ผู้เขียน หัวข้อ: การเลือกรถให้เหมาะสมกับรายได้ มีวิธีคิดกันอย่างไรครับ  (อ่าน 13139 ครั้ง)

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ทำบัญชีให้ตัวเองดูครับ
ทำซักปี ทำง่ายๆ แค่รายรับรายจ่าย แล้วเอาเงินเก็บทั้งปีมาเฉลี่ย
ก็จะรู้แล้วว่ามีเงินเก็บต่อเดือนเท่าไหร่ มีกำลังผ่อนเท่าไหร่

สมมุติเก็บได้เดือนล่ะ 12,000
ก็เอาเงินที่เก็บได้ต่อเดือนมาคิดอีกทีว่าอยากได้อะไรมั้ย มีแผนจะทำอะไรหรือเปล่า
สำรองไว้ฉุกเฉิน สำรองไว้เผื่อเจ็บป่วย
หลังจากสำรอง หลังจากเก็บเผื่อแผนในอนาคต นี่คือกำลังผ่อนรถที่มี
เอามันไว้ส่วนท้ายที่สุด นั่นทำให้สถานะทางการเงินเราปลอดภัยนะครับ

คนบางคนสำรองเงินผ่อนไว้ต้นเดือน
นั่นหมายถึงภาระครับ คือคุณตัดสินใจผ่อนตั้งแต่แรก
แต่การเก็บก่อนค่อยเหลือผ่อน คือรางวัลชีวิตที่แท้จริง แบบไม่เบียดเบียนค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ออฟไลน์ puccamam

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 168
    • อีเมล์
ตอบยาก ต้องดูเป็นรายบุคคลเลย  บางคนเงินไม่เยอะแต่ขับรถแพง บางคนเงินเยอะ แต่ซื้อรถไม่แพงมาขับ มันมีปัจจัยอื่นๆด้วย เช่นนิสัยการใช้เงินของแต่ละคน ,  รสนิยม ฯลฯ 

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ผมคิดว่า รถมีค่าเท่ากับ หนึ่งไตรมาสของปี

ถ้าใน4 เดือน ไม่สามารถหาเงินสดได้เท่ากับรถที่จะซื้อ ผมจะไม่ซื้อ เพราะมันเท่ากับเอาเงินที่หามา 1/3 ปีไปใช้เลยนะครับ

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
อ่านแล้วรู้สึกจุกเล็กน้อยแฮะ  :D :D :D

ผมถือคติว่ามีเงินต้องใช้แต่จะทำยังไงให้มีใช้ได้ตลอด ผมเห็นมาเยอะตอนมีแรงทำงานก็ทำแต่งานพอแก่ตัวลงมาก็เป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ไม่อยากใช้ตังพอใกล้ตายก็เที่ยววิ่งหาฮวงซุ้ยดีๆไว้ฝังตัวเอง ของดีๆเก็บไว้ใช้ตอนตายเนี่ยนะผมไม่เอาหรอก ตอนนี้รถที่ใช้ก็ถือว่าเกินตัวอยู่นะเงินเก็บที่มีเกลี้ยงจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัวเลย เงินเหลือหลังผ่อนก็แทบเดือนชนเดือนแต่สิ่งที่ได้มาคือรถที่เราอยากได้ ขับแล้วมีความสุข ลูกเมียนั่งสบาย ภาพลักษณ์ดูดีขึ้น (ข้อนี้คิดเอาเอง) ครอบครัวผมสร้างตัวมาแทบจะเรียกว่าเริ่มจากศูนย์ก็อยากมีอะไรที่เป็นของขวัญให้ตัวเองบ้างแม้จะทำให้เงินเก็บหมดไปรายจ่ายตึงๆไปสัก 1 ปี แต่ผมก็คิดดีแล้วว่าคุ้มกับรางวัลชีวิตตัวเองในครั้งนี้แม้จะเป็นเพียงมือสองก็ตาม

ป.ล. ไม่เคยเบียดเบียนรายจ่ายส่วนอื่น เช่น เกรดของนมลูก ค่าเที่ยว (อันนี้เพิ่มขึ้นเยอะ 555) ค่าอื่นๆ เงินมีไว้ใช้แต่อย่าให้เดือดร้อน
ป.ล.2 ไม่เคยหนี้บัตรอะไรนะครับ รูดเพื่อเอาแต้มและขี้เกียจพกเงินสด สิ้นเดือนก็จ่ายหมด ผมมองหนี้พวกนี้ว่าไม่มีประโยชน์เงินแค่ไม่กี่ตังถ้าไม่มีปัญญาจ่ายก็อย่าซื้อ
ป.ล.3 เงินเก็บพอมีนะครับ เงินก้อน กองทุน ทอง แต่นี่คือเงินเก็บถ้าจะใช้คือฉุกเฉินสุดๆแต่ยังไม่เคยเฉียดใกล้ฉุกเฉินเลย เหมือนกันขับรถวิธีหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุคือการลดความเสี่ยงที่จะเกิด
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ sajilki

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
รถ ทำให้คนเป็นหนี้ เยอะที่สุด   

ออฟไลน์ 5ume7h

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 888
ถ้าส่วนใหญ่ทำแบบนี้ได้มันก็ดี
แต่เอาเข้าจริงมันทำได้ยาก ไม่อย่างนั้นถนนกรุงเทพ ส่วนใหญ่คงเป็นมอเตอร์ไซค์กับอีโคคาร์

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
ผมคิดว่า รถมีค่าเท่ากับ หนึ่งไตรมาสของปี

ถ้าใน4 เดือน ไม่สามารถหาเงินสดได้เท่ากับรถที่จะซื้อ ผมจะไม่ซื้อ เพราะมันเท่ากับเอาเงินที่หามา 1/3 ปีไปใช้เลยนะครับ


.
.
.
ผมทึ่งคำตอบนี้มาก ถ้าทุกคนคิดแบบนี้กันหมดประเทศนี้คงแทบไม่มีใครมีรถใช้เลย
ลองคิดตาม ขนาดคนเงินเดือน 200,000 พอหลังจากหักภาษีโน่นนี่นั่นแล้ว
ยังไม่สมควรซื้อ eco car มาใช้เลย  ;D

ออฟไลน์ WTF

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
เห็นด้วยที่ว่าแต่ละคนชอบไม่เหมือนกันก็เลยเอามาตัดสินไม่ได้ เราเองก็อย่าไปยุ่งเรื่องเขามาก บางทีความจำเป็น ความชอบมันต่างกัน
แต่ถ้าเป็นส่วนของผม ผมมักจะมีรถ2คัน คันนึงมักจะเอาที่ดีๆหน่อยแต่ก็ไม่ใช่รถแพงเกินฐานะอะไร เช่นพวก camry accord crv ฯลฯ ยุโรปแบบไม่แพงจัดก็เคยมีแต่ขายไปแล้ว เอาให้นั่งสบาย สำหรับการเดินทางไกลๆ หรือ เสา อา ที่เน้นความสบายของครอบครัว (ซึ่งจาก ปสก.การใช้งานมา ผมว่าพวก d-seg ญี่ปุ่น นั่งสบายกว่า c-seg ยุโรปเยอะเลย คือมันกว้างดีไม่อึดอัด)
อีกคันจะเน้นถูกๆ ประหยัดเชื้อเพลิงสุดๆ เช่น city cng, vios lpg พวกนี้ไว้ขับไปทำงาน เพราะไม่มีใครนั่งด้วยอยู่แล้ว เวลาโดนมอไซด์เฉี่ยวจะได้ไม่อารมณ์เสียด้วย 555 และเผื่อไว้ให้ญาติพี่น้องยืมได้ กรณีญาติพี่น้องเดือดร้อนต้องใช้ นี่ก็มีญาติมายืมไปอยู่ตอนนี้
ส่วนเงินเก็บเท่าไหร่เหมาะสมกับรถอะไร คงวัดกันยาก อย่างผมเน้นว่าลูกต้องได้ การศึกษาที่ดี(อายุแค่2-3ขวบก็หมดค่าเรียนไป2แสนแล้ว) การกินอยู่ดี และครอบครัวต้องไม่เดือดร้อน มีเงินสำรองช่วยพี่น้องที่ขาดแคลน ก็เลยมาลงที่ลูก+ครอบครัว มากกว่ารถ
ผมเป็นลูกจ้าง ทำงานประจำ เงินเก็บผมมี~8หลัก อายุ3X เงินเดือน 6 หลัก แต่ถ้าอายุซัก 40กว่า ก็กะจะซื้อรถ MPV หรูๆกะเขามั่งซักคัน ความอยากได้มันก็มี แต่คงรอลูกโตกว่านี้ก่อน
ก็ขอ share ดังนี้ละกันครับ

