ผู้เขียน หัวข้อ: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ  (อ่าน 7573 ครั้ง)

ออฟไลน์ matoomz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 13
    • กรอบรูปเรืองแสง
ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 18:29:57 »
ไม่รู้มีใครในนี้เป็นหมอ หรือ มีเทคนิคแบบคาดไม่ถึงหรือเปล่าครับ
หลายคนรวมทั้งผมเอง ถ้านั่งรถเฉยๆ ไม่ว่าคันไหน จะเมาทุกคัน
ยาดม มะม่วง มะขาม ของเปรี้ยวยังไง ก็เอาไม่อยู่ ต้องหลับอย่างเดียว
แต่ถ้าขับเอง จะกี่โค้ง จะเร่ง จะเบรค หรือขับเป็นวันๆ ก็ไม่มีอาการเมาให้เห็น
เลยรู้สึกแปลกๆว่า มันต้องมีอะไรที่มันเกี่ยวเนื่องกันที่ทำให้ไม่เมารถแน่ๆ
ใครมีเทคนิคดีๆ ขอแบ่งปันมั่งนะคร๊าบ...
<< เรื่อยๆมาเรียงๆ >>

ออฟไลน์ kris-lack

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,763
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 19:10:27 »
อาการเดียวกันเลยค่ะ
ขับรถได้ทั้งวัน แต่ถ้าเป็นผู้โดยสาร ไม่เกิน 10 กิโลมีเมาแน่ๆ

มารอฟังด้วยคน

ออฟไลน์ diow_1991

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
    • อีเมล์
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 19:10:54 »
ยายเคยบอก แต่ไม่เคยทำ
ใช้พลาสเตอร์ปะแก้ปวด แปะไว้ที่สะดือครับ
ไม่รู้ใช้ได้จริงไหม

ออฟไลน์ csamabat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 636
    • อีเมล์
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 19:17:06 »
ผมก็เป็นครับปกติไปไหนกะใครๆเขาจะชอบให้ผมขับรถตลอด ผมก็ชอบขับรถอยู่แล้ว ขึ้นเขาลงห้วย   แต่เคยมีช่วงไปปาย ผมขับแล้วเกิดป่วยเลยให้เพื่อนขับ ไปๆมาๆ ผมกลับเมารถ งงตัวเอง ไม่เคยเมารถ พอมานั่งมึนเลย  ตอนนั้นไปแคมรี่ครับ
1990 bmw e30 318i Mt 4 door
1992 bmw e36 318iA 4 door
1992 bmw e30 318i At  4door
1993 bmw e36 318i 4 door
1985 bmw e30 325iS cope
1991 bmw e30 318i Mt 4 door
1992 toyota corolla ae92  1.6 se limited
1993 toyota corolla ae101 1.6 Lx limited
1991 Nissan nv van SLX 1.6 At
2006 toyota avanza 1.3 E Mt

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 19:22:43 »
ตามทฤษฎีเขาบอกว่า เป็นเพราะภาพที่เห็น กับการเคลื่อนที่ของน้ำในหู (vestibular apparatus) ไม่ตรงกันครับ เช่นตาบอกความเร็วหนึ่ง ส่วนหูบอกความเร็วหนึ่งเป็นต้น

วิธีแก้วิธีหนึ่งคือมองออกไปนอกรถ ให้ตาได้สัมผัสกับความเร็วเท่ากับหูครับ

หรือกินดรามามีนก่อนออกเดินทาง

http://www.healthcarethai.com/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96/

วิธีอื่นก็ไปลองๆ ดูครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ Buffy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,500
    • อีเมล์
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 19:26:46 »
มองออกไปบนท้องฟ้าหรือที่กว้างๆ โล่งๆครับ

พอช่วยได้

ออฟไลน์ Deaw

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,073
    • อีเมล์
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 19:41:26 »
นั่งหน้าแล้วมองทางเหมือนคนขับไม่น่าเมานะครับ

ออฟไลน์ Dr.Pop

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 520
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 19:43:08 »
กิน dramamine หรือ merlisron ก่อนเดินทาง 30 นาทีครับ

