ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ  (อ่าน 9523 ครั้ง)

ออฟไลน์ kritsada

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 344
สวัสดีครับพี่ๆ ผมมีเรื่องหลายเรื่องอยากถามครับ ก่อนอื่นขอเล่าความเป็นมาก่อนนะครับ ตอนนี้ผมเรียนอยู่ชั้นปี 2 เรียนคณะวิศวะกรรมเครื่องกลครับ ที่ผมมาตั้งกระทู้ถามพี่ๆเพราะถึงเวลาเรียนจบแล้วผมไม่อยากมานั่งหมดอาลัยตายอยาก หางานทำไม่ได้และผมไม่อยากเสียเวลาด้วยครับ อยากเรียนจบแล้วเริ่มงานได้ทันที และผมมั่นใจว่าจบไปผมคงไม่ทำงานที่เกี่ยวกับสิ่งที่เรียนมาแน่นอน เดิมผมเป็นคนชอบขับรถชอบเดินทาง และผมมีไอเดียนึงที่ผุดขึ้นมาคือ ผมอยากวิ่งส่ง/วิ่งหาอะไหล่จากเชียงกงทั่วประเทศให้กับอู่ต่างๆ เพราะเวลาที่เราต้องการของสักชิ้นนึงแต่เราไม่มีเวลาไปดูของและเราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราหาอยู่มันสภาพเป็นยังไง ผมเลยสนใจจะมาทำในส่วนนี้ สาเหตุที่ผมไม่อยากเปิดเป็นเชียงกงเลยเพราะบ้านผมมันเป็นเมืองเล็กๆไม่เจริญเท่าเมืองขอนแก่น (บ้านผมอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ครับ) กลัวว่าถ้าเปิดเป็นเชียงกงเลยเนี้ยทุนจะไปอยู่กับของหมด  ยกตัวอย่างนะครับเช่นพี่แพนอยากได้เครื่อง SR สักตัว (ขออนุยาติด้วยนะคร๊าบ) แต่พี่แพนไม่มีเวลาไปเดินเชียงกงเลย พี่แพนเลยโทรมาหาผม ผมก็จะจัดการหาเครื่องที่ต้องการให้ และตรวจดูสภาพทุกอย่างให้เรียบร้อยเลขเครื่อง กล่อง ชุดสายไฟจิปาถะ และไปส่งถึงหน้าบ้าน พี่ๆคิดว่าจะเวริคมั้ยครับ แล้วถ้าจะหากลุ่มลูกค้าควรไปเจาะกลุ่มตลาดไหนดี และผมจะไปหาของได้ที่ไหน เชียงกงทั่วไปรึควรไปสั่งจากญี่ปุ่นแล้วไปรับที่ท่าเรือเลยครับ ขอความกรุณาด้วยครับ
C.kritsada

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 08:11:01 »
พี่แนะนำสเตปให้นะครับ
คำศัพท์เป็นคำเฉพาะทาง ลองศึกษาในแต่ล่ะหัวข้อ วิเคราะห์ดู แล้วน้องจะรู้ว่าควรทำหรือไม่

1. วิเคราะห์ Macroenvirontment ระยะยาว ระยะสั้น
2. ทำ Five Forces Analysis
3. ทำ Segment Target Positioning

เอาแค่นี้ก่อน

- น้องลองดูว่า อนาคต สภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ทิศทางด้านพลังงานจะเป็นยังไง
- ลองดูว่ามีสินค้าทดแทนธุรกิจน้องมั้ย มีอำนาจต่อรองขนาดไหน
- ปัจจัยด้านแรงงาน
- ตำแหน่งสินค้า ตำแหน่งธุรกิจ วางในลักษณะไหน
- ที่สำคัญคือ น้องจะขายใคร ลูกค้าของน้องมีแบบไหนบ้าง
นี่คือพี่ไม่พูดถึงเรื่องเงินและต้นทุนเลยนะ
ศึกษาดูก่อน แล้วค่อยตั้งกระทูถัดไปครับ พี่มองว่าอีกหลายปีกว่าน้องจะจบ 2 ปีนี้ก่อนจะจบน้องมีเวลาเหลือเฟือ

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 08:38:14 »
ดีเลยครับ มีเวลาศึกษาหาข้อมูลอย่่งเต็มที่ตั้งแต่ตอนนี้ แต่สิ่งที่จะทำให้สำเร็จได้ต้องวิเคราะห์ให้แตกแล้วลงมือทำให้เร็ว อย่าลืมเตรียมทำแผนสำรองไว้ด้วยนะครับ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ xxxxxx

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 61
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 08:50:24 »
เอาแบบง่ายๆ เลยนะครับ ลองเปิดเฟสหรือเข้าไปตามเวปคลับรถ ดูราคาที่คนอื่นขายซื้อกันในจังหวัดน้อง แล้วก็ลองหาลู่ทางทำราคา ถ้าไม่ถูกกว่า ก็รับประกันของเอาครับ เริ่มจากของแต่งเล็กๆ น้อยๆ แบบท่อไอเสีย หรือกันชน พาร์ทต่างๆ ก็ได้ครับ ลองจับทีละยี่ห้อดู สักพักก็น่าจะได้กลุ่มที่ซื้อของเรา และเราก้จะเริ่มรู้ว่าไปหาของรุ่นอะไรมา ไม่ต้องสต็อกเยอะครับ

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 10:18:44 »
ก็คืออาชีพจับของมาขายนั่นล่ะครับ แต่แทนที่จะจับมากองๆแล้วตั้งราคาขาย ก็ใช้วิธี by demand "คุณสั่ง เราหา"

มีหลักการทางธุรกิจเยอะแยะไปหมด ดังนั้นผมจะกล่าวถึงแค่แง่เดียวก่อนคือ "Dependencies" หรือปัจจัยด้านการพึ่งพา อันประกอบด้วยตัวคุณ.อยู่ตรงกลาง มี Upstream Dependencies และ Downstream Dependencies

Upstream Dep. = ในการทำธุรกิจนั้น คุณต้องพึ่งพาใครบ้าง ส่วน Downstream Dep. = ใครล่ะที่ต้องพึ่งพาบริการจากคุณ สองอย่างนี้เมื่อเขียนเป็นรายการ รายชื่อลงมาแล้ว คุณต้องลองพยายามจับคู่ดู แล้วหาคำตอบว่าคุณค่าของคุณในการเป็นตัวกลางนั้นคืออะไร

สมมติว่า Upstream คือ ผู้นำเข้าสินค้า เซียงกง และบุคคลทั่วไปที่มีของจะขาย
และ Downstream คือ อู่ และบุคคลที่ต้องการซื้อของ