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
ทุกคนในที่นี้มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน คือรักรถ หรือจะเรียกว่าบ้ารถก็ได้

ไม่ผิดรอกครับถ้าเห็นใครผ่อนรถแพงๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะตายไปแล้วเป็นภาระ เดี๋ยวนี้มีประกัน(ตายไม่ต้องผ่อนต่อ)พ่วงมาด้วย

ใครก็อยากมีความทรงจำดีๆกับรถคันเก่งเป็นรถในฝัน(หรืออย่างน้อยรถคันโปรดเห็นทีไรน้ำลายหกทุกที) ก่อนที่จะแก่เกินกว่าจะขับรถ

แต่ต้องอย่าลืมมีเวลาให้คนที่เขารักเราด้วยนะครับ

สุดท้าย "มันอยู่ที่ใจ"

ออฟไลน์ 0%

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,581
อยู่ที่ความสำคัญด้วยครับ

บางคนใช้รถหาเงิน คือ เป็นอุปกรณ์ หาเงินชนิดหนึ่ง มันจำเป็นต้องใช้จริงๆ

กับ

อีกประเภทคือ แค่อยากจะมี

ส่วนตัวคิดว่ามันแล้วแต่คนเลย แต่ที่แน่ๆ จะผ่อนแบบเดือนชนเดือน คงไม่ไหว ถ้าเงินเดือนหายไปเดือนนึง ก็ช๊อต ขาดส่ง ไม่ดีแน่นอน

เอาให้ดี ไม่เป็นหนี้จะดีที่สุด ทำไมต้องซื้อรถใหม่ ยิ่งในปัจจุบัน รถมือสอง ราคาดีๆ สภาพสวยๆ ปีใหม่ๆมีเยอะแยะ ถมเถไป หาคนที่ดูเป็นไปดู
ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ ถ้าเก็บสด จบได้ ยิ่งประหยัดค่าดอกเบี้ยด้วย
กลุ่มตัวอย่างรถน่าใช้ราคาถูกเช่น vios yaris ตัวก่อน ราคาสองปลายๆเท่านั้นเอง

ออฟไลน์ sky_walker

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 75
555+ นี่แหละวิธีคิดของคนไทยปัจจุบัน

รายได้-รายจ่าย=เงินเก็บ


แต่จริงๆแล้ว ในหลักเศรษฐกิจพอเพียง ต้องเป็นสมการ ดังนี้

รายได้ - เงินเก็บ = รายจ่าย


เอาเรื่องเหล่านี้ไปสอนพวกเขากันครับ สอนกันมากๆ คนไทยจะได้มีเงินเก็บ ^_^
+1 ครับ ขอเอาไป แชร์ หน่อยย ^^

ออฟไลน์ HME

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 719
( โดยเฉพาะวัยรุ่นถึงวัยกลางคน อายุไม่เกิน 35 ปี )
______________________________
อ่านถึงตรงนี้แล้วแทบจะหมดกำลังใจในการดำเนินชีวิตเลยทีเดียว
35กลายเป็นวัยกลางคนแล้ว

ออฟไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,101
ความคิดเห็นดีๆ เยอะเลย
อ่านแล้วดีมากๆครับ  :D

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
ผมมี 2 มุมแฮะ
ถามว่า ตอนนี้เงินเก็บมีไหม ส่วนตัวไม่มีเลยครับ เพราะผมแบ่งการใช้เงินออกเป็น 3 ส่วนครับ
35% ของเงินเดือน ผมเก็บไว้ใช้ส่วนตัว
20% ของเงินเดือน ผมให้คุณแม่ผมใช้ครับ
40% ของเงินเดือน ให้ภรรยาเก็บครับ
ส่วนอีก 5% เป็นพวก ภาษี ประกันสังคม อะไร จำพวกนั้น

โดยในเงินส่วนตัวที่ผมเก็บไว้ใช้ ผมก็ซื้อประกันชีวิตอีกนิดหน่อย เท่ากับว่า เหลือเงินใช้จริงๆ อาจจะราวๆ 30% ของเงินเดือน มันก็เดือนชนเดือน อาจจะมีเหลือเก็บบ้างนิดหน่อย
ซึ่งเงินเหลือเก็บ ก็จะเอาไว้ซ่อมรถบ้าง เอาไว้ไปเที่ยวบ้าง

โดยส่วนตัวเป็นคนชอบรถมาตั้งแต่เด็ก เห็นคนขับรถใหม่ๆก็อยากได้
ผมเป็นคนที่ ถ้าอยากได้อะไร จะมีช่วงหนึ่งที่อยากได้สุดๆ พอผ่านไปสักระยะ ก็จะเริ่มเฉยๆ แล้วก็จะเสียดายเงิน 555
ดังนั้น เวลาอยากจะได้รถคันใหม่ ก็จะบอกตัวเองว่า รอไปสักระยะดีไหม รถที่ตัวเองใช้อยู่ มันก็ยังขับได้อยู่(8ปีละ) รถแฟนก็เพิ่งจะ 2 ปีนิดๆเอง จะซื้อคันใหม่ก็ต้องอดเก็บเงินอีกหลายปี ด้วยเศรษฐกิจตอนนี้ ขอเก็บเงินก่อนดีกว่า แต่ไม่เกิน 2 ปี ยังไงก็ได้ขยับขยายแน่ เพราะผมถือว่ารถคือกำไรชีวิต ไม่ซื้อตอนที่ยังมีแรงขับ ก็รอขับรถกระดาษล่ะ

อ่านกระทู้นี้แล้วชอบแฮะ ได้มุมมองเยอะดี 

ออฟไลน์ trumpetx

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
    • อีเมล์
ก่อนผมจะตอบวิธีการใช้เงินของผม ผมอยากจะพูดอะไรสักอย่าง

ทำไมคนหลายๆคน ชอบไปยุ่งไปวิพากษ์วิจารณ์การใช้เงินของคนอื่นจังเลยครับ
และเท่าที่ผมเห็นส่วนมาก ก็จะไปวิจารณ์เขาในแง่ลบ ทำนองว่าแม่งใช้เงินไม่เป็น ต้องประหยัดแบบกูนี่ ถึงจะเรียกว่าใช้เงินแบบมีสมอง

ชอบด่านักพวกเด็กจบใหม่ พ่อแม่ออกรถให้ขับ ผมก็สงสัยว่ามันไปหนักหัวกะบาลใคร บางครั้งต้องถามตัวเองว่าที่เราทำแบบนี้ เพียงเพราะต้องการจะอวดความฉลาด อวดความประหยัดของตัวเองรึป่าว
สำหรับผมไร้สาระมาก ในการไปวิจารณ์คนอื่น เพราะมันเงินเขา ไม่ใช่เงินเรา


เข้าเรื่องดีกว่า...