ออฟไลน์ ぼくは"P.P."です

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 690
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 20:02:46 »
มองไกลๆครับ ;D
Great Handling = Great Car

ออฟไลน์ SP

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,745
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 20:23:41 »
ผมขาประจำครับ ไปเชียงรายทุกปี อ้วกทุกปี คำถามยอดฮิตของหมู่ญาติๆเลย คือ "แกเลิกเมารถยัง" 555555555555

ผมใช้วิธีเสียบหูฟังฟังเพลงไปครับ แล้วก็มองไปไกลๆ แต่ถ้านั่งเบาะหน้าไม่เมานะครับ นั่งเบาะหลังนี่เอาละ อาการเริ่มมา  ;D

ออฟไลน์ 1212312121

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 150
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 20:53:09 »
ส่วนตัวผมจะดื่มของที่ทำให้เมาก่อน จะเมารถ แต่ข้อเสียคือ ฉี่บ่อย หรือมีอีกอย่างคือ อมลูกอมที่เปรี้ยวที่สุด แบบ ตุ๊บ ตั๊บ แน่นอนมาก เปรี้ยวจนหายเมา

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 20:58:45 »
สำหรับผม ถ้านั่งเอนหลังไปมากๆจะทำให้มึนๆ แต่ถ้านั่งหลังตรงจะสบายกว่า

ขอแนะนำให้หาลูกอมมาแทะเล่นเวลานั่งครับ เอารสจัดๆเช่น ฮอลล์ดำ เมนทอสดำ โบตันที่เป็นแผงๆหน้าตาเหมือนลูกอมซุปเปอร์เลมอนในอดีต(เปรี้ยวจี๊ดสะใจมาก)

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
    • อีเมล์
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 21:00:10 »
ผมก็เมารถเหมือนกันครับ แต่ถ้าขับเองไม่เมา

เท่าที่ผมเคยได้ยิน ปกติการทรงตัวของคนจะมี sensors 3 ที่ คือ ตา หู และก็ระยางค์ก็คือแขนขา
และตัวประมวลผลคือสมองส่วนท้ายสุด

การเวียนหัวเกิดจากการไม่สมดุลการของ sensors ที่พบได้บ่อยคือ หู
ซึ่งหู จะมีขดวงกลม คอยตรวจวัดทิศทางแบบ 3 มิติ detect ได้ทั้ง ทิศทาง ความเร็ว ความหน่วง
ถ้าคิดภาพไม่ออก เหมือนไม้บรรทัด ที่ช่างปูนไว้วัดระนาบตรง แล้วมีฟองอากาศตรงกลางครับ
ถ้า sensors หูทั้งสองข้างไปด้วยกัน ก็จะไม่เวียนหัว แต่ถ้า ไม่ไปด้วยกันก็จะเกิดอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน

ตาก็ส่วนหนึ่งครับ ถ้าทิศทางไปด้วยกับกับการเคลื่อนไหว ก็จะเวียนหัวลดลง

สำหรับผมแล้ว
1. พยายามมองไปทิศทางที่รถเคลื่อน ถ้านั่งหน้าจะดีมาก เพราะทัศนวิสัยดีกว่า
2. หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้ หูกับตาไม่ไปด้วยกัน เช่นก้มหน้าหาของ หันหลังคุยกับเพื่อน
3. ทานยาดักไว้เลย
เท่าที่เคยได้ยินก็มี
- Dimen(hydrinate) มันจะเป็นกลุ่มแก้แพ้ ลดความไว้ในการประมวลผลของสมอง แก้อาเจียน กินแล้วจะง่วง ๆ เหมือนยาลดน้ำมูก
- Betahistine(Merislon) ก็คล้าย Dimen ครับ(กลไกต่างกัน) เหมือนจะมีวิจัยว่า Dimen มีประสิทธิภาพมากกว่า (แลกกันกับผลข้างเคียงง่วงนอน)
- จริง ๆ มีแบบอื่น แต่ผมว่าไปปรึกษาหมอจะดีกว่าครับ