ถ้าคุณมองดีๆจะเห็นจุดที่น่าคิดว่า ก็แล้วถ้าอู่สามารถคุยกับผู้นำเข้าสินค้าเองได้ ทำไมเขาต้องพึ่งพาคุณ และบุคคลทั่วไปที่ต้องการซื้อของ ถ้าเขาพบว่าคุณไปจับสินค้าจากอีกคนนึงมาในราคา 4,500 แล้วมาขายต่อให้เขาในราคา 5,500 ...อาชีพคุณจบเลยนะ เขาจะสาปแช่งคุณว่าหากินกันง่ายๆอย่างนี้เลยหรือไง

ดังนั้นคุณจะเห็นว่า Upstream และ Downstream ของคุณในเบื้องต้นนั้น พวกเขาสามารถ "คุยกันเอง" ได้อยู่แล้ว ดังนั้นคุณอย่าไปหวังลูกค้าที่ต้องการจะเซฟเงิน แต่ในโลกนี้ก็ยังมีคนบางประเภทอยู่ ประเภทที่ไม่แคร์เรื่องเงิน แต่แค่ไม่มีเวลา

อู่บางอู่ มีรถเต็ม ช่างทำงานหนักเกิน 100% และมีรถที่กำลังจะซ่อมแล้วหาอะไหล่ไม่ได้ กลัวไม่ทันเวลา พวกนี้ยินดีจะจ่ายได้ถ้างานเสร็จทัน
คนบางคน มีรถ มีเงิน แต่ไม่มีเวลา วันธรรมดาทำงานหนักมากแล้ว วันเสาร์ก็อยากพัก วันอาทิตย์ร้านต่างๆก็ไม่เปิด พวกนี้ยินดีจะจ่ายเพื่อจ้างคนสักคนให้จัดการ "วิ่งของ" ให้เสร็จสรรพ

แต่คุณสามารถลองขยายผลในหัว แล้วลองคิดเรื่อง Upstream กับ Downstream เพิ่มเติมได้นะครับ มันยังไม่จบแค่นี้หรอก

อย่างไรก็ตาม เวลาทำธุรกิจ อย่าลืมสิ่งที่ในตำราไม่บอกด้วยนะครับ เช่น นโยบายรัฐบาล ภาษี การนำเข้า การหักหลังของพวก Upstream การเบี้ยวรับสินค้าของพวก Downstream อิทธิพลท้องถิ่น พวกนี่้คนทำธุรกิจเจนจัดแล้วจะทราบดี แต่นักธุรกิจมือใหม่มักจะคาดการณ์แบบ "มันคงไหวน่า" แล้วก็ไม่ไหวทุกทีไป
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ Larry

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 562
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 10:39:00 »
กำลังจะตอบแนวพี่แพนพอดีเลย แต่ผมไม่รู้คำศัพท์อะไรพวกนี้หรอกครับ มีแค่คำถามที่ว่า เค้าจำเป็นที่จะต้องพึ่งเรามากแค่ไหน เท่านั้นเองครับ ถ้าไม่จำเป็นมากแบบนี้ก็ดำเนินธุรกิจลำบาก

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 10:45:04 »
สมองไม่ธรรมดา ตอนปี2ผมยังวิ่งเตะบอลด๊อกๆแด๊กๆจีบสาวไปวันๆ ผมว่าสักวันน้องต้องร่ำรวยแน่ๆ

ค่อยๆเก็บประสบการณ์ไต่จากเล็กไปใหญ่

หลักการทำธุรกิจอย่าลืม2ข้อนี้นะครับ "ความชัวร์ และ ผลตอบแทนที่คุ้มค่าพอ"

ออฟไลน์ Kubota

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 207
    • .
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 10:53:57 »
"ผมอยากวิ่งส่ง/วิ่งหาอะไหล่จากเชียงกงทั่วประเทศให้กับอู่ต่างๆ"
หรือแปลง่ายๆคุณหมายถึงว่า จะรับงานจากอู่ต่างๆที่กาฬสิน เพื่่อไปซื้อของเชียงกงขอนแก่นให้ แบบนี้รึเปล่าครับ

ลองหาข้อมูลมาวิเคราะห์ดูครับ งานคุณมีความจำเป็นกับอู่มากน้อยแค่ใหน ในระยะสั้น ระยะยาว? ทำไมอู่ต้องจ้างคุณ? คุ้มมั้ย ทั้งเราและเขา? อนาคตถ้างานมีมากขึ้น จะขยายอย่างไร?

แต่ผมมองว่าน้องคิดอะไรก้เริ่มทำเลยครับ สตาร์ตก่อนมีโอกาสรวยก่อน ดีกว่ารอให้มีภาระ
เชื่อว่าอนาคตถ้ามันเวิร์คไม่เวิค ประสบการ์ณคงช่วยเราได้เอง

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,480
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 11:01:02 »
ธุรกิจด้านนี้ ต้นทุนสูง  แต่หากคิดจะทำแบบคุณคิด  คิดว่าเขาจะสนใจหรือ  อย่าไปคิดว่าของขายยังไม่ออกก็ไม่เสียหาย  ในทางปฏิบัติ  ของใหม่ รูปลักษณ์ใหม่ ๆ เข้ามาทุกวัน  ของเก่าก็ตกรุ่น ฯลฯ  ผมว่ายากนะ 

เปิดอู่ซ่อม หาลูกมือดี ๆ สักสองสามคน  ยังง่ายกว่าครับ...แต่อู่ก็ดาษดื่น  กว่าจะสร้างฝีมือให้คนเข้าอู่ก็ใช้เวลาหลายปี...

ออฟไลน์ holahola66

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,798
    • อีเมล์
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 11:20:21 »
ลองไปหาเล่มนี้อ่านดูครับ ภาษาไทยก้อมีขาย
Mercedes C-Class W205 CDI
BMW 116i f20
Honda Civic EG 3door D16a turbo MT
Nissan March 1.2 cvt

ออฟไลน์ kritsada

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 344
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 11:22:02 »
แล้วผมควรเริ่มต้นจากไหนดีครับพี่ๆ แต่ตอนนี้เท่าที่คิดออกคือผมจะลองไปเป็นลูกจ้างอยู่เชียงกงจะได้รู้ว่าสภาพ ณ ปัจจุบันเป็นอย่างไร ขายดีรึไม่ดี ลูกค้ามีแบบไหนบ้าง ซื้อเยอะซื้อน้อย การตกลงราคา แล้วจะลองไปอยู่อู่ดูบ้าง ว่าในฐานะผู้ซื้อจริงๆแล้วเค้าต้องการอะไร เค้าชอบแบบไหน อะไรจะดีที่สุดสำหรับผู้ซื้อ พี่ๆคิดว่าถ้าผมทำแบบนี้จะเหมาะสำหรับก้าวแรกรึเปล่าครับ ผมไม่อยากให้เวลาเสียไปเฉยๆ ขอคำแนะนำด้วยครับ
C.kritsada

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 11:32:41 »
ลองไปหาเล่มนี้อ่านดูครับ ภาษาไทยก้อมีขาย

This is a must!!

