คือผมไป Test มาเลย แต่มันติดอยู่ระหว่าง 325D กับ is300h เลยอยากหาข้อมูลเพิ่มครับ

[NaNaNa]

คือ ช่วงมอเตอร์โชว์ ผมได้มีโอกาสไปลอง Lexus is300h       GS250 F Sport   GS 300h

ผมชอบ is 300h มากแต่ติดด้วยเรื่องราคา แอบเอื้มอีกหน่อย ผมก็ได้ Series3 325D แล้ว

ผมเลยอยากถามความคิดเห็นของเพื่อนๆว่า คันไหนน่าจะเวอคที่สุด ขับทำงานในเมือง จาก รามอินทรา-สุขุมวิท71  

ออก ตจว บ้าง เดือนละ 1-2 ครั้ง  

ขับเร็วบ้างตามจังหวะ ยัดโค้งไม่ค่อยแตะเบรค

IS300h นี้ จริงๆขับจริงๆ กินน้ำมันเท่าไหรอะครับ

ขอบคุณครับ

[johnlee]

ไม่มีคนมาตอบ เพราะตั้งหัวกระทู้ง่ายเกินไป อ่านแล้วไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับตัวเองหรือไม่ จึงไม่ค่อยมีใครกดเข้ามาอ่าน

จะถามอะไร สื่อออกมาที่หัวกระทู้ไปเลยครับ

[NaNaNa]

ไม่มีคนมาตอบ เพราะตั้งหัวกระทู้ง่ายเกินไป อ่านแล้วไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับตัวเองหรือไม่ จึงไม่ค่อยมีใครกดเข้ามาอ่าน

จะถามอะไร สื่อออกมาที่หัวกระทู้ไปเลยครับ

ขอบคุณมากครับ แก้แล้วนะครับ อิอิ

[Monn]

ด้วยราคา ผมยังให้น้ำหนักราคาขนาดนี้ไปที่ BMW มากกว่า หลายคนคงออกมาบอกว่า lexus มันดีกว่า โน่นนี่ ก็ไม่เถียงนะครับ โดยรวมเคยนั่ง วัสดุ เผลอๆ ดีกว่า BMW ด้วยซ้ำ แต่ราคาที่ออกมาก็ทำตลาดไทยเหนื่อย การยอมรับต่างๆ ก็อาจจะยังไม่ถึง คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก รวมถึง service เพื่อนผมที่ใช้บอกดีมาก แต่มีน้อย ต้องเข้าที่ สุขุมวิท ถึงจะดี อันนี้ผมไม่ทราบ แต่น้อยแบบว่า ไป ตจว. จะวางใจได้ไหม ขนาด BMW อยู่มานานกว่ามาก ออก ตจว. ไกลๆ ยังกังวลเล็กน้อย แต่อู่ที่ซ่อม BMW เป็นก็เยอะขึ้นมาก ไฟฟ้าสองคันนี้ไม่น่าต่างกันมาก แต่ lexus ยังใหม่ในไทยกว่า BMW มาก หากมี ตจว. มาเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ ผมให้ BMW วิน

ส่วนความประหยัด ผมเชื่อว่า อาจจะไม่หนีกันมากนะ เพราะ 325D คุณขับช้าไม่ได้แน่ๆ อิอิ แล้วอย่าลืมหากได้พอๆ กัน สมมุติ 15 กิโล/ลิตร น้ำมันก็ 30 บาท กับ 40 บาทนะครับ ดีเซลประหยัดไปแล้วกว่า 30% จะให้เท่ากัน BMW ต้องกิน 10 โลลิตร แล้ว lexus 13 โล/ลิตร ราคาต่อกิโลเมตร ถึงจะใกล้เคียง  แถมยังมองถึงอนาคต ยังไง hybrid ซื้อแพงขายถูกค่อนข้างแน่ ส่วน BMW ดีเซล ซื้อแพง ขายได้แพงกว่า hybrid แน่ๆ มองสัก 5 ปีก็พอ  lexus ผมไม่แน่ใจ แต่ BSI BMW ทำให้ใช้รถสบายใจไป 5 ปีหรือแสนโล

