ผู้เขียน หัวข้อ: อยากถอย New Nissan Teana แต่เห็นอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแล้วต้องคิดใหม่ ทำไงดี  (อ่าน 15581 ครั้ง)

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
รถ D-segment ที่ไม่ใช่ Hybrid ถ้าเน้นใช้งานในเมือง ทำใจเรื่องน้ำมันครับ ไม่ว่ายี่ห้อไหน
เพราะรถหนัก ถ้าเจอรถติดๆก็คงโดน 6-9 โลลิตร ไม่มีข้าม 10 ให้เห็นง่ายๆหรอกครับ แต่ก็ยังกินน้อยกว่ารถยุโรปเครื่อง 6 สูบ

L33 เครื่อง 2.0 ถ้าจำไม่ผิด เป็นเครื่องเดียวกับ J32 ซึ่งเครื่องตัวนี้ สามารถติดแก๊สได้ครับ
หรือถ้าไม่อยากติดแก๊ส ลองไปดู Camry HV CD ขอส่วนลดแบบที่ rep บนบอก
หรือจะไปเอา Accord G9 ก็ได้ เพราะเติม E85 หารออกมา คงประหยัดใช้ได้อยู่ น่าจะตกไม่เกิน 3.5 บาท/กม

ไม่งั้นก็ต้องเล่นพวก B/C Segment แล้ว

ออฟไลน์ decptt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,572
ถ้ามีเงินซื้อรถล้านกว่าน่าจะมีเงินเติมน้ำมันได้นะครับ
ไม่งั้นก็ลองมอง c seg ดู แล้วเก็บเงินที่เหลือไว้เติมน้ำมันครับ

ไม่น่าเกี่ยวนะครับ เพราะเห็นรถสมัยนี้ราคา เกือบ 2m หรือ 2m+ ก็ชูจุดขายที่การประหยัดน้ำมันทั้งนั้น
เช่น Accord Hybird, Prius, Camry Hybrid, E200 NGT, F10 520d, 525d, F30 320d, 325d
พวกที่ไม่แคร์น้ำมันน่าจะเป็นกลุ่มคนที่สามารถเบิกค่าน้ำมันจากบริษัทได้ หรือรถวันหยุด
ขับอาทิตย์ละ 2-3 วัน

ปล. ผมว่าหมดยุครถแพงไม่แคร์ราคาน้ำมันแล้วนะครับสมัยนี้

ค่อนข้างเห็นด้วยครับ
แฟนผมขับ City แต่เบิกค่าน้ำมันกับ บริษัทของลุงได้ น้ำมันซดแค่ไหนก็ไม้สะท้าน ขับแบบไม่สนความประหยัดเลย ขับแบบมีความสุขสุดๆ เดือนนึงค่าน้ำมันประมาณ 8-9 พัน (ขับไม่ค่อยเยอะ)
ส่วนผมขับ G9 บอกตรงๆว่า ไม่ค่อยมีปัญญาจ่ายค่าน้ำมันเท่าไรครับ ส่งรถก็เดือนละ 23,xxx แล้ว แถมขับเดือนละ 8-9 พันโล ค่าน้ำมันปาไปเกือบเดือนละ 4 หมื่น รวมกินใช้ ไหนจะผ่อน ฯลฯ เงินเดือนแสนนึงยังอ่วมเลยครับ ฮ่าๆ
ก็เลยจับติดแก๊สซะ! ค่าแก๊ส+น้ำมันไว้สตาร์ทหรือแก๊สหมด เหลือเดือนละประมาณ 15,000 จาก 4 หมื่นกว่าๆ จากหน้าซีดๆเหลืองๆ ตอนนี้หน้าค่อยมีสง่าราศรี(เพราะมีตังค์ไปบำรุงหน้าบ้าง แถมเงินที่เหลือเลยไปสมัครฟิตเนสปั้นกล้ามซะเลย!)
อย่าง F30 ที่เลือกซื้อ ก็เพราะความประหยัดสุดๆนี่แหละครับ ถ้าทนขับ 120 ตลอดทางได้ ก็ไม่เคยเกิน 1.7 บาท/กม. (ถนนบ้านนอก) ไม่ต้องถวิลหาแก๊สเลย

คนเรากิเลศต่างกัน ปัจจัย 4 ไม่เท่ากัน มันก็พูดยากนะครับ
ส่วนตัวผมจะแคร์เรื่องค่าเชื้อเพลิงมาก ถ้าควักเอง แต่ถ้าวันไหนมีคนเติมให้ หรือเนียนๆไปเบิกค่าน้ำมันกับใครได้ วันนั้นผมไม่แคร์อัตราสิ้นเปลืองเลย แคร์ว่าจะมีใครแซงมากกว่า ฮ่าๆ

ส่วนคำถามของพี่ จขกท.
ผมมีความเห็นว่า ซื้อ Teana ไปเลยครับ ถ้าชอบจริงๆ อัตราสิ้นเปลืองไม่หนีกันเท่าไรหรอกครับ ยกตัวอย่าง ถึง G9 ประหยัดกว่า แต่ถ้าเท้าหนักๆ มันก็กินกว่า L33 ที่ขับแบบชิลๆ แน่นอน อยู่ที่พฤติกรรมการขับเป็นหลักด้วยนะผมว่า

ถ้าปรับที่ตัวรถไม่ได้ ปรับที่ตัวเราง่ายกว่าครับ แถมได้รถที่ชอบ ไม่ต้องมาเสียดายภายหลัง ว่า รู้งี้....รูงั้น.....

