ผู้เขียน หัวข้อ: ยอดขายรถเมืองไทย 10 กว่าปีก่อน (1997-1999) ย้อนวัยเล่าเรื่อง  (อ่าน 12535 ครั้ง)

ออฟไลน์ HOMY_DEMIO

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,821
    • อีเมล์
ลองมาย้อนอดีตกันดีฝ่าว่า
ตลาดรถบ้านเราตอนนั้นนั้นถือว่าแข่งขันกันสนุกสนาน
จุดเปลี่ยนของช่วงปี 1997 คือ
การแนะนำรถยนต์เซกเมนต์ใหม่สำหรับตลาดอาเซียน
จนเป็นสูตรสำเร็จรถขนาด B-segment ของตลาดเมืองไทยไปแล้ว
จาก 2 ค่ายดังโตโยต้า และฮอนด้า

จำได้ว่าตอนนั้นฮอนด้าทุ่มกับตลาดอาเซียนอย่างหนักมาก
ถือว่ากล้าเสี่ยงโดยมีเหตุผลรองรับคือตลาดที่ต่ำกว่า Civic
ยังมีคนต้องการอยู่มาก ช่วงนั้น Honda ยังไม่ถึงกับแข็งมากๆๆเหมือนวันนี้
ผลลัพธ์ืถือว่าได้ผลมาก

น่าเสียดายว่าขณะนั้น Nissan และ Mitsubishi
ไม่มีรถประเภทนี้จำหน่าย ขณะที่คิดดำรินั้นก็เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเสียก่อน
ช่วงนั้น nissan คิดจะนำรถพื้นฐานจาก nv มาทำและเตรียมเคาะราคาราว 2.5 แสนบาท(ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยเืชื่อราคา)
ส่วน Mitsubishi คิดจะทำในโครงการ Consumer Car แต่จำไม่ได้ว่าจะใช้พื้นฐานจากรถอะไรนะครับ
ถ้าสองค่ายนี้มีรถประเภทนี้ส่งมาขายตั้งแต่ตอนนั้น
หรือวางจำหน่ายต้นปี 2000 Toyota Honda คงไม่เติบใหญ่มากอย่างนี้แน่

เชื่อว่ามีอีโคคาร์มาตลาดมันจะต้องเปลี่ยนแปลงอีกรอบเหมือนปี 1996-1997 แน่นอน


ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ผู้ที่มีความแข็งแกร่งด้านการเงิน
หรือบริษัทที่มีบริษัทแม่มาบริหารงานเต็มที่จะประคองอาการได้
ช่วงนั้นถือว่าบาดเจ็บหนักทีเดียว ผมยังเด็กอยู่เล้ย อิอิ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2009, 18:08:13 โดย HOMY_DEMIO »

ออฟไลน์ HOMY_DEMIO

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,821
    • อีเมล์
ยอดขายสิงหาคม 1997

ตลาดรถยนต์ในรอบ 8 เดือน ลดลงร้อยละ 19.5

กรุงเทพ--25 ก.ย.--โตโยต้า มอเตอร์
        นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และกิจกรรมสังคมบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้เปิดเผยถึงรายงานยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนสิงหาคม ศกนี้ ว่า ตลาดรถยนต์ในรอบ 8 เดือนแต่ละตลาดต่างมีอัตราเติบโตลดลงทั้งสิ้น แม้แต่ตลาดรถยนต์นั่งก็ยังมีอัตราเติบโตลดลงร้อยละ 0.7 เป็นเดือนแรก ส่วนตลาดรวมลดลงถึงร้อยละ 19.5 ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ลดลงร้อยละ 27.3 และตลาดรถกระบะ 1 คัน ลดลงร้อยละ 24.9

        ตลาดรถยนต์โดยรวม ณ สิ้นเดือนสิงหาคม (ยอดสะสม 8 เดือน) มียอดขายรวมที่ 308,291 คัน หรือมีอัตราเติบโตลดลงร้อยละ 19.5 
โดยโตโยต้ายังคงครองอันดับที่ 1 ขายได้ 92,041 คัน หรือส่วนแบ่งการตลาดดร้อยละ 29.9 

อันดับที่ 2 อีซูซุ ขายได้ 69,350 คัน หรือส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 22.5 

