จริงๆหรือป่าว การโหลดรถไม่ใช่เรื่องดี

[Alcatraz]

เมื่อก่อนผมเข้าใจว่าการโหลดให้เตี้ยลง จะทำให้รถเกาะถนนมากขึ้น ทำให้ลมที่ผ่านใต้ท้องน้อยลง ต้านลมน้อยลง ดูได้จากพวกรถแข่งในสนาม หรือรถสปอร์ต

แต่ตอนหลังไปเจอมาพวกรถบ้านๆ ที่ไปโหลดแยอะๆไม่ใช่เรื่องดีเพราะจะทำให้ โช๊คและแซสซี ให้ตัวได้น้อยลง ประสิทธิภาพของช่วงล่างจะลดลงด้วย โดยเฉพาะช่วงล่างคานแข็ง ที่ไม่สามารถให้ตัวแยกจากกันได้ ความคิดนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ

แล้วถ้าอยากโหลดควรโหลดแค่ไหนถึงจะพอดี ถ้าไม่นับเรื่องลำบากเวลาขึ้นลงทางชันหรือช่วงล่างที่กระด้างขึ้น



ปล พอนึกถึงเรื่องนี้ผมนึกถึง user ในตำนานคนนึงที่บอกว่า กระบะโหลดเตี้ย ล้อกว้างๆ เกาะถนนกว่า super car อีก

[S6]

ใช่ครับ ประสิทธิภาพช่วงล่างทำงานได้ลดลง ลักษณะของเพลาขับ, จุดยึดปีกนก เปลี่ยนไป
รถแข่งที่โหลด ก็ดัดแปลงช่วงล่างตามการโหลดลงมาด้วย

[rokrok]

อาจจะมีปัญหาแค่ การโหลดทำให้มุมล้อเช่น camber เปลี่ยนไป อาจจะทำให้ล้อแบะไม่ถูกที่ถูกทาง ขณะเข้าโค้งและทางตรงครับ
และมุมของช่วงล่างที่เปลี่ยนไป(พวกปีกนก) ก็ทำให้ Roll center ของรถเปลี่ยนไป(อันนี้เริ่มเฉพาะทางไปละ)

แต่ช่วยในเรื่องการทรงตัวแน่ๆครับการโหลด เพราะจุดศูนย์ถ่วงรถต่ำลง และ รถเอียงตัวน้อยลง
และการที่ช่วงล่างแข็ง ให้ตัวได้น้อยก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้วครับสำหรับเรื่องเกาะถนน สังเกตได้ครับ รถแข่งรถสปอต(จริงๆ)ช่วงล่างแข็งเป็นหินทุกคัน

ส่วนเรื่องรถกระบะโหลด ก็ดีได้ครับ เอาให้เตี้ยให้แข็ง แบ่งน้ำหนักล้อหน้า-หลังดีๆ ก็เกาะเป็นตุ๊กแกครับ

ดูพวก กระบะแข่ง super series ทั้งหลายได้เลย รถเก่งโหลดมีอายครับ

[art_duron]

จากที่ผมอ่านมากจาก อ.ศิริบูรณ์ นะครับ ถ้าโหลด​แล้วรถอาจจะ​ เลี้ยวแล้วเอียงมากกว่าเดิมก็ได้ครับ
ถ้ามุมทางเรขาคณิต​ของช่วงล่าง เช่น มุมของปีกนก ชิ้นลงพื้น
พอหาจุดหมุน​ของช่วงล่าง แล้วจะทำให้รถเอียงได้มากกว่าเดิม
ซึ่งมันดูขัดๆ กับความรู้สึก​ แต่เป็นได้จริงทางหลักฟิสิกส์​ครับ
ถ้าจะโหลดแล้วให้ดีต้อง คำนึงถึง​ทั้งสปริงและช็อกอัพ และมุมทางเรขาคณิต​ของ​ช่วงล่างด้วย
แต่ก็ยังไม่ใช่แค่นั้น การเกาะถนน ต้องมีทั้งเรื่องข่วงล่างและตัวถังและการกระจายน้ำหนักด้วย

[Spec C Wannabe]