อย่างน้อยจะได้รู้ว่า

ลูกจ้าง       นักธุรกิจ
พ่อค้า        นักลงทุน

ต่างกันอย่างไรครับ

ออฟไลน์ redtopup

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 167
    • อีเมล์
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 12:41:19 »
สวัสดีครับพี่ๆ ผมมีเรื่องหลายเรื่องอยากถามครับ ก่อนอื่นขอเล่าความเป็นมาก่อนนะครับ ตอนนี้ผมเรียนอยู่ชั้นปี 2 เรียนคณะวิศวะกรรมเครื่องกลครับ ที่ผมมาตั้งกระทู้ถามพี่ๆเพราะถึงเวลาเรียนจบแล้วผมไม่อยากมานั่งหมดอาลัยตายอยาก หางานทำไม่ได้และผมไม่อยากเสียเวลาด้วยครับ อยากเรียนจบแล้วเริ่มงานได้ทันที และผมมั่นใจว่าจบไปผมคงไม่ทำงานที่เกี่ยวกับสิ่งที่เรียนมาแน่นอน เดิมผมเป็นคนชอบขับรถชอบเดินทาง และผมมีไอเดียนึงที่ผุดขึ้นมาคือ ผมอยากวิ่งส่ง/วิ่งหาอะไหล่จากเชียงกงทั่วประเทศให้กับอู่ต่างๆ เพราะเวลาที่เราต้องการของสักชิ้นนึงแต่เราไม่มีเวลาไปดูของและเราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราหาอยู่มันสภาพเป็นยังไง ผมเลยสนใจจะมาทำในส่วนนี้ สาเหตุที่ผมไม่อยากเปิดเป็นเชียงกงเลยเพราะบ้านผมมันเป็นเมืองเล็กๆไม่เจริญเท่าเมืองขอนแก่น (บ้านผมอยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ครับ) กลัวว่าถ้าเปิดเป็นเชียงกงเลยเนี้ยทุนจะไปอยู่กับของหมด  ยกตัวอย่างนะครับเช่นพี่แพนอยากได้เครื่อง SR สักตัว (ขออนุยาติด้วยนะคร๊าบ) แต่พี่แพนไม่มีเวลาไปเดินเชียงกงเลย พี่แพนเลยโทรมาหาผม ผมก็จะจัดการหาเครื่องที่ต้องการให้ และตรวจดูสภาพทุกอย่างให้เรียบร้อยเลขเครื่อง กล่อง ชุดสายไฟจิปาถะ และไปส่งถึงหน้าบ้าน พี่ๆคิดว่าจะเวริคมั้ยครับ แล้วถ้าจะหากลุ่มลูกค้าควรไปเจาะกลุ่มตลาดไหนดี และผมจะไปหาของได้ที่ไหน เชียงกงทั่วไปรึควรไปสั่งจากญี่ปุ่นแล้วไปรับที่ท่าเรือเลยครับ ขอความกรุณาด้วยครับ


ไม่ว่าเราอยากจะทำอาชีพอะไรมีคนทำอาชีพที่เราอยากทำก่อนเราทั้งนั้นอยู่แล้ว
เปิดขายของเก่าเลย ถ้าไม่มีผสบการณ์ที่สูงๆเลือกของเป็น จบข่าวครับ เซียงกงจะเปิดได้ต้องมีผสบการณ์สูงมากๆครับ เถ้าแก่ใหม่เกิดจากกการเป็นลุกน้องรื้อของในร้านมาก่อนทั้งนั้น
รถเร่วิ่งขายอะไหล่เก่า นั้นมีแล้ว ขนาดพัดลมไฟฟ้า ยังวิ่งเร่ขายตามอู่เลย
อะไหล่เก่าเซียงกง รถก็หลายรุ่น ถ้าไม่มีความชำนาญ จบข่าวแน่ๆครับ

แนะนำ ขายเอาแค่ยี่ห้อเดียวก็วิ่งส่งไม่หมดแล้วครับ พ่อค้าคนกลางมันดีจริงๆ ซื้อมาขายไป
ผมเองมีเพื่อนรุ่นน้องคนนึง วิ่งเร่ ชนกับอู่เนี่ยแหละครับ ขายอะไหล่เซียงกงมาสด้าอย่างเดียว
ทำแค่ยี่ห้อเดียว ในตอนแรก ให้รู้ลึกไปในรายละเอียดของรถยี่ห้อเดียวก่อน ว่า ปีไหนถึงปีไหนใช้อะไหล่ตัวไหนตัวเดียวกันได้  ชิ้นนี้ตรงนี้เรียกว่าอะไร
ผมรู้จักกับน้องเค้าคนนึงเนื่องจาก สมัยก่อน เคยใช้มาสด้า และเห็นน้องเค้าเข้ามาที่อู่ที่ผมไปหมกแต่งรถอยู่ประจำ เลยได้คุยกัน เลยให้หาของให้
ประการที่สำคัญเลยครับเรื่องราคาขายให้อู่  อันนี้คือปัจจัยหลักเลย การดิวส์กับที่เราจะวิ่งไปชนซื้อมา จะสร้างเครดิตอย่างไรเวลาเราไปซื้ออะไหล่เก่าที่จะได้เครดิต โดยที่เราไม่ต้องจ่ายเงินสด ตรงนี้สำคัญมากๆ เราได้ไม่ต้องควักเงินทุนเลย เราแค่เป็นทางผ่านเอง คนสั่งค่อยไปเอาของมา

น้องที่ผมรู้จักเค้าก็ทำแบบนี้ 
การบ้านที่น้องต้องทำ คือ แหล่งซื้อ ที่จะเครดิตได้  อะไหล่เก่าประกันกี่วัน สำคัญที่สุดเรื่องเครดิตเนี่ยแหละ
 ส่วนอู่นั้น เป็นเรื่องรองลงไป หาได้ง่ายๆถ้าของเราราคาตามตลาดซะอย่าง บอกเกินหน่อยจากราคาตลาดนิดหน่อยไม่ใช่เรื่องเสียหาย  เพราะเอาของให้ดูถึงที่  จะเครดิตกับอู่กี่วันก็ไปคิดอีกที  เงินสำรองต้องมีแน่ๆ สมัยนี้ หัวสมองมันไม่เท่าไหร่ เรื่องเงินเป็นปัจจัยนำหน้าก่อนเสมอ
เจาะจงเอารถแค่ยี่ห้อเดียวก็วิ่งไม่หมดแล้วครับ  เก็บผสบการณ์ช่วงแรกไปก่อน

จบวิศวกร จะไปเป็นลุกจ้างเซียงกงรึครับ จะอยู่ได้กี่น้ำ  ไม่ใช่ว่าจะดูถูกอะไรน๊ะครับ
เพราะงานเซียงกงนั้นงานหนักมากๆ เวลาไม่มีอะไรทำก็ต้องมานั่งล้าง ชิ้นส่วนต่างๆ  ไม่มีอะไรทำก็ต้องมานั่งถอดบิ้วสลับบางตัวมาชนกัน   งานหนักครับ  วิศวกรไม่ไหวหรอกครับ งานแบบนี้