ไม่รู้ถูกผิดยังไง ถ้าอยากเอาให้แน่ ๆ  ผมว่าลองหาอ่านดูใน web ทางการแพทย์ก็ดีครับ

ออฟไลน์ Vicentee

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 7
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 21:05:37 »
ผมก็เป็นครับ ที่อยากขับไม่ใช่เพราะอยากขับนะ แต่เพราะนั่งแล้วจะเมารถแทน ;D
Men love Women
but even more than that
Men love CARS

ออฟไลน์ Than_HL

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 21:10:50 »
กลิ่นในรถและบรรยากาศมุมมองในรถก็มีส่วนทำให้เมารถได้เหมือนกันครับ แต่บางครั้งก็เลือกไม่นั่งรถไม่ได้ ผมเองยังหาวิธีแก้ไม่ได้เหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เป็นคนขับเอง

ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 964
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 21:16:55 »
เคล็ดลับของคุณแม่ผมเวลานั่งหลังแกบอกว่าอย่านั่งพิงพนักครับโดยเฉพาะหัวห้ามพิงเด็ดขาดและพยายามมองไกลๆ หรือมองถนนตามขนขับครับ

ออฟไลน์ art_duron

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 989
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 21:53:36 »
อืมไม่รู้สิครับ สำหรับผมถ้าจะให้ชัวร์ต้องนั่งหน้าครับ คือไม่มีอะไรมาบังสายตาเมื่อมองออกไปตรงๆ
ถ้านั่งหลัง หลายๆ ครั้งมองไกลยังไงก็เวียนหัวแทบอ้วกครับ

หรือถ้าเป็นกรณีนั่งรถเมล์ รถเมล์ร้อนที่เปิดให้อากาศถ่ายเท โอกาสเวียนหัวก็จะน้อยกว่ารถเมล์แอร์มากๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Dubee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,534
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 22:29:46 »
เอาส่วนตัวผมทำนะ
1. ก่อนออกทริปไกลๆ ถ้าไม่ได้เปนคนขับให้ทานยาแก้เมารถก่อนเลยครับ
2. มองวิวไปข้างหน้าไกลๆครับ เอาแบบถ้าขับทางเขาทางดอย ให้มองดอยดูข้างหน้าไกลๆเลยครับ มองไม่ใช่มองเพ่งนะครับแบบนั้นจะยิ่งเมา ให้มองแบบภาพรวมครับ
3. จิบน้ำ บอกคนขับให้พักเป็นระยะๆ 90 โล - 120 โล (หรือวิ้งไปประมาณ 1 - 1.30 ชั่วโมง) ก็ควรพักทีครับ สัก 15-20 นาที เปลี่ยนอริยบท เข้าห้องน้ำ ยืดเส้นยืนสาย กินกาแฟ นอนพักในรถ ฯลฯ

ออฟไลน์ OHMMY

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 494
    • อีเมล์
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 23:02:36 »
อาการเดียวกันเลยครับ ถ้าเป็นคนขับถึงไหนถึงกัน แต่ถ้าเป็นผู้โดยสารเมื่อไหร่ ไม่รอด
เทคนิคส่วนตัวนะครับ
1. พลาสเตอร์ยา ปิดสะดือ
2. หาอะไรที่ขบเคี้ยวกินไปได้เรื่อยๆ เช่น อ้อย ป๊อบคอร์น หรือผลไม้ที่กัดกินทะละเล็กละน้อย เคี้ยวๆ กลืนๆไปเรื่อยๆอะครับ
3. ยาแก้เมา แล้วหลับเลย

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 23:19:48 »
คิดว่า เนื่องจากขับบ่อย ทำให้ประสาทของร่างกายคุ้นชิน ทีนี้เมื่ออยู่ในรถที่เคลื่อนที่ โดยมือไม่คุมพวงมาลัย เท้าไม่คุม pedals ก็อาจจะรู้สึกขัดกับความรู้สึกปกติเลยมึนงงได้ครับ นั่งให้ชิน

ออฟไลน์ Maman_Haheinz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 318
    • อีเมล์
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 23:25:26 »
ไม่รู้จะแนะนำยังไง เพราะผมเอง....."ไม่เมารถ ไม่เมาเหล้า แต่เมารัก!!!"

