ผู้เขียน หัวข้อ: การเหยียบเบรคแช่ไว้ขณะรถติดเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง? ? ? ? ? ? (เฮ้ยยยย จริงอะ?)  (อ่าน 27745 ครั้ง)

ออฟไลน์ Joii

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 940
เว็บนี้ก็มีให้อ่านครับ ผมอ่านแล้วเป็นตามตัวหนังสือใหญ่ ๆ เลย

ออฟไลน์ trumpetx

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
    • อีเมล์
ซื้อรถที่มี auto hold สิครับ จะได้ไม่มานั่งกลัว เรื่องพวกนี้

ถ้ากลัวโน้นนี้พัง เสียค่าซ่อมแพง ผมแนะนำว่า รถเมล์ครับ taxi ก็ได้ uber ก็สบายนะ

(ผมเข้าเกียร์ N ด้วย และ ชอบเหยียบเบรกตอน D ด้วย อยู่ที่สถานการณ์ เมื่อยก็เข้าเกียร์ ไม่เมื่อยก็เหยียบไว้)

ออฟไลน์ RASALGHUL

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 66
ถ้าเข้าเกียร์Pตอนติดไฟแดง
คันหลังได้เสียววาบทุกทีครับ 5555
ALL NEW MAZDA3 2014 >>ใครสนใจแลกเบาะสีดำด้ายแดง เป็นเบาะสีขาวทูโทนจากรุ่นไฮพลัสของผมบ้างครับ pmมาเลย

ออฟไลน์ oak7070

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 271
ถ้าเกียร์มันทนจริงทุกยี่ฮ้อก็ดีครับ  เห็นโดยมากแสนกิโลเกียร์เริ่มพังกันละ  ส่วนการติดไฟแดงแล้วก็ควรเหยีบเบรคหรือดึงเบรคมือใว้  ส่วนคุณจะเข้า N หรือค้าว D ใว้มันแล้วแต่คุณจะเลือกเอา  ค่าซ่อมเกียร์กับค่าเมื่อยอันไหนสุขใจกว่ากัน   แต่ไม่แนะนำเข้า P เด็ดขาดเดี๋ยวพลาดเข้า R เวลาไฟเขียวเพราะเจอกับตัวมาแล้ว  รถกระบะส่งของน่าจะวาง J  มาไฟเขียวดันมีไฟถอยสว่งออกมาเรานี้เสียววาบเลย  บีบแตรลลั่นเลยเซ็งเป็ด

ออฟไลน์ superb19

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 8
กรณีที่ติดสั้นๆ ไม่เกิน 1 นาที แค่เหยียบเบรคค้างไว้น่าจะสะดวกกว่า แต่ถ้าเกินนั้นผมว่าก็เปลี่ยนเป็น N กะดึงเบรคมือดีกว่าครับ

ผมว่าเกียร์รุ่นใหม่ๆฉลาดขึ้นเยอะ ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์มากมาย บางรุ่นมันฉลาดพอที่จะรู้ว่าผู้ขับกำลังทำอะไรและเกิดอะไรขึ้นกับรถในสถานะการณ์ต่างๆ ทั้งในขณะรถวิ่งและจอดหยุดนิ่ง ในกรณีจอดผมว่ามันจัดการกับตัวมันเองได้ทั้งแบบที่เราเหยียบเบรคค้างไว้ มันก็ลดแรงบิดลงเองได้เพื่อลดภาระของมัน หรือเปลี่ยนเป็นเกียร์ N มันก็ไม่ได้มีปัญหาแบบเกียร์สมัยก่อน(ด้วยระบบและวัสดุที่พัฒนาขึ้น ไม่มีค่ายรถไหนที่ย้ำอยู่กับที่เป็นสิบๆปีผ่านมา) แต่ในภาวะปรกติผมว่าความผิดพลาดเกิดจากคนได้มากกว่า จะทำอะไรก็ควรมีสติไว้ตลอด ถ้าจะเหยียบเบรคค้างไว้ ก็ต้องมั่นใจว่าฉันจะไม่เผลอ พลาดผ่อนเบรคจนรถไหลได้ ถ้าจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ N ก็ควรดึงเบรคมือขึ้นร่วมด้วย เพราะบางครั้งตอนที่หยุดที่แรกก็ว่าไม่ไหล แต่เราอาจจอดอยู่บนยอดเนินเล็กๆที่ขยับเล็กน้อยมันอาจไหลไปได้อีกไกลก็ได้

แต่ที่ไม่ควรทำ ผมเคยเจอคนขับรถเกียร์ออโต้แบบเกียร์ธรรมดาเลย พอจะออกตัวก็เข้าเกียร์ D พอหยุดก็เข้า N ทั้นที เป็นแบบนี้ตลอด ที่ร้ายกว่านั้นตอนขับออกต่างจังหวัด เห็นไฟแดงแต่ไกลเปลี่ยนเป็น N ทันทีปล่อยไหลไปเรื่อยๆ พอเป็นไฟเขียวก็เข้าเกียร์ D .........ผมว่าแบบนี้พังเร็วกว่าที่ควรแน่ๆ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องเปลี่ยนเกียร์ N ไป D หรือจะเหยียบเบรคค้างที่ D อะไรจะเสียก่อน มันอยู่ที่การออกแบบเกียร์

