ผู้เขียน หัวข้อ: รถรุ่นไหนเหมาะสำหรับติดต่องาน ดูแล้วน่าเชื่อถือบ้างครับ  (อ่าน 13825 ครั้ง)

jaesz

  • บุคคลทั่วไป

"What When Where Why Who How"

มันอยู่ที่ว่างานอะไร ติดต่อที่ไหน เมื่อไหร่ ทำไม กับใคร อย่างไร

ไปติดต่องาน ขายโปรเจคสร้างโรงงาน ให้บริษัทฮอนด้า กับผู้บริหารฮอนด้าระดับสูง ๆ ที่ตึกฮอนด้า จอดรถหน้าตึก ลองขับ Camry ไปสิครับ ผมว่า แค่นี้ก็คุยกันยากแล้ว

ออฟไลน์ zeb80

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 413
บ่องตงนะ ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้เลย จะขับกระบะมาหรือBenz มา
สุดท้ายมันจะอยู่ที่ "ข้อตกลงทางธุรกิจร่วมกัน"มากกว่า ผมว่าแต่งตัวให้ถูกกาละเทศะยังเกี่ยวมากกว่าอีกอ่ะ

ออฟไลน์ WATBTG01

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 144
ผมในฐานะที่ทำธุรกิจ ผมกลับไม่ได้มองแบบนั้นครับ

เอาง่ายๆ มีผู้รับเหมา มาติดต่องานกับผม สามเจ้า
 
เจ้าที่ 1 ขับ S-Class มา
เจ้าที่ 2 ขับรถกระบะเก่าๆ มา
เจ้าที่ 3 ขับ BT50 ป้ายแดงมา

ผมถามคุณว่า ถ้าเป็นคุณ จะเชื่อถือเจ้าไหนมากที่สุด?

คำตอบของผมคือ ผมเชื่อถือ เจ้าที่ 3 มากที่สุด เพราะผมมองว่า เขาเป็นคนทำงานและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
เขาจึงใช้รถที่เหมาะกับหน้าที่การงาน ขนของได้ ขนคนได้ สามารถใช้ในงานที่เราจะจ้างให้เขาทำได้

ทำไมไม่เลือกเจ้าที่ 1 หรือ 3

เจ้าที่ 1 เล่นรถหรูมาขนาดนี้ แล้วมันจะมาฟันผมขนาดไหน....(ส่วนมากไม่คุมงานเองหรอก ไปจ้างคนอื่นมาทำอีกที)
เจ้าที่ 2 รถเก่ามากขนาดนี้ มันจะทำงานให้ผมได้ดีขนาดไหน...

ทุกอย่างมีสองมุมมองเสมอครับ ผมเชื่อแบบนั้น ตัวผมจึงขับ Subaru Impreza ไปดิวงานซื้อขายตึก กับลูกค้า

สิ่งที่ลูกค้าทักคือ คุณอาร์ต รถสวยจัง ยี่ห้อนี้คนเล่นน้อยนะ ต้องรักกันจริงถึงใช้ แถมกินน้ำมันดุด้วย...
คำตอบที่ผมให้ลูกค้า คือ ผมรักและชอบในสิ่งที่ผมเป็น พอๆ กับที่ผมรักและชอบในธุรกิจที่ผมทำครับ

คำตอบนี้...ทำให้เมื่อวานผมรับเช็คเงินสด 2,xxx,000 มาครับ
จริงๆ มันไม่เกี่ยวกับรถหรอก....แต่สิ่งที่เราทำมันบ่งบอกว่าเราคิดแบบไหนมากกว่า

ผมจะบอกว่า คนไทยน่ะ ยึดติดกับภาพมากเกินไป จนไม่เห็นข้อเท็จจริง หรือ ความเป็นจริงของสิ่งที่คุณกำลังเผชิญกับมันอยู่
มันก็เหมือนกับ เวลาคุณไปออกงานอะไรสักอย่างแล้วเจอสาวน้อยใส่ชุดแดง เฉิดฉายเดินเข้ามาในงาน สิ่งที่คุณคิดคือ สวยว่ะ
แต่สิ่งที่อยู่ข้างหลัง อาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะคลำลงไปอาจจะเจอตอ...ก็เป็นได้

ผมเกลียดที่สุดคือ การมองแต่ภาพลักษณ์ภายนอก จนไม่ได้มองจิตใจของคนคนนั้น (ซึ่งเอาหล่ะมันมองยากกว่ามาก)
ในทางธุรกิจก็เช่นกัน ผมไม่ได้มองแค่เขาขับรถอะไรมา แต่มองให้ทะลุถึงจิตใจคนนั้นๆ ว่า ทำไมเขาถึงขับรถคันนี้ มากกว่า






เป็นผมคิดว่าแบบนี้เหมือนกันครับ เพราะผมมีญาติเป็นผู้รับเหมาถมที่ต่างๆ เวลาไปเก็บเงินเค้ามันจะใช้รถกะบะยกสูงสี่ประตูไปเก็บเงินหลักล้านเช่นกัน ทั้งที่เข้ามีรถ Benz, Cayenne, หรือMiNi ก็ตาม และสุดท้ายผมชอบคำๆนี้ครับ
"ผมรักและชอบในสิ่งที่ผมเป็น พอๆ กับที่ผมรักและชอบในธุรกิจที่ผมทำครับ"


ออฟไลน์ EakkyMan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 129
  • สักวันหนึ่งเราจะโต
ผมว่าอะไรก็ตามครับ ตอนนี้ มุมมอง D-Segment เหมาะสุด ราคา, ภาพลักษณ์, มุมมองของคนใช้รถ, ไม่ล่างจนเกินไป  และไม่แพงมากไป พร้อมเปลี่ยน เทินได้ใน 2-4 ปี

CAMRY HB, TERNA, ACCORD ก็ OK แล้ว  เพราะถ้าเป็นพนักงานใน Channel SALE, Maketing, FIN, PLANNING ที่ออกไปพบลูกค้า, vender, customer ต้องเปลี่ยนรถบ่อยอยู่แล้ว เชื่อผมดิ


ออฟไลน์ Parinceo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,210
ไม่รู้นะ ผมมองว่าไม่ผิดที่จะดูคนจากการแต่งกาย รถยนต์
ในเมื่อเราไม่รู้จักกันมากขนาดที่ว่ารู้นิสัยกันดีแล้ว
เราก็ต้องเอาข้อมูลเท่าที่เรามี นั่นคือรูปลักษณ์ภายนอกมา assume ตัดสินก่อน
กาละเทศะก็เลยยังเป็นสิ่งสำคัญ

