ผู้เขียน หัวข้อ: เคยมีรถยุโรปคันไหนไหมครับ ที่การขับขี่และสมรรถนะสู้รถญี่ปุ่นในยุคเดียวกันไม่ได้  (อ่าน 8330 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yeahyeahs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 856
สงสัยครับ ว่าตั้งแต่อดีต จนถึงยุคปัจจุบัน รถยุโรปกับญี่ปุ่นใน Class ที่ใกล้เคียงกัน และmodel ในยุคเดียวกัน
มีรุ่นไหนไหมที่ดันมีรถญี่ปุ่นราคาซื้อขายง่าย(รถบ้าน)มีสมรรถนะดีกว่ารถยุโรปราคาหลายล้าน
ขอเป็นรถที่ขายแบบ mass หน่อยนะครับ เช่น Teana เทียบกับ E-Class อะไรแบบนี้
หรือจะเป็นพวก Volkswagen กับ Toyota ก็ได้ ไม่ต้องเทียบกับแบรนด์หรูมาก

ไม่เอารถ supercar นะครับ แบบ GT-R มาเทียบกับ Ferrari อะไรงี้
หรือเอา E-Class W124 มาเทียบกับ Camry 2012 ก็ไม่เอานะครับ ขอเป็นรถปีใกล้ๆกัน
แบรนด์ญี่ปุ่นแต่ราคายุโรปอย่าง Lexus ก็ไม่เอานะครับ ขอเป็นยุโรปจริงๆ
สำหรับ Ford กับ Chevrolet (เฉพาะที่มีขายในไทย ไม่เอาที่มีที่ของเมกา) ขอรวมไว้ในกลุ่มญี่ปุ่นละกันครับ

ผมยังไม่เคยลอง เปอโย408 กับ 508 นะครับ
แต่เพื่อนผมลองขับแล้วบอกว่าสู้ D-segment ญี่ปุ่นไม่ได้ ในเรื่องการขับขี่

ส่วนตัวผมที่สัมผัสมา ผมคิดว่ารถจากค่ายเยอรมันยากครับที่จะแพ้ญี่ปุ่น

ยุโรปที่อาจจะแพ้ญี่ปุ่น ก็อาจเป็นรถสัญชาติฝรั่งเศสครับ

ออฟไลน์ Minny

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 305
    • อีเมล์
ก็คงมีเป็นบางรุ่นแหละค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นพื้นฐานของรถยุโรป และถ้ารุ่นที่มีแรงม้าน้อยกว่ารถญี่ปุ่น จะห่างกันไม่มาก เช่น Benz A180 122 แรงม้า เทียบกับ Nissan Pulsar 1.8 131 แรงม้า

หรือบางรุ่นสมรรถนะเท่าๆ กัน เช่น BMW 320i E90 156 แรงม้า กับ Lancer EX 2.0 156 แรงม้า

แต่ถ้ารถญี่ปุ่น ที่แรงจริงๆ ก็ยังมี Lancer Evolution X ค่ะ เครื่อง 2.0 ลิตร 280 แรงม้า แรงกว่ารถยุโรปเครื่อง V6 3.0-3.5 ทั่วไปอีกค่ะ ลองจับมาเทียบกับ E300 เครื่อง V6 3.0L 219 แรงม้า แบบนี้ Lancer Evolution X ถือว่ายังเหนือกว่ามาก แต่เนื่องจาก ราคา ในไทย ที่เป็นการนำเข้าทั้งคัน กับการเป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง ทำให้โดนภาษีแรงม้า กับภาษีนำเข้าก็เลยแพงกว่าที่คนทั่วไปจะซื้อมาขับได้
ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ
I'm waiting for you, Ford Ecosport Ecoboost!