อาจจะมีปัญหาแค่ การโหลดทำให้มุมล้อเช่น camber เปลี่ยนไป อาจจะทำให้ล้อแบะไม่ถูกที่ถูกทาง ขณะเข้าโค้งและทางตรงครับ
และมุมของช่วงล่างที่เปลี่ยนไป(พวกปีกนก) ก็ทำให้ Roll center ของรถเปลี่ยนไป(อันนี้เริ่มเฉพาะทางไปละ)

แต่ช่วยในเรื่องการทรงตัวแน่ๆครับการโหลด เพราะจุดศูนย์ถ่วงรถต่ำลง และ รถเอียงตัวน้อยลง
และการที่ช่วงล่างแข็ง ให้ตัวได้น้อยก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้วครับสำหรับเรื่องเกาะถนน สังเกตได้ครับ รถแข่งรถสปอต(จริงๆ)ช่วงล่างแข็งเป็นหินทุกคัน

ส่วนเรื่องรถกระบะโหลด ก็ดีได้ครับ เอาให้เตี้ยให้แข็ง แบ่งน้ำหนักล้อหน้า-หลังดีๆ ก็เกาะเป็นตุ๊กแกครับ

ดูพวก กระบะแข่ง super series ทั้งหลายได้เลย รถเก่งโหลดมีอายครับ

ตอบได้ดีเลยครับ

ช่วงล่างจากโรงงาน วิศวกรเค้าออกแบบมาให้มีสมรรถนะที่ดีสุดที่ความสูงค่านึงตามที่เค้ากำหนด หากสูงหรือตำ่กว่านั้นมากๆ ก็จะทำให้มุมต่างๆผิดเพี้ยนไป   เลยช่วงที่เป็น Optimum range ประสิทธิภาพการเกาะถนนก็ลดลง

คร่าวๆ ดูง่ายๆที่สุดก็คือ หากโหลดรถแล้วเมื่อไหร่แล้วปลายปีกนกด้านที่ติดกับล้อทำมุมกับพื้นถนนเป็นมุมชี้ขึ้น (นั่นคือปีกนกแอ่นขึ้น) นั่นแหละรถคันนั้นโหลดมากเกินไปแล้ว ทำให้การทำงานของโมเม้นต์หรือแขนแรงเสียประสิทธิภาพเชิงกล  การเกาะถนนก็มักจะแย่ลง การควบคุมรถก็ยากขึ้น  แค่ตัวอย่าง ยังมีเรื่องมุมระหว่างเหล็กกันโคลงกับหนวดกุ้ง รวมทั้งระระยุบของโช้คที่มันจะไม่เหลือ (ที่พวกเล่นรถมักเรียกว่าโช้คยัน) และปัจจัยอื่นๆอีกมาก

รถแข่งเตี้ยและแข็งก็จริง แต่เค้าย้ายจุดหมุนของปีกนก เพื่อให้สอดคล้องกับความสูงที่ลดลง และระยะยืด-ยุบที่น้อยลง รวมทั้งเปลี่ยนวัสดุของจุดหมุนมาเป็นแบบ Ball Joint ซึ่งมันหมุนได้คล่องกว่า แต่ก็ไม่ยืดหยุ่น (Flexible) เท่าบู้ชยางที่มักใช้ในรถธรรมดา

เท่าที่เล่นๆมา โดยทั่วไป ช่วงล่างเดิม แล้วโหลดลง"ไม่เกิน"หนึ่งนิ้ว มักจะให้การทรงตัวที่ดีขึ้น รถโคลงน้อยลง ขับสนุกขึ้น  มากกว่านั้นคือเอาสวยงาม หรือหากจะเอาสมรรถนะจริงๆก็ควรต้องเซ็ทช่วงล่างใหม่หมด เช่นเปลี่ยนปีกนก เพื่มตัวปรับแคมเบอร์ Roll Center adjuster ฯลฯ

ดูพวกช่วงล่างสปอร์ตที่เป็นอ้อฟชั่นมาจากโรงงานซิครับ อย่างพวก Benz BMW Audi VW หรือแม้แต่พวก Porche Lambo ฯลฯ ช่วงล่างสปอร์ตของเค่้ามักกำหนดให้เตี้ยลงแค่ 10-20 มม. เท่านั้นเอง หากยิ่งเตี้ยยิ่งดี เค้าน่าจะกดให้เตี้ยไปเลยซักสองนิ้ว แต่ไม่มีใครทำครับ เค้าออกแบบมาเอง ย่อมรู้จริง

[Adi Autolism]