การที่ใช้ Mini ในการติดต่องานเนี่ย ผมก็เห็นว่ามันไม่ถูกกาละเทศะจริง
รถที่สมควรใช้คือ รถที่ไม่แพงจนเกินไป และดูดี น่าเชื่อถือ พวก D-seg กำลังดี

อย่างที่บ้านผม สมัยก่อนคุณพ่อออกไปหาลูกค้าก็จอด F10 ไว้ที่บ้านแล้วเอาแคมรี่ไป
ตอนนี้ขายแคมรี่ไปแล้วก็เอา Fortuner ไปแทน

ออฟไลน์ SignifeR

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,953
  • Impreza Type GDG WRX
    • ร้านหนังสือผ้าสำหรับเด็ก IGGY BOOK
    • อีเมล์
ที่ผมตอบ อาจจะขัดใจ...หลายๆคน พูดแบบนี้แล้วกัน ระดับเจ้าของกิจการ เขาไม่มามองจุดนี้หรอก

คำถามที่ควรจะตั้งนะ คือ รถรุ่นไหน เหมาะกับการติดต่องานแบบไหนมากกว่า คำว่าดูน่าเชื่อถือ
เพราะผมไม่เคยเชื่อถือใครจากการมองแค่รถที่เขาใช้ครับ...แรงแต่ตรงประเด็น

ยกตัวอย่างง่ายๆ จิมมี่ เจ้าของเวปเนี่ย ขับรถอะไร ฮอนด้าซิตี้.... ถ้าบริษัทนิสสันมองว่า เฮ๊ยจิมมี่มันระดับตำนานในเวป
จะปล่อยให้มันขับฮอนด้าซิตี้ รถคู่แข่งแบบนี้ ตูจะยอมได้ไง แล้วบีบให้จิมมี่ เปลี่ยนมาขับพัลซ่า ละกัน
ถ้าจิมมี่ไม่เปลี่ยน จะไม่ซื้อโฆษณา อย่างงั้นหรอ ? มันก็ไม่ใช่อ่ะ นี่ตรงที่สุดแล้วมั๊ง ถ้าคุณมองว่ารถเป็นองค์ประกอบของธุรกิจ


มันก็เหมือนกับคุณปู่ผม บอกว่า เอ๊ยขายซาบารุไปเหอะ แกไปออก CLA ดีกว่า จะได้เหมาะกับอาเสี่ยขายตึก
ผมก็คงไม่ยอมเหมือนกัน (ถ้าไม่ให้ผมฟรีๆ 5 5 5 )

บางทีผมก็ขับนิสสันมาร์ชไปคุยงานกับพวกโฟร์แมน มันก็ไม่เห็นมีใครสักคนจะมาพูดไรมากเรื่องรถ
เพราะผมก็จ่ายตังค์ค่างวดตรงเวลาทุกงวด

อ่อ แล้วที่หลายคนบอกว่า ต้องเบนซ์ หรือ บีเอ็ม เพราะเห็นผู้บริหารส่วนใหญ่ขับ เหตุผลง่ายๆเลยนะ เพราะมันมีผ่อนแบบบอลลูน....
เพราะมันไม่ต้องดาวน์เยอะ และมีข้อตกลงดีๆ ถ้าจะซื้อในนามบริษัท ซึ่งเอาไปหักภาษีได้ จำนวนเยอะพอสมควร

ผู้บริหารอาจจะไม่รู้หรอกว่า รถรุ่นนี้มันดียังไง เจ๋งแค่ไหน เขามองแค่ว่า มันคุ้มสำหรับการลงทุนเพื่อหักภาษีของบริษัทเขานั่นแหละ
เขาถึงซื้อมาใช้ ผมถามจริงๆ เคยคุยกับพวกเสี่ยโรงงานกันบ้างมั๊ย ว่าทำไมเล่นเบนซ์ ? ไปถามสิ 80% บอก อั๊วะ เอาเงินบริษัทซื้อ....
กับอีกข้อ เขาบอกว่า เป็นรถยุโรปราคาขายต่อดี....(ทั้งๆที่ความเป็นจริงก็อาจจะราคาตกพอๆกับยี่ห้ออื่นๆก็ได้แต่เขาไม่ได้สนใจจะหาข้อมูลเหล่านี้)


คุณต้องเปลี่ยนทัศนคติ ในเรื่องเหล่านี้ได้แล้ว พวกคุณเป็นคนยุคใหม่แล้ว ไม่ใช่ยุคอุตสาหกรรม แล้วครับ
นี่มันยุคข้อมูลข่าวสารแล้ว แป้นพิมพ์ที่คุณเคาะ เวปไซท์ที่คุณเล่น มันคือยุคที่ต้องปฎิเสธ กรอบความคิดเก่าๆ เชยๆได้แล้ว

ความน่าเชื่อถือไม่ได้เกิดจากแค่เรื่องรถที่คุณขับหรอกครับ มันเกิดจากการกระทำที่คุณทำกับคนอื่นมากกว่า

ยกตัวอย่างเล่นๆว่า

ผมเป็นเจ้าของกิจการงานก่อสร้างระดับ 100 ล้าน และขับซูบารุ เข้าไปประมูลงานกับ บ.ฮอนด้า
คู่แข่ง เป็นเจ้าของกิจการงานก่อสร้าง ระดับ 50 ล้าน แล้วขับ ฮอนด้าแอคคอร์ด เข้าไปประมูลงาน กับ บ.ฮอนด้า เช่นกัน

ถามว่าเขาจะเลือกใคร ถ้าทุกอย่างเป็นคอนดิชั่นเดียวกันทั้งหมด ?  


เพื่อนบางคนของผมเล่นบีเอ็ม ผ่อนเดือนละ 30,000 ทุกเดือน บ่นแล้วบ่นอีก (ผมยังมาคิดในใจ มันจะบ่นทำไมวะ ก็เลือกเอง)
คำตอบคือ เพื่อภาพลักษณ์ก็เลยต้องยอมซื้อ....

