ผู้เขียน หัวข้อ: สนใจรถ BMW มือสอง รุ่น ปี 2005-2009 ขอคำแนะนำ รุ่นไหนน่าเล่น  (อ่าน 14817 ครั้ง)

ออฟไลน์ imac

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 42
ผมสนใจรถ BMW เห็นราคาในเว็บมือสอง รุ่นที่ผมชอบ (รูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียวก่อนนะครับ) ราคามันลงมาในกำลังทรัพย์ที่ผมเอื้อมถึงครับ

ผมดู series5 และตัว series3 ไว้ครับ ส่วนตัวชอบ5 มากกว่าคือรถที่ฝันไว้ว่าซักวันกูจะซื้อมาขับ  ทีนี้อยากรู้ว่ามีรุ่นไหนน่าเล่นบ้าง  ในงบ 5-7 แสนครับ  ถ้ารถมาอยู่กับผมแล้วผมเอาไปติดแก๊สแน่นอน  ไม่สนใจใครครหาครับ  ผมขอแค่ตัวถังและระบบความปลอดภัยที่ดีกว่ารถญี่ปุ่นผมโอเคแล้ว

เลยอยากรบกวน ชี้แนะหน่อยครับ ว่าควรเล่นตัวไหน  ตัวไหนที่ค่าดูแลไม่หนักหนา หาอะไหล่ได้ง่าย ไม่เน้นเข้าศูนย์ครับ

ความรู้เกี่ยวกะ bm ผมเป็นศูนย์ครับ อยากรู้รุ่น ขนาดของเครื่องยนต์ในรุ่นที่แนะนำด้วย ว่ากี่ CC  รุ่นที่แนะนำจะมีปัญหาอะไรที่พบเจอบ้าง

ผมชอบโฉมแบบรูปที่แนบมาครับ   ทีนี้ตัวซีรี่3 จริงๆแล้วผมไม่ค่อยชอบ แต่ถ้าโดยรวมคือ ราคาและค่าดูแล หรืออะไหล่หาง่ายและดูแลง่ายกว่าก็พร้อมพิจารณาเหมือนกันครับ

jomyoot

  • บุคคลทั่วไป
มารอฟังด้วยคนครับ ผมก็สนใจแบบเดียวกับคุณเลย กระทุ้ติดกันเลย ถ้าได้รับคำแน่ะนำดีๆจากกระทู้ของคุณ

ผมก็เซฟเงินได้เป็นล้านเลยละครับ  :D :D :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 29, 2014, 02:01:33 โดย jomyoot »

ออฟไลน์ kez

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,591
 เริ่มแรกทำใจก่อนเลย ถ้าจะเล่นรถที่เกือบ 10 ปี

 ตัวรถ 5 ยังไงก็ดีกว่า 3

 ส่วนเรื่องเครื่อง เป็นคนเท้าหนักหรือเปล่า  ถ้าขับเรื่อยๆ 520I  แต่ถ้าขับหนักๆ ก็ต้อง 525i

 กลัวเรื่องซ่อมคงไม่ใช่ประเด็นถ้าขับแล้วไม่พอใจ      ไปหาลองขับดู

ออฟไลน์ ixoxi999

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 93
    • อีเมล์
ตัว E60 สวยครับ แต่ค่าซ่อม ไม่สวยเหมือนตัวรถนะครับ เตรียมงบไว้ซ่อมเท่าไหร่บอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่า ได้รถที่ดีมาหรือเปล่า

ออฟไลน์ View

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,890
  • -SIXFLOOR-
    • อีเมล์
ถ้าพอรู้จักกับอู่ซ่อมก็โอเคแล้วครับ ซื้อมือ 2 เล่น 525i ไปเลยครับ
2013 Honda City 1.5V
2013 Chevrolet Trailblazer 2.8 LTZ 4WD

ออฟไลน์ swiich

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 210
ถ้าพอรู้จักกับอู่ซ่อมก็โอเคแล้วครับ ซื้อมือ 2 เล่น 525i ไปเลยครับ

ถ้าเป็น series 3 ต้องตัวไหนครับ

ออฟไลน์ KyOcHiR0

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 196
    • อีเมล์
E60 จะติดแกสเหมือนมีคนแนะนำมาอีกทีอ่ะคับว่าต้องเครื่องฝาดำจะติดง่ายกกว่า จบง่ายกว่า ;D
HeLLo!!

ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
ปีที่ว่า หากเป็นดีเซล จะเป้นรุ่นแรก ซึ่งส่วนตัวผมว่า มันยังไม่ลงตัว แล้วปีที่ว่า เครื่องเบนซิน bm 6 สูบยังมีอยู่ ซึ่งเป็นเครื่องที่ผมชอบมากที่สุด แต่ แต่ แต่

เล่นรถเกือบ 10 ปี สิ่งที่ต้องทำ คือ หลังจากซื้อแล้ว ต้องจัดงบ ผมว่าประมาณ 1-2 แสน ขึ้นต่ำ เพื่อยกระบบ และรื้อ ซ่อมส่วนที่สึกหรอ เอาแบบซ่อมจบ  ที่สำคัญ ต้องหาอู่ที่ไว้ใจ หรือรู้จัก จะช่วยเซฟค่าอะไหล่ไปเยอะมาก และผมเชื่อว่า ไม่ว่าปัญหาอะไร หากเราซ่อมถึง มันจบได้ อู่นอก ถึงจำเป็นต้องไว้ใจได้ครับ

ส่วนตัวรถ หากชอบ E60 จัดเลย ราคาร่วงเยอะ เพราะข่าวปัญหามันเยอะมาก แต่ผมก็รู้จักคนใช้หลายคน ก็ไม่มีปัญหา รถ 3 ล้าน จะให้ซ่อมหลักพัน ก็คงไม่ใช่นะ อันนี้ต้องยอมรับ ตามราคารถ ถึงตอนนี้ราคาต่ำล้าน แต่ราคาอะไหล่ ไม่ได้ลดตามราคารถนะครับ ถึงจะหารถได้ต่ำล้าน ซ่อม 2 แสนเป็นเรื่องปกตินะครับ ทำใจได้ไหม  3 ตัว E90 ผมไม่ชอบเลย ไม่สวย หากถามส่วนตัว E60 เป็น BM ที่สวยที่สุดรุ่นนึงเลยทีเดียวครับ  เลือกให้ ซื้อมือสองเลือก 525i ครับ เครื่อง 6 สูบ หารุ่นใหม่ๆ ที่สุด ที่หาได้ ประวัติครบ ก็สบายใจไปได้ระดับนึง 520 กับ 525 มือสองราคาต่างกันไม่มากนัก เอารุ่นท๊อป อุปกรณ์ครบ แล้วท่านจะได้รู้ว่า ทำไมคนถึงบอกว่า BM มันขับสนุกครับ

ปล. E90 ข้างในมันเล็กนะครับ ลองไปนั่งดู แต่หากชอบบอดี้เล็กๆ ก็โอเค ผมก็ยังแนะนำให้หา 325i นะครับ อิอิ ผมชอบเบนซิน 6 สูบของ BM
S3 - F30
X1 - E84

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,369
ในเวปนี้มีคนใช้ E60 หลายคนเหมือนกัน คิดว่าอีกสักพักคงมีคนมาตอบเพียบ
อันที่จริงในนี้ก็มีคนถามเรื่องนี้หลายคนแล้วเหมือนกัน ผมลองค้นๆดูในอากู๋เจอกระทู้อยู่เพียบ ลองเอากระทู้เก่าๆมาศึกษาดูก่อนก็ได้ครับ
เช่น
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?topic=13777.0
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?topic=36113.30
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?action=printpage;topic=38201.0

ออฟไลน์ accord

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 443
  • CLS 250d AMG :)
ใจอยากให้เล่น 520d แต่งบ จขกท ขาดอยู่อีกหลายแสน