สำหรับผม ผมคิดง่ายๆ ถ้าผมจะซื้อรถสักคัน ผมไม่สนว่าผมต้องมีเงินเก็บเท่าไร ถ้าผมมองแล้วว่าผมผ่อนไหว ผมก็ซื้อเลยถ้าผมอยากได้อ่ะนะ
เพราะผมคิดว่าเงินมีไว้ใช้ ไม่ได้มีไว้เก็บ รัฐบาลมีโครงการรักษาฟรี ผมไม่จำเปนต้องดับกิเลสเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามเจ็บป่วย  เพราะถ้าผมเป็นมะเร็ง ก็ให้แม่งตายดีกว่า มี2ล้านก็ไม่พอ
แม่ผมรักษายายหมดไป4ล้าน สุดท้ายอยู่ได้6เดือนก็ตาย

และผมไม่สนใจเรื่องเก็บเงินไว้เผื่อฉุกเฉิน เพราะผมจะไม่ทำให้ชีวิตผมฉุกเฉิน
ถ้าบ้านผมไฟไหม้ผมมีประกัน รถผมหายผมมีประกัน ถ้าผมป่วยผมก็รักษาฟรีตามโรงบาลรัฐ
เพราะฉะนั้นคำว่า ฉุกเฉิน คืออะไร ???
ผมไม่มีคำว่าตกงาน เพราะ ผมไม่ได้เป็นลูกจ้าง  ผมทำธุรกิจส่วนตัว และ ผมจะไม่ปล่อยให้กิจการผมเข้าสู่ภาวะเสี่ยง จนต้องมีช่วงฉุกเฉิน พวกนี้จริงๆเราบริหารมันได้หมด

เพราะฉะนั้น ถ้าผมจะซื้อรถที่ต้องผ่อนเดือนละ5หมื่น
ผมต้องหาเงินต่อเดือนให้ได้อย่างน้อย 8หมื่นบาท
เพราะ3หมื่น เป็นค่าใช้จ่ายต่อเดือนของผมและครอบครัว
5หมื่นจึงเอาไปผ่อนรถได้

ผมไม่ใช่แนวที่ว่ากูต้องมีเงินเก็บ20ล้าน ถึงจะซื้อบีเอ็มขับได้
ผมไม่ชอบตั้งโจทย์ยากๆให้ชีวิต ตัวเลขในบัญชีไม่มีความหมายสำหรับผมเลย
ผมทำงานโคดเหนื่อย ไม่มีวันหยุด ผมก็แปรรูปมันมาเป็นความสุข สิ่งของ
ทุกวันนี้ผมไม่ค่อยมีเงินเก็บ เพราะใช้เกือบหมดทุกเดือน

ผมบ้ารถ รถคือลมหายใจของผม
ผมเคยคิดจะเก็บเงินสดแล้วซื้อรถถูกๆขับ เพราะเคยมองว่าเก็บไว้เผื่อเจ็บป่วย (สมัยนานมากที่คิดแบบนี้)
ก็เลยมาคิดว่า อ้าว ถ้ากูเป็นมะเร็ง หรือเส้นเลือดในสมองแตกตาย ก็ไม่ได้ขับรถแล้ว
หรือถ้าข้ามถนนแล้วโดนรถชนตาย เงินในบัญชีอุส่าห์เก็บมาก็ไม่ได้ใช้เลย
เพราะฉะนั้น ผมใช้เงินเกลี้ยงเลยครับ มีเหลือในบัญชีนิดหน่อย แบบให้พออุ่นใจว่าเรามีเงินหลักแสนอยู่นะ ถ้ามีต่ำกว่าหลักแสน ผมจะนอนไม่หลับ

คนแบบผมคือคนที่คนส่วนใหญ่มองว่าใช้เงินไม่เป็น สิ้นคิด

แต่ผมมองว่าคำว่าความสุขของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
บางคนเขามีความสุขที่เห็นตัวเลขในบัญชีมันเพิ่มขึ้นทุกๆปี เขาก็จะหาว่าผมนี่งี่เง่า ซื้อแต่ของ
ส่วนความสุขของผมคือ ผ่อนรถ กินอาหารแพงๆ ซื้อเข็มขัดแอร์เมส กระเป๋าหลุยส์ รองเท้าเฟอร์รากาโม่ นาฬิกาโรเล็กซ์ ,พาเนอไร

ผมไม่ต้องมีเงิน4ล้าน ถึงค่อยซื้อเบนซ์ได้
ผมแค่มีเงินผ่อนเดือนละ5หมื่นผมก็ซื้อแล้วครับ

แต่ตอนนี้บังเอิญยังไม่มีปัญญาผ่อนรถเดือนละห้าหมื่นเท่านั้นเอง

ถ้ามีปัญญาเมื่อไหร่

ใบพัดสีฟ้ากับผม ได้เจอกันแน่นอน



เจ๋งอ่ะ ชอบที่บอกว่า เด็กจบใหม่ พ่อแม่ออกรถให้ขับ (แต่แม่บอกว่าซื้อให้น่ะ ถ้ามีตังซื้อเองค่อยเอามาคืน)

ตอนนี้ที่ผ่อนอยู่เดือนล่ะ 28000

เงินเดือนผม 9000 จะมีปัญญาไหนไปผ่อนว่ะเนี้ย 555+ (แม่ผ่อนทั้งน้าน) (เติมน้ำมันเดือนล่ะ เกือบ 5พัน-*-)(ที่เหลือกินข้าวจานล่ะไม่เกิน 30 ---รอด)

ออฟไลน์ neutrino

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 750
อยากบอกว่ คนส่วนใหญ่ที่เป็นหนี้ เป็นสิน บ้างก็ถูกยึดรถ, ไม่กล้ารับสายเพราะโดนตามทวงหนี้บัตรเครดิต, รายได้ไม่พอจ่าย ต้องขอจากพ่อ-แม่(บางคนอายุ30กว่าแล้วยังขอเงินแม่) พวกนี้มีมากครับ ซึ่งพวกนี้เป็นโรคที่เรียกว่า " รสนิยมสูง รายได้ต่ำ" ไงครับ

ออฟไลน์ maxillofacial surgeon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 998
    • อีเมล์
ก่อนอื่นดูเงินในกระเป๋าก่อนครับ  ว่ามีพอซื้อยังอิๆ  
แต่ละคนมีแพลนไม่เหมือนกัน และก็ปรับเปลี่ยนได้ แต่ตัวผมมีเป้าหมาย พอดีอ่านจากหนังสือทำตามมหาเศรษฐีเค้าทำกัน
ลงทุน10%
สำรอง10%
เรียนรู้ 10%
ใช้จ่าย55%
ใช้เล่น10%
give5%
สามารถปรับเปลี่ยนได้ตาม รายได้ที่เปลี่ยนแปลงไป   แต่ยังทำตามมะค่อยได้เลย  หนักไปทางใช้สุรุ่ยสุร่ายซะมากกว่าคับ
รายได้ผม 500,000
กินใช้  100,000
ตอนนี้ผ่อนรถ100,000  ผ่อน5 คัน   ไม่มีพรีเมี่ยมคาร์ซักคันเพราะแต่ละคันซื้อมาใช้ตามความเหมาะสมกะช่วงชีวิต  

ที่เหลือ 300,00แบ่งเก็บสำรองใช้  ลงทุน  กะเกษียณตอนอายุ45  อยากมีเงินซัก200ล้าน คิดอยู่ว่าจะกล้าซื้อลัมโบมาขับมั้ย
ตอนนี้เน้นกิน เที่ยว ใช้ตังเยอะหน่อย กลัวตายแล้วไม่ได้ใช้เองคับผม

ออฟไลน์ WTF

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 616
ก่อนอื่นดูเงินในกระเป๋าก่อนครับ  ว่ามีพอซื้อยังอิๆ  
แต่ละคนมีแพลนไม่เหมือนกัน และก็ปรับเปลี่ยนได้ แต่ตัวผมมีเป้าหมาย พอดีอ่านจากหนังสือทำตามมหาเศรษฐีเค้าทำกัน
ลงทุน10%
สำรอง10%
เรียนรู้ 10%
ใช้จ่าย55%
ใช้เล่น10%
give5%
สามารถปรับเปลี่ยนได้ตาม รายได้ที่เปลี่ยนแปลงไป   แต่ยังทำตามมะค่อยได้เลย  หนักไปทางใช้สุรุ่ยสุร่ายซะมากกว่าคับ
รายได้ผม 500,000
กินใช้  100,000
ตอนนี้ผ่อนรถ100,000  ผ่อน5 คัน   ไม่มีพรีเมี่ยมคาร์ซักคันเพราะแต่ละคันซื้อมาใช้ตามความเหมาะสมกะช่วงชีวิต  