กระทู้นี้ดีมากๆ นะครับ แต่แนวความคิดแบบนี้ ร้ายกาจมากในสังคมแบบทุนนิยมในปัจจุบัน ผมเห็นด้วยกับการตอบกระทู้ของบางท่านว่า
เพราะบริษัทรถ และบริษัทโฆษณา เป็นตัวเอก ที่ทำให้แนวคิดนี้ เป็นที่นิยม และทำให้สังคมเชื่อว่า ต้องขับรถแพงๆ หรูๆ ถึงจะน่าเชื่อถือ
และผมก็ไม่ได้ปฎิเสธความคิดของท่าน ที่แนะนำ รถยี่ห้อต่างๆ เพราะมันคือแนวคิดของแต่ละท่านที่น่าสนใจเช่นกัน

ปล.ขอโทษที่ตอบยาวและอาจจะไม่เป็นที่พอใจของคนในสังคม แต่ในฐานะของ คนที่เป็นเจ้าของกิจการ และก็ทำธุรกิจของตัวเอง
ผมเชื่อว่า การให้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดย่อมทำให้ผลลัพธ์ออกมาถูกต้องเช่นกัน


In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011

ออฟไลน์ WATBTG01

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 144
ผมในฐานะที่ทำธุรกิจ ผมกลับไม่ได้มองแบบนั้นครับ

เอาง่ายๆ มีผู้รับเหมา มาติดต่องานกับผม สามเจ้า
 
เจ้าที่ 1 ขับ S-Class มา
เจ้าที่ 2 ขับรถกระบะเก่าๆ มา
เจ้าที่ 3 ขับ BT50 ป้ายแดงมา

ผมถามคุณว่า ถ้าเป็นคุณ จะเชื่อถือเจ้าไหนมากที่สุด?

คำตอบของผมคือ ผมเชื่อถือ เจ้าที่ 3 มากที่สุด เพราะผมมองว่า เขาเป็นคนทำงานและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
เขาจึงใช้รถที่เหมาะกับหน้าที่การงาน ขนของได้ ขนคนได้ สามารถใช้ในงานที่เราจะจ้างให้เขาทำได้

ทำไมไม่เลือกเจ้าที่ 1 หรือ 3

เจ้าที่ 1 เล่นรถหรูมาขนาดนี้ แล้วมันจะมาฟันผมขนาดไหน....(ส่วนมากไม่คุมงานเองหรอก ไปจ้างคนอื่นมาทำอีกที)
เจ้าที่ 2 รถเก่ามากขนาดนี้ มันจะทำงานให้ผมได้ดีขนาดไหน...

ทุกอย่างมีสองมุมมองเสมอครับ ผมเชื่อแบบนั้น ตัวผมจึงขับ Subaru Impreza ไปดิวงานซื้อขายตึก กับลูกค้า

สิ่งที่ลูกค้าทักคือ คุณอาร์ต รถสวยจัง ยี่ห้อนี้คนเล่นน้อยนะ ต้องรักกันจริงถึงใช้ แถมกินน้ำมันดุด้วย...
คำตอบที่ผมให้ลูกค้า คือ ผมรักและชอบในสิ่งที่ผมเป็น พอๆ กับที่ผมรักและชอบในธุรกิจที่ผมทำครับ

คำตอบนี้...ทำให้เมื่อวานผมรับเช็คเงินสด 2,xxx,000 มาครับ
จริงๆ มันไม่เกี่ยวกับรถหรอก....แต่สิ่งที่เราทำมันบ่งบอกว่าเราคิดแบบไหนมากกว่า

ผมจะบอกว่า คนไทยน่ะ ยึดติดกับภาพมากเกินไป จนไม่เห็นข้อเท็จจริง หรือ ความเป็นจริงของสิ่งที่คุณกำลังเผชิญกับมันอยู่
มันก็เหมือนกับ เวลาคุณไปออกงานอะไรสักอย่างแล้วเจอสาวน้อยใส่ชุดแดง เฉิดฉายเดินเข้ามาในงาน สิ่งที่คุณคิดคือ สวยว่ะ
แต่สิ่งที่อยู่ข้างหลัง อาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะคลำลงไปอาจจะเจอตอ...ก็เป็นได้

ผมเกลียดที่สุดคือ การมองแต่ภาพลักษณ์ภายนอก จนไม่ได้มองจิตใจของคนคนนั้น (ซึ่งเอาหล่ะมันมองยากกว่ามาก)
ในทางธุรกิจก็เช่นกัน ผมไม่ได้มองแค่เขาขับรถอะไรมา แต่มองให้ทะลุถึงจิตใจคนนั้นๆ ว่า ทำไมเขาถึงขับรถคันนี้ มากกว่า






เป็นผมคิดว่าแบบนี้เหมือนกันครับ เพราะผมมีญาติเป็นผู้รับเหมาถมที่ต่างๆ เวลาไปเก็บเงินเค้ามันจะใช้รถกะบะยกสูงสี่ประตูไปเก็บเงินหลักล้านเช่นกัน ทั้งที่เข้ามีรถ Benz, Cayenne, หรือMiNi ก็ตาม และสุดท้ายผมชอบคำๆนี้ครับ
"ผมรักและชอบในสิ่งที่ผมเป็น พอๆ กับที่ผมรักและชอบในธุรกิจที่ผมทำครับ"


ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
เมืองนอกเค้าไม่สนใจว่าใครขับรถอะไร มันขึ้นอยู่ที่ผลงานและประวัติการทำงาน

มีแต่คนไทยที่ชอบตัดสินคนที่ภาพลักษณ์ภายนอก

ออฟไลน์ beercs

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 313
ไม่รู้สินะ  ผมอยู่ในเมือง   มีแต่คนนั่งรถไฟฟ้ามาติดต่องาน   
หรือถ้าขับ รถมาก็ไม่เคยเห็นรถของใครหรอก   จอดอยู่ที่จอดรถ
 จริง ๆ การจะจ้างบริษัทไหนมาทำงาน  ดูที่ประสบการณ์  ผลงานที่ผ่านมามากกว่า   รถที่ขับมาให้มันเป็นรถใหม่หน่อยแค่นั้นก็พอ

ออฟไลน์ boneshiro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 460
  • M Power Addicted
    • อีเมล์
ที่ผมตอบ อาจจะขัดใจ...หลายๆคน พูดแบบนี้แล้วกัน ระดับเจ้าของกิจการ เขาไม่มามองจุดนี้หรอก

คำถามที่ควรจะตั้งนะ คือ รถรุ่นไหน เหมาะกับการติดต่องานแบบไหนมากกว่า คำว่าดูน่าเชื่อถือ
เพราะผมไม่เคยเชื่อถือใครจากการมองแค่รถที่เขาใช้ครับ...แรงแต่ตรงประเด็น