ไปละครับ.......เฟี้๊ยววววววววววววววววววว
โห ยี้ โห ยี้ โหยยยยย
หิววววววววว!!!!!!

ออฟไลน์ fhasociety

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 450
    • อีเมล์
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 23:32:20 »
เมารถผมเองก็ไม่เคยมีอาการนี้ แต่ถ้ารถไฟไทยละก็ ปวดหัวสุดท้าย
เห็นสาว ๆ ที่ขยันเมารถ มักจะพกยาแก้เมา ไม่ก็ยานอนหลับ
จอดปั้มเมื่อไหร่ก็เรียกคุณนายทั้งหลายเข้าห้องน้ำแล้วกลับมาหลับต่อ ;D
ทุกวันนี้ ผม ทำงาน เก็บเงิน แต่ง..................รถ

เขตจำกัดความเร็ว 10 แก้วต่อชั่วโมง

ออฟไลน์ pockka

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 41
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2014, 23:50:10 »
ใส่แว่นกันแดดครับ
จากรายการ sponge ฉลาดสุดๆ


ออฟไลน์ Nookkiez

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 784
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 01:26:41 »
สำหรับผม มองไกลๆครับ ร้องเพลงไปเรื่อย จะได้ลืมว่าเมารถ ถ้าเริ่มมีอาการก็อาจจะเปิดกระจกให้อ๊อกซิเจนเข้ามาถ่ายเทในรถบ้าง  หรือไม่ก็กินยาครับ หลับตลอดทาง  :D
Test ..

ออฟไลน์ mixza69

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 71
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 09:14:38 »
ผมก็เป็นมาตั้งแต่เด็กครับ

กินยาเม็ดเหลืองๆ เล็กๆครับ

หลับลืมตายเลย

แต่ตื่นมาละเพลียมาก มึนๆ หนักหัว แล้วก็ยังง่วงอยู่

เคยกินเยอะสุด 5 เม็ด ตอนนั่งรถจากอุดร ไปภูเก็ต

ออฟไลน์ f1rstgot

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 850
    • อีเมล์
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 10:28:02 »
ผมคนนึง ไม่เคยเป็นเลยครับ ไม่ว่าจะนั่งอะไร รถเครื่อง รถยนต์ เครื่องบิน สามล้อ ตุ๊กๆ เรือ ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน นาซ่า จักรยาน

ออฟไลน์ TT

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 47
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 20:08:13 »
อาการเมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบินทุกอย่างเกิดจากกลไกเดียวกันครับ และมีปัจจัยหลายอย่างครับที่ทำให้แต่ละคนรู้สึกเมาง่ายหรือเมายากต่างกัน

สาเหตุของการเมานะครับ    
   โดยปกติแล้วสมองต้องมีการรับรู้การเคลื่อนไหวของร่างกายและตำแหน่งของศีรษะตลอดเวลาเพื่อที่จะได้ควบคุมท่าทางต่างๆของร่างกายรวมถึงศีรษะด้วย การรับรู้ด้านการทรงตัวของสมองนั้นมีหลายทางครับแต่หลักๆแล้วมีอยู่ 3 ที่ ได้แก่ อวัยวะรับรู้การเคลื่อนไหวภายในหู (หรือที่เรียกกันว่า vestibular system) ตา และการรับสัมผัสบริเวณอื่นๆทั่วร่างกาย นอกจากนั้นแล้วในการเคลื่อนที่แบบ active movement เช่น การเดิน การขับรถ การประมวลผลจากสมองด้านสั่งการจะเข้ามามีส่วนในการประเมินและควบคุมการทรงตัวของร่างกายและศีรษะด้วย โดยทำงานร่วมกับการรับรู้การเคลื่อนไหวจากอวัยวะทั้งสามดังกล่าว สมองจะทำการประมวลผลว่าต่อไปการเคลื่อนไหวของร่างกายและตำแหน่งศีรษะควรจะเป็นอย่างไร เป็นการช่วยให้สมองเตรียมพร้อมและส่งคำสั่งไปกล้ามเนื้อตา กล้ามเนื้อคอ กล้ามเนื้อแขนขาให้อยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง กล่าวคือ active movement นั้นจะมีการทำงานประสานกันระหว่างสมองส่วนการสั่งการและการรับรู้เป็นอย่างดี ทำให้การควบคุมการเคลื่อนไหวมีความแม่นยำ