ออฟไลน์ gorilla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,462
ผมว่าเครื่องญี่ปุ่นยุค 90 ดีกว่าเครื่องยุโรปครับ 

แต่ช่วงล่างคงสู้ไม่ได้อยู่แล้วครับ

Stroke8

  • บุคคลทั่วไป
Lada, Yugo, GAZ, Zaporozhets, Wartburg, Trabant เทียบกับดัทสันสมัยนั้นสู้ไม่ได้เลยครับ

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
แบรนด์ฝรั่งเศสในยุค90ก็ยังเหนือกว่าญี่ปุ่นมาก โดยเฉพาะช่วงล่าง ลองเปอร์โยต์405 เรโนลต์ 21 หรือซีตรอง
Xantia xm ไกลจากรถญี่ปุ่นหลายสิบขุมในยุคนั้นครับ ส่วนเครื่อง ในยุคนั้นๆก็คงอืดเหมือนกันหมดทั้งญี่ปุ่น
หรือยุโรป ถ้ามาเทียบตัวแรง เปอร์โยต์เองก็มีmi-16เครื่อง1900cc อัลฟ่า155ก็มีเครื่อง2.0ทวินสปาร์ค
มาจัดกับcivic fd 2.0 มีหนาว สรุปให้ผมจับคู่ชกตรงๆผมนึกไม่ออก แต่รถญี่ปุ่นยุคนั้นเอาแค่เสียงปิดประตู
หลับตายังแยกรู้เลยครับ แต่ปัจจุบันรถญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นมากครับ เพราะขนาดปี1989 เอาเบนซ์w123 ปี1983
มาเทียบกับแอคคอร์ดlxi ปี1989 รถใหม่ในยุคนั้น w123มันยังเหนือกว่าเกือบทุกด้านเลย

ออฟไลน์ G_6611

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 95
    • อีเมล์
แบรนด์ฝรั่งเศสในยุค90ก็ยังเหนือกว่าญี่ปุ่นมาก โดยเฉพาะช่วงล่าง ลองเปอร์โยต์405 เรโนลต์ 21 หรือซีตรอง
Xantia xm ไกลจากรถญี่ปุ่นหลายสิบขุมในยุคนั้นครับ ส่วนเครื่อง ในยุคนั้นๆก็คงอืดเหมือนกันหมดทั้งญี่ปุ่น
หรือยุโรป ถ้ามาเทียบตัวแรง เปอร์โยต์เองก็มีmi-16เครื่อง1900cc อัลฟ่า155ก็มีเครื่อง2.0ทวินสปาร์ค
มาจัดกับcivic fd 2.0 มีหนาว สรุปให้ผมจับคู่ชกตรงๆผมนึกไม่ออก แต่รถญี่ปุ่นยุคนั้นเอาแค่เสียงปิดประตู
หลับตายังแยกรู้เลยครับ แต่ปัจจุบันรถญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นมากครับ เพราะขนาดปี1989 เอาเบนซ์w123 ปี1983
มาเทียบกับแอคคอร์ดlxi ปี1989 รถใหม่ในยุคนั้น w123มันยังเหนือกว่าเกือบทุกด้านเลย
ชัดเจนมากครับ...รถคันแรกของผมคืิอ 405 mi16และคันที่สองคือซีตรองซองเทีย ในตอนนั้นผมว่ามันสุดๆแล้วนะ!!!

ออฟไลน์ ชายโอ๊ต

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,034
รถญี่ปุ่นปัจจุบันพัฒนาขึ้นมากๆๆๆๆครับ

ไอที่ว่านะคือราคาครับ
อีกไม่นานได้เห็น D segment ราคา 2 ล้านแน่ๆ
(เทียบกับรถยุโรปโดยไม่เน้นประเด็นค่าเงินเฟ้อนะครับ)
"ศัตรูแห่งความก้าวหน้า คือเวลาที่เสียไป"

ออฟไลน์ นครอัญมณี

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,181
    • นครอัญมณี
    • อีเมล์
คำว่า การขับขี่ และ สมรรถนะ
ไม่ใช่ ดูแค่เพียง Spec. บนกระดาษ ที่แรงม้าสูงกว่าเท่านั้นนะครับ
ต้องพิจารณาถึงภาพรวมทั้งหมดด้วย

ตัวอย่าง เช่น
Benz,BMW,Audi ฯลฯ แรงม้าอาจจะน้อยกว่ารถญี่ปุ่น
ออกจากโรงงาน ก็ ขับดี นิ่ง นุ่ม หนึบ อัตราเร่งดี และ ความเร็วปลายเกิน 200 ทุกคันทำได้หมด
แต่ รถญี่ปุ่น แทบจะนับคันได้ ที่จะวิ่งได้เกิน 200 โดยไม่แต่งอะไรเพิ่ม