ยกตัวอย่างง่ายๆ จิมมี่ เจ้าของเวปเนี่ย ขับรถอะไร ฮอนด้าซิตี้.... ถ้าบริษัทนิสสันมองว่า เฮ๊ยจิมมี่มันระดับตำนานในเวป
จะปล่อยให้มันขับฮอนด้าซิตี้ รถคู่แข่งแบบนี้ ตูจะยอมได้ไง แล้วบีบให้จิมมี่ เปลี่ยนมาขับพัลซ่า ละกัน
ถ้าจิมมี่ไม่เปลี่ยน จะไม่ซื้อโฆษณา อย่างงั้นหรอ ? มันก็ไม่ใช่อ่ะ นี่ตรงที่สุดแล้วมั๊ง ถ้าคุณมองว่ารถเป็นองค์ประกอบของธุรกิจ


มันก็เหมือนกับคุณปู่ผม บอกว่า เอ๊ยขายซาบารุไปเหอะ แกไปออก CLA ดีกว่า จะได้เหมาะกับอาเสี่ยขายตึก
ผมก็คงไม่ยอมเหมือนกัน (ถ้าไม่ให้ผมฟรีๆ 5 5 5 )

บางทีผมก็ขับนิสสันมาร์ชไปคุยงานกับพวกโฟร์แมน มันก็ไม่เห็นมีใครสักคนจะมาพูดไรมากเรื่องรถ
เพราะผมก็จ่ายตังค์ค่างวดตรงเวลาทุกงวด

อ่อ แล้วที่หลายคนบอกว่า ต้องเบนซ์ หรือ บีเอ็ม เพราะเห็นผู้บริหารส่วนใหญ่ขับ เหตุผลง่ายๆเลยนะ เพราะมันมีผ่อนแบบบอลลูน....
เพราะมันไม่ต้องดาวน์เยอะ และมีข้อตกลงดีๆ ถ้าจะซื้อในนามบริษัท ซึ่งเอาไปหักภาษีได้ จำนวนเยอะพอสมควร

ผู้บริหารอาจจะไม่รู้หรอกว่า รถรุ่นนี้มันดียังไง เจ๋งแค่ไหน เขามองแค่ว่า มันคุ้มสำหรับการลงทุนเพื่อหักภาษีของบริษัทเขานั่นแหละ
เขาถึงซื้อมาใช้ ผมถามจริงๆ เคยคุยกับพวกเสี่ยโรงงานกันบ้างมั๊ย ว่าทำไมเล่นเบนซ์ ? ไปถามสิ 80% บอก อั๊วะ เอาเงินบริษัทซื้อ....
กับอีกข้อ เขาบอกว่า เป็นรถยุโรปราคาขายต่อดี....(ทั้งๆที่ความเป็นจริงก็อาจจะราคาตกพอๆกับยี่ห้ออื่นๆก็ได้แต่เขาไม่ได้สนใจจะหาข้อมูลเหล่านี้)


คุณต้องเปลี่ยนทัศนคติ ในเรื่องเหล่านี้ได้แล้ว พวกคุณเป็นคนยุคใหม่แล้ว ไม่ใช่ยุคอุตสาหกรรม แล้วครับ
นี่มันยุคข้อมูลข่าวสารแล้ว แป้นพิมพ์ที่คุณเคาะ เวปไซท์ที่คุณเล่น มันคือยุคที่ต้องปฎิเสธ กรอบความคิดเก่าๆ เชยๆได้แล้ว

ความน่าเชื่อถือไม่ได้เกิดจากแค่เรื่องรถที่คุณขับหรอกครับ มันเกิดจากการกระทำที่คุณทำกับคนอื่นมากกว่า

ยกตัวอย่างเล่นๆว่า

ผมเป็นเจ้าของกิจการงานก่อสร้างระดับ 100 ล้าน และขับซูบารุ เข้าไปประมูลงานกับ บ.ฮอนด้า
คู่แข่ง เป็นเจ้าของกิจการงานก่อสร้าง ระดับ 50 ล้าน แล้วขับ ฮอนด้าแอคคอร์ด เข้าไปประมูลงาน กับ บ.ฮอนด้า เช่นกัน

ถามว่าเขาจะเลือกใคร ถ้าทุกอย่างเป็นคอนดิชั่นเดียวกันทั้งหมด ?  


เพื่อนบางคนของผมเล่นบีเอ็ม ผ่อนเดือนละ 30,000 ทุกเดือน บ่นแล้วบ่นอีก (ผมยังมาคิดในใจ มันจะบ่นทำไมวะ ก็เลือกเอง)
คำตอบคือ เพื่อภาพลักษณ์ก็เลยต้องยอมซื้อ....

กระทู้นี้ดีมากๆ นะครับ แต่แนวความคิดแบบนี้ ร้ายกาจมากในสังคมแบบทุนนิยมในปัจจุบัน ผมเห็นด้วยกับการตอบกระทู้ของบางท่านว่า
เพราะบริษัทรถ และบริษัทโฆษณา เป็นตัวเอก ที่ทำให้แนวคิดนี้ เป็นที่นิยม และทำให้สังคมเชื่อว่า ต้องขับรถแพงๆ หรูๆ ถึงจะน่าเชื่อถือ
และผมก็ไม่ได้ปฎิเสธความคิดของท่าน ที่แนะนำ รถยี่ห้อต่างๆ เพราะมันคือแนวคิดของแต่ละท่านที่น่าสนใจเช่นกัน

ปล.ขอโทษที่ตอบยาวและอาจจะไม่เป็นที่พอใจของคนในสังคม แต่ในฐานะของ คนที่เป็นเจ้าของกิจการ และก็ทำธุรกิจของตัวเอง
ผมเชื่อว่า การให้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดย่อมทำให้ผลลัพธ์ออกมาถูกต้องเช่นกัน





ผมก้อบริหารโครงการอสังหาเหมือนกันครับ เวลาเข้าไปที่ไซร้งาน หรือไปเจอลูกค้าผมขับ ford ranger ไป ฮ่าๆๆ
ขับรถไปทำงานกระบะยกสูงมันขับสบายสุดๆ ผู้บริหารมักยึดติดกับภาพลักษณ์
แต่เจ้าของกิจการไม่ครับ ปสก ส่วนตัวของผมมันสอนว่า ยิ่งใช้ชีวิตโดยแคร์สายตาคนอื่นน้อยเท่าไหร่
จะยิ่งรวยเร็วเท่านั้น
M power Thailand
M5 e60 V10

