ผมดูแล้วนะครับ เหมือนภาษีรถยนต์ใหม่จะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1. กลุ่มที่แพงขึ้นแน่นอน เช่น
-รถ E85 แพงขึ้น 3-13%(คิดที่ฐานไม่เกิน 2000 cc ที่ 22%)
-รถ CNG แพงขึ้น 5-15%(คิดที่ฐานโดยรวมไม่เกิน 3000 cc ที่ 20%)
-รถกระบะ Cab แพงขึ้น 2-4%(ฐานเดิม 3% เท่ากับกระบะมาตราฐาน)
-รถ PPV แพงขึ้น 5-10%(ฐานเดิม 20%)
-รถ Hybrid ที่ปล่อย CO2 เกิน 100 g/kg แพงขึ้น 10-20%(ฐานเดิมอยู่ที่ 10% ไม่เกิน 3000 cc)
เป็นต้น โดยรวมเหมือนจะไม่สนับสนุนรถ CNG อีกต่อไป แต่ E85 สนับสนุนอีกกลุ่มนึง
2. กลุ่มที่ราคาเท่าเดิมถ้าทำตามเงื่อนไข คือ ปล่อย Co2 ลดลง เช่น
-รถกระบะ ธรรมดา และ 4 ประตู หากต้องการใช้สิทธิฐานภาษีเดิม คือ 3 และ 12% จะต้องปล่อย Co2 ต่ำกว่า 200 ถ้าไม่สามารถทำได้จะต้องจ่ายเพิ่มเป็น 5% และ 15% (แพงขึ้นจากเดิม 2-3%)
-รถ Hybrid ต้องปล่อย Co2 ต่ำกว่า 100 จึงจะได้สิทธิที่ 10% เท่าเดิม
3. กลุ่มที่ราคาลดลง เช่น
-Eco car จะได้ประโยชน์ที่สุด เพราะภาษีได้ลดลง ถ้าใช้ E85 และ Co2 ต่ำกว่า 100 เสีย 12%
-รองลงมาก็จะเป็น รถ Diesel ที่เกิน 2000 cc แต่ไม่ถึง 3000 cc หรือรถเก๋งที่เติม E85 ได้ ที่เกิน 2000 cc แต่ไม่ถึง 3000 cc (ซึ่งผมก็ไม่เห็นเลยสักคัน) ถ้าปล่อย Co2 น้อยกว่า 150 ก็จะเสียภาษีลดลงไป 5-10% และ 2-7% ตามลำดับ
-รถที่แรงม้ามากกว่า 220 แรงม้าแต่ต่ำกว่า 3000 CC โดยรวมเสียภาษีต่ำลง 10-25%(ตามเชื้อเพลิง Co2)
4. กลุ่มที่แพงเหมือนเดิม คือรถที่เกิน 3000 CC ในเก่งและ 3250 CC ในกระบะและ PPV จ่ายเท่าเดิม 50%
โดยรวมทุกท่านคิดอย่างไรกันครับ