สรุป รถยุโรป ถ้าเป็นแบรนด์มาตรฐานจริงๆ ที่เอ่ยชื่อมา แล้วรู้จัก
ยังไม่เห็นว่ามี รถเอเชีย ที่จะมี การขับขี่ และ สมรรถนะ ดีกว่ารถยุโรปเลยนะครับ
รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
รถปี90 ส่วนใหญ่ช่วงล่างแพ้ยุโรปแทบทุกรุ่น ขนาดเอา toyota corona หรือ honda accord ไปเทียบกับ opel corsa หรือ vw golf ยังสู้ไม่ได้เลย ส่วนใหญ่platformรถญี่ปุ่นออกแบบได้แย่กว่ารถยุโรป
ส่วนเครื่องยนตร์นี่สูสีบางรุ่นรถญี่ปุ่นดูดีกว่าบางรุ่นก็แย่กว่า อยู่ที่ผู้ำนำเข้าจะเอาอะไรเข้ามาขาย ดูcivic 3dr ยังใช้เครื่องคาบูสุดอืดอยู่เลยเพื่อลดต้นทุน ทั้งที่ญี่ปุ่นวางb16a กันแล่นฉิ๋วเครื่องหัวฉีดประหยัดกว่าเยอะ

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,190
    • อีเมล์
ถ้าเทียบรถตลาดอาจจะยากอยู่ครับ แต่ถ้ารถรุ่นพิเศษหน่อย (ที่ส่วนมากขายแต่ในญี่ปุ่น) และไม่ถึงกับแพงมากก็พอมีบ้าง
อย่าง Toyota Trueno AE86 ที่เป็นรถขับหลังราคาไม่แพงและขับดีมาก Honda Integra DC2 Type R สมัยก่อนนี่รถยุโรปขับหน้าจะเทียบได้นี่ยากครับ พวกขับสี่แบบ EVO หรือ Imp ก็เทียบกับรถขับสี่อย่าง Audi S4 ได้สบายๆ จะขาดก็เพียงรถญี่ปุ่นถ้าเน้นดิบก็ดิบไปเลย ไม่ได้รถที่ทำได้ดีในหลายๆอย่างเหมือนรถยุโรป
ถ้ายุคปัจจุบันคงต้องรถประมาณ Toyota 86 จับไปเทียบกับรถพวก GTI หรือ Cooper S ได้ครับ
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
- ตั้งแต่อดีต จนถึงตอนนี้
รถยุโรปที่ราคาพอๆกับ Mazda MX5
แต่ขับดีเทียบเท่า ในด้านบาลานซ์ พวงมาลัย ช่วงล่าง เบรค ยังไม่เจอครับ
ถ้ากระโดดเป็น Z4 หรือ SLK รุ่นล่างสุด ก็อาจจะโหดร้ายสำหรับ MX5 ไปหน่อย

- Honda NSX คงไม่ต้องอธิบายมาก มันเป็นตำนานไปแล้ว

- Civic Type R ที่ไล่รถสปอร์ตหรือโรดสเตอร์ยุโรปในสนามได้สบายๆ

- ณ ปัจจุบันนี้
คงมี GT-R ที่เป็นหนามยอก 911 อยู่ตลอดเวลา

- Evo & Im ฉายา : ขับ 4 มีหอย ชอบสอยรถสปอร์ต

- แคมรี่เวอร์ชั่นอเมริกา ที่มียอดขายสูงจนประมาทไม่ได้

รถบ้านๆ ไม่ทราบครับ แต่ตำนานเหล่านี้ ก็ประมาทไม่ได้

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
เอาง่ายๆเท่าที่ลองมา
Mercedes-Benz E200CGI,E250CDI Elegance ช่วงล่างที่ความเร็ว 170 น่ากลัวกว่า Camry ตัวใหม่
Volvo S80 เมื่อสามปีก่อน ช่วงล่างไม่ได้ดีไปกว่า Teana และต่อให้มี 2.5 บวกหอย ก็ไม่ได้เร่งดีกว่าเพราะตัวหนัก

