ผู้เขียน หัวข้อ: รีวิวเฉพาะกิจ Camry 2.5G ก่อน MC  (อ่าน 27127 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tan Int

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,665
    • อีเมล์
รีวิวเฉพาะกิจ Camry 2.5G ก่อน MC
« เมื่อ: เมษายน 20, 2015, 19:59:24 »
เนื่องจากได้คันนี้มาขับแบบงงๆ ก็เลยแวะเอามาเล่าหน่อยละกัน อีกอย่าง Camry 2.5G ใหม่ก็ไม่ได้เปลี่ยนเครื่องยนต์กลไกอะไร
ฉะนั้นก็คงจะอ้างอิงได้บ้างยกเว้นเรื่องออปชั่นที่ผมไม่รู้ว่ารุ่นปรับโฉมเปลี่ยนไปยังไงบ้าง
รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้คันนี้มาขับ เพราะรุ่น 2.5G หายากมาก เอาจริงๆผมยังเห็นไม่ถึง 5 คันด้วยซ้ำ




ภายนอกไม่พูดไรมากละ แก่ๆ แต่ขับแล้วหล่อละกัน  ;D แต่รุ่นปรับโฉมหล่อกว่า



ภายในไม่ได้ถ่ายรูปมา เอาแบบนี้ละกัน  

- พวงมาลัยหุ้มหนัง จับกระชับมือดี แต่วงจับพวงมาลัยมันไม่ได้กลมแบบรถทั่วไป มันจะแบนๆเหลี่ยมๆยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูก แต่ผมชอบ มันจับอยู่มือดี
วงพวงมาลัยใหญ่และรู้สึกว่าเทอะทะไปนิดๆ

- เบาะ ใหญ่มากกกกก และคิดว่าคงทำมารองรับคนตัวใหญ่ๆ ผมสูง 168 หนัก 58 นั่งแล้วไม่สบายเท่าไหร่ แต่สัมผัสเบาะหนังก็ใช้ได้ คันที่ผมขับเบาะเริ่มมีเยินบ้าง
เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าแต่ไม่มีเมมโมรี่ใดๆมาให้ มีปรับดันหลัง
การปรับเบาะ ถ้าปรับต่ำสุดผมรู้สึกว่ามันก็ยังสูงไปนิดหน่อย สูงกว่าอัลติสอีก และผมคงเตี้ยด้วย ถ้าปรับต่ำสุดผมจะโดนหน้าปัดบังการมองเห็นไปเยอะมาก
ผมเลยต้องปรับขึ้นอีกประมาณ 3-4 เซ็นถึงจะขับถนัด ซึ่งนั่นทำให้ที่นั่งขับมันสูงๆลอยๆเยอะมากไป

ลืมไปอย่างหนึ่ง การใช้เบาะปรับไฟฟ้า เบาะคนขับปรับไฟฟ้ามันทุกทิศทางครับ สูงต่ำใกล้ห่างเอนเข้าออก
ข้อดีคือมันหรู แต่ผมไม่ค่อยชอบ ชอบแบบอัตโนมือเดิมๆมากกว่า มันทันใจดี เกิดอยากจะปรับเบาะเอนลงตึ้งเดียวนอนเลยก็ทำได้ แต่เบาะไฟฟ้าต้องรอมันสโลว์โมชั่น
เอนลงแบบผู้ดีซึ่งบางทีก็น่าหงุดหงิด  พอดีผมมันพวกชอบความรุนแรงรวดเร็วด้วยสิ 555

- เบรกมืออยู่ที่เท้า(แล้วเรียกเบรกมือได้มั้ยเนี่ย) ไม่ใช่แบบไฟฟ้า

ออปชั่น บอกเท่าที่งมเจอละกัน รีวิวนี้เน้นการขับขี่ครับไม่เน้นเรื่องออปชั่นเพราะ......รถเก่าผมไม่มีลูกเล่นอะไรเลยพอมาเจอรถคันนี้ก็เหวอรับทานครับ 5555 ใช้ไม่เป็น
- หน้าปัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลตรงกลาง แสดงผลได้หลากหลาย ทั้งอัตราสิ้นเปลือง Real time, อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย, Crusing range(คันนี้ใช้คำนี้) แสดงระยะทางที่วิ่งได้ ฯลฯ เท่าที่รถยุค 2012 คันหนึ่งจะมี

- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ฝั่งซ้ายคุมเครื่องเสียง ฝั่งขวาเป็นปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์

- เครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัสที่ใช้งานง่าย กราฟิกเข้าใจง่ายอยู่ มีบลูทูธเชื่อมต่อโทรศัพท์ ไม่มีเนวิเกเตอร์แต่ก็ช่างมันเถอะ

- แอร์ออโต้ 2 โซน ชอบมากกกกก เพราะผมไม่ชอบเปิดแอร์เย็นผมก็เลือกอุณหภูมิโซนของผมได้ ไม่ต้องไปปรับแอร์เย็นเอาใจใคร

- กระจกไฟฟ้า One-touch ทั้ง 4 บาน แต่ Jam Protection ไม่มั่นใจว่ามีเฉพาะฝั่งคนขับหรือมีทั้งหมด แต่รถระดับนี้คงมีหมดมั้ง ไม่งั้นโดนด่าตาย

- ม่านบังแดดหลังไฟฟ้า เลื่อนลงอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอย

- เซ็นเซอร์กะระยะรอบคันหน้า-หลัง พร้อมขึ้นเตือนที่จอ MID ตรงกลางหน้าปัดว่ามีสิ่งกีดขวางอยู่มุมไหน มีปุ่มปิดถ้ารำคาญ
อ้อ เซ็นเซอร์เฉื่อยชามากกกกกกกกก เวลาถอยรถต้องระวังหน่อย แต่เสียงเซ็นเซอร์ฟังดูผู้ดีไม่ขี้บ่นแบบ Altis ผม

- ไฟหน้า HID แบบเปิดปิดอัตโนมัติ คาสวิตช์ไว้ที่ Auto เดี๋ยวมันจัดการเอง

- ครูสคอนโทรล อันนี้ถ้าขับ ตจว มีประโยชน์มาก

- ระบบเตือนเปิดปิดประตู เตือนแยก 4 บาน ไม่ต้องเถียงกันว่าใครปิดประตูไม่แน่น

- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ต้องรุ่น HV ถึงจะได้ 4 ใบ เอาเหอะ อัลติสผมไม่มีซักใบ
รุ่นปรับโฉมให้ถุงลมคู่หน้า ด้านข้าง ม่านด้านข้าง และหัวเข่า รวมแล้ว 7 ใบ (รึเปล่า ในโบรชัวร์มันไม่ได้บอกจำนวนด้วยสิ แต่ 2.0 ได้คู่หน้ากับด้านข้าง)

- กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้าแบบมุมมองกว้าง ใช้ครั้งแรกยังไม่ชินกับมันเท่าไหร่ และรู้สึกระยะลวงตาค่อนข้างเยอะ

รู้สึกว่าออปชั่นที่จำเป็นผมว่ามันก็มีครบแล้ว แต่ดันขาดสิ่งสำคัญมากๆไปสองอย่าง ทั้งที่รถราคาเท่านี้ ยุคนี้เขามีกันหมดแล้วคือ
1. VSC TRC
2. ระบบ Keyless
แต่สำหรับผมก็ไม่เห็นถึงความจำเป็นอะไรของสองอย่างนี้
รุ่นปรับโฉมใส่มาแล้ว และเพิ่มระบบ Hill Assist Control ช่วยขึ้นเนินกับ ESS ไฟสัญญาณขณะเบรกกะทันหัน
และระบบช่วยเตือนมุมอับที่กระจกมองข้าง ทั้งสามอย่างมีครบทุกรุ่นย่อย

 
มาที่การขับขี่ดีกว่า เพราะรีวิวนี้เน้นตรงนี้
เครื่องเบนซิน 2.5L 2AR-FE Dual VVT-i 181 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 231 นิวตันเมตรที่ 4,100 รอบต่อนาที
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัว จังหวะมันเยอะดี)

บอกก่อนว่ารถที่ผมขับเป็นรถบริษัทและผ่านการใช้งานมาแล้ว 50000 กว่ากิโลเมตร สภาพบางอย่างมันอาจจะส่งผลต่อการขับขี่ได้