การสั่งของเก่าสมัยนี้ ใช้วิธีเหมากันเป็นตู้คอนเทเน่อ สำหรับผู้ค้ารายย่อย
ผู้ค้ารายใหญ่นั้น ส่ง คนงานไปญี่ปุ่น ไป ตัดไปประมูล แล้ว ส่วนนึงขายเอง ส่วนนึงมาขายส่ง ให้ร้านมาตัดอีกทอด

อ้อ อีกอย่างนึง น้องที่ผมรู้จักนั้น เค้าเริ่ม จากเค้าชอบ รถยี่ห้อที่เค้าขับ เค้าก็ไปหาของเรื่อยๆ จนอู่วานให้ช่วยดูของ ให้ น้องเค้าก็ติดมือกลับมาให้  ทำไปๆมาๆ น้องมันวิ่งไปทั่ว ในเซียงกงบางนามันเลยรู้จักเกือบหมดทุกร้าน ก็เลยซื้อ บ่อยๆเข้า นานวันก็เลยได้เครดิต ติดเงินได้ และ พอมีออเดอร์ ของ อย่างเช่นเครื่องตัวแรงๆ ไม่มีใครเอาเข้ามา น้องเค้าก็สั่งให้ ร้าน หาของให้ ของเข้ามา มีออเดอร์รออยู่แล้ว มากี่เครื่องเอาหมด
ในระหว่าง หาของให้อู่เดียว น้องเค้าก็วิ่งไปหาอู่ อื่นอีก รู้จักกับช่าง พอช่าง แตกตัวออกจากอู่มาทำเอง น้องก็วิ่ง หาของให้ช่างอีก 
น้องที่ผมรู้จักนั้นเริ่ม จากความชอบจุดเล็กๆเองครับเป็นจุดเริ่ม ต้น จนตอนนี้ อยู่ตัวแล้ว

สำหรับน้องวิศว ทำอาชีพอะไร ต้องทำที่ความชอบก่อนอันดับแรกเลย แล้วจะมีจุดหมาย
ยังมีอาชีพ ที่เกี่ยวกับรถ ที่เราสามารถแทรกตัวเข้าไปได้อีก ยังมีอีกมากเลยครับ ไม่ว่าจะแต่งรถติดชุดสเกริรท์ ขายของแต่ง เปิดร้านต่างๆ ใช้เงินลงทุนสูงทั้งนั้น
ทำเว็บไซค์เกี่ยวกับรถ[น่าทำมากๆ เพราะเงินลงทุนนั้นต่ำมากๆ]

ขายอะไหล่เก่า คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า  งานหนักจริงๆครับ บอกก่อน  ยิ่งแรกๆถ้าวิ่งคนเดียว ไปตามอู่ต่างๆ ไม่ต่างจากขับแท๊กซี่รอบเมืองจริงๆครับ  ขอเป็นกำลังใจให้สำเร๊จน๊ะครับ หาน้อยมากจริงๆกับ เรียนอยู่ด้วยแล้วจะหาผสบการณ์ไปด้วยกับเด็กสมัยนี้  ผมนับถือใจน้องมากๆ ที่เรียนอยู่ก็มีความคิดริเริ่มแล้วที่จะมีอาชีพเป็นนายของตัวเองไม่ต้องไปเป็นลูกจ้างใคร  วิศวกรที่ผมรู้จักหลายคน ที่โตรายได้มากๆ เริ่มมาจากมีโปรเจคตอนเรียนทั้งนั้น หาเงินด้วยตัวเองได้ตั้งแต่ตอนเรียนเลย จบออกมา ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด ไม่ไปเป็นลูกจ้างใคร
ยังไง น้องเมล์มาหาผมได้เดี่ยวคุยกันหลังไมค์












ออฟไลน์ 0%

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,581
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 13:01:35 »
ต้องลองทำ

คนที่ทำได้ดีๆ เขาเริ่มจากสิ่งที่อยุ่ใกล้ๆตัว ทำไปเรื่อยๆ ด้วยความรัก ความชอบ ความเกรียน จนประสบความสำเร็จ มันหาลู่ทางต่อไปได้เรื่อยๆเอง

ออฟไลน์ Nismo De Alpina

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,560
  • Whatever brews your coffee.
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 14:05:49 »
อนาคตเสี่ยมาอีกคนแล้ว  :D  ขอเสริมท่านอื่นๆนะครับ
พี่ชอบนะกระทู้แนวนี้ อย่างน้อยก็เป็นการสนับสนุนให้น้องๆเยาวชนมีความคิดริเริ่มที่จะทำมาหากิน
ตั้งแต่ยังเด็กๆ ไม่ใช่มาคิดได้บางทีมันก็อาจจะสายไปแล้วก็ได้
ต้องขอชมน้องว่าแม้อายุยังน้อยแต่คิดอ่านและเริ่มวางแผนอนาคตให้กับตัวเอง
ได้ขนาดนี้ถือว่าใช้ได้ พี่เชื่อว่าอนาคตน้องต้องไปไกลแน่นอน เริ่มก่อนรวยกว่าครับ

ทีนี้มาดูแผนธุรกิจที่น้องว่ามา(ทำอย่างกับจะไปกู้แบงค์ :D)
น้องบอกว่าอยากจะวิ่งส่ง-วิ่งหาอะไหล่เซียงกงให้กับอู่ ความหมายเซียงกงคืออะไหล่ที่ใช้งานแล้ว
สภาพดี(จริงเหรอ?)ที่สามารถนำไปใช้ต่อได้อีก อันนี้พักไว้ก่อน เดี๋ยวจะมาว่ากันถึงสภาพอะไหล่กันทีหลัง

ทีนี้เรามาโฟกัสกันที่อู่ อู่แบบไหนที่เราอยากได้มาเป็นลูกค้าล่ะ? อู่รถบ้าน? แล้วบ้านญี่ปุ่นหรือบ้านยุโรปล่ะทีนี้
หรือแนวอู่รถแต่ง วางเครื่องโมดิฟาย เห็นหรือยังว่าแค่ประเภทอู่ก็มีหลายแบบแล้ว หรือเราอยากได้อู่ทุกประเภท
มาเป็นลูกค้าเรา ที่ถามก็เพราะว่าลำพังแค่อู่แนวๆเดียวกันถ้าเขาจะซื้ออะไหล่จากเราจริงๆและสม่ำเมอแค่นี้ก็แทบจะ
แยกร่างไปส่งของให้ไม่ทันแล้ว นี่น้องยังไม่ได้บอกว่าจะทำกับใคร มีลูกน้องไหม หรือทำคนเดียว อย่าลืมจุดนี้ด้วย
อันนี้พี่พูดในกรณีที่เรามีลูกค้ามีคอนเทคกับอู่เรียบร้อยแล้วนะ และในความเป็นจริงน้องคงไม่อยากมีลูกค้าแค่ 1 หรือ 2 อู่ใช่ไหม?

