ผู้เขียน หัวข้อ: E20 กับรถที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้ มันมีผลเสียอะไรบ้างคับ  (อ่าน 32090 ครั้ง)

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,662
ถ้ารถพวกปี 2002+ เติม มีผลเสียกับเครื่องยนต์อะไรบ้างป่าวคับ

ขอทฤษฎีที่เกี่ยวข้องทีคับ ไม่นับเรื่องสายน้ำมัน ระบบเดินน้ำมันทั้งหมดนะคับ

เอาแค่ที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์ ที่ไม่ได้ออกแบบให้เติม Gasohol E20 จากโรงงานนะคับ

.
.

ผมได้รับข้อมูลจะตีกันไปหมดแล้วคับ ส่วนตัวผมเติมไปกับ bmw e60 2005 , Camry 2.4V 2007 ยังไม่รับ e20 , bmw e39 523i ปี 2003 , accord 3.0 V6 G7 , Camry 2.4Q ปี 2003 , Civic FD 1.8E + 2.0EL ปี 07 , ทั้งหมดเติมได้ ขับได้ แค่รอบปลายอืดไม่มีแรง

แต่ช่างที่ซ่อมด้วยประจำก็บอกเครื่องจะพัง บลาๆ

ซึ่งผมเติมแค่บางถังไม่ได้เติมตลอด หรือ ส่วนมากก็ผสม Gasohol 95 ที่เหลือในถัง น้อยครั้งที่เติม e20 เพียว (ไม่เติมเพียวเพราะวิ่งไม่ออกคับ)  :'( และไม่ได้เติมต่อเนื่องตลอด เติมแปปๆ 4-5 เดือน ก็ขายรถไปก่อน(จะพัง)ตลอด
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ osment

  • Internship
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 791
ส่วนใหญ่เท่าที่เจอปัญหา ชิ้นส่วนเครื่องยนต์กับน้ำมัน E20 ก็คือ หัวฉีดครับ
แต่ก็ขึ้นอยู่กับความทนทานของชิ้นส่วนนั้นๆด้วย ว่าโรงงานทำให้มันได้ทนทานได้แค่ไหน

รถบางคันที่ไม่ได้รองรับ E20 จากโรงงาน ก็สามารถเติม E20 ได้อย่างไม่มีปัญหา
รถบางคันโรงงานทำให้เติม E20 ได้ แต่ใช้ไปนานๆ หัวฉีดพังก็มีครับ

ยังอีกส่วนคือ ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ที่มียางเป็นส่วนประกอบ แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็น Factor ที่สำคัญมากนัก เพราะไม่ได้อยู่ในตัวห้องเครื่อง

ตราบใดที่ยังใช้น้ำมันตรงกับประเภทเครื่อง ไม่เติมน้ำมันที่ต่ำกว่า Spec โรงงานจนมากเกินไป
และน้ำมันนั้นยังทำให้รถสามารถสันดาปได้อย่างสมบูรณ์ ก็ไม่มีอะไรที่น่ากังวลกับเครื่องยนต์มากครับ

ส่วนที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลแล้วขับรอบปลาย อืด ไม่มีแรง
ตรงนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นการจูน ECU และค่าพลังงานความร้อนของน้ำมันแก๊สโซฮอล E20 ที่ต่ำกว่าน้ำมันธรรมดา

พอใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E20
ทำให้อุณหภูมิในห้องเผาไหม้ ลดลงกว่าเดิม แรงตกมากกว่าการใช้น้ำมันธรรมดา
ECU ที่ไม่ได้โปรแกรมเผื่อไว้ให้คำนวณส่วนผสมกับน้ำมัน E20
ทำให้จ่ายน้ำมันไม่เพียงพอต่อความต้องการเครื่องยนต์ แรงจึงตกกว่าน้ำมันธรรมดาครับ