เครื่องยนต์ ไม่มีอะไรให้ด่าเลย แรงดีมากกกกกกก ผมขับครั้งแรกเหยียบแค่นิดเดียวมีเหวอ และดูคลิปจากเว็บนี้ที่บอกว่าเป็นรถเก๋งที่ล้อฟรีง่ายมาก อันนี้จริงครับ
มีครั้งหนึ่งผมจอดบนพื้นถนนมีทรายนิดๆแบบน้อยมาก ผมออกตัวเหยียบแค่ไม่ถึง 1/3 แต่ล้อฟรีซะสะใจเลย

เกียร์ทำงานได้โอเค ถึงแม้ตอนขับแรกๆจะมีอาการเอ๋อๆบ้าง คงเพราะเกียร์ไม่ชินกับนิสัยการขับของผมเท่าไหร่ แต่ใช้ไปมามันก็โอเค ทำงานสมตัว

พวงมาลัยน้ำหนักดีมาก และขอละไม่ต้องไปแก้ไขมันแล้ว ทั้งช่วงความเร็วต่ำและสูงนั่นแหละ ผมสามารถขับคันนี้พุ่งขึ้น 140 ได้แบบชิวมากๆ ด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง
ทั้งเครื่องทำงานดี เกียร์โอเค พวงมาลัยนิ่ง มันทำให้ผมขับถึงความเร็วนั้นแบบไม่เกร็งเลยทั้งที่รถราคาล้านห้าแถมไม่ใช่รถตรูอีกต่างหาก  ;D
เรื่องความแม่นยำ ถ้าว่ากันว่าเป็นรถคันใหญ่ D-segment มันแม่นยำดีแล้ว แต่จะให้ไวแบบพวกรถสปอร์ตก็ไม่ใช่
ถึงจะมีความรู้สึกว่าต้องหักพวงมาลัยเยอะกว่าที่จำเป็นนิดหน่อยแบบ Altis แต่คันนี้อยู่ในระดับดีกว่ามาก

ช่วงล่าง เรื่องความนิ่ง ความเกาะดีอยู่ แต่เรื่องความสะเทือน โอ้โหหหหห มากไปมั้ย? สะเทือนกว่าอัลติสอีก
แต่ให้เดาคงเพราะล้อ 17 ยางแก้มเตี้ยและรถคงอัดลมยางแน่นไปหน่อย เพราะผมไม่ค่อยเชื่อว่า Camry จะสะเทือนขนาดนี้
ขับถึง 140 ผ่านถนนไม่เรียบรถยังนิ่งดี แต่เรื่องสะเทือนก็อย่างบอก

เบรก อันนี้ขอเก็บไว้สุดท้าย เพราะจะกันพื้นที่ไว้ด่า
น้ำหนักเบรก ห่วยมากกกกกกกก ไม่มั่นใจว่าเพราะผ้าเบรกเริ่มเสื่อมหรือว่ามันเป็นของมันอย่างนี้ เขื่อมั้ยว่าวีออสเก่ารุ่นดรัมเบรกหลังวิ่ง 7 หมื่นโลยังให้ความมั่นใจได้ดีกว่า
คือเรื่องเอาอยู่มั้ยมันก็เอาอยู่แหละถ้าไม่ได้ขับแบบ Fast7 แต่ฟีลลิ่ง น้ำหนักตอนที่มันหน่วงความเร็วลงใช้ไม่ได้เลย และผมรู้สึกว่าต้องกดแป้นเบรกเยอะมากๆ จนผิดปกติ
ยิ่งตอนความเร็วสูงๆผมกลัวมีอะไรตัดหน้ามาก เพราะน้ำหนักเบรกที่ไม่ให้ความมั่นใจนี่แหละ
เท่าที่ขับ Toyota มา 4 คันทั้งวีออส อัลติส วีโก้และคัมรี่ คันนี้เบรกห่วยสุด มีห่วยกว่าคือวีโก้แค่นั้น