Ford Focus ถ้าไม่ใช่รุ่น 2.0 ตัวใหม่ล่าสุด หรือ TDCi โฉมที่แล้ว อัตราเร่งไม่ได้ดีกว่ารถตลาด
แต่ช่วงล่างและพวงมาลัยดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ dusitmon123

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 642
    • อีเมล์
ถ้าตอนนี้ ผมก็ว่ามี Camry HV เนี่ยล่ะ ที่อัตราเร่งและช่วงล่าง ดีนำหน้าหลายคันไปเยอะ แม้แต่ GT-86 ยังสู้ไม่ได้เลยมั้ง

ออฟไลน์ tennessee

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 79
    • อีเมล์
มีครับ รถญี่ปุ่นในเซกเม้นต์ในระดับเดียวกันเทียบรถยุโรป เช่น e-class 124 123  s-class w126 140 series5 กับ 7 ในยุคนั้นออฟชั่น และเทคโนโลยี ความนิ่มนวลสู้ toyota crown  uzs131 ไม่ได้ครับ uzs131 เริ่มผลิตตั้งแต่ปี1987 ช่วงล่างเป็นถุงลม ปรับสูงต่ำ และมีโหมดtems normal กับ sport ด้วยครับ แทบเรียกได้ว่าออฟชั่นกินขาดรถยุโรปทุกรุ่นในสมัยนั้นเลยครับ  และยังมีอีกหลายค่ายของญี่ปุ่นครับที่ดีกว่ายุโรปในปีเดียวกันในเรื่องบางเรื่องคละๆกันไปครับ แต่ส่วนใหญ่จุดเด่นของรถญี่ปุ่นในตลาดบนๆแบบนี้จะเน้นที่เรื่องคุณภาพการขับขี่และการเอาใจคนนั่งและคนขับเป็นพิเศษ ขับสบาย นั่งสบาย นิ่มนวล  ความเงียบภายในห้องโดยสาร ที่ให้มากกว่ารถยุโรปโดยส่วนใหญ่ แต่ความหนักแน่น ความตึ้บ  อาจเป็นรองครับ แต่ uzs131 ไม่เป็นรองเรื่องสมรถนะทั้งเครื่องยนต์และช่วงล่างครับ

ออฟไลน์ tennessee

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 79
    • อีเมล์
เอารูปภายในของรถเดิมๆปี1987มาให้ดูกันครับ

ออฟไลน์ firstime911

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 454
ผมว่านะ ตอนนี้ถ้าไม่แคร์เรื่อง brandนะ ผมคงใช้แต่ toyota แล้วอะครับ..
ผมโตมากับ รถ เยอรมัน กับ รถ ญี่ปุ่น
ปี 90-95 ผมว่ารถ เยอรมันดีกว่าครับ
ปี 95-00 ผมก็ยังว่า รถ เยอรมันดีกว่า
ปี 01-03 ผมก็ยังว่า รถ เยอรมันดีกว่า รถ เริ่มจุกจิก มี defect รถ ญี่ปุ่นไล่ตามมาเรื่อง option
ปี 04-09 ชักงงๆ แล้ว รถ เยอรมัน มี defect อย่างเบนซ์ ก็เคยมาประกาศว่าการผลิตรถ ของตัวเองมี defect
ส่วนรถญี่ปุ่นตอนนี้ ผมว่าดีขึ้นมากๆ แม้แต่เจ้าของโชวรูมเบนซ์ ยังต้องมี toyota เลย
ปี 09-12 ก็ใกล้ๆ กันแล้วครับ ผมว่าสูสี ตอนนี้ ต่างกันแค่ ราคาอย่างเดียวจริงๆ
จ่ายเยอะ ก็ได้ของเยอะ ดีกว่า จ่ายน้อยก็ได้น้อย
แต่ผมหวังว่า รถ ญี่ปุ่น จะพัตนา เรื่องความต้องการเฉพาะคน อย่างสีเบาะ option เลือกได้ ต่างๆ แค่นี้ คงจะใกล้กันสุดๆ