ส่วนรถที่ออกมาเผื่อให้ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล, E20 หรือ ต่ำกว่า เช่น E85
เวลาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลประเภทต่างๆ ก็มักจะกินเชื้อเพลิงมากกว่าใช้น้ำมันธรรมดา
เพราะ ECU ต้องจ่ายน้ำมันเพิ่ม เพื่อรักษาอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ให้ได้เท่าเดิมครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 05, 2013, 07:41:21 โดย osment »

ออฟไลน์ Spec C Wannabe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 553
ท่อน้ำมันส่วนที่เป็นยางหากทนเอทานอลสูงๆไม่ได้มันจะเปื่อยละลายง่ายครับ ทำให้หัวฉีดมีโอกาสตัน

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
ช่างบางคน ยังไม่ทราบว่า ออฟเซ็ทล้อ ดูยังไง
ช่างบางคน ยังไม่ทราบว่าเรกูเรเตอร์น้ำมัน ทำงานสอดคล้องกับแวคคั่มของเครื่องยนต์ยังไง
ช่างบางคนยังไม่ทราบว่าน้ำมันโซฮอลล์มีส่วนผสมของอะไร
ช่างบางคนยังไม่ทราบว่าlpgมีค่าออกเทกที่สูงกว่าน้ำมันปกติ
ช่างบางคนยังไม่ทราบว่ามุมโททำให้กินยางมากกว่ามุมแคมเบอร์
ช่างบางคนยังไม่ทราบว่าเวสเกตคืออะไร
ช่างบางคนยังไม่ทราบว่าโบลว์ออฟวาล์วนอกจากมีเสียงดังแล้วประโยชน์แท้จริงของมันคืออะไร

เพราะฉะนั้นอย่าเชื่อช่างทุกอย่าง ช่างไม่ใช่พระเจ้าครับ ฟังแล้วrational thinkingมากๆ ผมฟังช่าง
แต่ไม่ได้เชื่อช่างทุกคำพูดครับ ถ้าช่างบีเอ็มลองถามเค้าดูว่าพอทราบเครื่องบีเอ็มที่เป็นNikasilรึป่าว
ว่ามันพังง่ายเพราะอะไรก็ได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 05, 2013, 10:33:13 โดย popdemonic »

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
การจ่ายส่วนผสมของน้ำมันผิดพลาดครับ
ในกรณีรถ ไม่สามารถรู้ได้ว่า เป็นเชื่อเพลิงชนิดไหน

ผมไม่แน่ใจว่า ECU ใช้หลักการใด จ่ายปริมาณน้ำมันให้ถูกต้องในเมื่อ ค่าพลังงานของ E20 ต่ำกว่า เบนซินปกติ
แต่ไม่มากเท่าไหร่ครับ
ปกติต้องฉีดน้ำมันมากขึ้น ถ้ารถที่เป็น FFV จะรู้ว่า เราใช้ เอทานอลกี่ % ในน้ำมัน
แต่ รถทั่วไปไม่รู้

ผลคือ เครื่องทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ 100 %
ปัญหาระยะสั้น ที่พบได้
อัตราเร่ง ผิดปกติ เครื่องยนต์ทำงาน ไม่ปกติ ก็แบบที่ จขกท เจอมา

ระยะ ยาว
เครื่องยนต์สึกหรอเนื่องจากส่วนผสมผิดพลาด เป็นผลให้เครื่องยนต์ทำงาน

ส่วนใหญ่ รถแก็ส ที่เครื่องพังไว ๆ
ต้นเหตุจริงๆ นะไม่ใช่เพราะ ใช้แก็ส

แต่ต้นเหตุ คือ
การจูน ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์ สึกหรอเร็ว และ เครื่องพังไว

แต่ ทุกคนมักจะ โทษว่า
เพราะ ติดแก็ส ๆๆ ๆๆๆๆ ๆ
แต่ มีซักคนไหม

เคยไปถาม อาการ เช่น

บ่าวาวล์สึก ไว เพราะ อะไร
เพราะ เครื่องยนต์ ร้อนมาก
เพราะอะไรเครื่อง ยนต์ร้อนมาก
เพราะติด แก็ส ????????   มั่นใจไหมว่า นี่คือ คำตอบที่ถูกต้อง