อัตราสิ้นเปลือง กรุณาใช้วิจารณญาณเอาเอง เพราะผมก็มึนกับมันมาก
ผมขับจนรถขึ้นไฟเตือนให้เติมน้ำมัน ตอนนั้นคอมพิวเตอร์คำนวณว่าวิ่งได้อีก 14 กิโลเมตร(คือยอมใจแข็งวิ่งมาถึงในเมืองเพื่อจะเติม E20 = =;)
เติม E20 ไป 500 เพราะงบมีแค่นั้น เข็มน้ำมันกระดิกขึ้นมาตั้ง 1/4 (อัลติสเด้งมาเป็นครึ่งแล้ว) เด็กปั๊มคงนินทา รถอย่างเท่แต่แม่มเติมแค่ 500 ก็เอาเหอะ ไม่ใช่รถตรูหนิ
เติมน้ำมันได้ 18.90 ลิตร และ คอมพิวเตอร์คำนวณว่าวิ่งต่อได้อีก 174 กิโลเมตร ของเก่าเหลือ 14 กิโลก็เท่ากับว่าเหลือ 160 กม.
คำนวณตัวเลขแล้วได้ 8.46 กิโลเมตรต่อลิตร เหยยยยยยย ยังไง แต่ถ้าคิดเป็นบาท/กม ได้ 3.12 บาท/กม.  

มันมีสูตรคำนวณอยู่ว่าน้ำมันประเภทไหนจะมีความคลาดเคลื่อนของอัตราสิ้นเปลืองเท่าไหร่แต่ผมจำไม่ได้ แต่รู้สึกว่า E20 คลาดเคลื่อน 22% รึเปล่า ตัวเลขแถวๆนี้
(E85 คลาดเคลื่อน 41% รู้แค่นี้)
ถ้าคิดกลับเป็นอัตราสิ้นเปลืองขณะใช้เบนซินเพียวๆ ก็คงได้ประมาณ 10-11 กม/ลิตร ซึ่งก็สมเหตุสมผลดีกับการขับของผม ที่ชอบเร่งความเร็ว ไม่เลี้ยงคันเร่งแต่ไม่ขับเร็วมาก

แต่ตอนที่ผมล็อกครูสคอนโทรลวิ่ง 105 กม/ชม ดูจากมาตรวัด Real time มันคำนวณได้ตั้ง 13.9 กิโลลิตรนะ
ตอนนั้นใช้น้ำมันเดิมที่คาถังซึ่งไม่ใช่ E20 และคงจะเป็นแก๊ส 95


สรุป: ซื้อเอาแรงไม่เอาหรู
ต้องบอกอย่างนี้เลยเพราะคุณสมบัติภาพรวมของรถมันทำให้ผมคิดอย่างนี้ ผมเคยคิดเล่นๆว่าถ้าโตจะซื้อคันนี้(มือสอง) มาแต่งเครื่องไว้วิ่งไล่รถสปอร์ต
เครื่องกับเกียร์มันดีมากจริงๆ แบบไม่ต้องด่าเลย แต่ข้อเสียกลับไปอยู่ที่เบรกแทน

จุดเด่นคงต้องยกให้พื้นที่ภายในเพราะมันใหญ่มากกกกก แม้ว่ารถจะสั้นสุดในบรรดาคู่แข่งก็เถอะ และเครื่องที่ชอบมากจริงๆ แรงดีแบบเพียงพอต่อทุกการขับขี่ยกเว้นว่าเพิ่งลงจากแลมโบมา กับที่เด่นอีกอันคือความมั่นใจในการควบคุมที่อันนี้ผมว่าดีมากนะ ยังไม่เคยขับ Accord Teana แต่สำหรับผม คันนี้ก็ดีมากแล้ว

จุดด้อยคือเบรกที่รู้สึกว่าเอาไม่ค่อยอยู่ และการที่ไม่มี VSC ทำให้ดูแย่ถ้าเทียบกับระดับราคา
กับเบาะที่สำหรับผมมันยังนั่งไม่สบายเท่าไหร่ รู้สึกตัวเบาะมันใหญ่ๆหนาๆไปหน่อย และเจ้าของรถคงปรับเบาะดันหลังมากไปหน่อย
ผมนั่งขับหลังแอ่นมากเพราะปรับคืนไม่เป็น 555 ถ้าไม่นับตรงนี้เบาะมันก็ใช้ได้อยู่


เท่านี้แหละครับที่อยากบอกไว้ ขอบคุณมากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 23, 2015, 21:25:53 โดย Tan Int »
1994 Civic EH9 (4dr) VTi (Made in Japan)
1998 Civic EK 1.6VTi-E Special Edition
2011 Corolla Altis E CNG (Come back)

