จากที่เคยคิดว่าสปอร์ตสองประตูดับไปแล้วพักใหญ่ๆ ก็ดีใจที่จะกลับมาให้เห็นกันอีกครั้ง
FT-86 ดีไซน์ไม่เลวเลย หลังจากที่ได้ดูดีไซน์ของโตโยต้าญี่ปุ่นที่เป็นรถคันจริงๆเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆมาบ้าง
เริ่มรู้สึกว่า ชอบมากขึ้นกว่าดีไซน์ของยุค 5 ปีที่แล้วครับ
Mazda ผมชอบแนวคิดที่ทำรถน้ำหนักเบาลง แทนการทำให้ใหญ่ โต เบอะบะและหนัก แล้วมาชดเชยด้วยพลังเครื่องยนต์ มาสด้าทำรถเล็กที่น่าคบอย่าง MX-5 ออกมาได้ดี น่าชมเชย (MX-5 ตัวแรกทุกวันนี้ยังเก๋าอยู่) และที่ผ่านมา Mazda ปฏิเสธเรื่องพลังมาโดยตลอด จนกระทั่งมาสด้าออสเตรเลียทำ MX-5 SP เซ็ตเทอร์โบเองออกมา พลังที่ได้จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่น่าจะมี 180-190 ตัว และพิสูจน์ให้เห็นว่าแชสซีส์ MX-5 สามารถรองรับพลังขนาดนี้ได้ และให้ความสนุกในการขับจาก Power Oversteer เพิ่มอีกด้วย จนในภายหลัง Mazda ญี่ปุ่นจึงมีเวอร์ชั่น SE เทอร์โบ ส่งไปขายในออสเตรเลียเองเลย ซึ่งยังแรงสู้ของออสซี่ทำในครัวเองไม่ได้
ดังนั้นเทอร์โบไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้ามาสด้ากำลังคิดที่จะทำเครื่องเทอร์โบขนาดเล็ก 1.6-1.8 ลิตร แต่ทำกำลังให้ได้ระดับ 150 แรงม้าในรุ่นแรงน้อย และจบที่ 180-190 แรงม้าในรุ่นสูง ก็จะแรง และขับสนุกได้อย่างพอดี อยู่กับ 4 สูบความจุเล็กนี่ล่ะดีแล้ว ไม่ต้องเอา V6 มาใช้ก็ได้ เขยิบหาความแรง..แต่ไม่ทิ้งปรัชญาเดิม
ส่วน Silvia นั้น ถ้ากลับมาใหม่ได้ ก็จะเป็นการดีมาก เรื่องดีไซน์นั้นไม่ห่วงอะไร เพราะรถขับหลังจากนิสสัน ส่วนมากทำออกมาแม้ไม่สวย 100% แต่ก็จะมีจุดที่มีเสน่ห์ของมันเสมอ ที่กำลังอยากรู้คือนิสสันจะมาแนวทางไหนกับ Silvia ตัวต่อไปในเรื่องของเครื่องยนต์
เนื่องจากเครื่อง SR นั้นตายไปแล้ว ถูกแขวนคอเพราะไม่ผ่านมาตรฐานมลพิษ ดังนั้นเครื่องที่เป็นขับหลังที่มีอยู่ตอนนี้ ล้วนเป็น V6 ทั้งนั้น ซึ่งหาก Silvia ออกมาเป็น V6 นิสสันอาจจะอยู่ในความเสี่ยงเรื่องการกินตลาดกันเอง ระหว่าง Skyline Coupe, 370Z และ Silvia ดังนั้น จะมีทางไหนให้เลือกระหว่าง
1. ยัด V6 ลงไปนี่แหละ สหกรณ์ดี แต่มาประหยัดที่จุดอื่นๆเพื่อทำราคารถให้ถูกกว่า Skyline เยอะๆ
2. นำเอาเครื่อง MR, HR มาแปลงเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
3. พัฒนาเครื่องบล็อคใหม่ออกมาเพื่อให้ขับสนุกอย่างแท้จริง เนื่องจากรูปแบบเครื่อง MR,HR นั้นสร้างมาเพื่อการขับในชีวิตประจำวันและความยืดหยุ่นมากกว่าจะลากรอบเพื่อเอาสนุก
หรือ 4. มีมันแม่มทั้ง V6 และ 4 สูบไปเลย
ส่วนตัวผมคิดว่าเอกลักษณ์ของ Silvia นับตั้งแต่ S13 มาเลยคือ
1. น้ำหนักตัวไม่มาก (เบากว่า Supra เกือบ 300โล)
2. ใช้เครื่องวางหน้า ขับหลัง แบบ 4 สูบ
3. มีพื้นฐานรองรับในการโมดิฟายที่ดี และสามารถขยายแรงม้าต่อได้มาก
ข้อ 1 กับ 2 มีทางได้เห็นกัน แต่ข้อ 3 นั้นไม่แน่ใจ เพราะทุกวันนี้เครื่องนิสสันแต่ละรุ่น..ไม่เห็นมันทำใ้ห้เป็นมิตรต่อการโมดิฟายเท่าไหร่เลย ..คือโอเค ถ้าคนมีเงินหรือเก่งมากๆ โมได้อยู่แล้ว แต่ลองถามคนที่แตะเครื่อง VQ35DE ใน 350Z ตัวแรก กับ VQ35HR ในตัวไมเนอร์ แค่นั้นความยากของระบบเซนเซอร์และสายไฟก็คนละเรื่องกัน และกลายเป็นว่าเครื่องรุ่นเก่า กลับโมง่าย ใช้งบน้อยกว่า
ก็คิดว่าที่ทำระบบให้ซับซ้อน คงจะมีเหตุผลเรื่องการคุมกลไกต่างๆให้ทำงานจนได้ค่าไอเสียที่ผ่านเกณฑ์ และมีการขับขี่ (ในสเป็คโรงงาน) ที่ครอบคลุมได้ทุกการใช้งาน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็โอเค เพราะเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม และกันไม่ให้คนเที่ยวไปปรับแต่งอะไรให้เครื่องปล่อยมลพิษเยอะเกินควร
ก็ต้องเลือกระหว่างสปอร์ตที่รับผิดชอบต่อสังคม หรือโมง่าย ขุนง่าย ขายวัยรุ่นคล่อง แต่ไอเสียเหม็นเบนซินกลบ