ออฟไลน์ WTF

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
ถ้าเขาเป็นลูกค้าของคุณกะเจ้านายคุณ เจ้านายคุณจะไปยุ่งกะเค้าทำไมว่าขับรถอะไรมา งง

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
ผมก็เห็นด้วยครับ

D segment กำลังดีนะ หรูหรากำลังดี ภาพลักษณ์ในระดับหนึ่ง

ส่วนพวก Mini สปอร์ต คูเป้ต่างๆ ไม่เหมาะเลยครับ เพราะมันดูเด็กๆยังไงไม่รู้

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
ที่ผมตอบ อาจจะขัดใจ...หลายๆคน พูดแบบนี้แล้วกัน ระดับเจ้าของกิจการ เขาไม่มามองจุดนี้หรอก

คำถามที่ควรจะตั้งนะ คือ รถรุ่นไหน เหมาะกับการติดต่องานแบบไหนมากกว่า คำว่าดูน่าเชื่อถือ
เพราะผมไม่เคยเชื่อถือใครจากการมองแค่รถที่เขาใช้ครับ...แรงแต่ตรงประเด็น

ยกตัวอย่างง่ายๆ จิมมี่ เจ้าของเวปเนี่ย ขับรถอะไร ฮอนด้าซิตี้.... ถ้าบริษัทนิสสันมองว่า เฮ๊ยจิมมี่มันระดับตำนานในเวป
จะปล่อยให้มันขับฮอนด้าซิตี้ รถคู่แข่งแบบนี้ ตูจะยอมได้ไง แล้วบีบให้จิมมี่ เปลี่ยนมาขับพัลซ่า ละกัน
ถ้าจิมมี่ไม่เปลี่ยน จะไม่ซื้อโฆษณา อย่างงั้นหรอ ? มันก็ไม่ใช่อ่ะ นี่ตรงที่สุดแล้วมั๊ง ถ้าคุณมองว่ารถเป็นองค์ประกอบของธุรกิจ


มันก็เหมือนกับคุณปู่ผม บอกว่า เอ๊ยขายซาบารุไปเหอะ แกไปออก CLA ดีกว่า จะได้เหมาะกับอาเสี่ยขายตึก
ผมก็คงไม่ยอมเหมือนกัน (ถ้าไม่ให้ผมฟรีๆ 5 5 5 )

บางทีผมก็ขับนิสสันมาร์ชไปคุยงานกับพวกโฟร์แมน มันก็ไม่เห็นมีใครสักคนจะมาพูดไรมากเรื่องรถ
เพราะผมก็จ่ายตังค์ค่างวดตรงเวลาทุกงวด

อ่อ แล้วที่หลายคนบอกว่า ต้องเบนซ์ หรือ บีเอ็ม เพราะเห็นผู้บริหารส่วนใหญ่ขับ เหตุผลง่ายๆเลยนะ เพราะมันมีผ่อนแบบบอลลูน....
เพราะมันไม่ต้องดาวน์เยอะ และมีข้อตกลงดีๆ ถ้าจะซื้อในนามบริษัท ซึ่งเอาไปหักภาษีได้ จำนวนเยอะพอสมควร

ผู้บริหารอาจจะไม่รู้หรอกว่า รถรุ่นนี้มันดียังไง เจ๋งแค่ไหน เขามองแค่ว่า มันคุ้มสำหรับการลงทุนเพื่อหักภาษีของบริษัทเขานั่นแหละ
เขาถึงซื้อมาใช้ ผมถามจริงๆ เคยคุยกับพวกเสี่ยโรงงานกันบ้างมั๊ย ว่าทำไมเล่นเบนซ์ ? ไปถามสิ 80% บอก อั๊วะ เอาเงินบริษัทซื้อ....
กับอีกข้อ เขาบอกว่า เป็นรถยุโรปราคาขายต่อดี....(ทั้งๆที่ความเป็นจริงก็อาจจะราคาตกพอๆกับยี่ห้ออื่นๆก็ได้แต่เขาไม่ได้สนใจจะหาข้อมูลเหล่านี้)


คุณต้องเปลี่ยนทัศนคติ ในเรื่องเหล่านี้ได้แล้ว พวกคุณเป็นคนยุคใหม่แล้ว ไม่ใช่ยุคอุตสาหกรรม แล้วครับ
นี่มันยุคข้อมูลข่าวสารแล้ว แป้นพิมพ์ที่คุณเคาะ เวปไซท์ที่คุณเล่น มันคือยุคที่ต้องปฎิเสธ กรอบความคิดเก่าๆ เชยๆได้แล้ว

ความน่าเชื่อถือไม่ได้เกิดจากแค่เรื่องรถที่คุณขับหรอกครับ มันเกิดจากการกระทำที่คุณทำกับคนอื่นมากกว่า

ยกตัวอย่างเล่นๆว่า

ผมเป็นเจ้าของกิจการงานก่อสร้างระดับ 100 ล้าน และขับซูบารุ เข้าไปประมูลงานกับ บ.ฮอนด้า
คู่แข่ง เป็นเจ้าของกิจการงานก่อสร้าง ระดับ 50 ล้าน แล้วขับ ฮอนด้าแอคคอร์ด เข้าไปประมูลงาน กับ บ.ฮอนด้า เช่นกัน

ถามว่าเขาจะเลือกใคร ถ้าทุกอย่างเป็นคอนดิชั่นเดียวกันทั้งหมด ?  


เพื่อนบางคนของผมเล่นบีเอ็ม ผ่อนเดือนละ 30,000 ทุกเดือน บ่นแล้วบ่นอีก (ผมยังมาคิดในใจ มันจะบ่นทำไมวะ ก็เลือกเอง)
คำตอบคือ เพื่อภาพลักษณ์ก็เลยต้องยอมซื้อ....