จะขอยกตัวอย่างเอาแค่อู่แนวรถแต่ง-วางเครื่องตอนที่สมัยพี่เรียนอยู่ปี 2 อายุเท่าๆน้องตอนนี้แหละ ตอนเข้ามหา'ลัยพ่อให้รถมาคัน
เป็น A31-12V. ให้ขับไปเรียน ทุกอย่างเดิมหมด ด้วยความที่ชอบรถแรงเป็นชีวิตจิตใจ คิดแต่ว่าจะทำไงให้เราแรง เพราะลำพังไอ่เครื่อง
6 สูบ 12V. ที่ติดรถมามันคงแค่ขับไปเรียน ไปซื้อกับข้าวได้แค่นั้น เลยทำการฆาตกรรมเครื่องตัวเองซะ แล้วได้ข้ออ้างพ่อขอวางเครื่องใหม่
สมใจอยาก ได้วางเครื่องใหม่สมใจ เพราะเหตุนี้ทำให้พี่ได้เข้าออกอู่ทีีพี่เอารถไปทำเป็นว่าเล่น เลิกเรียนก็ไปอู่ เสาร์-อาทิตย์ก็ไปอู่ ไปจนสนิท
กับเจ้าของและช่างทุกคน สนิทจนเจ้าของอู่ชวนขึ้นรถไปซื้ออะไหล่ด้วยกันบ่อยๆ พี่ก็ไปซิครับจะเหลือเหรอ

เมื่อสนิทกับเจ้าของอู่มากขึ้น จึงทำให้รู้อะไรเกี่ยวกับอะไหล่เซียงกงมากขึ้น อันนี้แกเล่าให้ฟังคร่าวๆ เท่าที่จำได้ ว่าอู่แกจะรับซื้ออะไหล่ตรงจาก
ร้านประจำที่เคยซื้อเท่านั้น ที่เน้นๆเลยคือเครื่องยนต์ เครื่องก็มีหลายสภาพตังแต่สดมาก สด และเกือบไม่สด แต่ที่ไม่ค่อยต่างคือราคาของเครื่อง
อันนี้เข้าเรื่องที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ตอนแรกที่ว่ากันเรื่องสภาพอะไหล่ แกบอกว่าอู่แกไม่ใช่อู่โนเนมเพิงหมาแหงน เพราะฉนั้นแกต้องเอาเครื่องสภาพดีและ
สดเท่านั้นวางให้กับลูกค้า เครื่องสภาพใกล้เน่าไม่เอาแน่นอน ด้วยเหตุนี้เครื่องที่แกวางทุกตัวต้องผ่านการเลือกจากสายตาแกเองเท่านั้น และไฮไลท์
เลยคือเพราะแกเป็นลูกค้าประจำของเซียงกง แกบอกว่าราคาเครื่องที่แกซื้อถูกกว่าราคาที่ขายหน้าร้านอยู่พอสมควร ซึ่งเรื่องราคาพี่เจอมากับตัวเอง
ตอนได้รถมาใหม่ ก็แอบๆเลียบๆเคียงๆไปถามราคาเครื่องที่เราอยากวางตามเซียงกงปทุมวันบ้าง บางนาบ้าง และแถวนวลจันทร์ที่อู่พี่แกใช้บริการบ้าง
ก็พอจะรู้ว่าราคามันต่างกันพอควร และในความเป็นจริงอะไหล่อย่างอื่นก็คงไม่ต่างจากตัวเครื่องยนต์

ทีนี้กลับมาที่ตัวน้อง คงพอจะเห็นอะไรที่พี่เล่ามาให้ฟังบ้าง สิ่งที่พี่จะบอกมันอยู่ในสิ่งที่พี่เล่ามา และที่เล่ามามันเป็นเพียงแค่ให้เห็นมุมมองในแง่ของอู่
แนวเดียวยังมีรายละเอียดมากมายขนาดนี้ แล้วถ้าเรารวมอู่ประเภทอื่นที่ว่ามาด้วยเชื่อว่าน้องน่าจะมีไอเดียบ้าง ลองเก็บเอาไปคิดดู คิดเยอะๆ ยังมีเวลา
และขอให้ประสบความสำเร็จครับน้อง
Eventually i've made my home country,Thailand.

ออฟไลน์ kritsada

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 344
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 14:53:36 »
พี่ๆครับผมส่งข้อความหลังไมค์ไม่เป็น ผมขอลงไอดีไลน์ไว้ตรงนี้เลยนะครับ ขอบคุณครับ

 ID Line : 54321456
C.kritsada

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 16:15:02 »
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ทำนั้นๆ และที่สำคัญยิ่งกว่าคือ Connection ครับ ถ้าอยากทำต้องสำรวจความต้องการตลาดก่อนว่าขาดอะไรแล้วจะตอบสนองเค้าได้ยังไง

ยกตัวอย่างที่ผมรู้จักคนนึงนะครับ แกไปอยู่อเมริกาประมาณ 10 ปีโดยไปทำพวกแต่งรถ ซ่อมรถ และหาของมือสองส่งมาขายที่ไทยและหาของมือสองที่ไทย (มือสองจากญี่ปุ่น) ไปขายที่นั่น พอกลับมาตั้งรกรากที่เมืองไทยก็รับแต่งรถและซ่อมรถโดยใช้อะไหล่และชิ้นส่วนจากอเมริกาเป็นหลัก เครื่องมือและเทคนิคก็เอามาจากที่โน่นเพราะเค้าว่าเรื่องเทคโนโลยีและเครื่องมือที่แเมริกาล้ำหน้าไทยไปราวๆ 5 ปี กลับมานี่เอามาจัด Civic FB ได้สบายเลย รวมไปถึงรถสัญชาติมะกันเก่าๆทำให้ได้ลูกค้าเยอะเพราะซ่อมหายทุกอาการ อะไหล่สั่งได้โดยตรงและเป็นของแม้จากเมกา จนตอนนี้รับงานไม่ทันแล้ว


จะเห็นได้ว่าเค้าจับช่องว่างที่ตลาดต้องการได้ คนอื่นทำเป็นเรื่องยากและแพง ส่วนพี่เค้าคนนี้ง่าย รวดเร็ว ไม่แพง ดังนั้นก่อนอื่นคุณไปหาความรู้ก่อนเลยด้วยการไปเป็นลูกจ้างนี่แหละไม่ต้องลงทุน จะร้านซ่อม ขายอะไหล่ เคาะพ่นสี ระบบไฟ ช่วงล่างหม้อน้ำ ประดับยนต์ แต่งรถ (อันนี้ผมว่าน่าสนเพราะมีให้เล่นเยอะ เช่นแต่งแนวญี่ปุ่น แต่งช่วงล่างแนวเมกา แต่งสวยแนวยุโรป) แต่ไปทำแบบหาความรู้นะครับไม่ใช่ไปแบบลูกจ้าง
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ Tiger3539