เตี้ยแค่ไหน??
ถ้าเตี้ย1-2" แทบไม่ต้องปรับอะไร
ถ้าเตี้ยกว่าอีกคงต้องใช้โช้คที่ปรับมุมต่างๆได้ช่วย
แต่ถ้าเตี้ยแป๊กเลย คงไม่ดีเพราะมุมต่างๆเพี้ยนหมด พวกรถแข่งเขาเปลี่ยนหมดนะ

เคยปรับเตี้ยกว่าเดิมๆ2" ปรับแคมเบอร์ช่วย เข้าโค้งเดิมๆ สามารถไปได้เร็วกว่าเดิมจริง

[Whisky]

ผมว่ามันมี trade off ของมันอยู่เสมอ ในการทำอะไรก็แล้วแต่

ในสภาวะรถเดิมๆ ที่ไม่ได้โหลด suspension geometry กับ alignment ต่างๆ ถูกคำนวนมาให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานตามที่รถได้ถูกวาง concept ที่ตรงกับโจทย์ของตลาดนั้นๆอยู่แล้ว

แต่พอเรามาปรับแต่ง ซึ่งแน่นอนว่าทำให้มุมต่างๆนั้นเปลี่ยนไป อย่างที่คุณ Spec C Wannabe บอกว่ารถมันมีค่า Optimum Range ของมันอยู่ คืออยู่ในช่วงที่เป็น ideal หรืออุดมคติมากที่สุด ส่วนเรื่อง roll center ไม่ได้เป็นเรื่องเฉพาะทางเกินไป พวกนี้ถือว่าปกติมากๆ สำหรับ motorsport ที่มีการปรับแต่งรถกันถึงกระดูก

ถ้าเราไม่ได้ว่ากันในเรื่องของการแข่งในรายการต่างๆ ที่มีกฏเกณฑ์ในการปรับแต่งรถออกไป เรื่องของความสามารถในการทรงตัว ยังมีเรื่องของ technology สมัยใหม่อีกด้วย เช่น traction control, vehicle stability control, torque distribution system ซึ่งทำงานรวมกับ sensor ที่จับมุมที่รถเคลื่อนตัวไปไม่ต่างจากมุมของเครื่องบิน คือ yaw sensor ที่ทำงานร่วมกับ steering angle sensor ระบบช่วงล่างแบบ adjustable ทำงานร่วมกับ pitch กับ roll sensor

ถ้าจะว่ากันให้ง่ายคือจับอาการของรถแบบหมดจด
roll คือ มุมเอียงแนวข้าง ที่เกิดระหว่างเข้าโค้ง เปลี่ยนเลน
pitch คือ มุมเอียงแนวตรง (dive & squat) ที่เกิดจากการเร่ง หรือ เบรค
yaw คือ มุมทิศทางของรถ (rotational) ที่เกิดจากการหักพวงมาลัย

พวกนี้ทำงานร่วมกับ ระบบต่างๆที่ผมได้บอกมา ดังนั้นรถสมัยใหม่จึงมี handling ที่ดีขึ้นกว่าสมัยก่อนค่อนข้างมากที่เน้นเฉพาะส่วน mechanical อย่างเดียว และมีการใช้ computerized system ในส่วนที่ไม่ได้เกี่ยวกับ handling น้อยมาก หรือถ้าเก่ามากคือไม่มีเลย ใช้ฝีมือขับกันล้วนๆ

ดังนั้นรถเดี๋ยวนี้ที่เกาะและเข้าโค้งได้เร็ว ไม่ใช่ว่าเพราะว่าช่วงล่างดีเพียงอย่างเดียว แต่ด้วยความที่มันถึงจุดที่เราต้องการจะไปถึงจุดที่การทำงานเชิงกลไปไม่ถึง และความสามารถของคนขับไม่ได้สูงมากเหมือนกันทุกคน

นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่อง aerodynamics grip อีกเพราะว่ามันแยกกันไม่ได้เลย สำหรับรถกระบะที่แต่ง เกาะจริงๆ แต่จะให้สู้กับ super car เป็นอะไรที่ผมมองว่าไร้สาระมากถึงมากที่สุด เพราะต่อให้โหลดมากแค่ไหน แรงกดที่สร้างขึ้นมาไม่มีทางได้ในระดับที่ super car ทำได้ เว้นแต่คุณจะมาปรับเรื่อง aerodynamic ก็เป็นอีกเรื่อง แต่ต่อให้ทำจริง ผลลัพธ์ที่ออกมากว่าจะได้ในระดับที่น่าพอใจ ผมว่าไม่ใช่เรื่องง่ายกับการที่เค้าลงทุนเสียค่า research ทำรถสมรรนะสูงขึ้นมาสู่ท้องตลาด