สุดท้าย
ติดแก๊สเลยครับ 555
ขอนอกเรื่องนิดนึงนะครับ
ทำงานอะไรทำไมใช้รถเยอะมากๆเลยครับ เดือนละ 8-9 พันโล
แบบนี้ติดแก้สไม่เกิน 2 เดือนก็คืนทุนแล้ว เหลือเงินเที่ยวเพียบเลย ฮ่าๆ
ที่วิ่ง 8-9 พันต่อเดือน ไม่ได้วิ่งในงานเลยครับ
พอดีแฟนผมอยู่ปทุม ส่วนผมอยู่พิดโลก ไปกลับประมาณ 600 โล อาทิตนึงผมไปๆมา 2-3 ครั้ง เดือนนึงก็ราวๆ 10 ครั้ง ส-อ ก็เที่ยวทีนึงไม่ต่ำ 500 โล เพราะบ้านนอก แค่ขับไปในเมือง ไปกลับก็ 200 กว่าโลแล้ว
ยังไม่นับไปเที่ยวไกลๆ พอเฉลี่ยออกมา ก็ตกใจเหมือนกันครับ เหมือนขับรถวันละ 300 โล ทุกวัน
(บางวันขับพันกว่าโล บางวันก็ไม่ได้ไปไหน)
ตอนผมเอารถไปเช็คระยะ พนง.รับรถ ทำหน้างงๆ แล้วบอกว่า พึ่งเข้ามาเมื่อ 2 เดือนที่แล้วเองนี่ค่ะ แต่พอดูเลขไมล์ พนง.ก็ตกใจเบาๆ แล้วบอกว่ารถน้องใช้งานหนักมาก 2 เดือนขับไป 16,000 โล
(ผมลากเช็คระยะ)

คือบ้านผมเป็นท่าข้าว ช่วงไหนไม่มีข้าว ก็จะว่างลั๊นลาได้ครับ แต่ถ้าหน้าข้าวออก ก็คงไม่ขับเนอะขนาดนี้ ฮ่าๆ

ปล.ผมยังอยากเอา G9 ไปทำรถเช่า+คนขับ อยู่เลยครับ ขอค่าขับสักวันละ 700 พอ แก๊สจ่ายตามจริง
เพราะผมชอบขับรถมากๆ ใครจะไปไหนผมก็ชอบอาสาพาไป แต่ถ้ามันได้ตังด้วยก็น่าจะดี แต่ก็ยังคิดๆ ไม่รู้จะเริ่มยังไง + กลัวๆ ด้วย

ตั้งเฟสบุ๊ด
รับส่ง กรุงเทพ- มอนอครับ
รับแต่นักศึกษาชาย อิอิอิ (รับหญิง คงโดนแฟนทิ้งแน่ๆ 555+) รับแค่ 4 คน ค่าโดยสารคนละ 300 บาทเท่ารถทัวร์ ก็ได้แล้วค่าน้ำมันรถไปกลับกรุงเทพ 555+

ออฟไลน์ w_th

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 329
จากงบ จขกท. ถ้าเจาะจง d seg ก็จะได้เป็นเครื่อง 2.0 ธรรมดา
หากเน้นประหยัดจ๋า จากการใช้งานในเมืองเป็นหลัก เห็นทีจะไม่มีคันไหนตอบโจทย์ได้แน่นอนล่ะครับ

แต่ถ้า จขกท. ใช้งานอยู่ ตจว. เป็นคนขับรถเรื่อยๆ เจ้า L33 2.0 ก็พอมีความประหยัดให้เห้นได้บ้างนะครับ :)

วันนี้ผมขับเจ้า L33 2.0  พะเยา-เชียงราย
ตัวเลขที่ได้ตามภาพครับ...
ภาพแรก 18.7km/l ที่ระยะทาง 100km พอดี
ภาพที่สอง ตอนกลับถึงบ้าน 17.3km/l ที่ระยะทาง 218km  ขากลับ มีแวะธุระในตัวเมืองเชียงราย และเป็นช่วงเลิกงานพอดี รถเยอะหน่อย

ถ้าวิ่งในเมืองเต็มๆ ตัวเลขความสิ้นเปลือง มีหนาวครับ  ;D

ปล. รถใช้ E20 ทางโล่งเปิด cruise วิ่่ง 100  ถ้าผ่านชุมชน หรือช่วงรถเยอะก็วิ่งไหลตามกันไปครับ
พะเยา-เชียงราย จะมีแยกไฟแดงเยอะหน่อย ไปกลับ น่าจะประมาณ 20+ จุดครับ