ลองดูตัว 525i เผื่อได้ราคาในงบ   ผมว่า ​E60  ก็เป็นตัวเลือกนึงที่น่าใช้

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,635
  มีเงินซื้อรถมือ 2 BMW  แบบนี้  ควรมีงบซ่อมเผื่อไว้ด้วย 3-5 แสน ตีแบเยอะหน่อย  ถ้าน้อยหน่อยก็ต้องมีเรท 2-3 แสนครับ  ไม่ว่าได้สภาพไหนมา เพราะค่าดูแลรถยี่ห้อนี้มันสูงมากปกติเขาซื้อป้ายแดงกัน  หมดประกัน BSI  จึงขายทิ้ง  อู่ซ่อมข้างนอกเยอะแยะ     
ถามว่าเล่นตัวไหนดี   BMW  เน้นไปที่ดีเซลดีกว่าจะได้ประหยัดค่าซ่อม ค่าน้ำมัน อีกทั้งสมรรถนะดีกว่าเบนซิน ยกเว้นชอบเบนซิน    ส่วนรุ่นอะไรขึ้นอยุ่กับการไปลงอขับก่อน 5 ใหญ่กว่า 3 นั่งสบายกว่า

ออฟไลน์ yod artstu

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,158
รุ่นนี้ หลัง BSI เช็คค่าซ่อมเกียร์ เปลี่ยนเกียร์ครับ
รถมันเทคโนโลยีสูงในสมัยนั้น เซนเซอร์และส่วนประกอบจึงเยอะ และมีโอกาสเสียง่ายครับ
กันเงินเผื่อไว้ 300,000-บวกลบ 1 แสนครับ เพราะมือใหม่ยังไง งบก็บานอยู่แล้ว
เบื้องต้น รับรถมาปรับสภาพก็ต้องมีเกินแสนละครับ พวกช่วงล่าง ท่อยางต่างๆ
วาวล์วน้ำ ปั๊มน้ำ หม้อน้ำ ปั๊มติ๊ก / เบิกของใหม่ได้ก็ดีครับ
: )

ออฟไลน์ ชายโอ๊ต

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,034
เคยใช้ของญาติแฟน ร่วม 2 เดือน เป็นตัว E60 525i เกียร์ไฟฟ้า
รถสวยจริง เสียงเครื่องเพราะ แต่ผมยังรู้สึกว่ามันแรงไม่พอนะ หน้ารถมันเบาๆ

ส่วนตัวดีเซล คงต้องเพิ่มงบอีกเยอะ
แต่ถ้าจะเล่นจริงๆ แนะนำดีเซล
หรือไม่ก็ต้องเป็น E60 525i ตัวท้าย
หรือ E90 325i ครับ
"ศัตรูแห่งความก้าวหน้า คือเวลาที่เสียไป"

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
ถ้าติดแก๊ส ผมว่า 525i SE เครื่อง M54 ฝาดำ ช่วงปีประมาณ 2004-2007 น่าจะเวิคสุดครับ
ค่าตัวอยู่ประมาณ 7-8 แสน หรืออาจต่ำกว่านี้นิดหน่อย

เตรียมงบซ่อมรอบแรก ไว้ 1 แสน หลังจากนั้น ปีละ 3 หมื่น ถ้าได้รถสภาพดีๆมา คงไม่แพงขนาดนี้ แต่เตรียมเผื่อไว้ก่อนครับ
ให้ดู แร็คพวงมาลัย เกียร์ และ ช่วงล่างเป็นพิเศษ ถามคนขายว่า เคยทำอะไรมาบ้าง

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
E60 preLCI 525ise ครับ

ส่วนค่าซ่อมรอถามพี่ๆในนี้ดูครับ ถ้าอุปกรณ์หลักๆพังก็แพงเอาเรื่องเลยนะครับ

ออฟไลน์ boneshiro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 460
  • M Power Addicted
    • อีเมล์
เข้า fb แอดกรุ้ป e60 society ครับถ้าสนใจ
ข้อมูลจากผู้ใช้จริง ร้อยกว่าคัน
ต้องเตรียมตังซ่อม 3-4 แสน ไร้สาระครับ
M power Thailand
M5 e60 V10