ออฟไลน์ kikumarru

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 126
Re: รีวิวเฉพาะกิจ Camry 2.5G ก่อน MC
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 21, 2015, 17:30:51 »
 เรื่องเบรคนี่แต่ละรุ่นมันไม่เหมือนกันนะ แต่ใช้ acv30 2.4 อยุ่รุ้สึกเบรคเอาอยุ่นะ กดเท่าไหร่ได้เท่านั้น แต่ถ้าขับรถเล็กมาจะรุ้สึกเหมือนเบรกไม่อยุ่เท่า จริงเพาะรถมันหนักจะรุ้สึกหน่วงๆ ต้องปรับตัวนิดนึง แต่ถ้าต้องใช้ยาวแนะนำไปเช็คดู ผมตอบไม่ได้ แต่มันไม่น่าจะแย่ป่ะอ่ะ

เรื่องอัตราสิ้นเปลือง ถ้าดูตามจอ ดูเติมเข้าไป มันคำนวนจากที่รถจับค่าเฉลี่ยอ่ะนะ เคบขับค่าเฉลี่ย4กว่าๆ km/l เพิ่งโดนถอดแบตข้อมูลหายหมด +ชับในเมือง น้ำมันเต็มถังได้ไม่ถึง400โล พอขับนอกเมืองร่วมสุดท้ายแล้วก้ออยุ่แถวๆ 8 โลลิตร ได้400กว่าๆ ตอนนี้ขับต่างจังหวัดเยอะ ได้9กว่าๆโลลิตรละ เต็มก้อ500นิดๆละ แล้วที่บอกเติม500 เข็มขึ้นนิดเดียวอย่าลืมสิรถมันถัง 70ลิตร หรือ65หว่าไม่แน่ใจ แต่ใหญ่ ถ้าพวกอัลติสก้อเต็มที่ 55ลิตร พวกซิตี้ก้อ 45ไม่เกิน พวกอีโค่ก้อ35ปะมานนั้น เพาะฉะนั้นเติมไป 18ลิตรก้อขึ้นปะมาน1/4ถัง บวกลบนิดหน่อยเพาะถึงมันไม่เท่ากันบนล่าง แต่สรุปจากการที่จับอัตราสิ้นเปลืองมาเกือบสามหมื่นโลบอกเลย 8+/-1กิโลเมตรต่อลิตร ขับขี่ปกติ ใน+นอกเมือง การขับเหยียบค่อนข้างเยอะไปที่แถว120แล้วค้าง ขับ100-120แหละแต่ช่วงต้องเร่งก้อตามสภาพถนน กดเต็มที่เท่าที่จำเปนต้องกด รุ่นนี้ขับเกิน 120แล้วซัดน้ำมันยังกับตายอดตายอยากมาจากไหนไม่รุ้ ส่วนที่บอกการกินน้ำมัน real time อย่าไปเชื่อมันดูขำๆโอเค ขับ90จะโชแถว 14-15 ขับ100 แถว13-14 110 ได้ 12-13 120ได้10-12 160ได้5 170ได้4 หลังจากนั้นพอละรถจะปลิวเอา พอดีอยากลองความแรงของน้ำมัน
พูดถึงความแรง ของน้ำมัน ความสิ้นเปลืองของน้ำมันgasohol 95(e10) กะ e20 ไม่มีเบนซินเพาะแพง ปลไว้ก่อนรุ่นนี้มันบอกรับต่ำสุดแค่ 95 จึงไม่เคยลอง 91 และไม่ได้บอกรองรับe20 แต่อยากเติมเพาะมันถูกกว่า โดยจับอัตราการกินยาวๆ ทีละหลายพันโลถึงเปลี่ยนน้ำมันจดทุกครั้งที่เติม  ไม่ได้เติมสลับไปมาๆ มีเปลี่ยนยี่ห้อ เปลี่ยนหัวจ่าย เติมตามความสะดวก แต่เติมทีเต็มถัง ก้อสรุปว่าการกินไม่ต่างกัน เนื่องจากรถมันเครื่องใหญ่ พอทำให้กำลังของเครื่องไม่ค่อยตก(แต่ต้องเลือกยี่ห้อตามความเหมาะสม เด๋วพุดถึง) สรุปในเมืองก้อ 4+/-1โลลิตร นอกเมือง 9+/-1โลลิตร ปกติก้อ 8+/-1 โลลิตรนั้นแหละ แล้วแต่การเหยียบและรถที่ติด สรุปสุดท้ายกินไม่ต่าง
ส่วนความแรงอย่าคิดว่า น้ำมะนชนิดเดัยวกันทุกปั้มแรงเท่ากัน สรุปให้จากการที่เติมเอง ในรถเครื่องใหย่คือ2.4 และในเครื่อง 1.5 เปนส่วนมาก เพาะเครื่อง2.4 จะเหนความแตกต่างน้อยกว่าในบางยี่ห้อมันใกล้เคียงกันแต่พอเติมใน เครื่อง1.5 นี่จะรุ้สึกได้ดังนี้
Gasohol 95
อันดับ1 หอยv-pow >> แรงกว่ามากๆแม้ในเครื่อง 2.4 ยังรุ้สึกได้จึงค้นพบว่าเหมาะกะการใช้ขับทางไกลแรงดีกดเปนมาไม่ต้องเค้น
อันดับ2 หอย ฟิวเซฟ แรงดี
อันดับ3 ใบไม้สีเขียว แรงดีเครื่อง 2.4 ไม่รุ้สึกต่างกะอันดับ2 แต่เครื่อง 1.5 จะรุ้สึกอืดกว่าเล็กน้อยเท่านั้นไม่ significat มากนั้น
อันดับ4 ปั้มแห่งชาติ บางปั้มแรงบางปั้มอืด ไม่คงที่ไม่รุ้ทำไม เครื่อง 2.4 ไม่รุ้สึกต่างอย่างชัดเจน แต่เครื่อง 1.5รุ้สึก (ถ้าเจอปั้มที่แรงก้อไม่ต่างกะอันดับ3แต่ถ้าเจอปั้มที่อืดก้อต่างอย่างรุ้สึกได้)
อันดับ5 พี่เสืออืดอย่างรุ้สึกได้ยิ่งถ้าเติม หอยฟิวเซฟ้วมาเติมจะรุ้สึก
ส่วนปั้มดาวไม่เคยลอง จึงไม่จัดให้

