ผู้เขียน หัวข้อ: สงสัยเรื่องแรงบิดสูงสุดของเครื่องเบนซินเทอร์โบครับ  (อ่าน 5391 ครั้ง)

ออฟไลน์ zapdos191

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 683
สวัสดีครับเพื่อนๆชาว HLM ทุกท่าน ช่วงนี้กระแสรถใหม่มาแรงมากมาย เลยอยากจะขอตั้งกระทู้วิชาการเล็กน้อย ตามข้อสงสัยผมครับ

คือ ช่วงหลังๆมานี้ เท่าที่ผมสังเกตุ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบสามารถเรียกแรงบิดได้เยอะไม่แพ้ดีเซลเลย และบางรุ่น ยังสามารถเรียกแรงบิดสูงสุดได้ตั้งแต่รอบน้อยๆ ผมยกตัวอย่างดังนี้นะครับ

1. A250 AMG : 350 นิวตันเมตรที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที
2. Golf GTi MK 6 : 280 นิวตันเมตรที่ 1,700-5,200 รอบ/นาที
3. BMW 328i F30 : 350 นิวตันเมตรที่ 1,250-4,250 รอบ/นาที
4. Volvo V40 T5 : 300 นิวตันเมตรที่ 2700 - 5000 รอบ/นาที (อันนี้ช้ากว่าชาวบ้านหน่อย แต่ไม่ถึงว่าน่าเกลียด)

จะสังเกตุได้ว่า รถรุ่นใหม่ๆนี้ รอบพันกว่าๆก็มากันหมดแล้ว เลยสงสัยว่า เทคนิคการเรียกแรงบิดมาตั้งแต่รอบต้นๆแบบนี้มันมีหลักการยังไงครับ โดยส่วนใหญ่ นอกจากใช้เทอร์โบโข่งหลังเล็กๆ รอบมาเร็วๆ เพราะสงสัยมานานแล้ว จริงๆไม่ใช่อะไรหรอกครับ รถผม Vios ไปลงโบแรงบิดมันเยอะขึ้นจริง สัมผัสได้ แต่กว่าแรงบิดจะมา ก็รอกันเหงือกแห้ง 5555+ จากโรงงานบอกว่า 144nm ที่ 4200 รอบ/นาที หลังลงโบ ไม่เคยขึ้น Dyno ครับ เลยไม่รู้ แต่จากเท่าที่ดู ต้องรอกัน 3000 กว่าๆเลยทีเดียว แรงถึงจะมาเต็มๆ (เกียร์ออโต้นะครับ)

ปล. อีกคำถามสุดท้ายครับ ทำไมรถดีเซล ถึงแรงบิดโดดเด่นได้ขนาดนั้นครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบล่วงหน้าครับ

 
-------- Toyota Vios 2003 --------
-------- Subaru WRX STi 2015 --------
-------- Honda Jazz GK5 --------
-------- BMW G20 330i --------
-------- Subaru Impreza WRX STi 2008 (GRF) --------
-------- Subaru Forester XT (SJG) MC --------

ออฟไลน์ Pon76

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 162
ขอลองมีส่วนร่วมหน่อยผิดถูก ท่านอื่นช่วยแนะด้วยครับ
 หลักของเครื่องดีเซล กับ เบนซิล คืออัตราส่วนกำลังอัดที่ต่างกัน
ดีเซล กำลังอัดสูง แรงระเบิดสูง ส่วนใหญ่ออกแบบก้านสูบยาว ( กำลังอัดสูงได้ง่าย )
         แรงบิดมากที่รอบต่ำ เพราะ ระเบิด น้อยครั้งก็มีแรงแล้ว
เบนซิล กำลังอัดต่ำ แรงระเบิดน้อย เพราะอยากให้เครื่องเบา เน้นระเบิดหลายๆครั้ง
         จึงจะมีแรง แล้วแรงก็เลยมาที่รอบสูงมาก
เบนซิลอยากได้แรงบิดสูงขึ้น ก็ต้องทำให้ระเบิดแรงๆ ก็ต้องอัดอากาศมากๆ +ฉีดน้ำมัน
แต่รอบเทอร์โบมาช้า เพราะตัวหนัก ถ้าตัวเบาก็ไม่มีแรง