ออฟไลน์ yod artstu

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,158
ก็นะครับ / ถ้าผู้ซื้อดูรถเป็น ทราบประวัติ
แต่ถ้า ได้รถเกียร์เสีย ผ่าเกียร์ไม่ไหว (ถึง ZF ลูกนี้จะราคาลงมาแล้วก็ตาม)
ฝาสูบโก่ง รถเคยฮีท แรคพวงมาลัยมีอาการ
เซนเซอร์บางตัว หรือระบบไฟฟ้าบางอาการ
โดยของเหล่านี้ ไม่ต้องเปลี่ยนภายในครั้งเดียวได้
หรือจะซื้ออะไหล่มือ 2
แต่มันจะซ่อมไม่จบ และต้องมีเรื่องให้เปลี่ยนเรื่อยๆ
มันก็จะไม่ใช่เรื่องไรสาระทันทีครับ

E60 ที่อู่ประจำผม แวะเวียนเข้ามาเรื่อยๆ เจอทุกครั้งที่ไป
หลากหลายอาการ ตั้งแต่ซ่อมสามสี่หมื่น แทบไม่มีอะไรเสีย
จนถึงรวนทั้งคัน จน ย้ำว่าจะต้องดูเป็นครับ
และเรื่องราคางบที่กันไว้ซ่อม / ไม่ใช่เรื่องไร้สาระเป็นอันขาด

ถ้าใช้แล้วใช้ดี รู้ราคาอะไหล่ เบิกเองได้
มีอู่ที่รู้จัก (หากไม่เคยใช้-ก็ยังจะไม่รู้จัก)
รู้ประวัติรถ ประวัติดูแลรักษา อันนั้นถึงโอเคครับ
ถ้าจับจากเตนท์ รับรอง มีหมกอาการไว้แน่ๆครับ

ลองเข้ากล่ม E60 หรือ BM Socity ก็ได้ครับ
หลากหลายอาการ-งบประมาณซ่อม
เผื่อจะได้รถที่ประวัติดีในนั้นเลย
: )

ออฟไลน์ boneshiro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 460
  • M Power Addicted
    • อีเมล์
ถ้าแทบไม่มีอะไรเสียยัง 3-5 หมื่น แนะนำเปลี่ยนอู่ครับ
e60 ตอนนี้บางคันในตลาด 6-7 แสน
จะให้เตรียมค่าซ่อม 3-5 แสน ผมยืนยันคำเดิม ไร้สาระครับ
เกียร์พังเดี๋ยวนี้เปลี่ยนวาล์วบอดี้ 2-3 หมื่น แร้กมือสองลูกนึง 2-3 หมื่น
ใช้ได้เป็นแสนโล ไม่อยากใส่แร้กไฟฟ้า เอาแร้กธรรมดายัดใส่ยังได้
คอมแอร์ ลูกละหมื่นต้นๆ เอาอะไรมาเสีย 3-5 แสน
ถ้ามันห่วยขนาดนั้น ป่านนี้หายจากถนนแล้วครับ

ถ้าไม่ได้เข้าศูนย์ ผมไม่เคยเห็นใครต้องซ่อมขนาดนั้นสักคัน
เวลาเจอกระทู้แบบนี้ทีไร ต้องมี comment ของคนที่ไม่ได้ใช้บอกว่ามันน่ากลัวสะเหลือเกิน
ผมอ่านแล้วก็แคปไปให้ในกรุ้ปดูขำๆทุกที
M power Thailand
M5 e60 V10

ออฟไลน์ yod artstu

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,158
ขออำภัย-กระผ๊ม คงพิมพ์ตกไปด้านบน  ที่อู่นั้น หมายถึงบางคันก็โชคดีไม่มีอะไรเสียครับ
ขณะที่ มีแค่บางคันก็มีอาการมาพร้อมกันหลายๆอย่างคราวเดียว มีตั้งแต่หมื่น ถึงแสน เพราะเบิกของใหม่ ไม่เอาของมือสอง

