ผมเป็นคนที่เวลารถชนกันต้องไปดูที่เกิดเหตุ (ถ้าได้รับแจ้ง)
พอไปถึงที่เกิดเหตุการที่จะชี้ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาทนั้น
คือขับผิดกฎนั่นแหละ แต่ชื่อข้อหาเต็มๆคือ ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ ได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียชีวิต แล้วแต่กรณี
อย่างเช่นรถยนต์โผล่มาจากซอยชนจักรยานยนต์ที่มาทางตรง ถึงจักรยานต์จะไม่มีใบขับขี่ ไม่สวมหมวก ทะเบียนขาด
แต่รถยนต์ก็ต้องเป็นฝ่ายผิดเพราะ การที่รถจักรยานต์ไม่มีใบขับขี่ ไม่สวมหมวก ทะเบียนขาด ไม่ได้เป็นเหตุให้รถชนกันนั่นเอง
ซึ่งถึงแม้จักรยานยนต์อาจเสียค่าปรับหลายข้อหา แต่คนที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายคือรถยนต์ฝ่ายเดียว
การวิเคราะห์มันต้องดูหลายอย่างครับ ดูป้ายจราจร สัญญาณจราจร อะไรพวกนนี้เป็นหลัก
เราผิดไหมครับ
ในกรณีเช่น
มอเตอร์ไซด์ ขับรถ ย้อนศร ขับจอดรอในที่คับขัน(มุมถนน เพื่อที่จะลัดข้ามเกาะกลาง) แล้วเราขับมาแล้วชน จนเกิดอุบัติเหตุ
ผมเข้าใจว่า
1.เราผิด ในกรณีขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่น เสียชีวิต หรือ .... อะไรก็ว่าไป
2.เขาผิด ในกรณีไม่เคารพกฏจราจร เช่น ขับรถย้อนศรี , จอดในที่คับขัน , ...
ใครเคยผ่าน มีcase จริงมาเล่าให้ฟังบ้างครับ ผมอยากรู้ว่า กฏหมายไทย เข้าข้าง คนทำผิดกฏหมายขนาดไหน
ในระดับฟ้องร้อง หรือ ตำรวจก็ได้ครับ
เพื่อนผม ขับรถชนมอไซที่แซงแล้วปาดหน้ามา ที่ถนนวิภาวดีในทางคู่ขนาน (มอเตอไซห้ามวิ่ง)
ปรากฏว่าคนขับมอไซ พิการขาขาด
สุดท้ายไปสู้กันในศาลยังไงคนขับรถ ก็เสียเปรียบครับ (ชนมอไซคล้ายๆขับรถชนคนเลยครับ ยังไงรถก็ผิด (ถึงจะขับถูกกฏก็ตาม)
ปล.ผู้เสียหายเขาเรียกค่าเสียหายเกือบสิบล้าน สู้ไปสู้มาเหลือ ล้านนึงในศาล
ผมยืนยันว่ารถยนต์ไม่เสียเปรียบรถจักรยานต์ครับ ใช้กฎหมายเดียวกับรถยนต์
แต่ละคดีมันมีองค์ประกอบหลายอย่าง
เช่นการทำเครื่องหมายจราจรต้องออกตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ไม่เช่นชั้นไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย
มีคดีนึงรถจักรยานยนต์เมามาชนท้ายรถยนต์ขาหัก รถยนต์ไม่ต้องเสียอะไรสักบาทก็ได้ครับ รถจักรยานยนต์ต้องซ่อมรถให้ด้วยซ้ำถ้าเค้าติดใจ