน/เดือน ผมคงไม่ซื้ออ่ะครับ เสียดายเงินครับ ผมชอบรถครับ แต่ผมมีอย่างอื่นที่ต้องเสียเงินกับมันมากกว่าค่าเสื่อมของรถครับ

คงต้องชั่งน้ำหนักดูเองว่าชอบ กำเงิน หรือ ขับรถหรูครับ   ;D ;D ;D



thehmmthehmm

รถเป็นหนี้สินครับ
ไม่ใช่สินทรัพย์
ราคาตกเรื่อยๆ
มีค่าดูแลรักษา ประกัน กรมธรรม์ ล้างรถ ซ่อมโน่นนี่ และค่าน้ำมัน
เว้นแต่จะเอาไปทำให้เกิด Value จากการใช้ ก็ว่ากันไป แต่ก็คงเป็นส่วนน้อยของคนที่ซื้อรถ
ถ้ายังติดใจเรื่องเสื่อมราคา ก็อย่าไปซื้อครับ
แต่ถ้ายอมรับได้ ก็จัดไป



fishfinger

เอางี้นะครับ มันอยู่ที่ความพร้อมของแต่ละคน + เงินสดที่มี

จะซื้อรถ ราคาแพงๆ มันไม่ได้อยู่กับเราตลอดเดี๋ยวมันก็ตกรุ่น

เพื่อความมั่นคง จะเล่น d seg ยุโรป ก็ควรจะมีเงินเก็บหลัก10ล้านหรือหลาย10ล้านขึ้นไป

ผมเชื่อว่าหลายคนในนี้ มีเงินพอจะซื้อ Lambo กันหลายคน แต่ทำไมเค้าไม่ซื้อละ?

มันก็อารมณ์เดียวกัน

ใจเย็นๆครับ

bmw นี่แย่จริงๆชอบทำให้คนได้อยากได้รถ ผมก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน!!





ThinkOutBox

ใช้รถให้เหมาะกับฐานะและเงินเก็บนะครับ จะได้ไม่คิดมาก  ;D



johnlee

เรื่องแบบนี้ผมว่าคนที่มีรายได้พอที่จะซื้อ เขาไม่กังวลนะ ตกคือตก ขายคือขาย ความสุขชีวิต

เหมือนเพื่อนผมคนนึงตอนที่คิดซื้อ 520D E60 ก็คิดมาก ทุบกระปุกของที่บ้านมาเลย

แต่ซื้อแล้วมีความสุข คิดงานคิดการได้อีกหลาย สุดท้ายก็ขายไม่ลง ต้องซื้อที่ข้างๆบ้านเพื่อขยายโรงรถ

แล้วหารถมาแทน ผมก็เพิ่งตั้งกระทู้ช่วยถามไปเมื่อไม่นานนี้นั่นเอง
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t



frame@kk

ช่วงนี้กระแส bmw มาแรงกันจริงจัง ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น 555
เอาเป็นว่าซื้อรถมันไม่เหมือนการลงทุนทำธุระกิจ มันเก็งกำไรไม่ได้
มีแค่ค่าเสื่อมสภาพ ไหนจะค่าผ่อนอีก
ผมเห็นพี่ท่านนึงในบอร์ดเราที่เลือกระหว่าง x1 กับอีกคันนึง(ซึ้งผมจำไม่ได้)
สุดท้ายพี่เขาลงเอยที่ x1 เพราะค่าผ่อนลงตัวไม่เดือดร้อน ได้รถที่ได้ใช้ตามวัตถุประสงค์

เมื่อไหร่ที่พี่จขกท.รู้สึกว่าซื้อรถคันนี้มาแล้วมันไม่เป็นภาระ ก็นั่นแหละครับคือเวลาที่เหมาะสม



Arado_kung

- ถ้าอยากซื้อรถราคา4ล้านแล้วไม่ขาดทุนแนะนำสิบล้อเลยครับ ถ้าหางานดีๆแล้วขับเองได้ไม่เกิน3ปีได้ค่ารถคืนแล้ว 5ปีนี่กำไรเลย

- ลงทุน4ล้าน 5ปีงอกได้10ล้านนี่เยอะนะเออ จขกท.ไปลงทุนอะไรเนี่ย



Boogboeg

ซื้อรถแบบนี้ ใช้ตรรกะเรื่องเงินมาคิดไม่ได้ครับ(ความเห็นส่วนตัวจ้า) เคยคิดแบบนี้แล้วซื้อมาก็ไม่ถูกใจซักที ไม่ถึง 2 ปีก็เปลี่ยน ทีนี้เลยลองไม่คิดเรื่องเงิน เอาอารมณ์และความชอบเป็นหลัก ดูว่าซื้อตามอารมณ์แล้วอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เพราะใช้เหตุผลในการซื้อรถมาครึ่งชีวิตแล้ว เลยจัด slk ให้หายอยากดูซิว่ามันจะเป็นยังไง อารมณ์ล้วน ๆ ครับ



ottojud

คำตอบอยู่ในคำถามครับ
เอาเงินไปลงทุน รอ 5 ปีให้ได้ 10 ล้าน
แล้วค่อยซื้อ BMW

คนที่พร้อมจะซื้อ BMW สักคัน
เงินหายไปเดือนละ 3หมื่น น้อยกว่าค่าเที่ยวค่ากินของเยอะครับ
ถ้าเงินหายไปเดือนละ 3หมื่นแล้วคุณเครียด แปลว่าคุณยังไม่พร้อมครับ

+1 คับ  คนขับใบพัดสีฟ้าส่วนมาก  ผมว่าเงินเค้าคงคล่องตัวพอสมควรครับ (ปล.คนขับbmwจำนวนไม่น้อยเลขทะเบียนติดรถเค้า บางทีซื้อรถญี่ปุ่นคันน้อยๆคันนึงได้สบายเลยครับ)