จริงๆ ผมจะบอกว่า เกาะไม่เกาะนี่จริงๆ แล้วมันก็เป็นความรู้สึกของแต่ละคนด้วย มันต้องแยกแยะความเป็นจริง เพราะรถคันที่เกาะ กับคันที่ไม่เกาะ ผมว่าบางครั้งเป็นการบอกจากความรู้สึกไม่ได้ test กันจริงจัง เนื่องจากเวลาผลิตรถเค้าจะทำ research ถึงปฏิกริยาตอบสนองของคนขับกับรถคันนั้นๆ ด้วย

ยกตัวอย่างเช่นรถที่ให้ตัวน้อย (roll resistance ดีกว่า dive & squat ดีกว่าในแง่ของ longer wheelbase หรือแม้กระทั้งการใช้ techno ในการควบคุมรถ) เป็นลักษณะของการสื่อสารระหว่างคนกับตัวรถ ว่าเฮ้ย มึงจัดมาเลย กูเอาอยู่ แต่เทียบกับอีกคันที่ทำเรื่องนี้ได้ด้อยกว่า ทั้งที่จริงๆ grip อาจจะเท่ากันกับคันก่อนหน้าด้วยซ้ำ กับกลายเป็นว่าคนขับรู้สึกกลัวที่จะขับคันหลังมากกว่าคันแรก เลยบอกว่าคันแรกเกาะกว่า แบบนี้มันมีให้เห็นเยอะ ดังนั้นจึงเกิดเรื่องของการทำ research ในส่วนนี้ขึ้นมา

ส่วนการที่รถให้ตัวน้อยลงอย่างที่ผมบอกว่ามันมี trade off ซึ่งภาระจะตกไปอยู่ที่อื่นแทน พวกที่ทำให้รถแข็งมากขึ้นแรงมันจะ spread ไปแนวข้างมากกว่าเดิม ดังนั้นควรใช้ยางที่ friction มากกว่าเดิมเช่นพวกยาง sport แต่กลับกันถ้าช่วงล่างย้วยๆ แต่ใช้ยางเกาะ ก็ไม่ใช่ว่าจะดี ถึงแม้ว่าความสามารถบางด้านจะมากขึ้น แต่ถ้าถึงเวลาที่ gripมันสูงมากอาจทำให้รถ tilt ตัวและล้อที่อยู่ด้านในโค้งยกตัวได้เช่นกัน ดังนั้นทุกอย่างควรจะมีความเหมาะสมแบบนี้ถึงจะดีที่สุด และปลอดภัยกว่า

สรุป การที่รถให้ตัวน้อยลง ไม่ว่าจะเกิดจากการโหลด หรือทำให้ช่วงล่าง แข็งขึ้น เพื่อลด body roll ไม่ได้เป็นการเพิ่ม grip แต่อย่างใด แต่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับมากขึ้น และหรือ เป็นการดึงเอาประสิทธิภาพของยางมาใช้ให้เต็มประสิทธิภาพมากกว่าเดิม กรณีที่ production car คันนั้นๆ ให้ยางมาเกินช่วงล่าง แต่ถ้าเกินจากนี้ไปก็ต้องมีการปรับแต่งส่วนอื่นเพื่อให้ได้จุดที่ลงตัวที่สุด สำหรับรถสนามเค้ามี application ที่ใช้ปรับเปลี่ยนได้ตลอด ให้เหมาะกับสนามนั้นๆ และคนขับคนนั้นๆ ซึ่งบางคนชอบไม่เหมือนกัน เช่น นักขับ A บอกว่าผมชอบ ท้ายนิ่มกว่านี้หน่อย แต่นักขับ B บอกว่ารถแบบนี้มัน under เกินไปขับยากขอหลังแข็งกว่านี้หน่อย