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 300
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 18:07:20 »
ทำสิ่งที่นายชอบครับ

มันจะรัก และจะทำออกมาได้ดีครับ

อย่าทำในสิ่งที่ไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ

และต้องมีความรู้ในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบครับ
มันจะออกมาดี
TOYOTA TIGER 4WD D4D
TOYOTA VIGO  DUOBLE CAB 4WD 3.0G
TOYOTA VIOS 1.5S---ขาย
HONDA CIVIC 1.8S FB---ขาย
TOYOTA FORTUNER TRDIII---ขาย
FORD RANGER WILDTRACK 3.2
BMW 520D E60
TOYOTA YARIS 1.2G
TOYOTA ALTIS 1.8V
MAZDA 3 SKYACTIVE S
SUBARU XV
TOYOTA FORTUNER TRD 2016

ออฟไลน์ Napat14

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 351
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 22:03:32 »
ผมว่า จบ วิศวกร ไม่คิด จะประดิษฐ อะไร ออกมา ขาย เหมือน ประเทศ ญี่ปุ่น บ้าง หรอ ครับ แต่ก่อน ญี่ปุ่น ก็ไม่สามารถ ผลิต รถ เอง ได้เหมือนกัน นะ

และ ที่ น้อง คิด มันเหมือน นาย หน้า หา ของ ยังไงไม่รู้ อ่ะ พอทำ ไป ซักพัก ก็จะเข้า ใจ ว่า ของ มันไม่ได้ มีมาง่ายๆ หรือ ไม่ได้มี กัน บ่อยๆ

ถ้าใจ รัก รถยนต์ ผมว่า เปิด อู่ ซ่อม รถ ให้ ได้ ตาม มาตราฐาน จะดีกว่า ไหม ครับ อยาก ยก ตัว อย่าง เช่น ว่าง เครื่อง แบบ เทพๆ ไม่ใช้ เดิน รีเลย์ ใหม่ เอา มักง่ายกัน เดิน ฟิว ใหม่ ไม่เข้า กล่อง ผมว่า คนทำยังน้อย นะ ครับ เอาแบบ ประกอบ เทพๆ เลย แนะนำ ลอง ดู ละกันนะครับ volvo R thailand แบบ ทำ volvo อย่างเดี่ยว เลย หรือ Bmw อย่างเดี่ยว เลย

ก็เป็น กำลัง ใจ ให้ นะครับ ว่า อยาก มีอาชีพ สุจริต แต่ ว่า บ้าน เมืองเรา มันไม่ค่อย จะมี อาชีพ แบบ แปลกๆ ซักเท่า ไหร่ อะไหร่ รถ ก็แสน แพง ถึง จะเปนเซียงกง มันก็ยังแพง อยู่ ดี ก็คือ อะไหร่ BMW  นั้น เอง เซียงกง Benz ถูกกกว่า เซียงกง มิตซู แพง กว่า toyota ลอง พิจราญาดูแล้วกันนะครับ
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018

ออฟไลน์ Adi Autolism

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 313
  • Adi Autolism..
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2014, 22:39:10 »
น้องคับ มาแนวคล้ายๆพี่เลยแต่พี่เริ่มก่อนน้องมาก
ประถม ถึง มัธยม ช่วยอาซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ที่บ้าน
มัธยม ถึง ปวช. หลังเลิกเรียนกับวันหยุดไปคลุกอยู่อู่ซ่อมมอเตอร์ไซค์ ไปช่วยเขาซ่อมไม่เอาค่าแรง อาจมีทริปนิดหน่อย
ปวส. ย้ายไปตีสนิทอู่ซ่อม+แต่งรถมีชื่อเสียงแถวคลองทวีวัฒนา (รถกะบะโหลดเตี้ย ตัดหลังคา)
แต่งรถตัวเองบาง ช่วยเขาซ่อมบ้าง ได้เงินบ้าง แต่เราได้ทำรถเราฟรีก็ดีใจแล้ว
ช่วงนั้นก็เริ่มวิ่งเซียงกงแถวสวนผัก จับคัดพัดลม BM เอามาวางขายให้พวกรถที่มาวางเครื่องได้กำไรดี ซื้อ 600 ขาย 1500
ปั้มเบนซิล Bosch จับมา 500 ขาย 1200 และก็เริ่มขยายไปจับพวกของแต่งมือสอง
พอเข้ามหาลัย เรียนเริ่มหนักก็เริ่มห่างๆออกมา สมัยนั้นยังไม่มีการขายในเวปต่างๆนะ
เบื่อๆหยุดขายไปจนเรียนจบเข้าเป็นมนุษย์เงินเดือน เริ่มใช้ Internet เลยกลับมาจับของเซียงกงอีกครั้ง ของแต่งจิปาถะ แต่ต้องศึกษาจริงๆว่าอะไรช่วงไหนคนกำลังนิยม กระแสจะมา กำไรเท่าไร ค่าแรงเราเท่าไร ของจะติดเรานานไหมต้องทำการบ้านหนักคับ หนังสือแต่งรถต้องดูทุกเล่ม อ่านเทรนด์ให้ออก
แต่มาหนักที่เบรค ช่วงที่คนเริ่มหันมาแปลงเบรค 4pot ใส่กันใหม่ๆ สมัยนั้น แบรมโบ้ยังไกลตัว เลยพออยู่ได้
มีเงินเดือนประจำ ได้ทุกเดือน ขายของเป็นงานอดิเรก กำไรไม่แน่นอน บางเดือน 2-3พัน บางเดือน 3-4 หมื่นก็มี

แต่ช่วงหลังนี้พ่อค้าเยอะมาก อาจมากกว่าคนซื้อ 555 ก็เลยเพลาๆ แต่ยังขายอยู่บ้างเพราะใจมันรักแต่งรถ
ถ้าตัดของเซียงกง ไม่มีมัดจำทำกำไรได้น้อย ถ้าหาจะตาม order ถ้าได้ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ได้ซัก 2-3 ครั้งลูกค้าหนีหมดคับ เพราะตัวเลือกเยอะ พ่อค้ารอกันเพียบ
คือมันเป็นอาชีพที่คนอื่นๆสามารถเข้ามาทำได้ไม่ยาก เลยมีความเสี่ยงสูง ขนาดเปิดเป็นเซียงกงย่อมๆยังเจ๊งกันเลยคับสมัยนี้

ไม่ได้พูดตัดกำลังใจนะ สู้ๆค้นหาตัวเองให้เร็วแล้วลองทำเลยอย่ามัวรอถามคนอื่น ศึกษาเองลองเองเลย ยิ่งสร้างอะไรใหม่ๆยิ่งดี