ที่เหลือ 300,00แบ่งเก็บสำรองใช้  ลงทุน  กะเกษียณตอนอายุ45  อยากมีเงินซัก200ล้าน คิดอยู่ว่าจะกล้าซื้อลัมโบมาขับมั้ย
ตอนนี้เน้นกิน เที่ยว ใช้ตังเยอะหน่อย กลัวตายแล้วไม่ได้ใช้เองคับผม

เป็นหมอศัลย์รึเปล่าหรือทำส่วนตัวครับ รายได้แบบนี้

แต่เดือนละ 5แสน เก็บ3 แสนนี่ กว่าจะได้ 200 ล้านนี่ต้องใช้เวลา 55 ปีเลยนะครับ อายุ 45 จะมี 200 ล้านนี่ เดือนๆนึงคงต้องมีระดับ 2-3ล้านเลยนะนี่ น่าอิจฉาจริงๆ  ;D

ออฟไลน์ maxillofacial surgeon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 998
    • อีเมล์
ก่อนอื่นดูเงินในกระเป๋าก่อนครับ  ว่ามีพอซื้อยังอิๆ  
แต่ละคนมีแพลนไม่เหมือนกัน และก็ปรับเปลี่ยนได้ แต่ตัวผมมีเป้าหมาย พอดีอ่านจากหนังสือทำตามมหาเศรษฐีเค้าทำกัน
ลงทุน10%
สำรอง10%
เรียนรู้ 10%
ใช้จ่าย55%
ใช้เล่น10%
give5%
สามารถปรับเปลี่ยนได้ตาม รายได้ที่เปลี่ยนแปลงไป   แต่ยังทำตามมะค่อยได้เลย  หนักไปทางใช้สุรุ่ยสุร่ายซะมากกว่าคับ
รายได้ผม 500,000
กินใช้  100,000
ตอนนี้ผ่อนรถ100,000  ผ่อน5 คัน   ไม่มีพรีเมี่ยมคาร์ซักคันเพราะแต่ละคันซื้อมาใช้ตามความเหมาะสมกะช่วงชีวิต  

ที่เหลือ 300,00แบ่งเก็บสำรองใช้  ลงทุน  กะเกษียณตอนอายุ45  อยากมีเงินซัก200ล้าน คิดอยู่ว่าจะกล้าซื้อลัมโบมาขับมั้ย
ตอนนี้เน้นกิน เที่ยว ใช้ตังเยอะหน่อย กลัวตายแล้วไม่ได้ใช้เองคับผม

เป็นหมอศัลย์รึเปล่าหรือทำส่วนตัวครับ รายได้แบบนี้

แต่เดือนละ 5แสน เก็บ3 แสนนี่ กว่าจะได้ 200 ล้านนี่ต้องใช้เวลา 55 ปีเลยนะครับ อายุ 45 จะมี 200 ล้านนี่ เดือนๆนึงคงต้องมีระดับ 2-3ล้านเลยนะนี่ น่าอิจฉาจริงๆ  ;D
เป็นหมอจัดฟันครับ  รายได้ตอนนี้เท่านี้ครับ แต่ปีหน้าน่าจะแตะล้าน  วางแผนขยายสาขาคลีนิกด้วยครับ 
ทำงานด้วยแรงเราคนเดียว  เดือนละล้านก็อ้วกแตกแล้วครับผม  นั่นคือที่แพลนไว้  ได้ไม่ได้อีกเรื่องนึงครับอิๆ

ออฟไลน์ goldsfirm

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 101
    • อีเมล์
ก่อนอื่นดูเงินในกระเป๋าก่อนครับ  ว่ามีพอซื้อยังอิๆ  
แต่ละคนมีแพลนไม่เหมือนกัน และก็ปรับเปลี่ยนได้ แต่ตัวผมมีเป้าหมาย พอดีอ่านจากหนังสือทำตามมหาเศรษฐีเค้าทำกัน
ลงทุน10%
สำรอง10%
เรียนรู้ 10%
ใช้จ่าย55%
ใช้เล่น10%
give5%
สามารถปรับเปลี่ยนได้ตาม รายได้ที่เปลี่ยนแปลงไป   แต่ยังทำตามมะค่อยได้เลย  หนักไปทางใช้สุรุ่ยสุร่ายซะมากกว่าคับ
รายได้ผม 500,000
กินใช้  100,000
ตอนนี้ผ่อนรถ100,000  ผ่อน5 คัน   ไม่มีพรีเมี่ยมคาร์ซักคันเพราะแต่ละคันซื้อมาใช้ตามความเหมาะสมกะช่วงชีวิต  

ที่เหลือ 300,00แบ่งเก็บสำรองใช้  ลงทุน  กะเกษียณตอนอายุ45  อยากมีเงินซัก200ล้าน คิดอยู่ว่าจะกล้าซื้อลัมโบมาขับมั้ย
ตอนนี้เน้นกิน เที่ยว ใช้ตังเยอะหน่อย กลัวตายแล้วไม่ได้ใช้เองคับผม

เป็นหมอศัลย์รึเปล่าหรือทำส่วนตัวครับ รายได้แบบนี้

แต่เดือนละ 5แสน เก็บ3 แสนนี่ กว่าจะได้ 200 ล้านนี่ต้องใช้เวลา 55 ปีเลยนะครับ อายุ 45 จะมี 200 ล้านนี่ เดือนๆนึงคงต้องมีระดับ 2-3ล้านเลยนะนี่ น่าอิจฉาจริงๆ  ;D
เป็นหมอจัดฟันครับ  รายได้ตอนนี้เท่านี้ครับ แต่ปีหน้าน่าจะแตะล้าน  วางแผนขยายสาขาคลีนิกด้วยครับ 
ทำงานด้วยแรงเราคนเดียว  เดือนละล้านก็อ้วกแตกแล้วครับผม  นั่นคือที่แพลนไว้  ได้ไม่ได้อีกเรื่องนึงครับอิๆ

ถึงว่า ... แฟนผมรู้จักหมอหลายคน เทอบอกว่าโดยส่วนใหญ่ หมอฟัน รวยสุด  :)
ขอให้ขยายสาขาได้ ในเร็ววันคับผม

ออฟไลน์ boneshiro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 460
  • M Power Addicted
    • อีเมล์
ผมคิดง่ายๆครับ ถ้าคุณจะซื้อรถสักคันแล้วคุณต้องลุ้นว่าไฟแนนท์จะผ่านมั้ย อย่าซื้อครับ

บางคนพูดว่าตัวเองเลือกจะลงทุนกับรถนั่นก็เข้าใจผิดหรือเข้าใจถูกแต่เข้าข้างตัวเอง
รถยนต์ไม่ใช่สินทรัพย์ ซื้อแล้วจอดทิ้งไว้ ไม่ได้ทำให้เกิดรายได้ หรือเวลาผ่านไปมูลค่าไม่ได้เพิ่มขึ้น
ฉะนั้นรถนี่คือวัตถุสนอง need ล้วนๆ ซื้อวันนี้ ผ่านไปอีกสิบปีก็กลายเป็นแค่รถรุ่นเก่าที่มูลค่าเหลือแค่ 20-30% หรือน้อยกว่านั้น

คนอื่นจะคิดยังไงก็ตามแต่ แต่สำหรับผม หนังชีวิตมันยังอีกยาวไกล ผมไม่ได้คิดว่าชีวิตถึงจุดสูงสุดเมื่อได้ครอบครองรถรุ่นใดก็ตาม
เพราะฉะนั้น ผมจะไม่ซื้อรถที่มันราคาสูงจนกระทบกับเงินที่สำหรับลงทุนและเงินออมครับ 
M power Thailand
M5 e60 V10

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,640
    • อีเมล์
หลากหลายความเห็น ดีมากเลย ได้อ่านหลายๆมุมมอง

ถ้าเอาตัวเลขคิดง่ายๆ ก็คงไม่ควรจะเกิน 30% ของรายได้หลัก อันนี้รวมค่าเชื้อเพลิงแล้วนะครับ (สูตรนี้คำนวนจากคนมีครอบครัวเเล้ว) ก็เผื่อเหลือเผื่อขาดเยอะหน่อย