ถ้าคุณใช้รถญีี่ปุ่นรุ่นเก่า ๆ ที่เกียร์อาศัยแรงดันไปกำหนดการเปลี่ยนเกียร์ด้วยการดันผ่านวาล์วสปริง แบบนี้ คุณเหยียบเบรคไว้นาน ๆ ที่ D เกียร์พังแน่ ๆ ก็มันมีแรงดันที่ไม่สม่ำเสมอจากทอร์กเนื่องจากแอร์ตัดไม่ตัดมาเกี่ยว ทำให้เกิดภาวะที่คลัทช์เลีย เห5มือนคนเลียคลัทช์จะออกตัวตลอดเวลา

เกียร์รถยุโรป พวก ZF, GM สิบกว่าปีก่อน เช่น 5L40E ใน E46 เขาจะใช้ระบบไฟฟ้าสั่งงานเปิดปิดSolenoid ส่งน้ำมันไปสะสมใน accumulator ที่วาล์วบอดี้ แล้วถึงจะผ่านกลับไป Vane pump แบบนี้ เหยียบเบรคค้างไว้นาน ๆ เกียร์ก็พังเพราะรถ พยายามออกตัวอีกเช่นกัน และflow ก็ต่ำผ่าน heat exchanger ได้ช้าระบายความร้อนไม่ทันอีก สังเกตเวลาปล่อยเบรค รถก็เคลื่อนที่ทันที พอเกิดภาวะความร้อนเกิน มันก็เข้า Limp mode ดูค่าในกล่องก็ขึ้น Gear Management 4 ช่างควาย ๆ ชอบบอกว่าเกียร์จะเสีย แต่ไม่ได้รู้เลยว่าเกียร์มันถูกTrig ด้วยสัญญารความร้อน แค่เปลี่ยนออยล์อากาศใส่ไประบายความร้อยก็จบ อันนี้ผมมีคู่มือไฟล์ใหญ่หน่อย อยากได้ไปอ่านก็หาที่ upload มาครับ จะโหลดไปให้ ผมซ่อมเองกับมือมาแล้วพวกคลัทช์หมด

รถยุโรปรุ่นหลังมาหน่อย เขาใช้เกียร์แบบไฟฟ้า คันเร่งก็ไฟฟ้า ทุกอย่างผ่าน ECU ถ้าไม่เหยียบคันเร่ง วาล์วในวาล์วบอดีก็ไม่เปิด แบบนี้อยู่ D เหยียบเบรคเป็นชั่วโมงก็ไม่พัง

รถญ๊่ปุ่น สมัย CIVIC ตาเหยี่ยว ไดเมนชั่น ที่เกียร์พังเพราะคลัทช์หมด ก็คือพวกวิ่งในกทม ไม่ค่อยเปล่ยนเกียร์นั่นแหละครับ เหยี่ยบ D ค้างไว้ เกียร์ก็เลยพัง เปิดเกียร์มา คลัทช์ไม่เหลือ เปลี่ยนแค่ชุดซ่อมคลัทช์6-7 พัน ช่างซ่อมเกียร์บางคนหัวใส เอาเกียร์เก่า ๆ เสีย ๆ คลัทช์น้อย ๆ มายำใส่ ซ่อมไม่นานพังอีก ไปโทษน้ัำมันเกียร์ Dexron III กันซะหมด

ถ้าเคยลองซ่อมเกียร์แล้ว อ่านคู่มือการทำงานละเอียดแล้ว ก็อยู่ที่คุณว่าจะเลือกเชื่ออะไรแล้วล่ะครับ


jaesz

  • บุคคลทั่วไป
แต่ในLink เรื่องเหยียบเบรคอยู่กับที่แล้วจานเบรคร้อนนั่น ผมอ่านแล้วบอกได้คำเดียวว่าไร้สาระ

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
สำหรับผม

ถ้ารถติดแบบขยับไปเรื่อยๆ หรือ ติดไฟแดงไม่เกินหนึ่ง - สองนาที ผมจะเหยียบเบรคแล้วคาไว้เกียร์ D ครับ

แต่ถ้ารถติดชนิดไม่รู้อนาคต ไฟแดงเกิน 200 วินาที หรือ ข้างหน้ามีใครมาปิดถนน ผมเข้า N + ดึงเบรคมือครับ

ออฟไลน์ toffyearn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 628
เอ่อ สรุปว่า ทำทั้ง 2 อย่างสลับกัน จะได้ไม่พังพร้อมๆกัน หรือถ้าอยากพังเป็นอย่างๆก็ทำแบบใดแบบหนึ่ง ^^"

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
พูดตรงๆ นะครับ ว่าเราไม่จำเป็นต้องเลือกทางที่ 1 หรือ 2 และต้องเป็นอย่างนั้นไปตลอดทุกครั้งก็ได้

รถติดไม่นาน แบบเคลื่อนตัวสลับหยุดนิ่ง คุณจะไป Dๆ Nๆ ให้มันเข้าๆ ออกๆ ทำไม
เสียจังหวะ เสียเวลา ต้องมานั่งโยกไปมา เกียร์ก็เขย่าเดี๋ยวเข้าเดี๋ยวปลด งงกันไปหมด

แต่ถ้าติดไฟแดง รถติดนาน หรือมีทีท่าว่าจอดสักพักแน่ ปลดไปเถอะครับ
นี่มันสมัยไหนแล้ว เกียร์อัตโนมัติพัฒนาไปไกลมากแล้วครับ ลำพัง Dๆ Nๆ
มันไม่เป็นตัวการที่จะทำให้เกียร์พังภายแสนสองแสน กม. หรอกครับ

กลัวเกียร์พังกัน แต่เวลาขับกระทืบ Kick-down มิดคันเร่ง ลากรอบชนขีดแดง
พอถึงเช็คระยะบอกแพง อยากได้ถูกๆ บอกศูนย์บอกอู่เอาน้ำมันเกียร์ธรรมดาพอ
พวกนี้น่ะ ทำให้เกียร์สึกหรอและโอกาสกลับบ้านเก่าหนักกว่าจะเลือก D หรือ N ตอนไฟแดงเยอะ

ส่วนเรื่องเหยียบเบรกแล้วผ้าเบรกร้อน นั่นมันหลุดโลกไปไกลมากแล้ว...