อันดับที่ 3 นิสสัน ขายได้ 37,355 คัน หรือส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 12.1 


โดยเกือบทุกยี่ห้อต่างมียอดขายลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน
สำหรับโตโยต้ามียอดขายเติบโตลดลงเพียงร้อยละ 12.6 
อีซูซุลดลงร้อยละ 14.3
และนิสสันลดลงร้อยละ 41.8

ถ้าพิจารณาเฉพาะยอดขายในเดือนสิงหาคม ตลาดรถรวมมีอัตราเติบโตลดลงถึงร้อยละ 38
อันดับที่ 1 อีซูซุ ขายได้ 8,150 คัน ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 26.4 

อันดับที่ 2 โตโยต้า ขายได้ 6,942 คัน ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 22.5

อันดับที่ 3 ฮอนด้า ขายได้ 4,525 คัน ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 14.7



    สำหรับตลาดรถยนต์นั่ง ณ สิ้นสุดเดือนสิงหาคม มียอดขายสะสม 111,990 คัน เติบโตลดลงร้อยละ 0.7

  โดยอันดับที่ 1 ได้แก่ โตโยต้า ขายได้ 41,161 คัน หรือส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 36.8 เติบโตร้อยละ 13.1 

อันดับที่ 2 ฮอนด้า ขายได้ 29,270 คัน หรือส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 26.1 เติบโตร้อยละ 15.6 

อันดับที่ 3 นิสสัน ขายได้ 9,569 คัน หรือส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 8.5 เติบโตร้อยละ 1.8 
 



ถ้าพิจารณาเฉพาะยอดขายในเดือนสิงหาคม ตลาดนี้จะมีอัตราเติบโตลดลงร้อยละ 21.4 

โดยอันดับที่ 1 ฮอนด้า ขายได้ 4,422 คัน ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 33.0 

อันดับที่ 2 โตโยต้า ขายได้ 3,504 คัน ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 26.1 

อันดับที่ 3 นิสสัน ขายได้ 1,596 คัน ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 11.9



        ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ยังคงเป็นตลาดที่มีอัตราเติบโตลดลงสูงสุดเช่นเคยถึง ร้อยละ 27.3 สำหรับยอดขาย 8 เดือน โดยขายได้ 196,301 คัน

อันดับที่ 1 ได้แก่ อีซูซุ ขายได้ 68,574 คัน หรือส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 34.9

อันดับที่ 2 โตโยต้า ขายได้ 50,880 คัน หรือส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 25.9

อันดับที่ 3 นิสสัน ขายได้ 27,786 คัน หรือส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 14.2



        ส่วนตลาดรถกระบะ 1 คัน ยังคงมีอัตราเติบโตลดลง โดยลดลงร้อยละ 24.9 ด้วยยอดขาย 159,921 คัน 

อันดับที่ 1 ได้แก่ อีซูซุ ขายได้ 59,946 คัน หรือส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 37.5 

อันดับที่ 2 โตโยต้า ขายได้ 44,281 คัน หรือส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 27.7 

อันดับที่ 3 นิสสัน ขายได้ 24,774 คัน หรือส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 15.5 



ถ้าพิจารณาเฉพาะยอดขายในเดือนสิงหาคม 1997 ลดลงถึงร้อยละ 45.2 

อันดับที่ 1 อีซูซุ ขายได้ 7,080 คัน ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 50.6 

อันดับที่ 2 โตโยต้า ขายได้ 2,797 คัน ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 20.0 

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ ขายได้ 1,605 คัน ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 11.5
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2009, 18:03:13 โดย HOMY_DEMIO »

ออฟไลน์ HOMY_DEMIO

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,821
    • อีเมล์
เมื่อรถที่ขายดีอันดับ 1 ของไทยและโลก

Corolla ไมไ่ด้ยอดขายอันดับ 1 แต่ตกถึงอันดับ 3 บางเดือนก็ 4
ถ้าจำได้เป็นโฉมตูดเป็ดนั่นแหล่ะครับ
ช่วงที่เอายอดมาลงคือก่อนปรับไมเนอร์เชนจ์ครับ
ประกอบกับลดยอดการผลิตให้น้อยที่สุด save ตัวเองให้มาก