จริง ๆ ต้องไป ตอบว่า
ปัจจัยอะไรที่เครื่อง ยนต์ร้อนกว่าปกติ

จูนหนา ไป จูนบางไป มีผลเสียกับเครื่องยนต์อย่างไร อะไรประมาณนี้มากกว่า
เครื่อง น๊อค ไหม เวลา
ไปติดแก็ส แล้ว จูนไม่ดี
จูนบางไป หรือ จูน หนาไป

ผมยกตัวอย่าง เฉยๆ ครับ
แต่ผมคิดว่า
รถที่ออกแบบ มาและทดสอบให้เติม โซฮอล 91 ได้ สามารถเติม E20 ได้ เพราะ มันต่างกัน 5 %
แต่รถรุ่นเก่ามากๆ ที่ไม่เคยทดสอบกับ โซฮอล 91 อาจจะมีปัญหา


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 05, 2013, 10:50:20 โดย mamaman »

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
    • อีเมล์
ถ้าไม่คุยเรื่อง wetted parts ก็คงไม่น่าจะไม่อะไรนอกจาก Air/Fuel ratio แล้วก็ องศาไฟจุดระเบิด ที่ต้องดูหลักๆครับ ส่วนอื่นๆ เช่น เค้าว่ามันทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็ว บลาๆ อะไรต่อมิอะไร เป็นส่วนน้อย และพังในระยะยาวครับ ผมก็ใช้กับรถเก่าๆนะครับ ก็แค่ทำหลักๆเท่าที่ว่า AF พอดี ไฟพอดี ก็ยังไม่มีปัญหาอะไรครับ  ;D

ออฟไลน์ kbo1980

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • อีเมล์
เท่าที่อ่านเม้นท์ข้างต้นดูก็พอๆจะสรุปว่าเติมได้ เพราะเครื่งยนต์ดูที่ออคเทนเป็นหลัก E20 มันก็ออคเทน 95 ส่วนจะแรงตกบ้างนิดหน่อยก็ไม่เป็นปัญหาใช่มั๊ยครับ (ผมอยู่ใน club jazz มีสมาชิกบอกว่าใช้ GD เติม E20 เพียวๆใช้มาหลายหมื่นโลแล้วปกติดี) ถ้ามา confirm กันเยอะๆว่าใช้ได้ก็น่าลองดูเหมือนกันแฮะเดือนๆนึงอาจจะประหยัดได้หลายร้อยบาทอยู่นะ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ผลต่อ "เครื่องยนต์" ไ่ม่มีครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
เท่าที่อ่านเม้นท์ข้างต้นดูก็พอๆจะสรุปว่าเติมได้ เพราะเครื่งยนต์ดูที่ออคเทนเป็นหลัก E20 มันก็ออคเทน 95 ส่วนจะแรงตกบ้างนิดหน่อยก็ไม่เป็นปัญหาใช่มั๊ยครับ (ผมอยู่ใน club jazz มีสมาชิกบอกว่าใช้ GD เติม E20 เพียวๆใช้มาหลายหมื่นโลแล้วปกติดี) ถ้ามา confirm กันเยอะๆว่าใช้ได้ก็น่าลองดูเหมือนกันแฮะเดือนๆนึงอาจจะประหยัดได้หลายร้อยบาทอยู่นะ

ค่า ออคเทน มันช่วยเรื่องกัน น๊อคของเครื่องครับ ไม่เกี่ยวกันครับ
แต่ ค่าที่สำคัญคือค่า พลังงาน ของ E20

แต่มันต่างกับ เบนซิน เพียว ๆ แค่นิดเดียวครับ
ในแง่การใช้งาน ของคนธรรมดา ผมคิดว่าไม่เป็นอะไรครับ