   ขอยกตัวอย่างการขับรถ การขับรถนั้นเป็น active movement เมื่อสมองสั่งการให้หมุนพวงมาลัยเลี้ยวรถ ขณะเดียวกันนั้นสมองด้านสั่งการจะสั่งให้กล้ามเนื้อคอและกล้ามเนื้อตาหันไปดูทางโค้งที่จะเลี้ยว เมื่อคนขับมองเห็นสภาพโค้งแล้วสัญญาณภาพก็ถูกส่งไปที่สมองเพื่อประมวลผลว่าโค้งนั้นเป็นอย่างไร โค้งน้อยหรือเยอะหลังจากนั้นสมองจะประเมิณต่อไปว่าเมื่อเข้าโค้งจริงๆแล้วตำแหน่งร่างกายและศีรษะจะเป็นอย่างไร ก็จะสั่งการให้กล้ามเนื้อคอ กล้ามเนื้อตา และกล้ามเนื้อแขนขาให้เตรียมรับแรงเหวี่ยง สั่งให้อวัยวะรับการทรงตัวทั้งสามเตรียมพร้อมรับข้อมูลให้สอดคล้องกันและกัน และเมื่อรถวิ่งเข้าโค้งจริงๆแล้วอวัยวะรับรู้การทรงตัวทั้งสามจะทำหน้าที่รับรู้แรงเหวี่ยง ภาพภายในโค้ง ส่งไปที่สมองเพื่อรับรู้ตำแหน่งศีรษะและร่างกายว่าสอดคล้องกับตอนแรกที่สมองด้านประมวลผลประมวลไว้หรือไม่และข้อมูลที่ได้จากอวัยวะรับการทรงตัวทั้งสามสอดคล้องกันดีหรือไม่ ซึ่งในคนปกตินั้นจะทำงานสอดคล้องกันเป็นอย่างดี แต่ถ้าเกิดไม่สอดคล้องกันก็จะเกิดอาการเวียนศีรษะได้ กระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นทุกครั้งที่คนขับเหยียบคันเร่ง เหยียบเบรค หมุนพวงมาลัย หรือพูดง่ายๆคือสมองรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นและมีการเตรียมตัว

   แต่ในทางตรงกันข้ามการเคลื่อนที่แบบ passive movement นั้น การประเมิณการเคลื่อนไหวของร่างกายและตำแหน่งศีรษะจะขึ้นอยู่กับอวัยวะรับรู้การทรงตัวทั้งสามเพียงอย่างเดียว จะไม่มีการทำงานของสมองส่วนสั่งการเข้ามาช่วยประมวลผล ดังนั้นจึงไม่มีการเตรียมพร้อมของร่างกายในการรับรู้การเคลื่อนไหว หากอวัยวะทั้งสามรับข้อมูลมาไม่สอดคล้องกัน ก็จะเกิดอาการเวียนศีรษะครับ