รวมๆยอดขายไมไ่ด้ดีเท่าไรจนกระทั่งมี Corolla Altis 2001
เป็นพระเอกช่วยชีวิตชื่อได้อย่างมาก

ช่วงนั้นถือว่าแลนเซอร์ท้ายเบนซ์ยังถือว่าโด่งดังอยู่
และฮอนด้า ไปได้ดีกับซีวิคตาโต

แต่ก็นะ ช่วงนั้นเศรษฐกิจยังตกต่ำสุดชีดกันอยู่
ยอดขายจึงน้อยมากๆ

ยอดขายมกราคม 2009

       นายสุริยันต์  เศรษฐสวัสดิ์  ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และกิจกรรมสังคม บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยสรุปรายงานยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม 2542 ว่า “เริ่มต้นปี 2542 ยอดขายรถยนต์ชะลอตัวลงเล็กน้อย  เนื่องจากลูกค้าเร่งการซื้อในช่วงปลายปีที่แล้ว  เพราะได้รับข่าวการปรับราคาขึ้นและจะสิ้นระยะการรณรงค์การขาย  จึงทำให้หลายค่ายรถยนต์เกิดการขายมากกว่าเป้าหมายที่ได้วางไว้  ประกอบกับมีการเตรียมแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ  ซัพพลายจึงหยุดชะงัก ไม่มีรถเพียงพอสำหรับการขาย  ดังนั้นจึงมีผลกระทบต่อยอดขายในเดือนมกราคม”

สรุปยอดขายเดือนมกราคม  ตลาดรวม ขายได้ 9,708 คัน ลดลงร้อยละ 12.2 

อันดับที่ 1 อีซูซุ ขายได้ 2,917 คัน ลดลงร้อยละ 0.01 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 30.0   

อันดับที่ 2 โตโยต้า ขายได้ 2,200 คัน เติบโตร้อยละ 9.7 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 22.7     

อันดับที่ 3 นิสสัน ขายได้ 1,418 คัน เติบโตร้อยละ 10.3 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 14.6


ตลาดรถยนต์นั่ง  ขายได้ 2,077 คัน ลดลงร้อยละ 35.9 

อันดับที่ 1 มิตซูบิชิ ขายได้ 484 คัน เติบโตร้อยละ 86.9 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 23.3   

อันดับที่ 2 ฮอนด้า ขายได้ 409 คัน ลดลงร้อยละ 56.9 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 19.7 

อันดับที่ 3  นิสสัน ขายได้ 282 คัน ลดลงร้อยละ 24.8 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 13.6 

อันดับที่ 4 โตโยต้า ขายได้ 203 คัน ลดลงร้อยละ73.4 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 9.8


ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ขายได้ 6,328 คัน ลดลงร้อยละ 1.1

อันดับที่ 1 อีซูซุ  ขายได้ 2,688 คัน เติบโตร้อยละ 2.5 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 42.5   

อันดับที่ 2 โตโยต้า ขายได้ 1,800 คัน เติบโตร้อยละ 70.6 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 28.4   

อันดับที่ 3 นิสสัน ขายได้ 794 คัน เติบโตร้อยละ 6.9 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 12.5


ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์  ขายได้ 7,631 คัน ลดลงร้อยละ 2.3   

อันดับที่ 1 อีซูซุ ขายได้ 2,867 คัน ลดลงร้อยละ 0.7 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 37.6 

อันดับที่ 2 โตโยต้า ขายได้ 1,997 คัน เติบโตร้อยละ 60.8 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 26.2   

อันดับที่ 3 นิสสัน ขายได้ 1,136 คัน เติบโตร้อยละ 24.7 ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 14.9


         นายสุริยันต์กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับโตโยต้า  ได้มีการปรับสายการผลิตเพื่อเตรียมการแนะนำรถโคโรลล่า ไฮทอร์ค จีโอเอ   รุ่น 1600 ซีซี และรุ่น 1800 ซีซี อัลติส ใหม่ ในช่วงวันที่ 5 - 7 กุมภาพันธ์ 2542  รวมทั้งการสั่งซื้อรถจากลูกค้ามากกว่าปกติในเดือนธันวาคม เป็นผลทำให้จะต้องนำเอา CKD ที่เตรียมไว้สำหรับในเดือนมกราคมมาสนองตอบต่อการสั่งซื้อจากลูกค้าดังกล่าว ไปก่อน   ทำให้รถรุ่นต่างๆ ของโตโยต้าในเดือนมกราคม ไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการของลูกค้า”