แต่อัตราเร่งจะเพี้ยนๆไปยังไงก็ไม่เหมือนเบนซินเดิมๆ




ออฟไลน์ bam v60

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
ของผมแจ๊สปี 2008 รองรับ อี20 เติมอี 20 เกือบตลอด ใช้มาแสนนิดๆ หัวฉีดตัน ถอดล้างพบเศษกรองบนหัวฉีด แตกกรอบอุดตันตัวมันเอง ล้าง เปลี่ยนกรองบนหัวฉีดใหม่หาย   อีกคัน V60 รองรับอี 85 เติมอี85เกือบตลอดหรือทุกครั้งที่เจอปั้ม วิ่งไป 17000 กว่ากม. หัวฉีดมีปัญหา เข้าศูนย์เคลม ซึ่งผมคิดว่าน่าจะตันเหมือนของแจ๊ส สรุปตามความเข้าใจของผมเอง คิดว่าน่าจะเป็นที่ตัววัสดุไม่สามารถทนได้ แต่ไม่ใช่เติมปุ๊ปพังปั๊ป แล้วก็เบื่อกับช่างทั้งสองยี่ห้อก็ตามสูตร "เป็นที่น้ำมันไม่ดี ไม่สะอาด" โทษแก๊สโซฮอลเหมือนโฆษณาเปะเลย 555 ว้าเหว่กับช่างไทยจริงๆๆ 

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
น้ำมันE20 จะต้องใช้ปริมาณมากขึ้นจากE10ตามลำดับในการสร้างพลังงานให้เท่าเดิม

A/F ratio at Stoich point ในน้้ำมันEสูงๆขึ้นจะมีค่าต่ำลงจาก14,7ในการที่จะ

Maintain จุด Stoich สมองใช้O2 sensor จับค่า จากนั้นfeedbackกลับไปที่กล่องเพื่อ

ปรับปรุงการจ่ายน้ำมัน พวกecuมันflexible ได้ แต่มีระยะของมัน และขนาดของหัวฉีด

จุดต่างของรถแต่ละคันคือ2อย่างนี้ที่จะบอกว่าใช้ได้"ดี" หรือไม่ รถบางคัน หัวฉีดเพียงพอ

Ecu อะรุ่มอร่วยได้มาก มันก็ใช้ได้ใช้ดี รถบางคัน ecu ok แต่หัวฉีดmaxed out ก็ไม่

เพอร์เฟค แต่มักจะเกิดกับE85 สำหรับE20มันจ่ายเพิ่มอีกไม่มาก หัวฉีดยังพอจ่ายเพิ่มไหว

ส่วนเรื่องกำลังตก เพราะโดยพื้นฐานเครื่องยนต์มันต้องไปด้วย3สิ่งควบคี่ กันไป ไฟ น้ำมัน อากาศ

น้ำมันมา ไฟไม่มา(องศาไฟไม่แมชชิ่ง) มันก็ไม่100 พวกน้ำมันEสูง โดยคุณสมบัติมันต้านการชิงจุด

ตัวมันเองได้ดีกว่า หลีกเลี่ยงการเกิดน๊อค ซึ่งแบ่งออกเป็น PreIgn กับ Detonation อย่างแรกsevere

กว่า เราสามารถแอดวานซ์องศาไฟขึ้นจากเดิมได้ ก็ได้กำลังรถมากขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่ecu มันสามารถขยับ

ได้แค่ไม่กี่องศากรณีที่detect knock เลยทำให้รถที่ไม่ได้ดีไซน์สำหรับน้ำมันพวกนี้ไม่ได้รับประโยชน์สูงสุด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 05, 2013, 14:30:23 โดย popdemonic »

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
    • อีเมล์
ถ้าส่วนผสมพอดีก็ให้กำลังเท่าๆกันแหละครับ อย่ามองแค่ต่อหน่วยมวลหรือปริมาตร เพราะ AFR แต่ละเชื้อเพลิงไม่เท่ากัน ตามที่น้า pop บอกครับ



ส่วนถ้า octane สูงเกินไปลามช้าเกินจะมีผลไหมครับ เช่นวาล์วไอเสียเปิดแล้วแต่เชื้อเพลิงยังไหม้ไไม่เสร็จเลย  ??? ??? ???

