รถพวกนี้ต้องไปอบรมการขับขี่ตามบริษัทรถที่เขาจัดไว้กอนครับ อย่างเช่น YAMAHA HONDA เขาก็มีอบรมอยู่หลายครั้ง พออบรมไปแล้ว 600 CC นี่อาจควบได้สบายอยู่มือเลย ทียบกับคนไม่ได้อบรมอาจกลัวที่จะขี่รถ 300 cc ขึ้นมา เพราะพวกนี้มันมีเทคนิคการขับขี่ไม่เหมือนกันกับรถมอไซด์ไปจ่ายตลาด แต่ล่ะค่ายก็มีการขับที่ไม่ค่อยเหมือนกันเพราะการออกแบบรถออกแบบเกียร์มันไม่เหมือนกัน ใช้คนล่ะเทคนิคกันเลย ถ้าได้อบรมแล้วเราจะรู้ว่าตัวเราต้องการขี่รถแบบไหน ซีซีเท่าไหร่ถึงจะเหมาะกับเรา
ปล. ผมเคยไปอบรมมากับครูฝึกนักแข่งของ YAMAHA ก่อนจะซื้อรถบิ๊กไบค์ ทั้งที่ตัวเองเคยอบรม Academy การขับมอไซด์ทั่วของค่ายนี้มาก่อน พอมาขับบิ๊กไบค์ จึงรู้ว่าตัวเองก็คงไม่ได้ชอบหรือหลงใหลมันเท่าใดนักเลยไม่ได้ไปซื้อมาต่อ แต่คนอื่นที่เขาชอบและได้ไปต่อเขาจะไปขับขี่กันที่สนามพีระ หรือไปดูแข่ง MOTO GP ที่มาเลเซีย
ไม่มาแว้นกันบนถนน เข้าเลนทางด่วนให้คนอื่นเห็นหรอก
*********************************************
ก่อนและหลังเรียนเป็นอย่างไรบ้าง?
เปรียบเทียบเหมือนคนที่ไม่รู้หนังสือกับคนที่อ่านออกเขียนได้ มันต่างกันมากครับ หากเราพยายามจะเรียนรู้ด้วยตัวเองแต่ไม่รู้ว่ามันอ่านยังไง แต่ถ้ามีคนมาสอนจะทำให้ราพัฒนาตัวเองได้เร็วกว่า เพราะมันไม่ใช่การลองถูกลองผิด เนื่องจากเรายังไม่รู้เลยว่า อะไรคือถูกและอะไรคือผิด ซึ่งมีหลายคนที่พลาดไป กว่าจะเรียนรู้ได้บางทีอาจต้องใช้ชีวิตเข้าแลกด้วยซ้ำ
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9550000102249 อีกตัวอย่างนึงของคนดังอย่างแด๊ก บิ๊กแอส นักร้องรุ่นใหญ่ ขี่มอไซด์มาตั้งแต่อายุ 16 ปี แต่สุดท้ายก็พบความจริงที่ว่าคนเรามันต้องเรียนการขับรถอย่างถูกต้องครับไม่ใช่ไปลองผิดลองถูกวิธีการขับรถกันบนถนน เอาถนนเป็นประสบการณ์ชีวิต