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,624
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ได้ข่าวว่าตอนนั้น ฉันยังอยู่ ม.6

สิงหาคมนั่นละ คือเดือนที่เข้าสู่ วิกฤติต้มยำกุ้งกันแล้ว เหอๆๆๆ

มันเริ่มตั้งแต่ ชวลิต ยงใจยุทธ ประกาศลอยตัวค่าเงินบาทนั่นละ
2 กรกฎาคม เลยมั้ง

ทุกอย่างก็เลย...อย่างที่เห็น

ออฟไลน์ M-Titan Man@NacT

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 335
 ::) อืม ตอนนั้นน่ะหรือ::) ผมจำได้ว่ารถกระบะรุ่นนึง เปลี่ยนแค่กระจังหน้า กับขอบกระบะหน่อย แล้วบอกว่าเป็นรุ่นใหม่ แต่ขายดี  ดังระเบิดเถิดเทิงสวนกระแสเลย  ;Dเบียร์ยี่ห้อนึงก็ขยันชิงโชคแจกรถกระบะค้างสต็อคของรุ่นนั้น ดังพอๆกัน :'( คิดถึงบรรยากาสสมัยนั้นจัง ;D

ออฟไลน์ Disk™

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,153
  • High Society Sallon Gallery
ตอนนั้นผมยังไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยครับ 55+ เด็กมากๆ
User Review : ฟิล์มเซรามิค SolarFX (รีวิวแรกของผมครับ)
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53654.0

User Review : Remap ECU Toyota Fortuner ที่ ECU Thailand by RPT
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=71384.0

ออฟไลน์ Preceda2

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 498
    • อีเมล์
ตอนนั้นไม่รู้เรื่องเลยครับ จำได้ว่า รถที่บ้านตอนนั้นยังเป็นCorona Exsior สมัยก่อนเด็กๆ ผมไม่สนใจยี่ห้ออื่นจริงๆนะ ชอบแต่Toyota เพราะว่าที่บ้าน ใช้กันมาแต่Toyotaตั้งแต่รุ่นหน้ายิ้มครับ จนเมื่อCefiro A33เปิดตัว ไม่ทราบเหมือนกันว่า เหตุไฉนพ่อผมจึงหลวมตัวไปซื้อNissan ตั้งแต่รับA33 2.0เข้ามาเลี้ยง ผมก็หลงรักNissanตั้งแต่นั้นมา เมื่อเวลาผ่านไป ขายA33ออกไป แล้วก็เปลี่ยนเป็นTeana  ;D
2009 Volvo S60 D5
2010 Honda CRV 2.0
2011 Subaru Impreza 2.0R MT {R.I.P.}
2014 Harley-Davidson Sportster Iron 883
2015 Honda HR-V

ออฟไลน์ P_Wut

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 866
  • My Sporty Innova
    • อีเมล์
สมัยโน้น ไม่ได้ติดตามเรื่องยอดขาย
ถึงได้เห็นว่า ช่วงนั้น รถเก๋ง Toyota นี่ เคยตกมาอันดับ 4 / มีแชร์แค่ 10% ด้วยวุ้ย

แต่มา ณ ปัจจุบัน เก๋ง Toyota เป็นอันดับ 1 มีแชร์ถึง 40% กว่าๆ
ย้อนไป 10 ปีที่ผ่านมา จุดเปลี่ยนสำคัญ
1. Soluna ต่อด้วย Vios โฉมแรก
2. Corolla Altis ที่บูมมากๆ
3. Camry มาขายแทน Corona ก็ work เช่นกัน

ในขณะที่ Mitsu / Nissan ต่างสะดุดขาตัวเองกันทั้งนั้น

ปล. ใน Reply#2 น้อง Homy เขียนปีผิดนะ 2542 ก็ต้องเป็น ค.ศ. 1999 ครับ ไม่ใช่ 2009 นะ

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,141
  • I'm............................
ขอบคุณมากครับสำหรับยอดขายย้อนหลัง พึ่งอยู่ได้ ป.1 เอง
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ HOMY_DEMIO