ส่วน e20
อันดับ1 พี่เสือ เปนสิ่งที่น่าประหลาดมากเนื่องจากความแรงเท่ากับ หอยฟิวเซฟเลย เปนปั้มที่เติม e20แล้วรุ้สึกคุ้มค่ากะการเติมมากๆ แรง ราคาถูก แถมน้ำขวดด้วย 55
อันดับ2 หอย e20 แรงน้อยกว่าอันดับ1เล็กน้อย ไม่รุ้สึกถ้าขับเรื่อยๆ แต่เมื่อต้องการเรี่ยวแรงมากๆจะต้องเค้นกว่าเล็กน้อย ต่างกันไม่ significat เท่าแต่อันดับ1เครื่องจะเงียบกว่าเล็กน้อย ต้องตั้งใจจับผิดสุดๆ (ปล เนื่องจากใช้ในรถที่คู่มือไม่บอกรองรับจึงต้องจับความแตกต่างอย่างเยอะนิดนึง ไม่งั้นก้อเติมๆไป)
อันดับ3 ใบไม้สีเขียว จริงๆก้อไม่ต่างอย่าง significat นักหรอก แต่พอรุ้สึกได้เล็กน้อย คือ3อันดันแรกนี่บอกเลย จริงๆเติมอันไหนก้อได้ แต่ตามความรุ้สึกคือตามนี้จริงๆ
อันดับ4 ปั้มแห่งชาติ อันนี้คือถ้าเครื่อง 2.4 นี่ไม่รุ้สึกต่างกันมากมายนัก แต่เครื่อง 1.5 เติมแล้วจะรุ้สึกเลยเร่งไม่ค่อยออก เปนหลายคันละ (ปล คนบ่นคือพวกตีนหนักทั้งนั้น เพราะฉะนั้น คนตีนธรรมดาอย่าได้แคร์ ขับเรื่อยๆไม่รุ้สึก จะรุ้สึกตอนเร่งเยอะๆ พอดีพวกที่บ่นมานี่มีแต่กดแหลกเลย บ่นด้วยกัน 55)
อันดับ5 นี่ยกให้คุนดาวไปเลย ทิ้งห่างหลายขุม เครื่อง 2.4เติมไปปั้บ อืดมากเหมือนไปขับเครื่อง1.5 ในรถเล็กเลย เร่งนี่เหยียบแทบจะมิดตลอด เติมทีเดียวผมนี่เลิกเติมเลย เติมแล้วต้องขับล้างผลาญน้ำมันให้หมดๆไปเรวๆ

