ถ้าคุณ ชอบอันไหน ก็เลือกอันนั้นเลยครับ
1. ถ้าเลือกซื้อรถเยอรมันมือสอง (รถยุโรปชาติอื่นไม่น่าเลือกครับ) ก็ต้องรับความเสี่ยงหน่อย แต่ใช้สักสองปี ก็ไม่ขาดทุนเยอะ
เช่น W211 ใช้ 1 ปี ก็คงไม่ขาดทุนเท่าไร ใช้ 2 ปี อย่างมากก็ 200,000 บาท หรือ น้อยกว่านั้น เพราะ มันตกมากแล้ว
แต่ W211, W203, W220 เป็นรถที่ไม่ทน และ อะไหล่แพงมาก ส่วน W204,W212, W221 ทนกว่า อะไหล่ถูกกว่า เป็นต้น
ข้อเสียสุดๆ โชคดี ก็ได้คันที่ดี อาจจะไม่ต้องซ่อมเลย เพื่อนผม ซื้อ BMW E60 มา แรกๆ ก็โดนค่าซ่อมไป 60,000 บาท แต่หลังจากนั้น ใช้ไป 2-3 ปี ก็แทบไม่ได้ซ่อมเลย แต่ถ้าโชคร้าย เจอคันซ่อมตลอด ก็เซ็งเหมือนกัน
รถเยอรมัน มือสอง ปีใหม่ๆ ที่สภาพดี ยังไง ผมว่า ก็ยังขับดีกว่า รถญี่ปุ่น D-Segment ป้ายแดง
ไม่เคยเชื่อใครเลยว่า รถญี่ปุ่น จะขับดีเท่า
และ ถ้าพูดถึง ภาพพจน์ รถเยอรมันมือสอง ปีใหม่ คนอื่นๆ ก็ยังดูว่ามันสูงกว่ารถญี่ปุ่นป้ายแดง
แต่ถ้าถามว่า ใครขับสบายกว่า อันนี้ซิ รถญี่ปุ่นมีส่วนครับ
รถเยอรมัน ตอนซื้อ อยากได้ มากกว่า รถญี่ปุ่น
พอใช้ไปซักพัก สลับกับรถญี่ปุ่น รู้สึก อยากขับรถญี่ปุ่นมากกว่า
สำหรับ รถยุโรป ต้องทำใจไว้นะครับ ไม่ว่ารถใหม่ หรือ มือสอง เพราะ ชิ้นส่วนในรถมันเยอะ และ ออกแบบซับซ้อนมากกว่ารถญี่ปุ่น จึงมีโอกาสเสียมากกว่า แต่แลกมาด้วยการขับขี่ที่ดีกว่า
2. ถ้าเลือกซื้อ รถญี่ปุ่นป้ายแดง D-SEG ต้องใช้สัก 4 ปี ถึงเริ่มคุ้ม เพราะ ปีแรก กับ ปีที่สอง จะขาย ขาดทุนอย่างน้อย 3-4 แสนขึ้นไป เช่น
แคมรี่ แอคคอร์ด เทียน่า 2.0 ราคา 1,300,000 บาท ใช้ 1 หรือ 2 ปี ไม่ชอบ จะขาย ก็ต้องขายที่ราคา 900,000-1,000,000 บาท ไม่งั้นใครจะซื้อ
ถ้าใช้ 4 ปี ก็จะเหลือ 700,000 - 800,000 บาท ( 2.0 ขาดทุนไป 600,000 บาท )
ส่วน รุ่น 2.4 หรือ 2.5 เวลาซื้อ ซื้อมา 1,5000,000-1,800,000 บาท (แตกต่างกัน 200,000-500,000 บาท) แต่เวลาใช้ไป 4 ปี ราคาขาย จะสูงกว่า 2.0 ไม่เกิน 100,000 บาท หรือ อาจแค่ 30,000 บาทเอง ตอนซื้อแตกต่างกันเยอะมาก ตอนขาย แตกต่างกันไม่มาก (รุ่น 2.4 หรือ 2.5 ขาดทุนไปถึง 800,000-1,000,000 บาท)
เอาเงินที่ขาดทุน มาเช่ารถแทนพอไหมเนี่ย ถ้าพอก็ดีนะ จะได้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ประกันก็ไม่ต้องเสีย Maintainance ก็ไม่ต้องเสีย เบื่อก็เปลี่ยนรุ่นไปเรื่อยๆ
ถ้าเป็นคนมีเงิน หาเงินได้อยู่เรื่อยๆ เรื่องขาดทุนเยอะ ก็คงไม่ต้องไปสนใจครับ เพราะ หาเงินได้ง่ายมาก อยากเปลี่ยนรถเมื่อไร ก็เปลี่ยน ไม่คิดมาก เต็นท์ตีเท่าไรก็เอาไปเลย
เดี๋ยวนี้ เทรนซื้อรถมือสอง ไม่ว่าจะรถอะไร คน Generation นี้ เค้าไม่เอาแล้ว ไม่เหมือนสมัยก่อน ยังมีการเลือกว่า จะเอารถยุโรปมือสอง หรือ ญี่ปุ่นป้ายแดงดี
เขาเลือก รถป้ายแดง เท่านั้น ไม่ต้องซ่อม ซื้อแบบ ซื้อมือถือ samsung iphone หมดประกัน หรือ เสียต้องซ่อมเกิน 50,000 บาท หรือ ออกรุ่นใหม่ ซื้อใหม่เลย
จะขาดทุนหลายแสนก็ไม่ว่า
แต่ขอ ห้ามซ่อม เลยแม้แต่นิดเดียว จะอยู่ในประกันซ่อมฟรี หรือ เพิ่งหมดประกันห้าง
ถ้ายังอยู่ในประกันซ่อมห้าง แล้วมีซ่อมเกิน 2 ครั้ง ไม่หาย ก็จะเอามาประจานในเว็ปทันที
เทรนฮิตเลย
รถญี่ปุ่น ป้ายแดง ไม่ใช่ว่า จะไม่มีซ่อม 100% เหมือนหลายคนคาดหวังนะครับ
ทั้ง Accord และ Teana ก็มีคนซื้อได้ไม่ถึงเดือน จึงเคสหนักๆ ถึงขนาด ขอเปลี่ยนรถ หรือ ขอคืนเงิน ก็มีมาแล้วนะครับ
อย่าคาดหวังอะไรมากเกินไป เพียงแต่ว่า ความเสี่ยงยังต่ำอยู่
ดังนั้น จขกท จะถามเว็ปไหน 99.99% ผมว่า เขาตอบ รถใหม่ทั้งนั้น แบบไม่ต้องคิดมาก รวมทั้ง ผม ด้วย 5555
ปล. ขับเร็ว ก็คงต้องเลือก Teana 2.5 (แต่ในความคิดผม ผมว่า มันไม่สวยเลย ทั้งภายในและภายนอก ถือซักว่า เอาขับดีเป็นหลัก)
แต่ผมเลือก Accord เพราะ 1.E85 2.ความสวย ขับดีพอไปวัดไปวาได้ (ขับไม่ค่อยเกิน 140km) ขับไม่ได้แย่ถึงขนาดขับเท่า C-Segment ( ซื้อรถคันเป็นล้าน แต่ขี้เหนียวค่าน้ำมัน 5555 )
สุดท้ายละ ถ้าขับที่ความเร็ว 160-170 km/h แช่เป็นเวลา 2 นาทีขึ้นไป บ่อยๆ รถญี่ปุ่น D-Segment จะขับแล้ว เกร็งเหนือยเครียดไหม ผมก็ไม่เคยลองนะ