ออฟไลน์ redtopup

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 167
    • อีเมล์
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2014, 12:40:47 »
จริงๆมีความเห็นคล้ายกับคุณ Tagun เลย จบวิศวกรรึกำลังเรียนอยู่ ควรคิดจะสร้างชิ้นงาน มาเป็นของตัวเองแล้วออกจำหน่าย ลองตลาด รึกำลังเรียนอยู่ก็สามารถสร้างชิ้นงานได้
ยกตัวอย่าง ชิ้นงานเล็กๆแค่ ทำแผ่นปิดเสียงตรงซุ้มล้อ กับ ขอบประตูรถด้านหน้า ชิ้นเล็กๆปิดให้เต็มแก้มซุ้มล้อหน้า ด้านที่ติดกับประตูหน้า ทำออกมาขายยังได้เลย รวยไม่รู้เรื่องได้ ได้ผลเรื่องเสียงรบกวนของยางได้สนิทเลย   ผมเองยังคิดจะทำเลย ลงทุนก็ไม่สูงทำแบบหนุ๊กๆได้ ด้วย แต่ดันไม่มีเวลา หล่อเป็น เรซิ่น เพื่อที่จะต้องเวลาติดตั้งไม่ต้องถอดประตูให้เว้าโค้งตามรถแต่ล๊ะรุ่น   ของบางอย่างคนไม่คิด บางทีเราก็คิดได้ และต้องผลิตทำให้เร็ว ไม่งั้น อดขายเพราะ แค่บินไปจีน แป๊บเดียวก๊อปออกมาได้แล้ว แค่ยกตัวอย่างมให้ น้องกฎษดา ดู เพราะโปรเจคเกี่ยวกับรถนั้นมีมากๆ


ไม่รู้น้อง กฤษดา  เรียนมาสาขาไหน ถ้าเรียน สาขา เขียนโปรแกรมไอซี และ ออกแบบแผงวงจร ได้
งานออกแบบ มีให้ทำมากๆ  โปรเจคมีให้ทำมากจริงๆและงานมีตลอด กินยาวแน่นอน แต่ที่สำคัญต้องมีกึ่นจริงๆ ผมอยู่ในแวดวงของหมู่วิศวกร แต่ตัวผมไม่ได้จบ ผมไม่คุยไลน์และจะไม่เข้าไปคุยก่อน ให้เบอร์ไปแล้ว ผมมีโปรเจคเยอะมากๆ  ถ้าชอบงานออกแบบ มันจะสร้างผสบการณ์ของชวิตให้เราแกร่งขึ้นในวันข้างหน้าได้  แน่นอน

ออฟไลน์ kritsada

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 344
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2014, 15:07:11 »
ขอบคุณมากๆครับพี่ redtopup :)
C.kritsada

ออฟไลน์ shikimaru

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
    • อีเมล์
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2014, 20:07:14 »
เรียนวิศวะมาแนะนำ เอาความรู้จากที่เรียนมาแล้วหาลู่ทางผลิตสินค้าตามหลักการออกแบบเลยดีกว่าครับ สินค้าประเภทไฟหน้า อุปกรณ์ลดเสียงลมตามจุดต่างๆ ของแปลกๆ ค้ำเบรค ค่ำนั่นนี่มีหลายอย่างครับ แต่ให้ใช้หลักการพัฒนาแล้วเอามาเป็นจุดแข็งดีกว่า  จับของตามเชียงกงผมไม่ค่อยเชียร์เลย

ยกตัวอย่างผมละกัน พ่อผมทำเชียงกงมาประมาณ 20 ปีหน่อยๆละ ณ ปัจจุบัน ช่วยงานมา 4-5 ปีแล้ว ยังช่วยอะไรเค้าแทบไม่ได้ ความรู้มันเยอะมากๆ ของชิ้นนั้นแปลงใส่นี่ได้ อันนั้นของรุ่นนี้ รุ่นโน้น คือบางชิ้นมันมามอมๆเละๆ เราต้องมองออกแล้วว่ายำมา หรือเปล่า เป็นของรุ่นไหน สภาพดีมั้ย ถ้าทำไม่ได้ผมว่าเสร็จ จากนั้นก้เรื่องคุยกับร้าน เครดิต เอาของก่อนได้มั้ย หาตลาดเจอมั้ย ที่บ้านผมตอนนี้ของติดค้างในบ้าน 4-5 ปีก็มีเยอะ งานหนัก เละ เลอะ ถ้าไม่ซีเรียสก็ทำได้ ล้างอะไหล่นี่เละทั้งตัว ความจัญไรในเชียงกงก็มีเยอะ ฟังจากพ่อเอง ผมก็อึ้งๆทำกันไปได้วุ้ย

โม้เป็นน้ำเยอะไปหน่อย สรุปให้นะครับ

1.หากลุ่มลูกค้าให้ได้ก่อน ดูให้แน่ใจว่ามีตลาดรับจริงๆ
2.ทุนในช่วงเริ่มต้น เชียงกงจนเงินหนักมากๆครับ ในบ้านผมของเพียบ แต่แปลเป็นเงินสดไม่ได้เลย ถ้าขายไม่ดีนี่จอดสนิท อย่างที่บ้าน ณ ปัจจุบันขายไม่ดีมาปีกว่าๆแล้ว
3.ความเชี่ยวชาญ การมองของออก ยำ ไม่ยำ ดีไม่ดี เห็น ทดสอบแล้วต้องรู้ ไม่มีมาสุ่มจับๆแล้วบอกน่าจะดีนะครับ เชียงกงพวกนี้เขี้ยวฝังดินไปหลายเมตร
4.กำไรดี บางชิ้นครึ่งๆ แต่ถ้าขายไม่ได้ก็ขยะดีดีนี่เอง

ลองดูครับ แต่หัวคิดมาไวดีได้ตั้งแต่ ปี 2 ผมช่วยตั้งแต่ 18 แต่กว่าจะคิดจริงจังได้ก็ 21 แล้ว
ย้ำอีกครั้ง เริ่มต้นใหม่ๆในเชียงกง connection  สำคัญมากๆ สนิทไม่สนิทนี่คนละราคาเลย บางชิ้นไม่สนิทก็ไม่ขาย
เงินทุนเริ่มต้นต้องมีระดับนึงไม่งั้นไม่พอ

ปล.บ้านผมทำสาย รถ 6 ล้อ 10 ล้อ รถตัก รถยก นะ แต่แนวคิดเหมือนๆกัน

ออฟไลน์ decptt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,572
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 00:46:02 »
หลายๆคนตอบเกือบจะหมดแล้ว
เพิ่มเติมให้อีกหน่อยครับ

ผมทำงานร้านขายส่งอะไหล่ รถกระบะ/บรรทุก/พ่วง น้ำมันหล่อลื่น ในพิษณุโลก ตอนนี้ขยายไลน์ไปกลุ่มช่วงล่างรถเก๋งด้วย และกำลังใกล้จะเป็น Specialist ด้านลูกปืน(เนื่องจากกำลังจะมีหลากหลายมากที่สุดในพิษณุโลก แต่แพ้กรุงเทพนะ)

---------------------------------------------
ง่ายๆเลยนะครับ ตรงๆ  ให้รู้จุดอ่อนเลยครับ