การกำเงินหลักหมื่น-แสนไว้ช่วงแรกเพื่อปรับสภาพ ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ
เพราะเราไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ได้รถมายังไงใหม่ไหม หรือซ่อมอะไรมาแล้ว
ส่วนงบหลังจากนั้นเป็นงบบำรุง ไม่ได้ให้ใช้หมดโครมเดียว
แต่ไอ้ประเภทโครมเดียวสามแสนคงเป็นไปไม่ได้

จขกท เค้ายังไม่มีประสบการณ์ในการดูแลรถยุโรปเก่าที่มีระบบอะไรซับซ้อนเยอะๆ
งบประมาณก็มี 5-7 แสนเป็นงบซื้อรถ และ ยังไม่ทราบงบซ่อม
สเตปแรกๆอาจโดนฟันก็เป็นได้ เห็นพี่ๆน้องๆ ใน Bm Socity บางท่านโดนมาหนักอยู่

แต่การเตรียมงบปรับสภาพไว้ก็ดี (แล้วแต่สภาพรถที่ได้มา) จะได้เปลี่ยนอะไรที่ควรเปลี่ยน
และกันงบไว้บำรุงรักษารถตลอดการใช้งาน
แต่จะเสียเงินหรือไม่ ก็แล้วแต่ตัวรถ ถ้าไม่เสีย ก็ถือว่าโชคดี และกันงบการบำรุงรายปี ไม่ไร้สาระหรอกคร๊าบ

เพราะเราไม่รู้ว่าจะได้คันราคาถูกแต่แจ๊คพอตแตก วิ่งน้อยวิ่งเยอะ ทำอะไรมาบ้าง ซื้อกับคนไม่รู้จัก
ยกเว้นซื้อจากคนในคลับ ก็พอเบาใจหน่อย แต่น่านแหละใครจะรู้ว่ามันจะต้องเสียอะไรบ้าง
และเจ้าของอยากทำอะไรกับรถบ้างสเตปไหนบ้าง
เค้าอาจไม่ชำนาญในการดูรถ งบน้อยเผื่อใจมีงบซ่อมไว้บ้างก็ดีครับ ดีกว่าได้รถมาแล้วหมดงบซ่อม

หลายปีก่อนหน้าที่บ้านซ่อม E34 ตั้งแต่อยู่กะยนต์ตะกละ หมดไปเรือนแสน
และซ่อมอู่นอกหยุมๆหยิมๆแถวรองเมือง ที่ไม่ชำนาญแต่ใกล้บ้าน หรืออู่ bm แถบเอกมัย
มาเรื่อยๆจนสะสมบิลแล้วไม่อยากอ่าน ยิ่งเมื่อเทียบกับ เวป realoem แล้วกลุ้ม

แต่ตัดสินใจ Restorationอีกครั้ง ยกเครื่องทำสีใหม่ เปลี่ยนไปเริ่มใหม่อู่แถวบางนา ทำใหม่ทั้งคันทั้งสีเช็คผุตัวถัง ภายในทั้งหมด
ซ่อมเบาะแผงประตู ระบบไฟ กระจกไฟฟ้า ลงเครื่องช๊อตบล๊อกลงเกียร์ใหม่ แพหลัง ไวร์ริ่งสาย ช่วงล่าง ระบบังคับเลี้ยว ท่อไอเสีย เบิกของใหม่ลง หม้อน้ำ
ระบบจุดระเบิด กล่องควบคุม เซนเซอร์ต่างๆหลายจุด เรกกูเรเตอร์หัวฉีด คอมแอร์ สายพาน
แต่ในที่สุด วันทดลองวิ่ง วาวล์น้ำค้างไม่เปิด (เบิกใหม่กะมือจากวัดโสม) เครื่องฮีท
แต่ยังจอดทัน ฝาไม่โก่ง และสไลด์ไปเปลี่ยนวาวล์ ก็เลยเปลี่ยนฟรีปั๊ม พัดลมหน้าไปอีกเพราะเหมือนมีอาการ