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,821
    • อีเมล์
ว่างๆจะหายอดขายย้อนหลังเกือบ 20 ปีให้ดูนะครับ
รับรองว่าใครที่เกิดไม่ทันจะแปลกใจถึงความเปลี่ยนแปลงแน่ๆล่ะ

ให้เห็นสัจธรรมว่าไม่ว่าจะยิ่งใหญ่เกรียงไกรขนาดไหนก็มีวันลงได้

ออฟไลน์ muzaa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 486
มาร่วมย้อนความหลังครับ ตอนนั้นประมาณ ม.3 ศึกB-SEGMENT ก็มิใช้ใครอื่น Honda ขาประจำกับ 3dr.ปี1994 ตอนนั้นสร้างชื่อให้hondaมากจน toyota ต้องเร่งเจ้า afc -soluna ให้เสร็จเร็วๆแต่ก็มาหลังเจ้า city (ถ้าจำไม่ผิดชื่อโครงการเรียกek-car แต่มิใช้civic ek น่ะครับ ) แต่เจ้าsolunaก็หัวเราะที่หลังดังกว่าทำยอดฉีกcityแบบไม่เหนื่อยนัก ตอนนั้นเคยได้ข่าวเหมือนกันว่าmitsubishiกำลังสนใจตลาดนี้เช่นกันแต่กำลังสนุกสนานกับยอดขายLANCER CK + strada เลยถอดใจกับตลาดนี้
หันมายังตลาด premium กันบ้าง กลุ่ม D-SEGMENT จากยุโรปคู่สนุกคงหนีไม่พ้น VOLVO S 40 VS PERGEOUT 406 ที่ s-40 กระหน่ำเปิดตัวอย่างสนั่นหวั่นไหวเคาะราคามาเกินล้านไปหน่อยส่วน 406 มาเงียบเคาะค่าตัวต่ำล้านแย่งลูกค้าไปเหนาะๆ
ตลาด PICK-UP TIGER เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่กับslogan กระบะ3000GOA ยึดตำแหน่งกระบะccสูงสุด (แต่ไม่แรงสุด ) ในขณะนั้นกับเพลงโฆษณา+ภาพยนตร์โฆษณาสุดประทับใจผม ( จำได้ไหมเอย..เพราะฉันมีเธออยู่ อยู่ในหัวใจ ................. ) แต่ก็ไม่สามารถสู้คุณปู่ Dragon Power ไปได้ และตอนนั้นก็มี VMC กระบะไทยใจอิตาลีสุดแรง เข้ามาแต่ปัจจุบันได้กลายเป็นของหายากไปแล้ว

ออฟไลน์ HOMY_DEMIO

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,821
    • อีเมล์
มาร่วมย้อนความหลังครับ ตอนนั้นประมาณ ม.3 ศึกB-SEGMENT ก็มิใช้ใครอื่น Honda ขาประจำกับ 3dr.ปี1994 ตอนนั้นสร้างชื่อให้hondaมากจน toyota ต้องเร่งเจ้า afc -soluna ให้เสร็จเร็วๆแต่ก็มาหลังเจ้า city (ถ้าจำไม่ผิดชื่อโครงการเรียกek-car แต่มิใช้civic ek น่ะครับ ) แต่เจ้าsolunaก็หัวเราะที่หลังดังกว่าทำยอดฉีกcityแบบไม่เหนื่อยนัก ตอนนั้นเคยได้ข่าวเหมือนกันว่าmitsubishiกำลังสนใจตลาดนี้เช่นกันแต่กำลังสนุกสนานกับยอดขายLANCER CK + strada เลยถอดใจกับตลาดนี้
หันมายังตลาด premium กันบ้าง กลุ่ม D-SEGMENT จากยุโรปคู่สนุกคงหนีไม่พ้น VOLVO S 40 VS PERGEOUT 406 ที่ s-40 กระหน่ำเปิดตัวอย่างสนั่นหวั่นไหวเคาะราคามาเกินล้านไปหน่อยส่วน 406 มาเงียบเคาะค่าตัวต่ำล้านแย่งลูกค้าไปเหนาะๆ
ตลาด PICK-UP TIGER เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่กับslogan กระบะ3000GOA ยึดตำแหน่งกระบะccสูงสุด (แต่ไม่แรงสุด ) ในขณะนั้นกับเพลงโฆษณา+ภาพยนตร์โฆษณาสุดประทับใจผม ( จำได้ไหมเอย..เพราะฉันมีเธออยู่ อยู่ในหัวใจ ................. ) แต่ก็ไม่สามารถสู้คุณปู่ Dragon Power ไปได้ และตอนนั้นก็มี VMC กระบะไทยใจอิตาลีสุดแรง เข้ามาแต่ปัจจุบันได้กลายเป็นของหายากไปแล้ว