ออฟไลน์ S6

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,134
จากข้อมูล GTi แรงบิดมาตั้งแต่ 1,700 รอบ
แต่...พอขับจริงๆ ก็ยังไม่รู้สึกว่ามีแรงบิดเลย กว่าจะมาก็ 2,000 กว่าเกือบ 3,000 เหมือนกัน

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
แรงบิดแยอะ มารอบต่ำ แต่ไม่มีแรงม้าก็ทำอะไรไม่ได้

ที่ยกมามีแต่แรงบิดทำไมไม่ยกแรงม้าม้าด้วย อย่างแรงม้าสูงสุดที่ 4500 อะไรแบบนี้ ที่บอกว่ารู้สึกแรงตั้งแต่3000 4000 รอบเพราะแรงม้าเริ่มมาไง

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,721
    • อีเมล์
 เครื่องยนต์ที่ใช้ระบบอัดอากาศช่วย เพราะต้องการกำลังที่มากขึ้น
 กำลังเครื่องยนต์มาจากการเผาไหม้ ประกอบไปด้วย น้ำมัน อากาศ ผสมกันโดยมีสมองกลเป็นตัวควบคุม

 โดยธรรมชาติแรงบิดสูงสุดมามาในรอบใดรอบนึงเท่านั้น แต่สามารถทำให้แรงบิดสูงสุดมาในรอบต่ำๆได้ และยังคงระดับสูงสุดได้ในรอบเครื่องที่กว้าง เป็นช่วง หรือเรียกว่า แฟลททอร์ค ตัวการสำคัญคือ สมองกล นั่นเอง ร่วมกับประสิทธิภาพของเทอร์โบ ประสิทธิภาพการจ่ายน้ำมัน และปลีกย่อยอื่นๆตามเทคโนโลยีของผู้ผลิต

ออฟไลน์ Pon76

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 162
แรงบิดแยอะ มารอบต่ำ แต่ไม่มีแรงม้าก็ทำอะไรไม่ได้

ที่ยกมามีแต่แรงบิดทำไมไม่ยกแรงม้าม้าด้วย อย่างแรงม้าสูงสุดที่ 4500 อะไรแบบนี้ ที่บอกว่ารู้สึกแรงตั้งแต่3000 4000 รอบเพราะแรงม้าเริ่มมาไง

ผมว่าเข้าใจผิดนะครับ แรงบิดคือแรงที่ผลักรถไปด้านหน้า เป็นแรงหมุนล้อ
ตราบใดที่แรงบิดส่งไปที่ล้อ ยังเอาชนะแรงเสียดทานที่พื้นและอากาศ จะบิดมาก บิดน้อย รถก็เร่งเร็วขึ้นได้เรื่อยๆ
แรงบิดสูงรอบต่ำ แปลว่าเร่งได้เร็วกว่า แรงบิดสูงแต่ต้องรอรอบสูงๆด้วย และเร่งได้
จน ถึงจุดสุดท้ายคือ แรงม้าสูงสุด ที่รอบแรงม้าสูงสุดนั้นถ้าเหยียบเกินรอบนั้นไม่เหลือแรงแล้วครับ