ก็มันบอกไม่ได้อ่ะครับว่าจะเจออะไรบ้างเวลาใช้รถเก่า 10 ขวบขึ้นไปและงบจะบานไปเท่าไหร่
สรุปก็เปลี่ยนไปหมดและหมดปัญหาไม่มีอะไรกวนใจ แต่ลงไปก็เยอะอยู่ แต่ไม่ใช่คราวเดียว

ก็สรุปว่ากำงบปรับสภาพก้อนแรกเยอะ เตรียมเงินเย็นไว้ซ่อมรายปีบ้างก็ดี เสียก็มีใช้จ่าย ไม่ใช้ก็โชคดีไปครับ
BM ไม่ได้น่ากลัว ถ้าพร้อมด้วยข้อมูลและทรัพย์ แต่หลายๆท่านมาเริ่มนับ 1 กับรถเก่ายุโรป ก็ต้องมีพลาดกันบ้าง
ผมก็ว่าควรจะหาข้อมูลเยอะๆไว้บ้างก็ดี  อู่บางอู่ ดีกะคนอื่น แต่กะเรา อาจไม่โอเค ก็แค่อยากให้เผื่อใจเผื่อทรัพย์
เผื่อโดนฟัน กับเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะต้องเสียเท่านั้น
ไว้ผมต้องถามหลังไมค์กับอู่ BlackList แล้วอ่ะครับ เพราะอยากหาอู่กลางเมืองที่ไม่ฟันหัวแบะ
เพราะจะพา E36 E39 ไปทำ

ค้าบผ๊ม  :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 30, 2014, 22:21:57 โดย yod artstu »
: )

ออฟไลน์ boneshiro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 460
  • M Power Addicted
    • อีเมล์
ขออำภัย-กระผ๊ม คงพิมพ์ตกไปด้านบน  ที่อู่นั้น หมายถึงบางคันก็โชคดีไม่มีอะไรเสียครับ
ขณะที่ มีแค่บางคันก็มีอาการมาพร้อมกันหลายๆอย่างคราวเดียว มีตั้งแต่หมื่น ถึงแสน เพราะเบิกของใหม่ ไม่เอาของมือสอง

การกำเงินหลักหมื่น-แสนไว้ช่วงแรกเพื่อปรับสภาพ ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ
เพราะเราไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ได้รถมายังไงใหม่ไหม หรือซ่อมอะไรมาแล้ว
ส่วนงบหลังจากนั้นเป็นงบบำรุง ไม่ได้ให้ใช้หมดโครมเดียว
แต่ไอ้ประเภทโครมเดียวสามแสนคงเป็นไปไม่ได้

จขกท เค้ายังไม่มีประสบการณ์ในการดูแลรถยุโรปเก่าที่มีระบบอะไรซับซ้อนเยอะๆ
งบประมาณก็มี 5-7 แสนเป็นงบซื้อรถ และ ยังไม่ทราบงบซ่อม
สเตปแรกๆอาจโดนฟันก็เป็นได้ เห็นพี่ๆน้องๆ ใน Bm Socity บางท่านโดนมาหนักอยู่

แต่การเตรียมงบปรับสภาพไว้ก็ดี (แล้วแต่สภาพรถที่ได้มา) จะได้เปลี่ยนอะไรที่ควรเปลี่ยน
และกันงบไว้บำรุงรักษารถตลอดการใช้งาน
แต่จะเสียเงินหรือไม่ ก็แล้วแต่ตัวรถ ถ้าไม่เสีย ก็ถือว่าโชคดี และกันงบการบำรุงรายปี ไม่ไร้สาระหรอกคร๊าบ