หวังว่าคำตอบผมคงช่วยให้เห็นภาพมากขึ้นนะครับ เพราะจุดมุ่งหมายที่ผมต้องการจะสื่อคือ อยากให้มองภาพรวมเป็นรถทั้งคันจริงๆ มากกว่าเฉพาะแค่ช่วงล่าง และเรื่องของการ trade off ด้วย เท่านี้แหละครับ และขออภัยหากผมตอบไม่ตรงคำถามหรือเยิ่นเย้อเกินไป

[neung23]

ตอบตามความเดือดร้อนส่วนตัวนะคับ

1 ครูดลูกระนาดในเส้นทางประจำ ดีไม่ดีกันชนหน้าได้แผลมา2แผลแล้วตั้งแต่โหลด
2.เด้งเป็นลูกชิ้นโกเด้ง วิ่งช้าๆปวดโสทประสาทมาก เด้งได้เด้งดี
3.เกาะถนนขึ้นใช่ แต่พอเร็วมากๆเข้ามันก็เหมือนเดิมไม่มีผิด

ตามทฤษฏีมันควรเกาะขึ้น แต่ต้องดูคุณสมบัติสปริงนั้นๆด้วยคับ เน้นแบบไหน

ผมใส่ h&r ไม่พอใจอย่างแรง และที่แค้นยิ่งกว่านั้น คันเก่าเคยใส่แล้วไม่พอใจ แล้วคันล่าสุดนี้ยังไปใส่มาอีก โง่ซ้ำโง่ซ้อน จะเปลี่ยนไปใส่ของเดิมก็ขายไปแล้ว(ไม่น่าขายไปเลย    )

[redsun]

ได้ความรู้เยอะดีครับ 

[NS]

อ่านกระทู้นี้แล้วได้ความรู้ ความเข้าใจเพิ่มขึ้น ขอบคุณครับ

[ToucHOnz]

ชอบสรุปตรงนี้มากครับ เพราะบางคนยังยึดการความรู้สึกว่ามั่นใจ มากกว่ารถเกาะจิกโค้ง

สรุป การที่รถให้ตัวน้อยลง ไม่ว่าจะเกิดจากการโหลด หรือทำให้ช่วงล่าง แข็งขึ้น เพื่อลด body roll ไม่ได้เป็นการเพิ่ม grip แต่อย่างใด แต่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับมากขึ้น และหรือ เป็นการดึงเอาประสิทธิภาพของยางมาใช้ให้เต็มประสิทธิภาพมากกว่าเดิม กรณีที่ production car คันนั้นๆ ให้ยางมาเกินช่วงล่าง แต่ถ้าเกินจากนี้ไปก็ต้องมีการปรับแต่งส่วนอื่นเพื่อให้ได้จุดที่ลงตัวที่สุด สำหรับรถสนามเค้ามี application ที่ใช้ปรับเปลี่ยนได้ตลอด ให้เหมาะกับสนามนั้นๆ และคนขับคนนั้นๆ ซึ่งบางคนชอบไม่เหมือนกัน เช่น นักขับ A บอกว่าผมชอบ ท้ายนิ่มกว่านี้หน่อย แต่นักขับ B บอกว่ารถแบบนี้มัน under เกินไปขับยากขอหลังแข็งกว่านี้หน่อย

ผมว่ามันมี trade off ของมันอยู่เสมอ ในการทำอะไรก็แล้วแต่

ในสภาวะรถเดิมๆ ที่ไม่ได้โหลด suspension geometry กับ alignment ต่างๆ ถูกคำนวนมาให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานตามที่รถได้ถูกวาง concept ที่ตรงกับโจทย์ของตลาดนั้นๆอยู่แล้ว

แต่พอเรามาปรับแต่ง ซึ่งแน่นอนว่าทำให้มุมต่างๆนั้นเปลี่ยนไป อย่างที่คุณ Spec C Wannabe บอกว่ารถมันมีค่า Optimum Range ของมันอยู่ คืออยู่ในช่วงที่เป็น ideal หรืออุดมคติมากที่สุด ส่วนเรื่อง roll center ไม่ได้เป็นเรื่องเฉพาะทางเกินไป พวกนี้ถือว่าปกติมากๆ สำหรับ motorsport ที่มีการปรับแต่งรถกันถึงกระดูก