ออฟไลน์ Torque

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 248
เรื่องเปลี่ยนเกียร์ N ไป D หรือจะเหยียบเบรคค้างที่ D อะไรจะเสียก่อน มันอยู่ที่การออกแบบเกียร์

ถ้าคุณใช้รถญีี่ปุ่นรุ่นเก่า ๆ ที่เกียร์อาศัยแรงดันไปกำหนดการเปลี่ยนเกียร์ด้วยการดันผ่านวาล์วสปริง แบบนี้ คุณเหยียบเบรคไว้นาน ๆ ที่ D เกียร์พังแน่ ๆ ก็มันมีแรงดันที่ไม่สม่ำเสมอจากทอร์กเนื่องจากแอร์ตัดไม่ตัดมาเกี่ยว ทำให้เกิดภาวะที่คลัทช์เลีย เห5มือนคนเลียคลัทช์จะออกตัวตลอดเวลา

เกียร์รถยุโรป พวก ZF, GM สิบกว่าปีก่อน เช่น 5L40E ใน E46 เขาจะใช้ระบบไฟฟ้าสั่งงานเปิดปิดSolenoid ส่งน้ำมันไปสะสมใน accumulator ที่วาล์วบอดี้ แล้วถึงจะผ่านกลับไป Vane pump แบบนี้ เหยียบเบรคค้างไว้นาน ๆ เกียร์ก็พังเพราะรถ พยายามออกตัวอีกเช่นกัน และflow ก็ต่ำผ่าน heat exchanger ได้ช้าระบายความร้อนไม่ทันอีก สังเกตเวลาปล่อยเบรค รถก็เคลื่อนที่ทันที พอเกิดภาวะความร้อนเกิน มันก็เข้า Limp mode ดูค่าในกล่องก็ขึ้น Gear Management 4 ช่างควาย ๆ ชอบบอกว่าเกียร์จะเสีย แต่ไม่ได้รู้เลยว่าเกียร์มันถูกTrig ด้วยสัญญารความร้อน แค่เปลี่ยนออยล์อากาศใส่ไประบายความร้อยก็จบ อันนี้ผมมีคู่มือไฟล์ใหญ่หน่อย อยากได้ไปอ่านก็หาที่ upload มาครับ จะโหลดไปให้ ผมซ่อมเองกับมือมาแล้วพวกคลัทช์หมด

รถยุโรปรุ่นหลังมาหน่อย เขาใช้เกียร์แบบไฟฟ้า คันเร่งก็ไฟฟ้า ทุกอย่างผ่าน ECU ถ้าไม่เหยียบคันเร่ง วาล์วในวาล์วบอดีก็ไม่เปิด แบบนี้อยู่ D เหยียบเบรคเป็นชั่วโมงก็ไม่พัง

รถญ๊่ปุ่น สมัย CIVIC ตาเหยี่ยว ไดเมนชั่น ที่เกียร์พังเพราะคลัทช์หมด ก็คือพวกวิ่งในกทม ไม่ค่อยเปล่ยนเกียร์นั่นแหละครับ เหยี่ยบ D ค้างไว้ เกียร์ก็เลยพัง เปิดเกียร์มา คลัทช์ไม่เหลือ เปลี่ยนแค่ชุดซ่อมคลัทช์6-7 พัน ช่างซ่อมเกียร์บางคนหัวใส เอาเกียร์เก่า ๆ เสีย ๆ คลัทช์น้อย ๆ มายำใส่ ซ่อมไม่นานพังอีก ไปโทษน้ัำมันเกียร์ Dexron III กันซะหมด

ถ้าเคยลองซ่อมเกียร์แล้ว อ่านคู่มือการทำงานละเอียดแล้ว ก็อยู่ที่คุณว่าจะเลือกเชื่ออะไรแล้วล่ะครับ




ไฟล์คู่มือใหญ่มากไหมครับ
อัพเข้า dropbox ได้ไหมครับ
อยากได้มาอ่านครับ ;D 


------------------------------------------


ปล. civic dimension ที่ใช้อยู่เกียร์ยังดีอยู่ แต่ก็สองแสนกว่า km
ส่วนใหญ่เข้า N แทบทุกครั้่งที่ติดไฟแดง
รบกวนถามพี่ jaesz เผื่ออนาคตเกิดเกียร์เสียกลางทางครับ


ใน Civic dimension
เกียร์มันไม่ได้เป็น planetary แต่มีคลัตช์จับเป็นเกียร์ๆไปใช่ไหมครับ
ถ้าเกิดวันนึงคลัตช์หมด ออกตัวไม่ได้ ผมเลื่อนคันเกียร์ที่ตำแหน่ง "2"
เพื่อออกตัวด้วยเกียร์ 2  รถมันจะยังพอเคลืื่อนตัวออกวิ่งไปได้ไหมครับ ?