กระทู้นี้ดีมากๆ นะครับ แต่แนวความคิดแบบนี้ ร้ายกาจมากในสังคมแบบทุนนิยมในปัจจุบัน ผมเห็นด้วยกับการตอบกระทู้ของบางท่านว่า
เพราะบริษัทรถ และบริษัทโฆษณา เป็นตัวเอก ที่ทำให้แนวคิดนี้ เป็นที่นิยม และทำให้สังคมเชื่อว่า ต้องขับรถแพงๆ หรูๆ ถึงจะน่าเชื่อถือ
และผมก็ไม่ได้ปฎิเสธความคิดของท่าน ที่แนะนำ รถยี่ห้อต่างๆ เพราะมันคือแนวคิดของแต่ละท่านที่น่าสนใจเช่นกัน

ปล.ขอโทษที่ตอบยาวและอาจจะไม่เป็นที่พอใจของคนในสังคม แต่ในฐานะของ คนที่เป็นเจ้าของกิจการ และก็ทำธุรกิจของตัวเอง
ผมเชื่อว่า การให้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดย่อมทำให้ผลลัพธ์ออกมาถูกต้องเช่นกัน



+1    ครับ      คือบ้านผมก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับ  รับเหมา(เกี่ยวกับประปา)  สำหรับงานแบบนี้ผมว่ารถไม่ต้องแพงมากรถบ้านผมก็  Vigo champ smartcab 2.5 G   ไปติดต่องานประมูลอะไรนำนองนี้ก็ไม่มีใครว่าอะไรนะ   แต่พ่อแม่ผมก็จะแบบแต่งตัวให้ดูดี  ก็พอ  และการพูดการจา   ถามว่ารถก็อาจจะสำคัญแค่ช่วงที่เจอตอนแรกแต่เมือ่คุยกันแล้ว  นั้นแหละครับที่จะตัดสินเองว่า  น่าเชื่อถือหรือไม่
ปล.ผมว่าทุกวันนี้  สังคมประเทศเรายืดติดกับเรื่อง ของนอกกาย  มากไปนะ

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
ที่ผมตอบ อาจจะขัดใจ...หลายๆคน พูดแบบนี้แล้วกัน ระดับเจ้าของกิจการ เขาไม่มามองจุดนี้หรอก

คำถามที่ควรจะตั้งนะ คือ รถรุ่นไหน เหมาะกับการติดต่องานแบบไหนมากกว่า คำว่าดูน่าเชื่อถือ
เพราะผมไม่เคยเชื่อถือใครจากการมองแค่รถที่เขาใช้ครับ...แรงแต่ตรงประเด็น

ยกตัวอย่างง่ายๆ จิมมี่ เจ้าของเวปเนี่ย ขับรถอะไร ฮอนด้าซิตี้.... ถ้าบริษัทนิสสันมองว่า เฮ๊ยจิมมี่มันระดับตำนานในเวป
จะปล่อยให้มันขับฮอนด้าซิตี้ รถคู่แข่งแบบนี้ ตูจะยอมได้ไง แล้วบีบให้จิมมี่ เปลี่ยนมาขับพัลซ่า ละกัน
ถ้าจิมมี่ไม่เปลี่ยน จะไม่ซื้อโฆษณา อย่างงั้นหรอ ? มันก็ไม่ใช่อ่ะ นี่ตรงที่สุดแล้วมั๊ง ถ้าคุณมองว่ารถเป็นองค์ประกอบของธุรกิจ


มันก็เหมือนกับคุณปู่ผม บอกว่า เอ๊ยขายซาบารุไปเหอะ แกไปออก CLA ดีกว่า จะได้เหมาะกับอาเสี่ยขายตึก
ผมก็คงไม่ยอมเหมือนกัน (ถ้าไม่ให้ผมฟรีๆ 5 5 5 )

บางทีผมก็ขับนิสสันมาร์ชไปคุยงานกับพวกโฟร์แมน มันก็ไม่เห็นมีใครสักคนจะมาพูดไรมากเรื่องรถ
เพราะผมก็จ่ายตังค์ค่างวดตรงเวลาทุกงวด

อ่อ แล้วที่หลายคนบอกว่า ต้องเบนซ์ หรือ บีเอ็ม เพราะเห็นผู้บริหารส่วนใหญ่ขับ เหตุผลง่ายๆเลยนะ เพราะมันมีผ่อนแบบบอลลูน....
เพราะมันไม่ต้องดาวน์เยอะ และมีข้อตกลงดีๆ ถ้าจะซื้อในนามบริษัท ซึ่งเอาไปหักภาษีได้ จำนวนเยอะพอสมควร

ผู้บริหารอาจจะไม่รู้หรอกว่า รถรุ่นนี้มันดียังไง เจ๋งแค่ไหน เขามองแค่ว่า มันคุ้มสำหรับการลงทุนเพื่อหักภาษีของบริษัทเขานั่นแหละ
เขาถึงซื้อมาใช้ ผมถามจริงๆ เคยคุยกับพวกเสี่ยโรงงานกันบ้างมั๊ย ว่าทำไมเล่นเบนซ์ ? ไปถามสิ 80% บอก อั๊วะ เอาเงินบริษัทซื้อ....
กับอีกข้อ เขาบอกว่า เป็นรถยุโรปราคาขายต่อดี....(ทั้งๆที่ความเป็นจริงก็อาจจะราคาตกพอๆกับยี่ห้ออื่นๆก็ได้แต่เขาไม่ได้สนใจจะหาข้อมูลเหล่านี้)


คุณต้องเปลี่ยนทัศนคติ ในเรื่องเหล่านี้ได้แล้ว พวกคุณเป็นคนยุคใหม่แล้ว ไม่ใช่ยุคอุตสาหกรรม แล้วครับ
นี่มันยุคข้อมูลข่าวสารแล้ว แป้นพิมพ์ที่คุณเคาะ เวปไซท์ที่คุณเล่น มันคือยุคที่ต้องปฎิเสธ กรอบความคิดเก่าๆ เชยๆได้แล้ว

ความน่าเชื่อถือไม่ได้เกิดจากแค่เรื่องรถที่คุณขับหรอกครับ มันเกิดจากการกระทำที่คุณทำกับคนอื่นมากกว่า

ยกตัวอย่างเล่นๆว่า

ผมเป็นเจ้าของกิจการงานก่อสร้างระดับ 100 ล้าน และขับซูบารุ เข้าไปประมูลงานกับ บ.ฮอนด้า
คู่แข่ง เป็นเจ้าของกิจการงานก่อสร้าง ระดับ 50 ล้าน แล้วขับ ฮอนด้าแอคคอร์ด เข้าไปประมูลงาน กับ บ.ฮอนด้า เช่นกัน

ถามว่าเขาจะเลือกใคร ถ้าทุกอย่างเป็นคอนดิชั่นเดียวกันทั้งหมด ?  


เพื่อนบางคนของผมเล่นบีเอ็ม ผ่อนเดือนละ 30,000 ทุกเดือน บ่นแล้วบ่นอีก (ผมยังมาคิดในใจ มันจะบ่นทำไมวะ ก็เลือกเอง)
คำตอบคือ เพื่อภาพลักษณ์ก็เลยต้องยอมซื้อ....