ถ้าเราไม่ได้ว่ากันในเรื่องของการแข่งในรายการต่างๆ ที่มีกฏเกณฑ์ในการปรับแต่งรถออกไป เรื่องของความสามารถในการทรงตัว ยังมีเรื่องของ technology สมัยใหม่อีกด้วย เช่น traction control, vehicle stability control, torque distribution system ซึ่งทำงานรวมกับ sensor ที่จับมุมที่รถเคลื่อนตัวไปไม่ต่างจากมุมของเครื่องบิน คือ yaw sensor ที่ทำงานร่วมกับ steering angle sensor ระบบช่วงล่างแบบ adjustable ทำงานร่วมกับ pitch กับ roll sensor

ถ้าจะว่ากันให้ง่ายคือจับอาการของรถแบบหมดจด
roll คือ มุมเอียงแนวข้าง ที่เกิดระหว่างเข้าโค้ง เปลี่ยนเลน
pitch คือ มุมเอียงแนวตรง (dive & squat) ที่เกิดจากการเร่ง หรือ เบรค
yaw คือ มุมทิศทางของรถ (rotational) ที่เกิดจากการหักพวงมาลัย

พวกนี้ทำงานร่วมกับ ระบบต่างๆที่ผมได้บอกมา ดังนั้นรถสมัยใหม่จึงมี handling ที่ดีขึ้นกว่าสมัยก่อนค่อนข้างมากที่เน้นเฉพาะส่วน mechanical อย่างเดียว และมีการใช้ computerized system ในส่วนที่ไม่ได้เกี่ยวกับ handling น้อยมาก หรือถ้าเก่ามากคือไม่มีเลย ใช้ฝีมือขับกันล้วนๆ

ดังนั้นรถเดี๋ยวนี้ที่เกาะและเข้าโค้งได้เร็ว ไม่ใช่ว่าเพราะว่าช่วงล่างดีเพียงอย่างเดียว แต่ด้วยความที่มันถึงจุดที่เราต้องการจะไปถึงจุดที่การทำงานเชิงกลไปไม่ถึง และความสามารถของคนขับไม่ได้สูงมากเหมือนกันทุกคน

นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่อง aerodynamics grip อีกเพราะว่ามันแยกกันไม่ได้เลย สำหรับรถกระบะที่แต่ง เกาะจริงๆ แต่จะให้สู้กับ super car เป็นอะไรที่ผมมองว่าไร้สาระมากถึงมากที่สุด เพราะต่อให้โหลดมากแค่ไหน แรงกดที่สร้างขึ้นมาไม่มีทางได้ในระดับที่ super car ทำได้ เว้นแต่คุณจะมาปรับเรื่อง aerodynamic ก็เป็นอีกเรื่อง แต่ต่อให้ทำจริง ผลลัพธ์ที่ออกมากว่าจะได้ในระดับที่น่าพอใจ ผมว่าไม่ใช่เรื่องง่ายกับการที่เค้าลงทุนเสียค่า research ทำรถสมรรนะสูงขึ้นมาสู่ท้องตลาด

จริงๆ ผมจะบอกว่า เกาะไม่เกาะนี่จริงๆ แล้วมันก็เป็นความรู้สึกของแต่ละคนด้วย มันต้องแยกแยะความเป็นจริง เพราะรถคันที่เกาะ กับคันที่ไม่เกาะ ผมว่าบางครั้งเป็นการบอกจากความรู้สึกไม่ได้ test กันจริงจัง เนื่องจากเวลาผลิตรถเค้าจะทำ research ถึงปฏิกริยาตอบสนองของคนขับกับรถคันนั้นๆ ด้วย

ยกตัวอย่างเช่นรถที่ให้ตัวน้อย (roll resistance ดีกว่า dive & squat ดีกว่าในแง่ของ longer wheelbase หรือแม้กระทั้งการใช้ techno ในการควบคุมรถ) เป็นลักษณะของการสื่อสารระหว่างคนกับตัวรถ ว่าเฮ้ย มึงจัดมาเลย กูเอาอยู่ แต่เทียบกับอีกคันที่ทำเรื่องนี้ได้ด้อยกว่า ทั้งที่จริงๆ grip อาจจะเท่ากันกับคันก่อนหน้าด้วยซ้ำ กับกลายเป็นว่าคนขับรู้สึกกลัวที่จะขับคันหลังมากกว่าคันแรก เลยบอกว่าคันแรกเกาะกว่า แบบนี้มันมีให้เห็นเยอะ ดังนั้นจึงเกิดเรื่องของการทำ research ในส่วนนี้ขึ้นมา