ตอนรถเพื่อนผมเกียร์พัง ไปตอนแสนโลนิดๆ
ไม่ได้ลองขยับมาที่ตำแหน่ง 2 เลย
นั่งรอรถมาสไลด์เข้าอู่
a = F/m

ออฟไลน์ tonoboon

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 37
    • อีเมล์
ตอบไม่มีความรู้นะคับ
รถ A250 ถ้าจอดค้างให้เหยียบเบรคเข้าไปลึกๆ มันก็จะค้างให้เรา ไม่ต้องเข้า N
พอจะออกตัว ก็เร่งได้เลย
ผมเลยคิดว่า เข้า N บ่อยคงไม่ดีกว่าแน่ครับ
ไม่งั้น Merc คงไม่ทำระบบนี้ออกมา (สำหรับรถรุ่นนี้นะครับ)

ออฟไลน์ redtopup

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 167
    • อีเมล์
หก
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2014, 12:19:03 »
เรื่องเปลี่ยนเกียร์ N ไป D หรือจะเหยียบเบรคค้างที่ D อะไรจะเสียก่อน มันอยู่ที่การออกแบบเกียร์

ถ้าคุณใช้รถญีี่ปุ่นรุ่นเก่า ๆ ที่เกียร์อาศัยแรงดันไปกำหนดการเปลี่ยนเกียร์ด้วยการดันผ่านวาล์วสปริง แบบนี้ คุณเหยียบเบรคไว้นาน ๆ ที่ D เกียร์พังแน่ ๆ ก็มันมีแรงดันที่ไม่สม่ำเสมอจากทอร์กเนื่องจากแอร์ตัดไม่ตัดมาเกี่ยว ทำให้เกิดภาวะที่คลัทช์เลีย เห5มือนคนเลียคลัทช์จะออกตัวตลอดเวลา

เกียร์รถยุโรป พวก ZF, GM สิบกว่าปีก่อน เช่น 5L40E ใน E46 เขาจะใช้ระบบไฟฟ้าสั่งงานเปิดปิดSolenoid ส่งน้ำมันไปสะสมใน accumulator ที่วาล์วบอดี้ แล้วถึงจะผ่านกลับไป Vane pump แบบนี้ เหยียบเบรคค้างไว้นาน ๆ เกียร์ก็พังเพราะรถ พยายามออกตัวอีกเช่นกัน และflow ก็ต่ำผ่าน heat exchanger ได้ช้าระบายความร้อนไม่ทันอีก สังเกตเวลาปล่อยเบรค รถก็เคลื่อนที่ทันที พอเกิดภาวะความร้อนเกิน มันก็เข้า Limp mode ดูค่าในกล่องก็ขึ้น Gear Management 4 ช่างควาย ๆ ชอบบอกว่าเกียร์จะเสีย แต่ไม่ได้รู้เลยว่าเกียร์มันถูกTrig ด้วยสัญญารความร้อน แค่เปลี่ยนออยล์อากาศใส่ไประบายความร้อยก็จบ อันนี้ผมมีคู่มือไฟล์ใหญ่หน่อย อยากได้ไปอ่านก็หาที่ upload มาครับ จะโหลดไปให้ ผมซ่อมเองกับมือมาแล้วพวกคลัทช์หมด

รถยุโรปรุ่นหลังมาหน่อย เขาใช้เกียร์แบบไฟฟ้า คันเร่งก็ไฟฟ้า ทุกอย่างผ่าน ECU ถ้าไม่เหยียบคันเร่ง วาล์วในวาล์วบอดีก็ไม่เปิด แบบนี้อยู่ D เหยียบเบรคเป็นชั่วโมงก็ไม่พัง

รถญ๊่ปุ่น สมัย CIVIC ตาเหยี่ยว ไดเมนชั่น ที่เกียร์พังเพราะคลัทช์หมด ก็คือพวกวิ่งในกทม ไม่ค่อยเปล่ยนเกียร์นั่นแหละครับ เหยี่ยบ D ค้างไว้ เกียร์ก็เลยพัง เปิดเกียร์มา คลัทช์ไม่เหลือ เปลี่ยนแค่ชุดซ่อมคลัทช์6-7 พัน ช่างซ่อมเกียร์บางคนหัวใส เอาเกียร์เก่า ๆ เสีย ๆ คลัทช์น้อย ๆ มายำใส่ ซ่อมไม่นานพังอีก ไปโทษน้ัำมันเกียร์ Dexron III กันซะหมด

ถ้าเคยลองซ่อมเกียร์แล้ว อ่านคู่มือการทำงานละเอียดแล้ว ก็อยู่ที่คุณว่าจะเลือกเชื่ออะไรแล้วล่ะครับ



ไขความกระจ่าง ได้ชัดเจนดีครับ เยี่ยม  ผสบการณ์บอกสถานะ
เพราะเกียร์พังโดยมากครัทช์หมดทั้งนั้น ไม่ก็ปะเก็นรั่ว โอริงแข็ง
ลองซ่อมเกียร์ออโต้ได้ผมคาระวะครับ เพราะชิ้นส่วนมากจริงๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2014, 12:40:14 โดย redtopup »

ออฟไลน์ redtopup

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 167
    • อีเมล์
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2014, 12:23:18 »
ตอบไม่มีความรู้นะคับ
รถ A250 ถ้าจอดค้างให้เหยียบเบรคเข้าไปลึกๆ มันก็จะค้างให้เรา ไม่ต้องเข้า N
พอจะออกตัว ก็เร่งได้เลย
ผมเลยคิดว่า เข้า N บ่อยคงไม่ดีกว่าแน่ครับ
ไม่งั้น Merc คงไม่ทำระบบนี้ออกมา (สำหรับรถรุ่นนี้นะครับ)