ออฟไลน์ aood!e

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 301
หลักการมองอย่างงี้นะครับ ให้สังเกตุรถที่มีแรงบิดมาในรอบต่ำ ประกอบด้วยกันหลายส่วน เช่น กระบอกสูบจะมีขนาดเล็กกว่า ระยะชัก  การออกแบบให้ระยะชักยาวกว่า ก้อจะช่วงเพิ่มแรงบิค แต่มีปัจจัยอย่างอื่นอีกมากเช่น การออกแบบเทอร์โบ ให้มีรอบการหมุนที่เร็วเกิน280,000ต่อนาที   การออกแบบให้กำลังอัดสูง  โลหะวิทยา ออกแบบชิ้นส่วนให้ทนแรงอัดของ การจุดระเบิด หัวฉีดแบบไดเรคอินเจ๊กชั่น. อัตราทดเกียร์ เฟืองท้าย 

ออฟไลน์ Hell GF

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 53
ที่แรงบิดมาไวเพราะ เทอร์โบมันทันสมัยขึ้นครับ

เช่น ใบพัดเบากว่า องศาใบพัดตักอากาศได้มากกว่า แถมยังเป็นโบแปรผันดักอากาศได้ตั้งแต่รอบตำ่

ส่วนเจ้าของกระทู้อยากให้โบทำงานเร็วๆ ต้องเล่นโบบอลแบริ่ง แล้วก็เปลี่ยนแคมด้วย น่าจะพอใจ


ออฟไลน์ NarinrachMaisok

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,622
  • Das Auto
จากข้อมูล GTi แรงบิดมาตั้งแต่ 1,700 รอบ
แต่...พอขับจริงๆ ก็ยังไม่รู้สึกว่ามีแรงบิดเลย กว่าจะมาก็ 2,000 กว่าเกือบ 3,000 เหมือนกัน

ตามนั้นแหละครับ มาจริงรู้สึกดึงจริงๆประมาณ 2700-3000 แล้วก็ยาวไปจนถึง 5800 เลยครับ ที่เหลือเริ่มเหี่ยวละแรงดึง แล้วก็เป็นแบบนี้หลายๆรุ่นเลยจะคล้ายกัน คือมาจริงประมาณ 2กว่า-3พัน

ออฟไลน์ nemesis

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 235
    • อีเมล์
วิ่งทางเรียบ แรงม้ากับแรงบิดต้องมาด้วยกัน จึงจะสัมผัสได้ถึงแรงดึงครับ
ถ้าดูแรงบิดอย่างเดียว ลองนึกถึงถาพบรรทุกหนักๆ ขึ้นเขาชันๆแบบรถไปแทบไม่ไหว
เมื่อนั้นจะเก็นผลของแรงบิดที่ต้องต้องเร่งเครื่องยนต์ไปให้ถึงช่วงแรงบิดสูงๆที่เครื่องจะทำได้ รถจึงจะสามารถวิ่งขึ้นทางชันไปได้
ประมานนี้ครับ

ออฟไลน์ cefboy

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 217
    • อีเมล์
แรงบิดมากๆที่รอบต่ำๆเนี่ยแหละที่ขับแล้วจะรู้สึกว่ามันส์ เพราะส่วนใหญ่รอบต่ำๆถึงกลางๆไม่เกิน 3-4 พันรอบ จะเป็นช่วงที่เท้าเราจะเขี่ยมาอยู่ประมาณนี้ได้บ่อยครั้ง
ส่วนแรงม้ากับรอบ เพราะมากี่ม้า รถหนักเท่าไหร่ต้องไปชดเชยกันอีก สมัยก่อนก็นึกง่ายว่ารถเราแรงกว่าพอบวกน้ำหนักตัวแล้ว ถึงวิ่งตามเค้านั่นเอง
และความเร็วปลายเป็นสิ่งที่ผมไม่สนเลย 200 ได้ก็สุดยอดแล้วครับในประเทศไทย