รวมๆ ผมก็เทไป 325D มากกว่าครับ แต่ช่วงล่างดีกว่า 320D ไหม หรือตัวเดียวกัน หากใช่ ก็เตรียมจัด M ได้เลย เพราะขับเร็วไม่สนุกเท่าไหร่ แต่พอเปลี่ยนแล้ว ฟินกว่าเยอะครับ 

[Ruksadindan]

คันไหนน่าจะเวอคที่สุด ขับทำงานในเมือง จาก รามอินทรา-สุขุมวิท71  

ออก ตจว บ้าง เดือนละ 1-2 ครั้ง  

คำตอบอยู่ในคำถาม ยังไงก็ไอเอสเท่านั้นครับ

[Ongszaa]

325d ครับ

[Ruksadindan]

325d ครับ

พยายามเสนออย่างเป็นกลาง อย่าเพิ่งลำเอียงเข้าข้างค่ายตนเองครับ

[panerai]

325d ครับ

[ferero000]

เลือกยากเหมือนกันแฮะ ผมว่าอยู่ที่ชอบเบนซิล หรือดีเซลมากกว่าละมั้ง ถ้าเหตุผลใช้ตัดสินใจไมได้ ใช้อารมณ์เลยคับ 555 

[AkE]

ผมชอบวัสดุภายในของ Lexus มากเล่นเอา MB & BMW ดู Look cheap ไปเลย ถึงจะเป็นตัวนำเข้าก้ยังสู้ยาก IS300h ภายนอกก้ sport ดีนะคับเครื่องยนต์แรงวิ่งใน

เมืองประหยัดกว่า 325d แน่ๆถึงน้ำมันจะแพงกว่าเยอะแต่ผมว่าเนี่ยแหละจะทำให้มันไม่ประหยัดเท่าที่ควร ถ้ามันเติม E20 ได้ถึงจะดี ไปเติม GS95 แบบนี้เสียเปรียบ

เยอะเลยพอเทียบกับ 325d แต่พอเป็นวิ่งทางไกลจบเลยคับ 325d ประหยัดกว่าอย่างเห็นได้ชัดนะผมว่า เรื่องทรงก้แล้วแต่คนชอบ ภายใน Lexus ดูดีกว่า ความแรงผม

ว่าไม่แพ้กัน คนละแบบ diesel กับ Benzene (ผมยังไม่เคยลอง IS300h คับแต่คิดว่าน่าจะแรงอยู่) ส่วนความคุ้มค่าผมว่า 325d คับ สรุปถ้าผมซื้อผมเอา 325d คับ

[V40CC]

ขอเลือก LEXUS เพราะรถเขาดีจริง แซง BM/MB มาหลายต่อหลายรุ่นแล้วใน review เมืองนอก

IS300h ฟันธง  ซื้อรถระดับนี้แล้ว ค่าน้ำมัน ค่าตัวตอนขายต่อ ต่างกันบ้างไม่ซีเรียสอยู่แล้ว

[Automotive Innovations]

เค้าก็ไม่ได้ลำเอียงนิครับ เค้าแค่แสดงความคิดเห็น เฉยๆ ผมว่าถ้าคุณตอบแบบนี้มันจะก่อดราม่าได้นะครับ อีกอย่างคนไหนชอบรถคันไหน ก็ไม่จำเป้นหนิครับ ว่าต้องเป็นค่ายของตนเอง

อันนี้ผมตอบให้ไม่ได้เหมือนกันว่ารถคันไหนเหมาะกับคุณ ต้องลองชั่งใจดูครับ ถ้าคุณรับได้กับรถที่ราคาแพงกว่าคู่แข่งนิดหน่อย ประหยัดน้ำมัน ใช้แบบระยะยาว ไปเล็กซัสครับ
ถ้าชอบ แรงด้วย ประหยัด เน้นภาพลักษณ์ไปบีเอ็มครับ