ผมคิดว่าคงออกแบบมาให้ความสะดวกกับความสบายกับผู้ใช้รถ เป็นปัจจัยแรกมากกว่า และให้ความคล่องตัวด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2014, 12:26:17 โดย redtopup »

ออฟไลน์ ferero000

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 202
ผมว่าประเด็นมันอยู่ตรงที่ ทำแบบไหนแล้วมันเกิดความเสียหายกับรถมากกว่ากัน ละมั้งครับ ผ้าเบรกไม่กี่ตังกับเกียร์ลูกละเป็นแสน อย่างบอกว่าเกียร์เค้าทดสอบมาให้เปลี่ยนได้เป็นหมื่นเป็นแสนครั้งโดยไม่เสียก็พูดไม่เต็มปากซะทีเดียว w218 ใช้มา 40000 โล รถติดเหยียบเบรกตลอด มีฟังก์ชั่น ​hold เบรก แผงวงจรเกียร์ยังเสียได้เลยนะฮ้าฟฟฟฟฟ   ถ้าถามผม ไม่เกิน 120 วิ ผมเหยียบค้างไว้ดีกว่า อย่างน้อยมันก็ทำให้เราไม่ลืมว่า กำลังทำอะไรอยู่  ;D

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ปัญหาโลกแตก...

ตั้งเว็บมา 5 ปี ปัญหานี้ ก็มีมาถามกันเรื่อยๆ

ก่อนหน้านั้น 20 กว่าปีที่ผ่านมา ก็ยังเป็นปัญหาไม่รู้จบสิ้น...

เบื่อ และเหนื่อยกับการตอบคำถามประเภทนี้เต็มทีเหลือเกิน...

1. การเข้า P ยิ่งแย่ใหญ่

เพราะ เกียร์ P คือ สลักล็อก ที่จะเข้าไปล้อกการทำงาน
ใครมาชนท้ายเข้าไป สลักล็อกที่ว่า ก็อาจหักเข้าไปคาข้างใน
งานนี้ ได้รื้อเกียร์กันแน่ๆ ใครอยากลอง เชิญได้ครับ ตามสบาย!

2.เอาบทความนี้ไปอ่านแล้วกันนะครับ...คุณชาญ จากอู่กรุงเทพ สรุปเอาไว้ให้หมด และอย่างสั้น เข้าใจง่ายที่สุดแล้ว

http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=307:-n-d-&catid=94:technical-guru&Itemid=158

3. ใครที่แนะนำว่าไม่ให้เหยียบเบรก เพราะเบรกจะสึกหรอ
ฝากถามมันผู้นั้นด้วยว่า

เบรก จับกับจานเบรก ในรถที่จอดนิ่งๆ ไม่มีการเคลื่อนไหว
มันจะสึกหรอได้ยังไง เอาตรรกะอะไรมาคิด?

เวลารถชะลอมาเอื่อยๆ จนหยุด นั่นละมีการเสียดสี

ต่อให้มีความร้อนสะสม เมื่อใดที่คุณออกวิ่งอีกครั้ง
กระแสลมที่ไหลผ่านใต้ท้องรถ รวมทั้งกระทะล้อ
ที่หมุนอยู่นั่น ก็ช่วยระบายความร้อนให้ผ้าเบรก
และจานเบรกเองอยู่แล้ว

ต่อให้คุณซัดเบรก จาก 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ลงมาจนกลิ่นผ้าเบรกไหม้
คุณออกรถ แล้วแล่นไปอีกสักพักหนึ่ง กลิ่นไหม้ ก็หายไปแล้ว เมื่อผ้าเบรก
กลับมาอยู่ในอุณหภูมิทำงานตามปกติ

อีกอย่างนึง ผ้าเบรก เป็นของใช้สิ้นเปลือง เหมือนยางลบ มันต้องค่อยๆหดหายไปอยู่แล้ว

เลือกเอาแล้วกัน ว่าจะซ่อมเกียร์ หรือแค่เปลี่ยนผ้าเบรก



jaesz

  • บุคคลทั่วไป
พูดตรงๆ นะครับ ว่าเราไม่จำเป็นต้องเลือกทางที่ 1 หรือ 2 และต้องเป็นอย่างนั้นไปตลอดทุกครั้งก็ได้

รถติดไม่นาน แบบเคลื่อนตัวสลับหยุดนิ่ง คุณจะไป Dๆ Nๆ ให้มันเข้าๆ ออกๆ ทำไม
เสียจังหวะ เสียเวลา ต้องมานั่งโยกไปมา เกียร์ก็เขย่าเดี๋ยวเข้าเดี๋ยวปลด งงกันไปหมด

แต่ถ้าติดไฟแดง รถติดนาน หรือมีทีท่าว่าจอดสักพักแน่ ปลดไปเถอะครับ
นี่มันสมัยไหนแล้ว เกียร์อัตโนมัติพัฒนาไปไกลมากแล้วครับ ลำพัง Dๆ Nๆ
มันไม่เป็นตัวการที่จะทำให้เกียร์พังภายแสนสองแสน กม. หรอกครับ

กลัวเกียร์พังกัน แต่เวลาขับกระทืบ Kick-down มิดคันเร่ง ลากรอบชนขีดแดง
พอถึงเช็คระยะบอกแพง อยากได้ถูกๆ บอกศูนย์บอกอู่เอาน้ำมันเกียร์ธรรมดาพอ
พวกนี้น่ะ ทำให้เกียร์สึกหรอและโอกาสกลับบ้านเก่าหนักกว่าจะเลือก D หรือ N ตอนไฟแดงเยอะ

ส่วนเรื่องเหยียบเบรกแล้วผ้าเบรกร้อน นั่นมันหลุดโลกไปไกลมากแล้ว...