กระทู้นี้ดีมากๆ นะครับ แต่แนวความคิดแบบนี้ ร้ายกาจมากในสังคมแบบทุนนิยมในปัจจุบัน ผมเห็นด้วยกับการตอบกระทู้ของบางท่านว่า
เพราะบริษัทรถ และบริษัทโฆษณา เป็นตัวเอก ที่ทำให้แนวคิดนี้ เป็นที่นิยม และทำให้สังคมเชื่อว่า ต้องขับรถแพงๆ หรูๆ ถึงจะน่าเชื่อถือ
และผมก็ไม่ได้ปฎิเสธความคิดของท่าน ที่แนะนำ รถยี่ห้อต่างๆ เพราะมันคือแนวคิดของแต่ละท่านที่น่าสนใจเช่นกัน

ปล.ขอโทษที่ตอบยาวและอาจจะไม่เป็นที่พอใจของคนในสังคม แต่ในฐานะของ คนที่เป็นเจ้าของกิจการ และก็ทำธุรกิจของตัวเอง
ผมเชื่อว่า การให้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดย่อมทำให้ผลลัพธ์ออกมาถูกต้องเช่นกัน





ผมก้อบริหารโครงการอสังหาเหมือนกันครับ เวลาเข้าไปที่ไซร้งาน หรือไปเจอลูกค้าผมขับ ford ranger ไป ฮ่าๆๆ
ขับรถไปทำงานกระบะยกสูงมันขับสบายสุดๆ ผู้บริหารมักยึดติดกับภาพลักษณ์
แต่เจ้าของกิจการไม่ครับ ปสก ส่วนตัวของผมมันสอนว่า ยิ่งใช้ชีวิตโดยแคร์สายตาคนอื่นน้อยเท่าไหร่
จะยิ่งรวยเร็วเท่านั้น

เรื่องจริงครับ คนที่รวยเร็ว คือคนที่คิดไม่เหมือนชาวบ้านชาวโลกทั้งนั้น (แต่ไม่ใช่เรื่องชั่วๆ นะ)

ผมว่ามันเป็นตรรกะง่ายๆ นะ

ในเมื่อคนส่วนใหญ่ของโลกเป็นคนจน ถ้าคุณคิดเหมือนคนส่วนใหญ่ของโลก แล้วคุณจะรวยไหม?
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ theunz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 27
    • อีเมล์
การถูกมองรถที่ขับเป็นเรื่องปรกติครับ แต่มันมีทั้งสองด้านหมดละครับ หาสูตรตายตัวคงยาก
ที่เราทำได้ก็คืออย่าไปมองคนอื่นเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักครับ อย่าไปคิดมาก (อย่างมากก็เรื่องรองก็ยังดี)

จากที่เคยเจอมา มันมีทั้งที่ตรงกับมี่หลุดไปเยอะเลยครับ

ผมว่าถ้าจะดูเรื่องนี้มันต้องดูที่คนที่ติดต่องานด้วยครับ  เช่น

จะไปขายของแต่ดันขับรถหรูกว่าลูกค้า อันนี้ผมว่ามันก็ไม่ดี
จะไปซื้อของเอารถที่"คิด"ว่าคนที่มองจะดูดีมีฐานะหน่อยก็จะดีกว่า ก็เหมือนแต่งตัวขาสั้นถึงมีเงิน(แต่คนขายที่ไหนจะรู้) ถ้าเจอเซลเค้าคงดูแลลูกค้าคนอื่นที่ใส่สูทก่อน

จะไปกู้แบงค์แต่เอาเฟอร์ไปก็ตลก ผู้ใหญ่ที่รู้จักยังต้องเอากลางๆเช่น camry ไปเลย

ทั้งนี้สุดท้ายก็ขึ้นกับฝีมือ กับตัวคุณอย่างเดียว
ผมถูกคนมีเบนซ์มีBMW จะเบี้ยวเงินก็ตั้งหลายที
 ;D


ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
การถูกมองรถที่ขับเป็นเรื่องปรกติครับ แต่มันมีทั้งสองด้านหมดละครับ หาสูตรตายตัวคงยาก
ที่เราทำได้ก็คืออย่าไปมองคนอื่นเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักครับ อย่าไปคิดมาก (อย่างมากก็เรื่องรองก็ยังดี)

จากที่เคยเจอมา มันมีทั้งที่ตรงกับมี่หลุดไปเยอะเลยครับ

ผมว่าถ้าจะดูเรื่องนี้มันต้องดูที่คนที่ติดต่องานด้วยครับ  เช่น

จะไปขายของแต่ดันขับรถหรูกว่าลูกค้า อันนี้ผมว่ามันก็ไม่ดี
จะไปซื้อของเอารถที่"คิด"ว่าคนที่มองจะดูดีมีฐานะหน่อยก็จะดีกว่า ก็เหมือนแต่งตัวขาสั้นถึงมีเงิน(แต่คนขายที่ไหนจะรู้) ถ้าเจอเซลเค้าคงดูแลลูกค้าคนอื่นที่ใส่สูทก่อน

จะไปกู้แบงค์แต่เอาเฟอร์ไปก็ตลก ผู้ใหญ่ที่รู้จักยังต้องเอากลางๆเช่น camry ไปเลย

ทั้งนี้สุดท้ายก็ขึ้นกับฝีมือ กับตัวคุณอย่างเดียว
ผมถูกคนมีเบนซ์มีBMW จะเบี้ยวเงินก็ตั้งหลายที
 ;D


เรื่องเซลล์  เจอมากับตัวครับพ่อกับแม่  ไปดูรถที่ F  เดินเข้าไปฌซลล์ไม่ดูห่าอะไรเลย  ก็ใส่ชุดธรรมดาขาสั้นนี้แหละครับ(แต่ก็ไม่ได้น่าเกีลยดอะไรนะ)พ่อกับแม่ก็ยืนอยู่ตั้งนาน  พอเรียกเดินมาทำหน้าแบบมองตัวถึงเท้าอ่ะแบบดูถูกอะนะ    สุดท้ายก็เลยเดินออกจาก0เลย  แม่พูดด้วยว่า ทำแบบนี้น่าหวังว่าจะขายได้เลย   แจ่พอไป 0  T  เซลล์รีบวิ่งมาถามเลยว่าสนใจรุ่นไหนค่ะแล้วแบบบริการลูกค้า  ทุกคนเท่าเทียมกัน   สุด้ทายก็เลยจบที่ T   

ออฟไลน์ No.94

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 72
ผมในฐานะที่ทำธุรกิจ ผมกลับไม่ได้มองแบบนั้นครับ

เอาง่ายๆ มีผู้รับเหมา มาติดต่องานกับผม สามเจ้า
 
เจ้าที่ 1 ขับ S-Class มา
เจ้าที่ 2 ขับรถกระบะเก่าๆ มา
เจ้าที่ 3 ขับ BT50 ป้ายแดงมา

ผมถามคุณว่า ถ้าเป็นคุณ จะเชื่อถือเจ้าไหนมากที่สุด?