[TorTy]

ไม่แน่ใจว่าชอบรถ Coupe รึเปล่า 420i M Sport ราคาน่าโดนมากครับลองดู
สุดท้ายแล้วเลือกเสียเวลาอีกนิดไปลองขับบีเอ็มด้วยเลยเอาที่เราชอบนั้นแหละครับดีทั้งคู่
ต้องอย่าหลอกใจตัวเองครับเรื่องภาพลักษณ์พอๆกันแล้วในปัจจุบันเอาความพอใจเราเป็นหลักครับจะได้ไม่เสียใจภายหลัง

เรื่องศูนย์ตัดทิ้งไม่ต้องห่วงเข้า Toyota ได้ถ้าจำเป็นและบางที่จะมีโซน Lexus Corner
เรื่องบริการหลังการขายทั้ง Benz BMW Lexus พูดถึงเฉพาะศูนย์ไม่รวมเกร์ยผมว่า Lexus ดูแลดีสุดครับ
http://www.lexussociety.com/news/detail.php?id=157

2 รุ่นนี้ถ้าตัวผมเองขอดูราคา RC Coupe ก่อนครับถ้าเลือกได้แค่ในโจทย์ผมเอียงไปทาง BMW นิดๆถ้าจะแต่งต่อนะครับของแต่งเยอะหาง่าย
ครับส่วน IS300h ดูเหมาะกับการใช้งานของเจ้าของกระทู้ดีครับไม่โหลด้วยถ้าไม่ชอบมีเพื่อนร่วมถนนเยอะนะครับอันนี้แล้วแต่คน

[Teera]

วัยรุ่นอยู่หรือเปล่าครับ  BMW  ออกแบบได้สูงวัยมาก เป็นผมจะเอา C ใหม่มาเทียบด้วย

[rocky55555]

ถ้าเป็นผมเลือกตัวดีเซลครับ รถไฮบริทเหมือนจะประหยัดแต่เอาจริงๆต้องมาจ่ายค่าบำรุงรักษาค่าแบตเสื่อมในอนาคตผมว่าความประหยัดมันพอๆกับรถที่ไม่ใช่ไฮบริท
ถ้าจะเอาไปทำต่อ 325จูนได้อีกแรงขึ้นอีกเยอะพอควรเลย

[Highway Star]

bmw 325d ดีกว่าครับเลกซัสแพงกว่า อัตราสิ้นเปลืองผิดไม่มาก แถมซ่อมถูกกว่าไฮบริด

[Ongszaa]

325d ครับ

พยายามเสนออย่างเป็นกลาง อย่าเพิ่งลำเอียงเข้าข้างค่ายตนเองครับ

ป่าวครับพี่ ส่วนตัวผมไม่ชอบรถ Hybrid. เท่าไหร่ ถ้าเป็น IS250 F Sport ผมเชียร์ครับ 555

สำหรับสองตัวนี้ ผมเห็นความดีความงามของ diesel มากกว่า  มีขับตจว เดือนละ 1-2 ครั้ง  ผมเอา 325d ครับ

[templeboy]

ลงรูปเปรียบเทียบเผื่อท่านที่นึกหน้าตารถไม่ออกแบบผม

325d M Sport


IS300h

[holahola66]

ชัดเจนครับ มองยาวๆbm สวยกว่า lexus ดูหวือหวา แต่น่าตาแบบนี้ซักพักก้อเบื่อ
การขับขี่ สำหรับผมก้อ bm อีกหละ 325d นี่มันคงแรงเอาเรื่องมากๆเลยครับ

[Pan Paitoonpong]