ถ้าเข้าใจไม่ผิด
Toyota AFC ไม่ได้ตั้งป้อมมาชน Civic 3 ประตูหรอกครับ
ฮอนด้าอาศัยช่องว่างต่างๆอย่างพอเหมาะ
AFC มันมีที่มาที่ไปของโครงการนี้ครับ
ทำวิจัยกันอย่างหนักสำหรับตลาดรถ Entry Level คันใหม่ในอาเซียน

ส่วน Mitsubishi โครงการที่ท้าชนซิตี้ โซลูน่า ใช้ชื่อว่า
Consumer Car ที่เขาไม่ได้ทำน่าจะเพราะเรื่องเศรษฐกิจล้วนๆครับ
เพราะสร้างรถสำหรับตลาดเฉพาะต้องลงเงินมาก และถ้าทำจริง
คงต้องส่งขายนอกอาเซียนด้วยเพื่อให้คุ้มทุน

ช่วงนั้นมิตซูญี่ปุ่น
น่าจะเริ่มมีปัญหาการเงินพร้อมๆกับนิสสันช่วงนั้น
ทำให้เงินลงทุนการพัฒนารถต้องประหยัด
ปัจจุบันกลายเป็นว่า นิสสัน พ้นบ่วงกรรมนั้นเรียบร้อยแล้ว
ด้วยฝีมือคาร์ลอสกอส์น
ส่วนมิตซูฯจะต้องหาทางหนีบ่วงกรรมให้จงได้

สำหรับตลาดเมืองไทยในอนาคต ช่วงทศวรรษใหม่ ที่มักมีจุดเปลี่ยนใหม่ๆ

ผมมองไว้ว่า
Mazda ก้าวกระโดดพรวดพราดมากที่สุดในรอบเกือบ 20 ปีแน่ๆ และแน่นอนต้องแซงมิตซูได้
ส่วน Nissan ผมมองว่าน่าจะฟื้นคืนชีพได้ในเร็ววันด้วยสินค้าที่ถูกที่ถูกเวลา+การซัพพอร์ตจากบริษัทแม่ ขึ้นอยู่กับว่าปรับองค์กรให้มีราบรื่นและมีกำลังใจกันแค่ไหน
Mitsubishi มีผลแน่ๆอันเกิดจากบริษัทแม่ไม่คล่องตัวแต่ถ้าอีโคคาร์มาเร็วเท่าไรก็ยังรักษาระดับไว้ได้ราวปี 2011-2012
เพราะรถเล็กเป็นสินค้าที่ถูกที่ถูกเวลามากที่สุดสำหรับกอบกู้ยอดขาย แต่จังหวะการเปิด Lancer ยังโอเคอยู่ถึงมาช้าแต่ไม่มีคู่แข่งเปิดตัวเลย

Chevrolet  ผมไม่แน่ใจว่ายังโอเคอยู่หรือเปล่าแต่ก็ต้องประคองตนเองก่อนในปีนี้เพราะ Cruze จะมาไตรมาส 3 ของปี 2010
ผมมองว่าจังหวะไม่ค่อยเหมาะสมนัก
Ford จัดการปัญหาองค์กรให้ราบรื่น+สนองความต้องการคนใช้ที่แท้จริง แล้วจะรุ่งเหมือนตอนเข้ามาใหม่ๆครับ
ซึ่งเราไม่รู้จะเห็นภาพแบบนั้นอีกไหมนะครับช่วงปี 2000 ฟอร์ดใช้ผู้บริหารคนไทยจึงไปได้ดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 17, 2009, 17:39:18 โดย HOMY_DEMIO »