ส่วนการที่รถให้ตัวน้อยลงอย่างที่ผมบอกว่ามันมี trade off ซึ่งภาระจะตกไปอยู่ที่อื่นแทน พวกที่ทำให้รถแข็งมากขึ้นแรงมันจะ spread ไปแนวข้างมากกว่าเดิม ดังนั้นควรใช้ยางที่ friction มากกว่าเดิมเช่นพวกยาง sport แต่กลับกันถ้าช่วงล่างย้วยๆ แต่ใช้ยางเกาะ ก็ไม่ใช่ว่าจะดี ถึงแม้ว่าความสามารถบางด้านจะมากขึ้น แต่ถ้าถึงเวลาที่ gripมันสูงมากอาจทำให้รถ tilt ตัวและล้อที่อยู่ด้านในโค้งยกตัวได้เช่นกัน ดังนั้นทุกอย่างควรจะมีความเหมาะสมแบบนี้ถึงจะดีที่สุด และปลอดภัยกว่า

สรุป การที่รถให้ตัวน้อยลง ไม่ว่าจะเกิดจากการโหลด หรือทำให้ช่วงล่าง แข็งขึ้น เพื่อลด body roll ไม่ได้เป็นการเพิ่ม grip แต่อย่างใด แต่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับมากขึ้น และหรือ เป็นการดึงเอาประสิทธิภาพของยางมาใช้ให้เต็มประสิทธิภาพมากกว่าเดิม กรณีที่ production car คันนั้นๆ ให้ยางมาเกินช่วงล่าง แต่ถ้าเกินจากนี้ไปก็ต้องมีการปรับแต่งส่วนอื่นเพื่อให้ได้จุดที่ลงตัวที่สุด สำหรับรถสนามเค้ามี application ที่ใช้ปรับเปลี่ยนได้ตลอด ให้เหมาะกับสนามนั้นๆ และคนขับคนนั้นๆ ซึ่งบางคนชอบไม่เหมือนกัน เช่น นักขับ A บอกว่าผมชอบ ท้ายนิ่มกว่านี้หน่อย แต่นักขับ B บอกว่ารถแบบนี้มัน under เกินไปขับยากขอหลังแข็งกว่านี้หน่อย

หวังว่าคำตอบผมคงช่วยให้เห็นภาพมากขึ้นนะครับ เพราะจุดมุ่งหมายที่ผมต้องการจะสื่อคือ อยากให้มองภาพรวมเป็นรถทั้งคันจริงๆ มากกว่าเฉพาะแค่ช่วงล่าง และเรื่องของการ trade off ด้วย เท่านี้แหละครับ และขออภัยหากผมตอบไม่ตรงคำถามหรือเยิ่นเย้อเกินไป

[rokrok]

โหลดรถกะช่วงล่างแข็งขึ้นมันก็เพิ่ม Grip ไปด้วยสิครับ

เพราะแค่เรื่อง C.G. ที่มันต่ำลงมาก็ช่วยไปอย่างหนึ่งแล้ว

ช่วงล่างแข็ง รถมันก็ว่องไวกว่าด้วยไม่ว่าจะเลี้ยว agility มันก็สูงกว่ารถเดิมๆ คมกว่ากันเยอะ

จะพูดว่า ทำช่วงล่างรถแล้วรถไม่ได้เกาะขึ้น แต่ทำให้ยางแสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่ก็ไม่ถูกต้องนะครับ



อันนี้ขอแย้งหน่อยนะครับ ไม่งั้นคนอ่านจะเข้าใจว่า โหลดรถไม่ทำให้เกาะขึ้นไปซะงั้นครับ

[jomyoot]

แค่ยางรถเปลี่ยนไซส์ใหม่ก็มีผลแล้วครับ สมมุติจาก185/60 มาเป็น195/50 ก็มีผลแล้วนะคับ เช่น ความเร็วเพี้ยน การบริโภคน้ำมัน
แล้วนับประสาอะไรกับไปโหลดครับ เมื่อก่อนสมัยวัยรุ่นรถคันแรกในชีวิตผมซีวิค3ประตูโหลดเตี้ยๆตามสมองของผม ให้มันขับยากๆ
พอมาตอนนี้30+++ ผมหารถที่สูงๆ มากกว่าจะไปโหลดๆ อย่างน้อยก็ช่วงน้ำท่วมขัง ไปลุยป่า ลุยถนนลูกรัง สบายใจ ไปได้ทั่วไทย