+1

------------------
....




ไฟล์คู่มือใหญ่มากไหมครับ
อัพเข้า dropbox ได้ไหมครับ
อยากได้มาอ่านครับ ;D  


------------------------------------------


ปล. civic dimension ที่ใช้อยู่เกียร์ยังดีอยู่ แต่ก็สองแสนกว่า km
ส่วนใหญ่เข้า N แทบทุกครั้่งที่ติดไฟแดง
รบกวนถามพี่ jaesz เผื่ออนาคตเกิดเกียร์เสียกลางทางครับ


ใน Civic dimension
เกียร์มันไม่ได้เป็น planetary แต่มีคลัตช์จับเป็นเกียร์ๆไปใช่ไหมครับ
ถ้าเกิดวันนึงคลัตช์หมด ออกตัวไม่ได้ ผมเลื่อนคันเกียร์ที่ตำแหน่ง "2"
เพื่อออกตัวด้วยเกียร์ 2  รถมันจะยังพอเคลืื่อนตัวออกวิ่งไปได้ไหมครับ ?

ตอนรถเพื่อนผมเกียร์พัง ไปตอนแสนโลนิดๆ
ไม่ได้ลองขยับมาที่ตำแหน่ง 2 เลย
นั่งรอรถมาสไลด์เข้าอู่

คนขอได้ไฟล์แล้ว ขอลบนะครับ

คำตอบที่คุณหาอยู่หน้าที่ 54B -61 มันอธิบายทางเดินน้ำมัน และการควบคุมแรงดันไว้แล้วว่า ไม่มีอะไรหยุดทำงานทั้งนั้นแม้แต่ใน N ทางเดินน้ำมันยังส่งผ่านไประบบระบายอากาศ เพียงแต่วาล์วปิดเพื่อป้องกันการทำงานของเกียร์

ดังนั้น ถ้าโหลดมาอ่าน ผมต้องขออนุญาติ เถียงบทความที่เขียนโดยคุณชาญ ที่คุณ Jimmy ลงไว้ว่า ไม่ถูกต้องสำหรับรถทุกคันเกียร์ทุกยี่ห้อครับ การเหยียบเบรคที่ D นาน ๆ เป็นผลเสียแน่ ๆ แต่การเลือกใช้ N เกินความจำเป็นก็เสียเหมือนกัน ทุกอย่างมีสึกหรอ ดังนั้นการขับแบบที่คุณ LimitedEdition อธิบายไว้ น่าจะเป็นพฤติกรรมที่ดีที่สุด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 30, 2014, 08:56:50 โดย jaesz »

ออฟไลน์ Dr.Jones

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 424
 :'( :-\ :P

ลือกเอาละกัน ระหว่างค่าเกียร์หลักแสน กับค่านวดก็หลายตังอยู่เหมือนกัน..แล้วแต่เกรด


(แซวเล่นนะ เดี๋ยวต้องมีคนมาจริงจังแหงๆ55)

++++++++++++++++++++++= >>>>>>>>> ไม่มีใครเขาจริงจังหรอกครับ ทันกันทั้งนั้นล่ะครับ แก๊กแมนๆนี้


ว่าแต่ขอถามเพิ่มครับ ว่า .........
ทำไมเวลา Honda City 2014 start เครื่องมาจากติดไฟแดง ต้องมีการ " รอเครื่อง " ราวๆ 3-5 วินาที จึงจะออกตัวได้ดี
ไม่เหมือน BMW E46 ที่สตาร์ทติดเข้าเกียร์ออกตัวได้ทันทีเลย (ไม่ต้องรอ)

มันเป็นมาจากระบบเกียร์ใช่ไหมครับ ????
ไม่สนับสนุนรถญี่ปุ่นเจ้าตลาดและรถเยอรมันมวยรอง
--ทุกรุ่น,ทุกคัน,ทุกโปรโมชั่น,ทุกกรณี--

ออฟไลน์ Torque

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 248
ขอบคุณพี่ jaesz มากครับ  ;D
a = F/m

ออฟไลน์ kris-lack

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,763
ปัญหาโลกแตก...

ตั้งเว็บมา 5 ปี ปัญหานี้ ก็มีมาถามกันเรื่อยๆ

ก่อนหน้านั้น 20 กว่าปีที่ผ่านมา ก็ยังเป็นปัญหาไม่รู้จบสิ้น...

เบื่อ และเหนื่อยกับการตอบคำถามประเภทนี้เต็มทีเหลือเกิน...

1. การเข้า P ยิ่งแย่ใหญ่

เพราะ เกียร์ P คือ สลักล็อก ที่จะเข้าไปล้อกการทำงาน
ใครมาชนท้ายเข้าไป สลักล็อกที่ว่า ก็อาจหักเข้าไปคาข้างใน
งานนี้ ได้รื้อเกียร์กันแน่ๆ ใครอยากลอง เชิญได้ครับ ตามสบาย!