เรื่องดีไซน์ ผมไม่คิดแทนให้ละกันเพราะเจ้าของกระทู้ต้องบอกตัวเองได้ว่าอันไหนสวยอันไหนไม่สวย

เรื่องอัตราเร่ง ไม่ต้องห่วง 325d ชนะทั้งตัวเลขและฟีลลิ่ง
เรื่องความประหยัด ผมยังไม่ได้เทสต์ แต่ถ้ามันใกล้เคียงกับ 320d มันก็ชนะISเวลาวิ่งทางไกลแน่ๆ แต่การใช้ในเมืองระบบไฮบริดก็มีส่วนช่วยเหมือนกัน เท่าที่ลองดูจากพวกน้องๆที่ขับCamry Hybrid ค่าเชื้อเพลิงต่อเดือนจ่ายพอๆกับ B-segmentและEcocar ส่วนBMWมีดีเซลที่ค่าเชื้อเพลิงถูกกว่า

เรื่องอุปกรณ์ผมว่าBMWมาแบบครบ ISถ้าเป็นตัวถูกสุดจะตัดของเล่นออกไปบางส่วน แต่ถ้ามองด้วยตาแปล่าก็ไม่ได้แย่

การขับขี่ BMW ตัวนี้ไม่รู้ได้ช่วงล่าง M Performance ไหม ถ้าได้มาเลยก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็สมควรสั่งเพิ่ม
IS300h นั้นช่วงล่างเดิมๆของมันมีความดีพอสมควร อย่างน้อยวิ่งทางตรงก็นิ่งกว่า 320i Luxuryที่ผมเคยทดสอบไป แต่สำหรับคนที่เข้าโค้งไม่ผ่อนคันเร่ง ผมเสนอความเห็นจุดนี้ว่า

วิ่งตรงๆ ISมันดีนะ แต่เข้าโค้งแรงๆ แบตเตอรี่ท้ายรถกลับส่งให้ท้ายปัดออกมากกว่าชัดเจน ต่อให้วิ่งแค่100เดียวก็รู้สึก คือถ้ารถคันนี้ไม่มีVSC/TRC มันจะเป็นรถที่ไม่เหมาะกับคนชอบเข้าโค้งแรงๆ ท้ายมันไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยถ้าซัดแรงไป และปัญหานี้คุณแก้ได้ยากนะเพราะมันมีต้นเหตุมาจากแบตท้ายรถ ส่วนBMW นั้นปัญหาช่วงล่างยวบมันแก้จบที่โช้คกับสปริงเลย

ยกเว้นว่าได้ช่วงล่าง Mมาอยู่แล้ว ปัญหานี้ก็จบ

ในเรื่องการใช้ระยะยาว นิสัยเสียของ BMW คือคุณภาพของจุดที่เรามองไม่เห็นเช่นแผงวงจรในกล่องต่างๆ ฉนวนสายไฟ ยางในบางจุด ในขณะที่ปัญหาเหล่านี้ในรถอย่าง Toyota กับ Lexus นั้นจะมีไม่มากเท่า ผมไม่ได้กำลังบอกว่า ISดีและ 325dเลวนะ แต่จากการที่มีเพื่อนเป็นช่างอิเล็กทรอนิกส์ ทำมาหมดแล้วทั้งเยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น ประสบการณ์ที่เจอมามันส่อไปทางนั้น

ส่วน Lexus การใช้ระยะยาวมีตัวคำนึงถึงคือแบตเตอรี่ ในห้าปีนี้มันคงไม่มีปัญหา แต่ที่ 10 ปี อาจจะมี และเมื่อถึงวันนั้นผมว่า BMW ก็คงต้องเปลี่ยนปั๊มคอมมอนเรลกับหัวฉีดไปแล้วด้วย

พูดกันแบบนี้ จะเห็นว่ามองตาม Logic แล้ว 325d เหมาะกว่าเกือบทุกด้านถ้าคุณคิดจะใช้แค่ 4-5ปีแล้วขายน่ะครับ

[MystogaN]

ถ้าคู่นี้ยังไงก็ 325d แหะ แต่ถ้าเทียบกะ C250 ใหม่ด้วย เลือก C250  คับ

เพราะ W205 ภายในวัศดุดีกว่า F30 มากกกก!!