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
พวกออกเทนสูงเค้าแอดวานซ์ไฟกันให้รึ่มน้าmadboy เน้นกำลัง ตอบสนองดีๆ
ถ้าจะเอาจุดระเบิดนอกห้องเผาไหม้ให้มันดุ้งปุ้งปั้ง เทคนิคนี้อยู่ในพวกรถมีโบแล้ว
เปิดโหมดals(antilag system),launch control คือล๊อคบูสต์ตอนออกตัว
หลักการคือ ทำให้มันมาจุดระเบิดซ้ำนอกห้องเผาไหม้ ซึ่งก็คือเขาควาย กับโข่งหลัง
ทำให้ไอเสียมันไปปั่นเทอร์ไบน์ ทำให้มันมีบูสต์รอเลยตอนออกตัว วิธีการคือ
Retardองศาไฟลงไปมากๆแล้วเติมน้ำมันท่วม ให้a/fลงมา 0.60-0.70
น้ำมันหนาๆมันจะเผาไหม้ไม่หมดส่วนหนึ่งมันมาแลบไหลออกมาจากวาล์วไอเสีย
องศาไฟมันอ่อนอีกเลยตามมาระเบิดเอาช่วงวาล์วไอเสียยังแง้มอยู่มันก็เลยมาระเบิด
ดังปุ้งๆๆๆๆ ไฟออกตูดเท่ห์ๆ แต่จริงๆประโยชน์คือล๊อคบูสต์รอออกตัว แต่ทำบ่อยๆไม่ดี
ชาร์ฟมันจะไปเร็วครับ


ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
    • อีเมล์
ประเด็นผมคือ ถ้าเจ้ารถบ้านเดิมๆแล้วมันดัน advance ไฟไปไม่พอ มันจะมีบ้างไหมน่ะสิครับ พวกมาระเิบิดนอกห้อง พาลให้อะไรที่มันอยู่นอกห้องชิหายหมดอ่ะครับ  ;D


กรณีนี้ผมสงสัยกับ Tiida 1.8 E20 ด้วย เพราะเคยต้องรื้อฝา เปลี่ยนบ่าวาล์วเนื่องจากมันทรุด ทั้งๆที่ก็เติมแต่ E20 มาตลอด  :P

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
เติมออกเทนสูง เสียตังค์อย่างเดียว ออกเทนมันต้านการชิงจุด ซึ่งมักเกิดจากวามร้อน และกำลังอัดในกระบอกสูบครับ ไม่มีผลเรื่องอื่นครับ
ไม่มีผลอเไรครับ

ออฟไลน์ Bier

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 152
    • อีเมล์
เข้ามากระทู้นี้ได้ความรู้เยอะเลย เยี่ยมจริงๆ  :D

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
ประเด็นผมคือ ถ้าเจ้ารถบ้านเดิมๆแล้วมันดัน advance ไฟไปไม่พอ มันจะมีบ้างไหมน่ะสิครับ พวกมาระเิบิดนอกห้อง พาลให้อะไรที่มันอยู่นอกห้องชิหายหมดอ่ะครับ  ;D


กรณีนี้ผมสงสัยกับ Tiida 1.8 E20 ด้วย เพราะเคยต้องรื้อฝา เปลี่ยนบ่าวาล์วเนื่องจากมันทรุด ทั้งๆที่ก็เติมแต่ E20 มาตลอด  :P