แต่ที่สำคัญในความคิดผมคือ ต้องอย่าหลอกตัวเองครับ หาตัวเองให้เจอ ผมว่าทุกคนไม่ว่าใครก็ทำได้ไม่เดือดร้อนเหมือนกันหมดแหละ


ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
ก่อนผมจะตอบวิธีการใช้เงินของผม ผมอยากจะพูดอะไรสักอย่าง

ทำไมคนหลายๆคน ชอบไปยุ่งไปวิพากษ์วิจารณ์การใช้เงินของคนอื่นจังเลยครับ
และเท่าที่ผมเห็นส่วนมาก ก็จะไปวิจารณ์เขาในแง่ลบ ทำนองว่าแม่งใช้เงินไม่เป็น ต้องประหยัดแบบกูนี่ ถึงจะเรียกว่าใช้เงินแบบมีสมอง

ชอบด่านักพวกเด็กจบใหม่ พ่อแม่ออกรถให้ขับ ผมก็สงสัยว่ามันไปหนักหัวกะบาลใคร บางครั้งต้องถามตัวเองว่าที่เราทำแบบนี้ เพียงเพราะต้องการจะอวดความฉลาด อวดความประหยัดของตัวเองรึป่าว
สำหรับผมไร้สาระมาก ในการไปวิจารณ์คนอื่น เพราะมันเงินเขา ไม่ใช่เงินเรา


เข้าเรื่องดีกว่า...

สำหรับผม ผมคิดง่ายๆ ถ้าผมจะซื้อรถสักคัน ผมไม่สนว่าผมต้องมีเงินเก็บเท่าไร ถ้าผมมองแล้วว่าผมผ่อนไหว ผมก็ซื้อเลยถ้าผมอยากได้อ่ะนะ
เพราะผมคิดว่าเงินมีไว้ใช้ ไม่ได้มีไว้เก็บ รัฐบาลมีโครงการรักษาฟรี ผมไม่จำเปนต้องดับกิเลสเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามเจ็บป่วย  เพราะถ้าผมเป็นมะเร็ง ก็ให้แม่งตายดีกว่า มี2ล้านก็ไม่พอ
แม่ผมรักษายายหมดไป4ล้าน สุดท้ายอยู่ได้6เดือนก็ตาย

และผมไม่สนใจเรื่องเก็บเงินไว้เผื่อฉุกเฉิน เพราะผมจะไม่ทำให้ชีวิตผมฉุกเฉิน
ถ้าบ้านผมไฟไหม้ผมมีประกัน รถผมหายผมมีประกัน ถ้าผมป่วยผมก็รักษาฟรีตามโรงบาลรัฐ
เพราะฉะนั้นคำว่า ฉุกเฉิน คืออะไร ???
ผมไม่มีคำว่าตกงาน เพราะ ผมไม่ได้เป็นลูกจ้าง  ผมทำธุรกิจส่วนตัว และ ผมจะไม่ปล่อยให้กิจการผมเข้าสู่ภาวะเสี่ยง จนต้องมีช่วงฉุกเฉิน พวกนี้จริงๆเราบริหารมันได้หมด

เพราะฉะนั้น ถ้าผมจะซื้อรถที่ต้องผ่อนเดือนละ5หมื่น
ผมต้องหาเงินต่อเดือนให้ได้อย่างน้อย 8หมื่นบาท
เพราะ3หมื่น เป็นค่าใช้จ่ายต่อเดือนของผมและครอบครัว
5หมื่นจึงเอาไปผ่อนรถได้

ผมไม่ใช่แนวที่ว่ากูต้องมีเงินเก็บ20ล้าน ถึงจะซื้อบีเอ็มขับได้
ผมไม่ชอบตั้งโจทย์ยากๆให้ชีวิต ตัวเลขในบัญชีไม่มีความหมายสำหรับผมเลย
ผมทำงานโคดเหนื่อย ไม่มีวันหยุด ผมก็แปรรูปมันมาเป็นความสุข สิ่งของ
ทุกวันนี้ผมไม่ค่อยมีเงินเก็บ เพราะใช้เกือบหมดทุกเดือน

ผมบ้ารถ รถคือลมหายใจของผม
ผมเคยคิดจะเก็บเงินสดแล้วซื้อรถถูกๆขับ เพราะเคยมองว่าเก็บไว้เผื่อเจ็บป่วย (สมัยนานมากที่คิดแบบนี้)
ก็เลยมาคิดว่า อ้าว ถ้ากูเป็นมะเร็ง หรือเส้นเลือดในสมองแตกตาย ก็ไม่ได้ขับรถแล้ว
หรือถ้าข้ามถนนแล้วโดนรถชนตาย เงินในบัญชีอุส่าห์เก็บมาก็ไม่ได้ใช้เลย
เพราะฉะนั้น ผมใช้เงินเกลี้ยงเลยครับ มีเหลือในบัญชีนิดหน่อย แบบให้พออุ่นใจว่าเรามีเงินหลักแสนอยู่นะ ถ้ามีต่ำกว่าหลักแสน ผมจะนอนไม่หลับ

คนแบบผมคือคนที่คนส่วนใหญ่มองว่าใช้เงินไม่เป็น สิ้นคิด

แต่ผมมองว่าคำว่าความสุขของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
บางคนเขามีความสุขที่เห็นตัวเลขในบัญชีมันเพิ่มขึ้นทุกๆปี เขาก็จะหาว่าผมนี่งี่เง่า ซื้อแต่ของ
ส่วนความสุขของผมคือ ผ่อนรถ กินอาหารแพงๆ ซื้อเข็มขัดแอร์เมส กระเป๋าหลุยส์ รองเท้าเฟอร์รากาโม่ นาฬิกาโรเล็กซ์ ,พาเนอไร

ผมไม่ต้องมีเงิน4ล้าน ถึงค่อยซื้อเบนซ์ได้
ผมแค่มีเงินผ่อนเดือนละ5หมื่นผมก็ซื้อแล้วครับ

แต่ตอนนี้บังเอิญยังไม่มีปัญญาผ่อนรถเดือนละห้าหมื่นเท่านั้นเอง

ถ้ามีปัญญาเมื่อไหร่

ใบพัดสีฟ้ากับผม ได้เจอกันแน่นอน



เจ๋งครับ ขอคารวะความเห็นนี้ครับ

ผมคนนึง ไม่มีเงินเก็บเป็นชิ้นเป็นอันครับ อาจจะเพราะผมเองกับแฟน หาเงินได้เยอะ ผมใช้ชีวิตเต็มที่ครับ ไหวเท่าไหร่ ใช้เท่านั้น มีพวก LTF RMF กับกองทุนนิดหน่อย ไม่มีประกัน ไม่มีเงินฝากประจำ มีหมุนเวียนอยู่หลายแสนต่อเดือน แค่นั้นครับ

แต่ผมซื้อ BM 2 ปี 2 คัน ก็ปีละคันแหละ เพราะง่ายๆ ครับ ผมชอบอะ ผ่อนไหว ไม่มีปัญญาซื้อสด เพราะใช้เงินเก่ง แต่ก็ควบคุมใช้จ่ายให้อยู่ในวงที่หามาใช้ได้นะครับ ไม่ได้แบบว่า หนี้บานไรงี้ บางทีความจำเป็นของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ แต่เอาเป็นว่าผมไม่เบียดเบียนใคร และผมคิดเพียงแค่ว่า ปีนี้ เราจะหาเงินให้ได้มากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งปี 2556 ผมกับแฟนรวมกัน ก็หาได้มากกว่า 6 ล้าน ก็เลยคิดว่า ไม่มีปัญหาที่จะใช้ BM กันคนละคัน ผมใช้รถญี่ปุ่นมาตลอด มันไม่ใช่ คือมันไม่ใช่ ความหมายคือ มันไม่สุดอะ ยังไม่พอใจ แต่ตอนนี้ happy มากๆ ทั้งคู่ เพราะได้ใช้ในสิ่งที่เราชอบ ใครชอบแบบไหน ใช้แบบนั้น ผมว่าไม่น่าจะมีใครผิด การเก็บเงินเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่หากเก็บแล้วไม่ได้ใช้ แล้วคุณมีความสุขกับการดูตัวเลข ก็ไม่มีปัญหาเพราะคุณชอบ ส่วนผม ชอบวัตถุ ชอบจะเห็น จะได้ใช้มัน ขอแค่ไม่เดือดร้อน ก็ happy แล้วครับ