[keanetona]

เรื่องดีไซน์ ผมไม่คิดแทนให้ละกันเพราะเจ้าของกระทู้ต้องบอกตัวเองได้ว่าอันไหนสวยอันไหนไม่สวย

เรื่องอัตราเร่ง ไม่ต้องห่วง 325d ชนะทั้งตัวเลขและฟีลลิ่ง
เรื่องความประหยัด ผมยังไม่ได้เทสต์ แต่ถ้ามันใกล้เคียงกับ 320d มันก็ชนะISเวลาวิ่งทางไกลแน่ๆ แต่การใช้ในเมืองระบบไฮบริดก็มีส่วนช่วยเหมือนกัน เท่าที่ลองดูจากพวกน้องๆที่ขับCamry Hybrid ค่าเชื้อเพลิงต่อเดือนจ่ายพอๆกับ B-segmentและEcocar ส่วนBMWมีดีเซลที่ค่าเชื้อเพลิงถูกกว่า

เรื่องอุปกรณ์ผมว่าBMWมาแบบครบ ISถ้าเป็นตัวถูกสุดจะตัดของเล่นออกไปบางส่วน แต่ถ้ามองด้วยตาแปล่าก็ไม่ได้แย่

การขับขี่ BMW ตัวนี้ไม่รู้ได้ช่วงล่าง M Performance ไหม ถ้าได้มาเลยก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็สมควรสั่งเพิ่ม
IS300h นั้นช่วงล่างเดิมๆของมันมีความดีพอสมควร อย่างน้อยวิ่งทางตรงก็นิ่งกว่า 320i Luxuryที่ผมเคยทดสอบไป แต่สำหรับคนที่เข้าโค้งไม่ผ่อนคันเร่ง ผมเสนอความเห็นจุดนี้ว่า

วิ่งตรงๆ ISมันดีนะ แต่เข้าโค้งแรงๆ แบตเตอรี่ท้ายรถกลับส่งให้ท้ายปัดออกมากกว่าชัดเจน ต่อให้วิ่งแค่100เดียวก็รู้สึก คือถ้ารถคันนี้ไม่มีVSC/TRC มันจะเป็นรถที่ไม่เหมาะกับคนชอบเข้าโค้งแรงๆ ท้ายมันไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยถ้าซัดแรงไป และปัญหานี้คุณแก้ได้ยากนะเพราะมันมีต้นเหตุมาจากแบตท้ายรถ ส่วนBMW นั้นปัญหาช่วงล่างยวบมันแก้จบที่โช้คกับสปริงเลย

ยกเว้นว่าได้ช่วงล่าง Mมาอยู่แล้ว ปัญหานี้ก็จบ

ในเรื่องการใช้ระยะยาว นิสัยเสียของ BMW คือคุณภาพของจุดที่เรามองไม่เห็นเช่นแผงวงจรในกล่องต่างๆ ฉนวนสายไฟ ยางในบางจุด ในขณะที่ปัญหาเหล่านี้ในรถอย่าง Toyota กับ Lexus นั้นจะมีไม่มากเท่า ผมไม่ได้กำลังบอกว่า ISดีและ 325dเลวนะ แต่จากการที่มีเพื่อนเป็นช่างอิเล็กทรอนิกส์ ทำมาหมดแล้วทั้งเยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น ประสบการณ์ที่เจอมามันส่อไปทางนั้น

ส่วน Lexus การใช้ระยะยาวมีตัวคำนึงถึงคือแบตเตอรี่ ในห้าปีนี้มันคงไม่มีปัญหา แต่ที่ 10 ปี อาจจะมี และเมื่อถึงวันนั้นผมว่า BMW ก็คงต้องเปลี่ยนปั๊มคอมมอนเรลกับหัวฉีดไปแล้วด้วย