เรื่องบ่าทรุดผมมองแบบนี้นะครับ ปกติ ตัวที่จะช่วยพยุงบ่าวาล์วไม่ให้ทรุด มี2จุด คือ น้ำมันเครื่อง(ไอ)
ที่มันมากับอากาศฝั่งไอดี โดยระบบPCVของรถมันจะวนไอน้ำมันเครื่องผสมเข้ามาส่วนหนึ่ง ส่วนที่2
คือรถที่ใช้lpg vs เบนซิน เค้าว่าlpgมันแห้งกว่า เพราะฉะนั้น เค้าเลยตั้งสมมติฐานว่ารถวิ่งlpg บ่า
วาล์ว ตีน(เท้า สุภาพหน่อยอิอิ)วาล์ว มันจะไปเร็ว โดยมาก บ่าฝั่งไอเสียจะไปก่อนเพราะมันฮ้อนเหลือ
หลาย เลยต้องถามว่ารถแล่นมาโขไหมครับ ปกติพวกนี้มันทรุดยาก ไม่เหมือนตลาดหุ้น เดินไปถ่ายหนัก
15นาทีกลับมา นีกว่าจอเสียหล่นไป1,300จุด จอแดงกร่ำ อีกอย่างที่สันนิษฐานคือ ความร้อน
ในห้องเผาไหม้สูงอาจเนื่องมาจาก ส่วนผสมบางเฉียบ หัวฉีดยกเต็มที่ แต่ยังบาง คือพวกน้ำมันที่มี
ส่วนผสมเอทานอลมากๆ มันมีข้อดีอย่างหนี่งคือrangeของส่วนผสมหนา บาง มันจะกว้างกว่าเบนซินเพียว
ยกตัวอย่างเช่น 14,7:1 stoich เบนซินอาจจะบางไปได้ถึง16:1 เวลาcruising แตาพวกเอทานอล
ถ้าจำไม่ผิด มันจะบางไปได้จนถึง18.5:1อะไรประมาณนี้ ในทางกลับกันถ้าหนาก็หนาได้มากกว่าเบนซินเพียว
โดยที่หัวเทียนไม่บอด รถผมเดินเบาด้วยE85 แลมด้าผมบางนะ1.11-1.25(เกือบ17:1 ไม่ใช่อะไรนะครับ
ขี้เกียจจูนคือข้ออ้างเดียวเลย จริงๆเอาโน๊ตบุคเสียบแป้บเดียวเองแต่ผมมันขี้เกียจ555)

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์

ิอิอิ มาเก็บข้อมูล แหล่มเบย ๆ

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,662
โอ้วว ข้อมูลแน่นมาก

ขอบคุณพี่ป็อปมากคับผม  ;)
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
    • อีเมล์
มันโดนไปตอน 1 แสนกะอีก 1 หมื่นโลน่ะสิครับ เซ็งตรงนี้แหละ  ;D

อย่างเรื่องส่วนผสมบางที่น้าป๊อปว่าก็อาจจะมีส่วนด้วยครับ หัวฉีดเองก็อาจจะมีส่วน เพราะรื้อ(รอบ2) เปลี่ยนหัวฉีดหมด 4 หัวเนื่องจากมันตัน แล้วเดินสะดุดอีกด้วย

ว่าจะลองเอา AF meter ไปเสียบดูก็ยังไม่ได้เจาะเลยสักทีครับ ขี้เกียจเหมือนกัน 5555 จะเอาพวก obd ไปเสียบก็ดูไม่ได้เหมือนชาวบ้านเค้า  :P

แต่ที่ร้านขายอะไหล่+อู่ แนะนำเค้าบอกว่ามีบ่า 2 ตัว ถ้าจะติดแก๊สต้องใช้บ่าอีกตัวทนกว่า ก็ไม่รู้ยังไงเหมือนกันครับ

ออฟไลน์ SignifeR

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,953
  • Impreza Type GDG WRX
    • ร้านหนังสือผ้าสำหรับเด็ก IGGY BOOK
    • อีเมล์
ท่อน้ำมันส่วนที่เป็นยางหากทนเอทานอลสูงๆไม่ได้มันจะเปื่อยละลายง่ายครับ ทำให้หัวฉีดมีโอกาสตัน

อ้าว อาจารย์ ย้ายเวปหรอครับ 5 5 5

นอกจากหัวฉีดตันแล้ว ถ้าเทียบระหว่าง E10 กับ E20 น้ำมันตัวไหนดันบูสต์ได้ดีกว่ากันครับอาจารย์
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
สังเหตุมาหลายกระทู้แล้ว พี่ป็อปแกแน่นมากๆครับ

 ;) ;) ;)