2.เอาบทความนี้ไปอ่านแล้วกันนะครับ...คุณชาญ จากอู่กรุงเทพ สรุปเอาไว้ให้หมด และอย่างสั้น เข้าใจง่ายที่สุดแล้ว

http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=307:-n-d-&catid=94:technical-guru&Itemid=158

3. ใครที่แนะนำว่าไม่ให้เหยียบเบรก เพราะเบรกจะสึกหรอ
ฝากถามมันผู้นั้นด้วยว่า

เบรก จับกับจานเบรก ในรถที่จอดนิ่งๆ ไม่มีการเคลื่อนไหว
มันจะสึกหรอได้ยังไง เอาตรรกะอะไรมาคิด?

เวลารถชะลอมาเอื่อยๆ จนหยุด นั่นละมีการเสียดสี

ต่อให้มีความร้อนสะสม เมื่อใดที่คุณออกวิ่งอีกครั้ง
กระแสลมที่ไหลผ่านใต้ท้องรถ รวมทั้งกระทะล้อ
ที่หมุนอยู่นั่น ก็ช่วยระบายความร้อนให้ผ้าเบรก
และจานเบรกเองอยู่แล้ว

ต่อให้คุณซัดเบรก จาก 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ลงมาจนกลิ่นผ้าเบรกไหม้
คุณออกรถ แล้วแล่นไปอีกสักพักหนึ่ง กลิ่นไหม้ ก็หายไปแล้ว เมื่อผ้าเบรก
กลับมาอยู่ในอุณหภูมิทำงานตามปกติ

อีกอย่างนึง ผ้าเบรก เป็นของใช้สิ้นเปลือง เหมือนยางลบ มันต้องค่อยๆหดหายไปอยู่แล้ว

เลือกเอาแล้วกัน ว่าจะซ่อมเกียร์ หรือแค่เปลี่ยนผ้าเบรก



ขอถามแบบโง่ๆหน่อยค่ะ เพราะเข้าไปอ่านแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี คำถามคือ
"แล้วทำเกียร์ N มาทำไม ทำไมไม่ทำ P R D เลย"
เพราะอ่านแล้วก็่นาจะแปลว่า ถ้าติดไฟแดงนานนิดนึงก็ควรจะ N จอดแป๊บเดียวหรือแทบไม่จอดประมาณว่าพอเคลื่อนได้ก็อย่าพยายามสับเกียร์
และอีกอย่างสิ่งต่อไปนี้คือ เป็นสิ่งที่เราเกลียดโดยส่วนตัวมากที่สุดบนท้องถนน
1. เปิดไฟตัดหมอกไม่ว่าจะหน้าหรือหลัง เวลาที่ไม่จำเป็นต้องเปิด
2. เปิดกระจกแล้วเปิดเพลงจากเครื่องเสียงดังๆเผื่อแผ่ชาวบ้าน
3. กะบะบ้าพลังตอนออกไฟแดงแล้วปล่อยควัน
4. โทรศัพท์บนรถแล้วขับช้า+แช่
5. ติดไฟแดงนานๆแล้วเหยียบเบรคค้างไว้ (กรณีนี้คือ เราอยู่หลังรถคันนั้น มันแสบตา)

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
บางที,,, เวลาติดไฟแดง, ผมก็อยากพัก อยากผ่อนคลาย อยากยืดเส้นยืดสายบ้างอะนะ
....จะให้มาจดจ่อ,,, เหยียบเบรกตลอด ก็ดูจะเหนื่อยไป, สงสารตัวเองมากกว่าสงสารเกียร์

ไม่ได้บอกนะคับ,,, ว่าเลื่อนไป N ดีกว่า, แต่ผมชั่งน้ำหนัก จากสังขารตัวเอง

ออฟไลน์ udis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,674
ผมเลื่อนไปที่ N เพราะขี้เกียจเยียบ ไม่ได้เมื่อย หรือรักษารถแต่อย่างใดครับ
 ;D ;D ;D

ออฟไลน์ RASALGHUL

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 66
:'( :-\ :P

ลือกเอาละกัน ระหว่างค่าเกียร์หลักแสน กับค่านวดก็หลายตังอยู่เหมือนกัน..แล้วแต่เกรด


(แซวเล่นนะ เดี๋ยวต้องมีคนมาจริงจังแหงๆ55)

++++++++++++++++++++++= >>>>>>>>> ไม่มีใครเขาจริงจังหรอกครับ ทันกันทั้งนั้นล่ะครับ แก๊กแมนๆนี้


จริงจังคือจะไปนวดกันจริงๆไงล่ะครับ 5555
ALL NEW MAZDA3 2014 >>ใครสนใจแลกเบาะสีดำด้ายแดง เป็นเบาะสีขาวทูโทนจากรุ่นไฮพลัสของผมบ้างครับ pmมาเลย

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
FB รถยนต์มั่วบ่อยครับ

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,380
    • อีเมล์
เรื่องนี้ Engineering ล้วนๆ ไม่ควรใช้ความรู้สึก ถ้าอยากเข้าใจ ต้องอ่านหนังสือ ว่าข้างในเกียร์ auto ข้างในมันมีอะไรบ้างครับ  ขับรถมา 20 ปี ผมใช้วิธีของ คุณชาญ คุณจิมมี่ มาตลอด สอนภรรยาขับ ก็สอนแบบนี้ ไม่เคยยกเกียร์ ไม่เคยเสีย Civic Dimension ให้ภรรยาที่บ้านใช้ ขับมาจะสามแสนแล้ว ยังดีอยู่ สุดท้าย ใช้เกียร์ Auto แบบ Auto ครับ