   ขอยกตัวอย่างการนั่งรถของผู้โดยสาร ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในรถนั้นเป็น passive movement ไม่มีการทำงานของสมองส่วนสั่งการเข้ามาช่วยประมวลผลการเคลื่อนไหว การรับรู้การเคลื่อนไหวของร่างกายและศีรษะขึ้นอยู่กับอวัยวะทั้งสามเพียงอย่างเดียว จึงเกิดความขัดแย้งของข้อมูลได้ง่าย เช่น ผู้โดยสารนั่งอ่านหนังสือในขณะที่รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ข้อมูลภาพที่มาจากตาส่งไปสมองจะแปลผลว่าผู้โดยสารนั้นอยู่กับที่ (หนังสือและสภาพภายในรถนั้นเหมือนอยู่กับที่) แต่ข้อมูลที่อวัยวะรับรู้การเคลื่อนไหวในหูรับได้กลับเป็นแรงเหวี่ยงที่ไปข้างหน้า สมองก็จะแปลผลว่าหัวกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เกิดความขัดแย้งของข้อมูลเกิดขึ้น และความขัดแย้งของข้อมูลนี่เองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะหรือที่เรียกว่าเมารถนั่นเอง

คนขับรถจะไม่เมารถเสมอหรือไม่
   คำตอบคือไม่นะครับ แม้ว่าการขับรถเป็น active movement มีการทำงานของสมองส่วนสั่งการเข้ามาช่วยประเมิณตำแหน่งการเคลื่อนไหวของศีรษะล่วงหน้าเพื่อให้เกิดการทำงานประสานกันของอวัยวะรับความรู้สึกทั้งสามมากที่สุด แต่ถึงกระนั้นอวัยวะรับความรู้สึกในหูหรือที่เรียกว่า vestibular system นั้นก็ยังสามารถขัดแย้งกันเองได้ เพราะ vestibular system นั้น มีสองระบบย่อยครับ คือ semicircular canal รูปก้นหอย และ otolith organ ทั้งคู่จะรับรู้ทิศทางการเคลื่อนไหวต่างกัน ดังนั้น แม้ว่า 3 อวัยวะจะทำงานสอดคล้องกันดี แต่ถ้าขับแบบพิสดารมากๆก็มีโอกาสที่ vestibular system จะขัดแย้งในตัวมันเองได้เหมือนกัน

ทำไมแต่ละคนเมายากง่ายไม่เท่ากัน
   มีปัจจัยหลายปัจจัยครับ
    - เพศ ปกติแล้วเพศหญิงจะเมาง่ายกว่าผู้ชาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอายุด้วย
    - อายุ เด็กอายุน้อยกว่า 2 ขวบ มักจะทนต่อการเมารถ ส่วนอายุที่พบว่าเมารถมากที่สุดคือเด็กอายุ 12 ปี และหลังจากนั้นอาการเมารถจะน้อยลงเรื่อยๆไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น
    - ฮอร์โมน ผู้หญิงท้องจะมีโอกาสเมารถได้ง่ายขึ้น รวมทั้งระยะของวงรอบประจำเดือนของผู้หญิงก็มีผล ยาคุมกำเนิดของผู้หญิงก็มีผลครับ
    - โรคที่เกี่ยวข้องกับหูชั้นใน เช่น หูชั้นในอักเสบ จะทำให้การรับรู้การเคลื่อนไหวของศีรษะไวกว่าปกติ
    - โรคไมเกรน คนที่เป็นโรคไมเกรน หรือมีอาการปวดหัวอยู่เดิม จะทำให้สมองมีความไวในการรับรู้ความรู้สึกต่างๆมากกว่าปกติ
    - ปัจจัยทางจิตวิทยา เคยไหม บางครั้งถ้าเราไม่คิดว่ามันจะเป็นบางทีมันก็ไม่เป็น
    - รูปแบบการเคลื่อนที่ ความถี่ของการเคลื่อนที่และทิศทาง เช่น เลี้ยวซ้ายติดกัน 10 ครั้ง
    - ท่าทางของร่างกาย ผลการวิจัยบนเรือ(ไม่ใช่รถ) พบว่าท่านอนหงายเป็นท่าที่ทำให้เมาน้อยที่สุด
    - ความเคยชิน การรับรู้ของอวัยวะในหูชั้นในนั้นตอบสนองน้อยลงครับเมื่อมีการตอบสนองอยู่บ่อยๆ จึงทำให้คนที่นั่งบ่อยๆไม่เป็นครับ