เรื่องความแรงนี่เปนด้านความรุ้สึกจากการเร่งล้วนๆไม่มีตัวเลขมายืนยัน ไม่เคยคิดจะทำ และการเติมน้ำมันซ้ำๆยี่ห้อเดิมนานๆจะทำให้รถอืดลง ควรจะสลับยี่ห้อบ้าง ไม่รุ้ด้วยเหตุผลอ่ะไร หรืออาจจะเปนความรุ้สึกไปเอง แต่รุ้สึกได้ว่าอืดลงแค่นั้น รุ้สึกตอบไม่เกียวกะเจ้าของกระทุ้เลยแต่อยากแชร์บ้าง

ขอบคุน จขกท ที่รีวิวรุ่นนี้นะครับ
พวงมาลัยรุ่นนี้ ดีขับไม่เหนื่อย คือเบาแต่แม่น ไม่ได้เบาไว เบากำลังดี ช้าๆเบาๆ เรวๆก้อเบา จะบอกทำไม  แต่ขับสบายแค่นี้หล่ะ เกาะถนนดี อย่าเกิน 160 กระด้างเล็กน้อยล้อขอบ 17หน่ะ ลมยางอ่อนไม่ได้ช่วยนักบอกเลย แนะนำ 32-35 ขับสบายๆ และก้อขึ้นกะยางด้วยแหละ

ปล ถ้ายาง 215/55r17 อยากใส่ pilot sport3 นี่ทำไงดี ล้อน่าจะ 7'มั้ง แมกโรงงานง่ะ ไม่อยากเปลี่ยนแมก สงสัยอดใช้รุ่นนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 21, 2015, 17:33:51 โดย kikumarru »

ออฟไลน์ nut25784

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 408
Re: รีวิวเฉพาะกิจ Camry 2.5G ก่อน MC
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 22, 2015, 00:15:38 »
ตัว 2.5 นี้ผมว่าช่วงล่างดี พวงมาลัยดี เบรคดี แต่เข้าโค้งแรงๆ มี under นิดๆ ไม่รู้เพราะยาง dunlop sport Maxx TT หรือเปล่า

เรื่องน้ำมัน เติม V power กับ ปตท ไม่แตกต่าง แต่กับคันเล็กของ Honda กลับต่างอย่างเห็นได้ชัด อาจเพราะเครื่องยนต์แรงตัวนี้แรงดีอยู่แล้ว

ขับ 170-180 รู้สึกเหมือนขับรถเล็กทำช่วงล่างแหละ  ทั้งเสียงและความสะเทือนพอกัน  แต่ความเร็วปกติก็ดีกว่าตามขนาดรถและราคา

แต่ไม่ชอบคือ GPS ห่วย 5555+


ออฟไลน์ Nerdys

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 683
Re: รีวิวเฉพาะกิจ Camry 2.5G ก่อน MC
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 22, 2015, 18:51:27 »
เรื่องเบรคลึกนี่ สามารถให้ช่างในศูนย์ปรับตั้งให้ใหม่ได้ไหมครับ เพราะเคยอ่านในเว็บคลับ Altis รุ่นล่าสุดที่มีประเด็นเรื่องเบรคลึกเหมือนกัน
บางคนก็บอกว่าให้ศูนย์ปรับตั้งให้ใหม่ได้ แต่บางศูนย์ช่างก็บอกว่าเป็นอาการปกติหรือเป็นนิสัยของเบรคในรถรุ่นนี้ (คือให้คนขับปรับตัวให้ชินหรือเหยียบลึกๆเองว่างั้นเถอะ 555+)

ออฟไลน์ tanadecha

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 75
Re: รีวิวเฉพาะกิจ Camry 2.5G ก่อน MC
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 24, 2015, 10:18:12 »
ขอบพระคุณมากครับ