พูดกันแบบนี้ จะเห็นว่ามองตาม Logic แล้ว 325d เหมาะกว่าเกือบทุกด้านถ้าคุณคิดจะใช้แค่ 4-5ปีแล้วขายน่ะครับ

เห็นด้วยกับท่านผู้เกินครับ ส่วนเรื่องฉนวนสายไฟนี่ผมเจอมากับ E28 มาเหมือนกันครับ แต่โชคดีที่ไม่ได้มีอันตรายนัก จบที่ฟิวส์ขาดอีกเส้นและเปลี่ยนสายไฟ2เส้น

ว่าแต่

ขอผมถามบ้างนะครับ ถ้าเทียบกับ 528 เป็นไงบ้างครับ

[Slipknot`]

325D ครับ

[NaNaNa]

สรุปทั้งหมด วันนี้ไปจอง 325D มาเรียบร้อย ของเดิมไม่มีช่วงล่าง m แต่ผมสั่งเพิ่มมาเรียบร้อย

ขอบคัุณทุกคอมเม้นมากนะครับ

[Monn]

สรุปทั้งหมด วันนี้ไปจอง 325D มาเรียบร้อย ของเดิมไม่มีช่วงล่าง m แต่ผมสั่งเพิ่มมาเรียบร้อย

ขอบคัุณทุกคอมเม้นมากนะครับ

ยินดีด้วยครับ ช่วงล่าง ได้มาเท่าไหร่ ปกติ ออกรถใหม่เขาจะมีส่วนลดพิเศษให้นะครับ หากสั่งตอนออกรถเลย

[AuNaraKa]

ยินดีด้วยครับ พี่ซื้อรถติดๆ กันทีละหลายๆ คันเลยนะครับ เห็นตั้งแต่ GT86 มา Cayenne กับ X6 แล้วก่อนหน้านั้นก็เพิ่งซื้อ Camry ไป สุดยอดมากๆ ครับ

[NaNaNa]

ยินดีด้วยครับ พี่ซื้อรถติดๆ กันทีละหลายๆ คันเลยนะครับ เห็นตั้งแต่ GT86 มา Cayenne กับ X6 แล้วก่อนหน้านั้นก็เพิ่งซื้อ Camry ไป สุดยอดมากๆ ครับ

ไม่ขนาดนั้นครับ บางตัวผมก็ถามหาข้อมูลไปเสนอคุณพ่อ ถ้าพ่อ say no ก็ต้องอดตามระเบัียบ ที่ซื้อจริงๆมีแค่ Gt86 ส่วนคาเยน X6 พ่อผม say no เพราะมะนเกินความจำเป็น  ที่ซื้อเพราะรถคันเก่าหมดวาระแล้วละครับ 555

[capucinoz]

ส่วนตัวใช้ 325d อยู่ครับ ไม่เคยลอง is300h
้happy มาก เร่งแรงทันใจ ประหยัด พอใส่ชุดแต่ง m performance ครบ แล้วหล่อมาก (หมายถึงรถนะครับ) รับรองคุ้มค่าเงินที่ลงทุนไปแน่นอน

อีกข้อนึง ความคิดเห็นส่วนตัว ราคาแบตที่จะต้องเปลี่ยนตามอายุของรถไฮบริด ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ แต่ถ้าคิดง่ายๆ ที่ 100,000 บาท
แล้วเราใช้รถไป 100,000 กม. จะทำให้ต้นทุนต่อกิโลเมตรขึ้นมาอีกประมาณ 1 บาท  แต่ถ้าใช้รถไป 200,000 กม. จะทำให้ต้นทุนต่อกิโลเมตรขึ้นมาอีกประมาณ 0.50 บาท เหตุนี้ทำให้ผมเลือก dieselครับ