วิธีการป้องกัน
- การปรับสภาพแวดล้อม ในเมื่ออาการเมารถเกิดจากความขัดแย้งของตาและอวัยวะรับการทรงตัวในหู ดังนั้นการป้องกันคือทำให้อวัยวะทั้งสองทำงานให้สอดคล้องกันให้ได้ วิธีที่ง่ายที่สุดและเป็นไปได้มากที่สุดคือการทำให้ข้อมูลภาพสอดคล้องกับอวัยวะรับการทรงตัวในหู โดยยึดหลัก earth-fixed ครับ และควรหลีกเลี่ยง head-fixed กล่าวคือ ถ้านั่งรถก็ควรนั่งเบาะหน้าและมองออกไปนอกหน้าต่างข้างหน้ารถ(เพราะอวัยวะรับการทรงตัวในหูระบบหนึ่งในสองนั้นทำหน้าที่รับรู้แรงเหวี่ยงด้านหน้าหลัง) ไม่ควรมองภายในรถ
- เป็นคนขับรถเอง อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว การขับรถเองเป็น active movement ซึ่งจะมีสมองส่วนสั่งการเข้ามาช่วยประเมิณทิศทางของการเคลื่อนที่ของศีรษะก่อนที่จะเกิดขึ้นจริงจึงทำให้ไม่เกิดหรือเกิดอาการเมารถน้อย
- ยา มีหลายกลุ่มครับที่ช่วย แต่ที่นิยมใช้คือกลุ่ม antihistamine ตัวที่นิยมคือ Dimenhydrinate ครับ รับประทานก่อนขึ้นรถซัก 30 นาที ช่วยได้แต่จะทำให้ง่วง
- การฝึกให้เคยชิน อย่างที่บอกไปครับ การรับรู้ของอวัยวะในหูชั้นในนั้นตอบสนองน้อยลงครับเมื่อมีการตอบสนองอยู่บ่อยๆ
- ขิง เพิ่งอ่านเจองานวิจัยมาไม่นานครับ เค้าใช้รากขิงมาสกัดเป็นผงทำเป็นแคปซุลแล้วให้ทหารเรือกินก่อนออกเรือครับ เห็นมีอยู่หลายงานวิจัยเลยทีเดียวว่าได้ผล
- การกดจุดครับ ก็เพิ่งอ่านเจอมาเป็นงานวิจัย ให้กดจุดตรงตำแหน่ง ตรงกลางแขนด้านฝ่ามือห่างลงมาจากข้อมือ 3 นิ้ว จะเป็นจุดที่อยู่ระหว่างกล้ามเนื้อ 2 มัดครับ แต่งานวิจัยบอกว่าได้ผลกับแค่บางคนเท่านั้น ก็ลองเอาไปใช้ดูนะครับ
- อันนี้สำหรับคนสูบบุหรี่ งานวิจัยบอกว่าให้เลิกสูบบุหรี่ครับ จะทำให้อาการดีขึ้น

ไม่รู้ว่าเขียนอย่างนี้พอจะเห็นภาพไหมครับ

ออฟไลน์ jztang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,721
  • Born To Race
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มีนาคม 01, 2014, 02:08:34 »
เคยเป็นตอนเด็กครับ นั่งรถพ่อไม่เปน นั่งแท็กซี่เป็น เลยมารู้ว่าเราเหม็นน้ำหอมบนรถ แท็กซี่แต่ก่อนชอบใส่ใบเตย เมารถครับ แต่โตมาตอนนี้ไม่เปนแล้วครับ บางทีเกี่ยวกับกลิ่นน้ำหอมด้วยนะครับ

ออฟไลน์ PengZZ

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 267
Re: ขอเทคนิคนั่งรถแบบไม่เมาครับ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มีนาคม 01, 2014, 07:38:46 »
นั่งหน้า มองไกลๆ และมองไปในทิศท่ีรถวิ่งครับ (มองผ่านกระจกหน้า)