แต่ในขณะเดียวกัน ปีนี้ปีเดียว ผมก็ให้แม่เกษียร เอาเงินให้ท่านใช้ปีนี้ทั้งปีไปแล้ว โดยไม่ต้องเดือดร้อน + เปลี่ยนรถให้ท่านแล้ว จะได้ไม่ต้องใช้ไปซ่อมไปกับรถคันเก่า หากผมต้องเก็บเงิน แต่ไม่ได้ให้แม่ ไม่ได้เปลี่ยนรถให้แม่ ผมก็ไม่เอาครับ เงินสำหรับผม มีไว้ใช้ หาใหม่ให้ได้มากขึ้นดีกว่าครับ

ปล. ที่ไม่มีเงินเก็บมากมัน เพราะผมกับแฟน ก่อนมีลูก เราเที่ยวกระจายครับ ไปกันมามากกว่า 20 ประเทศ มากกว่า 50 ครั้งใน 10 ปี ไม่แปลกที่ไม่เหลือครับ แต่สำหรับผม ผมว่า ผมใช้ชีวิตคุ้มครับ  ;D
S3 - F30
X1 - E84

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,547
ก่อนผมจะตอบวิธีการใช้เงินของผม ผมอยากจะพูดอะไรสักอย่าง

ทำไมคนหลายๆคน ชอบไปยุ่งไปวิพากษ์วิจารณ์การใช้เงินของคนอื่นจังเลยครับ
และเท่าที่ผมเห็นส่วนมาก ก็จะไปวิจารณ์เขาในแง่ลบ ทำนองว่าแม่งใช้เงินไม่เป็น ต้องประหยัดแบบกูนี่ ถึงจะเรียกว่าใช้เงินแบบมีสมอง

ชอบด่านักพวกเด็กจบใหม่ พ่อแม่ออกรถให้ขับ ผมก็สงสัยว่ามันไปหนักหัวกะบาลใคร บางครั้งต้องถามตัวเองว่าที่เราทำแบบนี้ เพียงเพราะต้องการจะอวดความฉลาด อวดความประหยัดของตัวเองรึป่าว
สำหรับผมไร้สาระมาก ในการไปวิจารณ์คนอื่น เพราะมันเงินเขา ไม่ใช่เงินเรา


เข้าเรื่องดีกว่า...

สำหรับผม ผมคิดง่ายๆ ถ้าผมจะซื้อรถสักคัน ผมไม่สนว่าผมต้องมีเงินเก็บเท่าไร ถ้าผมมองแล้วว่าผมผ่อนไหว ผมก็ซื้อเลยถ้าผมอยากได้อ่ะนะ
เพราะผมคิดว่าเงินมีไว้ใช้ ไม่ได้มีไว้เก็บ รัฐบาลมีโครงการรักษาฟรี ผมไม่จำเปนต้องดับกิเลสเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามเจ็บป่วย  เพราะถ้าผมเป็นมะเร็ง ก็ให้แม่งตายดีกว่า มี2ล้านก็ไม่พอ
แม่ผมรักษายายหมดไป4ล้าน สุดท้ายอยู่ได้6เดือนก็ตาย

และผมไม่สนใจเรื่องเก็บเงินไว้เผื่อฉุกเฉิน เพราะผมจะไม่ทำให้ชีวิตผมฉุกเฉิน
ถ้าบ้านผมไฟไหม้ผมมีประกัน รถผมหายผมมีประกัน ถ้าผมป่วยผมก็รักษาฟรีตามโรงบาลรัฐ
เพราะฉะนั้นคำว่า ฉุกเฉิน คืออะไร ???
ผมไม่มีคำว่าตกงาน เพราะ ผมไม่ได้เป็นลูกจ้าง  ผมทำธุรกิจส่วนตัว และ ผมจะไม่ปล่อยให้กิจการผมเข้าสู่ภาวะเสี่ยง จนต้องมีช่วงฉุกเฉิน พวกนี้จริงๆเราบริหารมันได้หมด

เพราะฉะนั้น ถ้าผมจะซื้อรถที่ต้องผ่อนเดือนละ5หมื่น
ผมต้องหาเงินต่อเดือนให้ได้อย่างน้อย 8หมื่นบาท
เพราะ3หมื่น เป็นค่าใช้จ่ายต่อเดือนของผมและครอบครัว
5หมื่นจึงเอาไปผ่อนรถได้

ผมไม่ใช่แนวที่ว่ากูต้องมีเงินเก็บ20ล้าน ถึงจะซื้อบีเอ็มขับได้
ผมไม่ชอบตั้งโจทย์ยากๆให้ชีวิต ตัวเลขในบัญชีไม่มีความหมายสำหรับผมเลย
ผมทำงานโคดเหนื่อย ไม่มีวันหยุด ผมก็แปรรูปมันมาเป็นความสุข สิ่งของ
ทุกวันนี้ผมไม่ค่อยมีเงินเก็บ เพราะใช้เกือบหมดทุกเดือน

ผมบ้ารถ รถคือลมหายใจของผม
ผมเคยคิดจะเก็บเงินสดแล้วซื้อรถถูกๆขับ เพราะเคยมองว่าเก็บไว้เผื่อเจ็บป่วย (สมัยนานมากที่คิดแบบนี้)
ก็เลยมาคิดว่า อ้าว ถ้ากูเป็นมะเร็ง หรือเส้นเลือดในสมองแตกตาย ก็ไม่ได้ขับรถแล้ว
หรือถ้าข้ามถนนแล้วโดนรถชนตาย เงินในบัญชีอุส่าห์เก็บมาก็ไม่ได้ใช้เลย
เพราะฉะนั้น ผมใช้เงินเกลี้ยงเลยครับ มีเหลือในบัญชีนิดหน่อย แบบให้พออุ่นใจว่าเรามีเงินหลักแสนอยู่นะ ถ้ามีต่ำกว่าหลักแสน ผมจะนอนไม่หลับ

คนแบบผมคือคนที่คนส่วนใหญ่มองว่าใช้เงินไม่เป็น สิ้นคิด

แต่ผมมองว่าคำว่าความสุขของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
บางคนเขามีความสุขที่เห็นตัวเลขในบัญชีมันเพิ่มขึ้นทุกๆปี เขาก็จะหาว่าผมนี่งี่เง่า ซื้อแต่ของ
ส่วนความสุขของผมคือ ผ่อนรถ กินอาหารแพงๆ ซื้อเข็มขัดแอร์เมส กระเป๋าหลุยส์ รองเท้าเฟอร์รากาโม่ นาฬิกาโรเล็กซ์ ,พาเนอไร

ผมไม่ต้องมีเงิน4ล้าน ถึงค่อยซื้อเบนซ์ได้
ผมแค่มีเงินผ่อนเดือนละ5หมื่นผมก็ซื้อแล้วครับ

แต่ตอนนี้บังเอิญยังไม่มีปัญญาผ่อนรถเดือนละห้าหมื่นเท่านั้นเอง

ถ้ามีปัญญาเมื่อไหร่

ใบพัดสีฟ้ากับผม ได้เจอกันแน่นอน



เจ๋งครับ ขอคารวะความเห็นนี้ครับ

ผมคนนึง ไม่มีเงินเก็บเป็นชิ้นเป็นอันครับ อาจจะเพราะผมเองกับแฟน หาเงินได้เยอะ ผมใช้ชีวิตเต็มที่ครับ ไหวเท่าไหร่ ใช้เท่านั้น มีพวก LTF RMF กับกองทุนนิดหน่อย ไม่มีประกัน ไม่มีเงินฝากประจำ มีหมุนเวียนอยู่หลายแสนต่อเดือน แค่นั้นครับ