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
ผมไม่คิดว่าแต่ละแบบจะทำผลเสียมากมายนักเพราะปกติขับแบบธรรมดาก็เลยเน้นสะดวกมาก่อน ถ้าติดไม่เกิน 1-2 นาทีก็จะเหยียบเบรคเพื่อให้น้ำมันเกียร์ระบายความร้อนสักพักด้วย ถ้านานกว่านั้นก็เข้า N ดึงเบรคมือเอา ตอนออกตัวก็ค่อยๆไป
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ Torque

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 248
โหลดมาเรียบร้อยครับ
ได้คำตอบในใจระดับนึง

คำถามแบบนี้เห็นมาเป็นสิบปี
ที่เห็นในเนต ส่วนใหญ่แม้ทางเลือกที่บอกให้ทำ อาจะจะถูกต้องในรถบางรุ่น
แต่เหตุผลที่ยกมาอาจจะไม่ใช่เลย

จริงๆแล้ว จุดเปราะบางของเกียร์ที่มันจะเสียก่อน ส่วนใหญ่อยู่ที่ส่วนไหนครับ
คลัตช์หรือเปล่า ?


ถ้าอยู่ที่คลัตช์จริง กรณีของ civic dimension
คลัตช์ที่จะหมดกรณีที่คา D ติดไปแดงยาวๆ คือคลัตช์เกียร์ 1 รึเปล่าครับ
เกียร์ auto ของ civic คล้ายเกียร์ธรรมดา
ไม่ได้เป็น planetary แบบในไฟล์ที่โหลดมาครับ
a = F/m

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
โหลดมาเรียบร้อยครับ
ได้คำตอบในใจระดับนึง

คำถามแบบนี้เห็นมาเป็นสิบปี
ที่เห็นในเนต ส่วนใหญ่แม้ทางเลือกที่บอกให้ทำ อาจะจะถูกต้องในรถบางรุ่น
แต่เหตุผลที่ยกมาอาจจะไม่ใช่เลย

จริงๆแล้ว จุดเปราะบางของเกียร์ที่มันจะเสียก่อน ส่วนใหญ่อยู่ที่ส่วนไหนครับ
คลัตช์หรือเปล่า ?


ถ้าอยู่ที่คลัตช์จริง กรณีของ civic dimension
คลัตช์ที่จะหมดกรณีที่คา D ติดไปแดงยาวๆ คือคลัตช์เกียร์ 1 รึเปล่าครับ
เกียร์ auto ของ civic คล้ายเกียร์ธรรมดา
ไม่ได้เป็น planetary แบบในไฟล์ที่โหลดมาครับ


 ;) การหาคำตอบให้ได้ด้วยตัวเองดีที่สุดครับ


แก้ไขเพิ่ม....ลืมตอบเรื่อง ไดเมนชั่น...

เกียร์ฮอนด้าซีวิคไดเมนชั่น คลัทช์ที่ใช้คู่กับเกียร์ 1 เสียเร็วสุดครับ ช่างที่รับซ่อมเกียร์ส่วนใหญ่เปิดมากี่คันก็เสียแผ่นนี้ (ดัง ๆ ในคลับตอนนี้ก็ นามสกุล อึ้งประภากร) เฟืองเกียร์ไม่เสีย รถรุ่นนี้ ออกตัวบ่อย ๆ ก็จะเสีย รถที่เสียส่วนใหญ่ก็ สตาร์ทหยุด เหยียบเบรคค้างนาน ๆ หรือ shift เกียร์บ่อยเกินเหตุ มีลิงค์นึงที่ผมว่า ทำให้เห็นภาพภายในรุ่นนี้สำหรับคนทั่วไปได้ ลองอ่านดูครับ ถึงจะไม่อธิบายการทำงาน แต่ถ้ามีพื้นฐาน วิศวกรรมก็เข้าใจได้ไม่ยาก

http://www.honda-acura.net/forums/do-it-yourself/284236-diy-transmission-rebuild-89pics.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 30, 2014, 09:10:18 โดย jaesz »

ออฟไลน์ Torque

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 248
โหลดมาเรียบร้อยครับ
ได้คำตอบในใจระดับนึง

คำถามแบบนี้เห็นมาเป็นสิบปี
ที่เห็นในเนต ส่วนใหญ่แม้ทางเลือกที่บอกให้ทำ อาจะจะถูกต้องในรถบางรุ่น
แต่เหตุผลที่ยกมาอาจจะไม่ใช่เลย

จริงๆแล้ว จุดเปราะบางของเกียร์ที่มันจะเสียก่อน ส่วนใหญ่อยู่ที่ส่วนไหนครับ
คลัตช์หรือเปล่า ?


ถ้าอยู่ที่คลัตช์จริง กรณีของ civic dimension
คลัตช์ที่จะหมดกรณีที่คา D ติดไปแดงยาวๆ คือคลัตช์เกียร์ 1 รึเปล่าครับ
เกียร์ auto ของ civic คล้ายเกียร์ธรรมดา
ไม่ได้เป็น planetary แบบในไฟล์ที่โหลดมาครับ


 ;) การหาคำตอบให้ได้ด้วยตัวเองดีที่สุดครับ

ขอบคุณมากครับพี่
ได้ keyword ดีๆค้นต่อได้หลายเรื่อง  ;D
a = F/m

ออฟไลน์ Chalongs

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 120
    • อีเมล์
เจอบ่อยๆพวกที่ติดไฟแดงเเล้วเหยียบเบรคแต่ค้างเกียร์ D เอาไว้
แล้วก้อปล่อยรถไหลทีละฟุต ทุกๆสิบวิ
แบบนี้โคตรน่ารำคาญเลย ::)