อ้อ ...ที่สำคัญสุดไม่ว่าทำอะไร สิ่งที่โดนแน่ๆ คือ ตังค์ ออกจากกระเป๋า ครับ 

[O-ver-Late-Driver]

โหลดรถ ลมที่ผ่านใต้ท้องรถ จะไหลออกท้าย จะไม่หมุนวนใต้ท้องรถ  ทำให้รถไม่มีแรงต้าน โดยเฉพาะรถที่มีสปอยเลอร์
ด้านหน้า แต่การโหลดรถ ให้เตี้ยลง ทำให้เกาะถนนดีขึ้น มันต้องปรับเปลี่ยนหลายอย่างตามมา เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพดี
กว่าเดิมเดิม เช่น เปลี่ยนช็อค หนึดๆ ช็อคแกนสั้น สำหรับใส่ใปริงโหลด ล้อแม็กหน้ากว้าง กว้างเท่าไรให้ดูล้อเดิมจากรถ
จะบวกเพิ่ม 1 หรือ 2 หรือ 3  นิ้ว หน้ากว้าง 9.5 10 11 นิ้ว และ ก็ต้องดู กำลังเครื่องยนต์เดิมด้วย ยาง หน้ากว้างๆ ซีรี่ต่ำๆ
ยางล้อใหญ่ขึ้น ก้ต้อง เพิ่มกำลังเครื่องยนต์ ให้แรงขึ้น แรงขึ้นก็ต้องเปลี่ยน เบรค ให้ใหญ่ขึ้น เดี๋ยวนี้ มีค้ำหน้า ค้ำหลัง
ค้ำล่าง สรุปว่าดีไหม ดี แต่ต้องทำ ให้ครบๆ  ที่ไม่ดีคือ ทำไม่ครบ และต้องค่อยๆหยอด ค่อยๆย่อง เวลาเจอหลุม ขับเเล้วเครียด ที่สำคัญมันไม่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ อย่างปกติสุข ทั่วไป  ความเห็นส่วนตัวครับ

[choomodify]

เรื่องโหลดเตี้ยแล้ว เข้าโค้งดี นี่ก็ไม่เสมอไปครับ  รถกะบะยกสูงบางคัน สูงปรี๊ดเลย ยาง HT MT ด้วยซ้ำ แต่ทำไม เข้า ออก โค้งได้ดีกว่ารถเก๋งซะอีก ผมเห้นมากับตาเลยครับ งง มากๆ ว่ามันไปได้อย่างไร 5555

[Adi Autolism]

เรื่องโหลดเตี้ยแล้ว เข้าโค้งดี นี่ก็ไม่เสมอไปครับ  รถกะบะยกสูงบางคัน สูงปรี๊ดเลย ยาง HT MT ด้วยซ้ำ แต่ทำไม เข้า ออก โค้งได้ดีกว่ารถเก๋งซะอีก ผมเห้นมากับตาเลยครับ งง มากๆ ว่ามันไปได้อย่างไร 5555

อันนี้จริง เคยขับอิมวิ่งดัน ไทรตันยกสูงยาง32-33" โค้งกว้าง 190km/hr. เขาวิ่งนิ่งดีมาก งงเลย

[mckyparty]

-- ช่วงล่างที่ถือว่าโอเคสำหรับปีกนกต้องทำให้มันขนานกับพื้นโลก ทั้งการยกสูงและโหลดเตี้ย
-- รถกระบะแข่ง สามารถ set มุมต่างๆหรือมีชุดช่วงล่างที่ทำมาใหม่ (ไม่ใช่เดิมๆ) ที่ปรับมุมโทได้ยิบๆ จิกถนนได้แนบสนิท (ยอมกินยาง) เชื่อว่าดีกว่ารถสปอร์ตบางคันแน่ๆ รถสปอร์ตที่ขายระดับคอนซูเมอร์ยูสก็ต้อง set มาใช้บนถนนด้วย ต่างกับรถสนามที่วิ่งถนนจริงไม่ได้

[Chanapai630]

เป็นกระทู้ที่ได้ความรู้ และได้แนวคิดเรื่องช่วงล่างได้ดีจริงๆ