แต่ผมซื้อ BM 2 ปี 2 คัน ก็ปีละคันแหละ เพราะง่ายๆ ครับ ผมชอบอะ ผ่อนไหว ไม่มีปัญญาซื้อสด เพราะใช้เงินเก่ง แต่ก็ควบคุมใช้จ่ายให้อยู่ในวงที่หามาใช้ได้นะครับ ไม่ได้แบบว่า หนี้บานไรงี้ บางทีความจำเป็นของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ แต่เอาเป็นว่าผมไม่เบียดเบียนใคร และผมคิดเพียงแค่ว่า ปีนี้ เราจะหาเงินให้ได้มากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งปี 2556 ผมกับแฟนรวมกัน ก็หาได้มากกว่า 6 ล้าน ก็เลยคิดว่า ไม่มีปัญหาที่จะใช้ BM กันคนละคัน ผมใช้รถญี่ปุ่นมาตลอด มันไม่ใช่ คือมันไม่ใช่ ความหมายคือ มันไม่สุดอะ ยังไม่พอใจ แต่ตอนนี้ happy มากๆ ทั้งคู่ เพราะได้ใช้ในสิ่งที่เราชอบ ใครชอบแบบไหน ใช้แบบนั้น ผมว่าไม่น่าจะมีใครผิด การเก็บเงินเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่หากเก็บแล้วไม่ได้ใช้ แล้วคุณมีความสุขกับการดูตัวเลข ก็ไม่มีปัญหาเพราะคุณชอบ ส่วนผม ชอบวัตถุ ชอบจะเห็น จะได้ใช้มัน ขอแค่ไม่เดือดร้อน ก็ happy แล้วครับ

แต่ในขณะเดียวกัน ปีนี้ปีเดียว ผมก็ให้แม่เกษียร เอาเงินให้ท่านใช้ปีนี้ทั้งปีไปแล้ว โดยไม่ต้องเดือดร้อน + เปลี่ยนรถให้ท่านแล้ว จะได้ไม่ต้องใช้ไปซ่อมไปกับรถคันเก่า หากผมต้องเก็บเงิน แต่ไม่ได้ให้แม่ ไม่ได้เปลี่ยนรถให้แม่ ผมก็ไม่เอาครับ เงินสำหรับผม มีไว้ใช้ หาใหม่ให้ได้มากขึ้นดีกว่าครับ

ปล. ที่ไม่มีเงินเก็บมากมัน เพราะผมกับแฟน ก่อนมีลูก เราเที่ยวกระจายครับ ไปกันมามากกว่า 20 ประเทศ มากกว่า 50 ครั้งใน 10 ปี ไม่แปลกที่ไม่เหลือครับ แต่สำหรับผม ผมว่า ผมใช้ชีวิตคุ้มครับ  ;D

รบกวนถาม อาชีพอะไรอะคับ ถ้าสะดวกจะตอบนะคับ

ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
ผมพนักงานครับ เป็นนักวิเคราะห์
แฟนทำขายตรง อยู่ระดับสูงครับ
S3 - F30
X1 - E84

ออฟไลน์ rut191

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,212
ผมเงินเดือน15000หักประกันสังคมเหลือ14250 ส่งรถdmax4ประตู14225บาท x48เดือน เหลือ25บาท ค่ากินค่าใช้อยู่ที่5-6kต่อเดือน ก็จากot+เบี้ยเลี้ยงนั้นแหละ ใช้เงินเดือนชนเดือนเลยครับ 555 จริงๆอยากออกjazzมากเลยครับ แต่แม่อยากให้ออก4ประตู เผื่อให้พ่อใช้ด้วย แม่บอกไม่ไหวเดี่ยวแม่ช่วยไม่ต้องกลัวนะลูก พอเอาเข้าจริงๆก็ไม่กล้าขอเขาหรอกครับ เคยขออย่างมากไม่เกิน2000/เดือน ส่วนตัวพอใจแล้วส่วนเรื่องเงินเก็บ เอาไว้อีก28เดือนหน้าแล้วกันนะ 

ปล.เห็นเพื่อนๆรุ่นเดียวกันนั่งรถเมล์เอานิ้วรูดiphone กินสตาร์บัค(กาแฟไรว่ะแก้วล่ะ170)เงินเดือนมากกว่าผมอีก ก็ยังไม่เห็นมีเงินเก็บเหมือนกันนะครับ เป็นหนี้บัตรอีก ส่วนผมใช้nokiaถูกๆเสื้อผ้าเก่าๆ แต่มีรถขับนะครับ555

promt

  • บุคคลทั่วไป
ข้าราชการจนๆ อดเลยครับ
ยากนักที่จะมีเงินเดือนเป็นแสน และเป็นอย่างนั้นตลอดไป
โบน่งโบนัส ไม่มีหรอก

ได้แต่อาศัยน้ำซึมบ่อทราย แต่มันซึมไม่ทันกิน

ตอนนี้ขับ chev cruze ตามรีวิวข้างล่าง

แนวคิดให้เงินลงทุน อยากเตือนหลายๆ ท่านว่า เราต้องรู้ทันมัน และดูมันทำงานด้วย
อย่างเงินที่ผมนำไปลงทุน หลายกองและหลายอย่าง
กองทุนทอง ปีที่แล้วขาดทุนเกือบ 2 หมื่น
กองทุน RMF ก็ขาดทุนป่นปี
กองทุน LTF ก็ขาดทุนเหมือนกัน

ส่วนตลาดหุ้นเมื่อปีที่แล้วขาดทุนไปเยอะเกือบ 30%
ตอนนี้ค่อยๆ ได้กำไรกลับมาแล้ว เพราะเซตมันเขียวมาหลายวัน

ออฟไลน์ vashali

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 37
    • อีเมล์
ก่อนผมจะตอบวิธีการใช้เงินของผม ผมอยากจะพูดอะไรสักอย่าง

ทำไมคนหลายๆคน ชอบไปยุ่งไปวิพากษ์วิจารณ์การใช้เงินของคนอื่นจังเลยครับ
และเท่าที่ผมเห็นส่วนมาก ก็จะไปวิจารณ์เขาในแง่ลบ ทำนองว่าแม่งใช้เงินไม่เป็น ต้องประหยัดแบบกูนี่ ถึงจะเรียกว่าใช้เงินแบบมีสมอง

ชอบด่านักพวกเด็กจบใหม่ พ่อแม่ออกรถให้ขับ ผมก็สงสัยว่ามันไปหนักหัวกะบาลใคร บางครั้งต้องถามตัวเองว่าที่เราทำแบบนี้ เพียงเพราะต้องการจะอวดความฉลาด อวดความประหยัดของตัวเองรึป่าว
สำหรับผมไร้สาระมาก ในการไปวิจารณ์คนอื่น เพราะมันเงินเขา ไม่ใช่เงินเรา


เข้าเรื่องดีกว่า...

สำหรับผม ผมคิดง่ายๆ ถ้าผมจะซื้อรถสักคัน ผมไม่สนว่าผมต้องมีเงินเก็บเท่าไร ถ้าผมมองแล้วว่าผมผ่อนไหว ผมก็ซื้อเลยถ้าผมอยากได้อ่ะนะ
เพราะผมคิดว่าเงินมีไว้ใช้ ไม่ได้มีไว้เก็บ รัฐบาลมีโครงการรักษาฟรี ผมไม่จำเปนต้องดับกิเลสเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามเจ็บป่วย  เพราะถ้าผมเป็นมะเร็ง ก็ให้แม่งตายดีกว่า มี2ล้านก็ไม่พอ
แม่ผมรักษายายหมดไป4ล้าน สุดท้ายอยู่ได้6เดือนก็ตาย

และผมไม่สนใจเรื่องเก็บเงินไว้เผื่อฉุกเฉิน เพราะผมจะไม่ทำให้ชีวิตผมฉุกเฉิน
ถ้าบ้านผมไฟไหม้ผมมีประกัน รถผมหายผมมีประกัน ถ้าผมป่วยผมก็รักษาฟรีตามโรงบาลรัฐ
เพราะฉะนั้นคำว่า ฉุกเฉิน คืออะไร ???
ผมไม่มีคำว่าตกงาน เพราะ ผมไม่ได้เป็นลูกจ้าง  ผมทำธุรกิจส่วนตัว และ ผมจะไม่ปล่อยให้กิจการผมเข้าสู่ภาวะเสี่ยง จนต้องมีช่วงฉุกเฉิน พวกนี้จริงๆเราบริหารมันได้หมด