ออฟไลน์ g_abac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 310
    • อีเมล์
Re: รีวิวเฉพาะกิจ Camry 2.5G ก่อน MC
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 25, 2015, 23:26:36 »
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
2008  Lexus IS250 Premium
2014  E300 Bluetec Hybrid AMG (W212)
2015  ActiveHybrid 5 M Sport (F10 LCI)
2020  E220d Sport (W213)
2020  X5 xDrive 30d M Sport (G05)

ออฟไลน์ TaR

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 920
  • "เป้าหมาย..."
Re: รีวิวเฉพาะกิจ Camry 2.5G ก่อน MC
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2015, 15:33:35 »
รีวิวละเอียดอ่านได้เข้าใจง่ายมากครับ
ขอบคุณครับสำหรับรีวิว
"ชีวิตคือการเดินทาง..."
.
.
.

ออฟไลน์ ttcl

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 717
Re: รีวิวเฉพาะกิจ Camry 2.5G ก่อน MC
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2015, 09:51:25 »
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
เคยสนใจ acv50 อยู่ เพราะรถผมตอนนี้ผมว่าช่วงล่างเด้งไป เลยคิดว่า camry acv50 น่าจะนุ่ม
ได้มาอ่านรีวิวและประสบการณ์ของผู้ใช้จริงจากเพื่อนสมาชิก เลยทำให้ทราบว่าอาจจะไม่นุ่มเท่าที่คิด
(แต่นุ่มกว่ารถผมแน่นอนครับ :D)

ออฟไลน์ Noom_pp

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 10
    • อีเมล์
Re: รีวิวเฉพาะกิจ Camry 2.5G ก่อน MC
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2015, 20:08:42 »
มีประโยชน์มากเลยครับ ขอขอบพระคุณมากครับ


 :) :) :) :) :)

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 20,771
  • *** HLM.COM ***
Re: รีวิวเฉพาะกิจ Camry 2.5G ก่อน MC
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 27, 2015, 21:46:27 »
2.5G ผมเจอบ่อยเหมือนกันนะครับ

ขอบคุณครับผม

ออฟไลน์ เกมส์'พิดโลก

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 362
  • อยากทำอะไรรีบทำ เมื่ออิสระยังอยู่กับเรา ก่อนที่จะไม่เหลือเวลา...
    • Facebook
    • อีเมล์
Re: รีวิวเฉพาะกิจ Camry 2.5G ก่อน MC
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2015, 13:58:07 »
"ช่วงล่างแข็ง" ไม่เกียวกับลมยาง ไม่เกียวกับขนาดล้อ แต่เป็นเพราะโช๊คล้วนๆเลยครับ
ขอแสดงความเห็นเรื่องช่วงล่างนะครับ เพราะใช้ 2.5 อยู่เหมือนกัน

แข็งกว่า อัลติส เชื่อเถอะครับว่า Camry โฉมนี้แข็งมาก แข็งที่สุด ตั้งแต่เคยขับรถมา!
แต่แข็งในที่นี้ไม่ได้แข็งแบบกระบะนะครับ มันแข็งแบบ องค์รวม "สบาย" อารมณ์เหมือนรถที่นิ่มมากๆ แต่เติมลมยางสัก 50 ปอนด์ 555
เวลาตกหลุม รูดหลุม ตกบ่อ หรือวิ่งเข้าใส่ลูกระนาด มันจะไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไรเลยแหละครับ ผมขับเส้นตากฟ้า หรือ นครสวรรค์-พิจิตร เป็นรถที่รูดได้มันส์ที่สุดที่เคยขับมา!
เพราะโช๊คมันยุบตัวน้อยมาก ทำให้รถไม่กระโดด ไม่เด้ง ไม่ดีด แต่ได้ความกระด้างเข้ามาแทน

สรุปว่า เป็นรถที่โช๊คอัดน้ำมันมาหนืดที่สุด แข็งที่สุด แต่ก็เป็นรถที่ "สบายที่สุด"
C-Class C300 AMG W205 - Now
Pajero GT 2WD 2016 - Now
Camry HB Top ACV50 2012 - Now
Triton 2.5 - Now
Wish MC - Now
City V 09 - Now
Z4 s20i Pure balance - Sold
F30 320d - Sold
Accord G9 2.4 -Sold
Jazz SV 08 - Sold
CRV G4 2.0 4WD, FD 08 , Camry 2.5 , Vigo 3.0 , Tiger D4D 2.5