คำตอบของผมคือ ผมเชื่อถือ เจ้าที่ 3 มากที่สุด เพราะผมมองว่า เขาเป็นคนทำงานและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
เขาจึงใช้รถที่เหมาะกับหน้าที่การงาน ขนของได้ ขนคนได้ สามารถใช้ในงานที่เราจะจ้างให้เขาทำได้

ทำไมไม่เลือกเจ้าที่ 1 หรือ 3

เจ้าที่ 1 เล่นรถหรูมาขนาดนี้ แล้วมันจะมาฟันผมขนาดไหน....(ส่วนมากไม่คุมงานเองหรอก ไปจ้างคนอื่นมาทำอีกที)
เจ้าที่ 2 รถเก่ามากขนาดนี้ มันจะทำงานให้ผมได้ดีขนาดไหน...

ทุกอย่างมีสองมุมมองเสมอครับ ผมเชื่อแบบนั้น ตัวผมจึงขับ Subaru Impreza ไปดิวงานซื้อขายตึก กับลูกค้า

สิ่งที่ลูกค้าทักคือ คุณอาร์ต รถสวยจัง ยี่ห้อนี้คนเล่นน้อยนะ ต้องรักกันจริงถึงใช้ แถมกินน้ำมันดุด้วย...
คำตอบที่ผมให้ลูกค้า คือ ผมรักและชอบในสิ่งที่ผมเป็น พอๆ กับที่ผมรักและชอบในธุรกิจที่ผมทำครับ

คำตอบนี้...ทำให้เมื่อวานผมรับเช็คเงินสด 2,xxx,000 มาครับ
จริงๆ มันไม่เกี่ยวกับรถหรอก....แต่สิ่งที่เราทำมันบ่งบอกว่าเราคิดแบบไหนมากกว่า

ผมจะบอกว่า คนไทยน่ะ ยึดติดกับภาพมากเกินไป จนไม่เห็นข้อเท็จจริง หรือ ความเป็นจริงของสิ่งที่คุณกำลังเผชิญกับมันอยู่
มันก็เหมือนกับ เวลาคุณไปออกงานอะไรสักอย่างแล้วเจอสาวน้อยใส่ชุดแดง เฉิดฉายเดินเข้ามาในงาน สิ่งที่คุณคิดคือ สวยว่ะ
แต่สิ่งที่อยู่ข้างหลัง อาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะคลำลงไปอาจจะเจอตอ...ก็เป็นได้

ผมเกลียดที่สุดคือ การมองแต่ภาพลักษณ์ภายนอก จนไม่ได้มองจิตใจของคนคนนั้น (ซึ่งเอาหล่ะมันมองยากกว่ามาก)
ในทางธุรกิจก็เช่นกัน ผมไม่ได้มองแค่เขาขับรถอะไรมา แต่มองให้ทะลุถึงจิตใจคนนั้นๆ ว่า ทำไมเขาถึงขับรถคันนี้ มากกว่า





นอกจากมีรถสวยแล้ว ยังมีมุมมองที่หล่อมากด้วยครับ

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,352
    • อีเมล์
เรื่องแบบนี้ ต่างคน ต่างมุมมองกันจริงๆครับ จะฟันธงว่าแบบไหนดีก็ไม่ใช่ เพราะแต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน  :)

ในฐานะที่ผมก็เป็นคนขายของ ผมก็เลือกขับรถที่รัก และเหมาะสมในน้ำหนักที่เท่าๆกันครับ หลายครั้งผมเลือกที่จะไม่ขายของให้กับคนที่มองว่า "ทำไมขับรถแบบนี้มาคุยงาน ไม่ขับ a b c นู่นนี้มา"  เพราะผมเองก็ไม่สบายใจที่ลูกค้าจะซื้อของที่ผมขายจากการตัดสินใจภายนอกว่า ผมใช้รถอะไร ใช้โทรศัพท์อะไร แต่งตัวอย่างไร

แค่จะสื่อว่า ก็มีคนที่มองทั้งเรื่องภายนอก และมองถึงเนื้อแท้คนๆนั้น มันก้แล้วแต่ว่าเราจะเลือกคบค้าสมาคมกับใครแค่นั้นคร้าบ  ;D

ออฟไลน์ WRD79

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 243
    • อีเมล์
เข้าใจว่าคนสมัยนี้ส่วนใหญ่มองกันที่ภายนอกมากขึ้น ผมว่าถ้าให้ดูภูมิฐานจริงๆก็คงต้อง d-seg หรืออาจจะ c-seg ถ้าวัยยังไม่เยอะมากนัก
Mercedes Benz E220 W124
BMW X1 E84
HONDA HRV
HONDA Civic FK

ออฟไลน์ นครอัญมณี

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,181
    • นครอัญมณี
    • อีเมล์
ติดต่องาน ต้อง

รถขนาดกลาง- ขนาดใหญ่ ของทุกยี่ห้อ ครับ

แต่ห้ามแต่งซิ่ง

เพราะรถ จะบ่งบอกถึงบุคคลิก เจ้าของ

เหมือนการแต่งกาย..

รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด

ออฟไลน์ 大丈夫

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 147
    • อีเมล์
ชอบความเห็น คุณ SignifeR ทั้งสองความเห็นครับ เป็นแนวคิดที่ผมใช้เหมือนกัน

นอกเรื่องนิด ถึงแม้คุณ SignifeR จะตอบแต่ละ reply ยาว แต่ก็เนื้อทั้งนั้น

พิมพ์แบ่งวรรคตอน-เว้นบรรทัด อ่านง่าย ใช้ภาษาไทยถูกต้อง และไม่มีการ edit (ตรวจทานก่อนส่ง)

มันแสดงถึงความละเอียดสุขุม ของคนที่มีความคิดสุขุมเช่นเดียวกันครับ