เพราะฉะนั้น ถ้าผมจะซื้อรถที่ต้องผ่อนเดือนละ5หมื่น
ผมต้องหาเงินต่อเดือนให้ได้อย่างน้อย 8หมื่นบาท
เพราะ3หมื่น เป็นค่าใช้จ่ายต่อเดือนของผมและครอบครัว
5หมื่นจึงเอาไปผ่อนรถได้

ผมไม่ใช่แนวที่ว่ากูต้องมีเงินเก็บ20ล้าน ถึงจะซื้อบีเอ็มขับได้
ผมไม่ชอบตั้งโจทย์ยากๆให้ชีวิต ตัวเลขในบัญชีไม่มีความหมายสำหรับผมเลย
ผมทำงานโคดเหนื่อย ไม่มีวันหยุด ผมก็แปรรูปมันมาเป็นความสุข สิ่งของ
ทุกวันนี้ผมไม่ค่อยมีเงินเก็บ เพราะใช้เกือบหมดทุกเดือน

ผมบ้ารถ รถคือลมหายใจของผม
ผมเคยคิดจะเก็บเงินสดแล้วซื้อรถถูกๆขับ เพราะเคยมองว่าเก็บไว้เผื่อเจ็บป่วย (สมัยนานมากที่คิดแบบนี้)
ก็เลยมาคิดว่า อ้าว ถ้ากูเป็นมะเร็ง หรือเส้นเลือดในสมองแตกตาย ก็ไม่ได้ขับรถแล้ว
หรือถ้าข้ามถนนแล้วโดนรถชนตาย เงินในบัญชีอุส่าห์เก็บมาก็ไม่ได้ใช้เลย
เพราะฉะนั้น ผมใช้เงินเกลี้ยงเลยครับ มีเหลือในบัญชีนิดหน่อย แบบให้พออุ่นใจว่าเรามีเงินหลักแสนอยู่นะ ถ้ามีต่ำกว่าหลักแสน ผมจะนอนไม่หลับ

คนแบบผมคือคนที่คนส่วนใหญ่มองว่าใช้เงินไม่เป็น สิ้นคิด

แต่ผมมองว่าคำว่าความสุขของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
บางคนเขามีความสุขที่เห็นตัวเลขในบัญชีมันเพิ่มขึ้นทุกๆปี เขาก็จะหาว่าผมนี่งี่เง่า ซื้อแต่ของ
ส่วนความสุขของผมคือ ผ่อนรถ กินอาหารแพงๆ ซื้อเข็มขัดแอร์เมส กระเป๋าหลุยส์ รองเท้าเฟอร์รากาโม่ นาฬิกาโรเล็กซ์ ,พาเนอไร

ผมไม่ต้องมีเงิน4ล้าน ถึงค่อยซื้อเบนซ์ได้
ผมแค่มีเงินผ่อนเดือนละ5หมื่นผมก็ซื้อแล้วครับ

แต่ตอนนี้บังเอิญยังไม่มีปัญญาผ่อนรถเดือนละห้าหมื่นเท่านั้นเอง

ถ้ามีปัญญาเมื่อไหร่

ใบพัดสีฟ้ากับผม ได้เจอกันแน่นอน



เจ๋งครับ ขอคารวะความเห็นนี้ครับ

ผมคนนึง ไม่มีเงินเก็บเป็นชิ้นเป็นอันครับ อาจจะเพราะผมเองกับแฟน หาเงินได้เยอะ ผมใช้ชีวิตเต็มที่ครับ ไหวเท่าไหร่ ใช้เท่านั้น มีพวก LTF RMF กับกองทุนนิดหน่อย ไม่มีประกัน ไม่มีเงินฝากประจำ มีหมุนเวียนอยู่หลายแสนต่อเดือน แค่นั้นครับ

แต่ผมซื้อ BM 2 ปี 2 คัน ก็ปีละคันแหละ เพราะง่ายๆ ครับ ผมชอบอะ ผ่อนไหว ไม่มีปัญญาซื้อสด เพราะใช้เงินเก่ง แต่ก็ควบคุมใช้จ่ายให้อยู่ในวงที่หามาใช้ได้นะครับ ไม่ได้แบบว่า หนี้บานไรงี้ บางทีความจำเป็นของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ แต่เอาเป็นว่าผมไม่เบียดเบียนใคร และผมคิดเพียงแค่ว่า ปีนี้ เราจะหาเงินให้ได้มากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งปี 2556 ผมกับแฟนรวมกัน ก็หาได้มากกว่า 6 ล้าน ก็เลยคิดว่า ไม่มีปัญหาที่จะใช้ BM กันคนละคัน ผมใช้รถญี่ปุ่นมาตลอด มันไม่ใช่ คือมันไม่ใช่ ความหมายคือ มันไม่สุดอะ ยังไม่พอใจ แต่ตอนนี้ happy มากๆ ทั้งคู่ เพราะได้ใช้ในสิ่งที่เราชอบ ใครชอบแบบไหน ใช้แบบนั้น ผมว่าไม่น่าจะมีใครผิด การเก็บเงินเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่หากเก็บแล้วไม่ได้ใช้ แล้วคุณมีความสุขกับการดูตัวเลข ก็ไม่มีปัญหาเพราะคุณชอบ ส่วนผม ชอบวัตถุ ชอบจะเห็น จะได้ใช้มัน ขอแค่ไม่เดือดร้อน ก็ happy แล้วครับ

แต่ในขณะเดียวกัน ปีนี้ปีเดียว ผมก็ให้แม่เกษียร เอาเงินให้ท่านใช้ปีนี้ทั้งปีไปแล้ว โดยไม่ต้องเดือดร้อน + เปลี่ยนรถให้ท่านแล้ว จะได้ไม่ต้องใช้ไปซ่อมไปกับรถคันเก่า หากผมต้องเก็บเงิน แต่ไม่ได้ให้แม่ ไม่ได้เปลี่ยนรถให้แม่ ผมก็ไม่เอาครับ เงินสำหรับผม มีไว้ใช้ หาใหม่ให้ได้มากขึ้นดีกว่าครับ

ปล. ที่ไม่มีเงินเก็บมากมัน เพราะผมกับแฟน ก่อนมีลูก เราเที่ยวกระจายครับ ไปกันมามากกว่า 20 ประเทศ มากกว่า 50 ครั้งใน 10 ปี ไม่แปลกที่ไม่เหลือครับ แต่สำหรับผม ผมว่า ผมใช้ชีวิตคุ้มครับ  ;D

 ;D +1 ถ้าเรารู้ว่าผ่อนไหว ก็ซื้อเลย  เพราะเด๋วหาเงินมาแทบตาย สุดท้ายจะไปก่อนไมได้ใช้เงิน

ออฟไลน์ Kittisak

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 145
  • Ability Without Opportunity Means Nothing
ผมพนักงานครับ เป็นนักวิเคราะห์
แฟนทำขายตรง อยู่ระดับสูงครับ

คุณโชคดีมีแฟนคิดเป็นนะครับ งานสร้างท่อ..ทำแอมเวย์ได้เที่ยวฟรีรอบโลกด้วย
“Today I will do what others won't, so tomorrow I can accomplish what others can't”

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
เป็นหมอจัดฟันครับ  รายได้ตอนนี้เท่านี้ครับ แต่ปีหน้าน่าจะแตะล้าน  วางแผนขยายสาขาคลีนิกด้วยครับ 
ทำงานด้วยแรงเราคนเดียว  เดือนละล้านก็อ้วกแตกแล้วครับผม  นั่นคือที่แพลนไว้  ได้ไม่ได้อีกเรื่องนึงครับอิๆ

ถ้าลูกชายผมหัวไปได้ก็อยากให้เรียนหมอฟันนี่แหละครับไม่งั้นก็ไปทางศัลย์ ผิวหนัง ส่วนหมอสูติไม่อยากให้ไปเพราะจากที่พาแฟนไปคลอดสองครั้งแล้วน่าเห็นใจหมอมาก เหนื่อยสุดๆ
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น