ถ้าน้องไม่เป็น Specialist ที่มีความรู้พอตัว(ในระดับที่เก่งนะ) ยากครับกับอาชีพนี้

ผมเคยสั่งของให้ลูกค้า ขนาดมีตัวอย่างส่งเข้ากรุงเทพ บางเจ้า(supplier)ยังจัดของผิดเลยครับ
(ปล. ขนาดอะไหล่ชิ้นใหญ่ของพวกสิบล้อนะ)

ถ้ารักงานนี้จริง อันดับแรก ต้องมีความรู้ให้เยอะๆครับ และต้อง "ลึก"ด้วย ถ้ารู้แบบงูๆปลาๆ (ร้านผม รู้แบบงูๆปลาๆ เปิดตำราอย่างเดียว) แบบผมนะ เสร็จร้านแบบพวกผมหมด เพราะหาของถูกกว่า ไม่ต้องวิ่งส่งด้วย เพราะสั่งของกรุงเทพ วันเดียวก็ได้แล้วครับ

มีความรู้ระดับลึก แล้วคั้นให้เป็นองค์ความรู้ นั่นแหละ งานในอินเตอร์เน็ตจะช่วยน้องได้

อาชีพนี้ น้องอยู่ต่างจังหวัด ต้องศึกษา "รถกระบะ" ไว้ด้วย เพราะมันเป็นตลาดใหญ่สำหรับต่างจังหวัดครับ
อย่าเน้นแต่เก๋งนะ ตลาดเก๋งส่วนใหญ่อยู่ในเมืองเท่านั้น

จากนั้น
พี่แนะนำสเตปให้นะครับ
คำศัพท์เป็นคำเฉพาะทาง ลองศึกษาในแต่ล่ะหัวข้อ วิเคราะห์ดู แล้วน้องจะรู้ว่าควรทำหรือไม่

1. วิเคราะห์ Macroenvirontment ระยะยาว ระยะสั้น
2. ทำ Five Forces Analysis
3. ทำ Segment Target Positioning

เอาแค่นี้ก่อน

- น้องลองดูว่า อนาคต สภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ทิศทางด้านพลังงานจะเป็นยังไง
- ลองดูว่ามีสินค้าทดแทนธุรกิจน้องมั้ย มีอำนาจต่อรองขนาดไหน
- ปัจจัยด้านแรงงาน
- ตำแหน่งสินค้า ตำแหน่งธุรกิจ วางในลักษณะไหน
- ที่สำคัญคือ น้องจะขายใคร ลูกค้าของน้องมีแบบไหนบ้าง
นี่คือพี่ไม่พูดถึงเรื่องเงินและต้นทุนเลยนะ
ศึกษาดูก่อน แล้วค่อยตั้งกระทูถัดไปครับ พี่มองว่าอีกหลายปีกว่าน้องจะจบ 2 ปีนี้ก่อนจะจบน้องมีเวลาเหลือเฟือ
ตามนี้ครับ ที่น้องต้องศึกษาคู่กัน


นักธุรกิจมือใหม่มักจะคาดการณ์แบบ "มันคงไหวน่า" แล้วก็ไม่ไหวทุกทีไป

แต่ช่วงหลังนี้พ่อค้าเยอะมาก อาจมากกว่าคนซื้อ 555 ก็เลยเพลาๆ แต่ยังขายอยู่บ้างเพราะใจมันรักแต่งรถ
ถ้าตัดของเซียงกง ไม่มีมัดจำทำกำไรได้น้อย ถ้าหาจะตาม order ถ้าได้ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ได้ซัก 2-3 ครั้งลูกค้าหนีหมดคับ เพราะตัวเลือกเยอะ พ่อค้ารอกันเพียบ
คือมันเป็นอาชีพที่คนอื่นๆสามารถเข้ามาทำได้ไม่ยาก เลยมีความเสี่ยงสูง ขนาดเปิดเป็นเซียงกงย่อมๆยังเจ๊งกันเลยคับสมัยนี้
ไม่ได้พูดตัดกำลังใจนะ สู้ๆค้นหาตัวเองให้เร็วแล้วลองทำเลยอย่ามัวรอถามคนอื่น ศึกษาเองลองเองเลย ยิ่งสร้างอะไรใหม่ๆยิ่งดี

การจับเสือมือเปล่า  ในโลกปัจจุบัน ไม่มีแล้วนะครับ
อาวุธการจับเสือ อย่างน้อยๆที่เป็นอาวุธให้เราได้ (สามารถเลือกแค่อย่างเดียวก็รวยได้ครับ ถ้ามีหลายอย่างยิ่งดี)
1. องค์ความรู้  (ไม่ใช่แค่ความรู้นะ ถ้ามีตัวนี้ 100% ไม่จนครับ มีกินตลอดชาติ)
2. ทุน (บุญเก่า -- ถ้ามีอันนี้อันเดียว เจ๊งได้นะครับ  ควรจะรวมกับ ความรู้การทำธุรกิจด้วย คุณYenCharบอกไปแล้ว)
3. Connections (อันนี้ ความลับสุดๆ อยากรู้ ไปค้นเอง 555+)
4. ที่เหลือ ไปหาอ่านจาก หนังสือ เองครับ อยากรู้อะไร อ่านเข้าไป อิอิอิ

ออฟไลน์ redtopup

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 167
    • อีเมล์
Re: เด็กปี 2 กำลังคิดวิธีทำมาหากินในอนาคตครับ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2014, 13:00:10 »
ขอบคุณมากๆครับพี่ redtopup :)


น้องไม่ต้องเครียด และไม่ต้องท้อถอยน๊ะครับ

ปรัชญาของชวิตนั้น มี หลายอย่างที่ต้องมาควบคู่กัน เพื่อ ที่ชวิต อยู่แล้วมีความสุข
ชวิตจริงๆนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นที่หนึ่ง เรียนหนังสือไม่จำเป็นต้องเรียนเก่ง ก็ มีความสุขให้กับชวิตของตัวเองได้  หนทางที่แท้จริงคือ ขยัน และ มีการมองฉ๊อต ให้ออก เรื่องจังหวะกับเวลา สำคัญกว่าสิ่ง อื่นใดซะอีก เอาแค่เช่าห้อง เพื่อ เปิดร้านก็พอ บางทีหาทำเลได้แต่หาห้องเช่าไม่ได้ 
อุปสรรคมีให้ฝ่าฟัน ไม่ได้มีให้ท้อแท้ เราไม่ได้เกิดมารวยแต่กำเนิด ดังนั้น ถ้าเราทำอะไรด้วยตัวเอง แล้วสำเร็จ เราคือ ที่หนึ่งเสมอ ไม่มีที่สอง

คลายเครียด กับ หนัง เรื่อง forrest gump  ถ้าน้องยังไม่เคยดู ก็ ลองดูครับ ได้ปรัชญาของชวิตหลายอย่าง