จากเปสรคข้างบน Volvo ขี้โกงเพราะใช้เครื่อง 5 สูบ ปลายไหลมาเทมาอย่างหนัก ผมขับ A 25 ไล่กันบนทางด่วนตามอย่างเหนื่อยเลย พอๆกับ Audi tt ได้แค่ไล่แซงไม่ได้ ถ้าไม่ไหลยาวๆ
ส่วน Scir ที่เคยขับคิดว่าแรงพอๆกับ GTI ต้องรอรอบสักเล็กน้อยแต่ก็เรียกความมันส์ได้ไม่ยากครับ ยาวๆด้วย
ขนาดเทอร์โบ ปริมาณไอเสียที่หมุนเวียน ยิ่งพวก Twin Srcoll เนี่ย จับในเบนซิล Boost ถึงมากันไวครับ ดีเซลส่วนใหญ่วางในรถใหญ่ๆ เลยวิ่งไม่ค่อยติดมาก
อยากให้ดูช่วง Flat Toque บวกไปด้วยอ่ะครับ ยิ่งแบนกว้างๆก็ยิ่งมันส์ยาวๆครับ
1.   A250  = 2800  ( 4000-1200)
2.   GTI = 3500   แรงบิดแค่ 28 แต่ช่วงพีคได้นานและกว้างที่สุดเลย
3.   F30 = 3000  ตัวเนี่ยเค้าตอนไว้
4.   V40 = 2300  


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 27, 2013, 17:44:33 โดย cefboy »

ออฟไลน์ HDE35

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 229
แรงบิดมารอบต่ำและคงอยู่อย่างนั้น เป็นช่วงกว้าง  เป็นคุณสมบัติของ เทอโบร์แปรผันครับ 
เทอร์โบแปรผันมีการควบคุมอากาศเข้าห้องเผาไหม้ได้เหมาะสมดีกว่าแบบธรรมดาทำให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพมากกว่าได้พลังงานมากขึ้นตามไปด้วย
จึงทำให้รอบต่ำเรียกแรงบิดออกมาได้สูง

ออฟไลน์ rocky55555

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 630
ที่แรงบิดเยอะเพราะมีโบ ทั้งดีเซลและเบนซิน

เอามาเทียบกับรถที่มาลงโบเองไม่ได้หรอกครับ รถใหม่ๆเครื่องฉีดตรง+โบรุ่นใหม่ๆ เทคโนโลยีที่ออกแบบมาผ่านวิศวกรนับร้อยทดลองไม่รู้กี่ครั้งกว่าจะออกมาขายลงทุนวิจัยไม่รู้กี่ล้านๆ

ดีเซลแรงบิดเยอะเพราะจุดระเบิดด้วยการอัด มันเลยได้รอบไม่เยอะด้วย รายละเอียดอีกเยอะอันนี้คร่าวๆ

ออฟไลน์ power2002

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 689
  • ประหยัดได้ด้วยเท้าตัวเอง!
ขนาดความจุ CC เครื่องล่ะฮะ

ออฟไลน์ ぼくは"P.P."です

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 690
แล้วงี้อย่างTwin Scroll Turboนี่ทำงานยังไงอ้ะครับ
เห็นว่าช่วยลดturbo lag?
Great Handling = Great Car

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,333
 ;D ;D ;D..........ขอบคุณทุกท่านครับ ผมเกาะอยู่ข้างเวที เก็บคะแนนที่มีเหตุผลดีๆเข้าสมองไว้เลย ชอบมากๆครับ เพราะอยากรู้มานานแล้วว่าทำไมเบนซีนเทอร์โบ  มันถึงด้อยกว่า เทอร์โบดีเซล  คราวนี้จับใจความได้แล้วว่าเบนซีนมันกลัวความร้อนของรอบสูงๆ ;)

ออฟไลน์ Tongnismo

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 72
    • อีเมล์
รถเจ้าของกระทู้ เวลาเร่งช่วง ความเร็วที่ 80-120 ขึ้นดีไหมละคับ เวลาแซง แซงได้ดีกว่าก่อนทำโบไหมคับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
เพิ่งสังเกตุเหมือนกันครับ แรงบิดเยอะมาก