เพราะเราไม่รู้ว่าจะได้คันราคาถูกแต่แจ๊คพอตแตก วิ่งน้อยวิ่งเยอะ ทำอะไรมาบ้าง ซื้อกับคนไม่รู้จัก
ยกเว้นซื้อจากคนในคลับ ก็พอเบาใจหน่อย แต่น่านแหละใครจะรู้ว่ามันจะต้องเสียอะไรบ้าง
และเจ้าของอยากทำอะไรกับรถบ้างสเตปไหนบ้าง
เค้าอาจไม่ชำนาญในการดูรถ งบน้อยเผื่อใจมีงบซ่อมไว้บ้างก็ดีครับ ดีกว่าได้รถมาแล้วหมดงบซ่อม

หลายปีก่อนหน้าที่บ้านซ่อม E34 ตั้งแต่อยู่กะยนต์ตะกละ หมดไปเรือนแสน
และซ่อมอู่นอกหยุมๆหยิมๆแถวรองเมือง ที่ไม่ชำนาญแต่ใกล้บ้าน หรืออู่ bm แถบเอกมัย
มาเรื่อยๆจนสะสมบิลแล้วไม่อยากอ่าน ยิ่งเมื่อเทียบกับ เวป realoem แล้วกลุ้ม

แต่ตัดสินใจ Restorationอีกครั้ง ยกเครื่องทำสีใหม่ เปลี่ยนไปเริ่มใหม่อู่แถวบางนา ทำใหม่ทั้งคันทั้งสีเช็คผุตัวถัง ภายในทั้งหมด
ซ่อมเบาะแผงประตู ระบบไฟ กระจกไฟฟ้า ลงเครื่องช๊อตบล๊อกลงเกียร์ใหม่ แพหลัง ไวร์ริ่งสาย ช่วงล่าง ระบบังคับเลี้ยว ท่อไอเสีย เบิกของใหม่ลง หม้อน้ำ
ระบบจุดระเบิด กล่องควบคุม เซนเซอร์ต่างๆหลายจุด เรกกูเรเตอร์หัวฉีด คอมแอร์ สายพาน
แต่ในที่สุด วันทดลองวิ่ง วาวล์น้ำค้างไม่เปิด (เบิกใหม่กะมือจากวัดโสม) เครื่องฮีท
แต่ยังจอดทัน ฝาไม่โก่ง และสไลด์ไปเปลี่ยนวาวล์ ก็เลยเปลี่ยนฟรีปั๊ม พัดลมหน้าไปอีกเพราะเหมือนมีอาการ

ก็มันบอกไม่ได้อ่ะครับว่าจะเจออะไรบ้างเวลาใช้รถเก่า 10 ขวบขึ้นไปและงบจะบานไปเท่าไหร่
สรุปก็เปลี่ยนไปหมดและหมดปัญหาไม่มีอะไรกวนใจ แต่ลงไปก็เยอะอยู่ แต่ไม่ใช่คราวเดียว

ก็สรุปว่ากำงบปรับสภาพก้อนแรกเยอะ เตรียมเงินเย็นไว้ซ่อมรายปีบ้างก็ดี เสียก็มีใช้จ่าย ไม่ใช้ก็โชคดีไปครับ
BM ไม่ได้น่ากลัว ถ้าพร้อมด้วยข้อมูลและทรัพย์ แต่หลายๆท่านมาเริ่มนับ 1 กับรถเก่ายุโรป ก็ต้องมีพลาดกันบ้าง
ผมก็ว่าควรจะหาข้อมูลเยอะๆไว้บ้างก็ดี  อู่บางอู่ ดีกะคนอื่น แต่กะเรา อาจไม่โอเค ก็แค่อยากให้เผื่อใจเผื่อทรัพย์
เผื่อโดนฟัน กับเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะต้องเสียเท่านั้น
ไว้ผมต้องถามหลังไมค์กับอู่ BlackList แล้วอ่ะครับ เพราะอยากหาอู่กลางเมืองที่ไม่ฟันหัวแบะ
เพราะจะพา E36 E39 ไปทำ

ค้าบผ๊ม  :D

อ่าน ปสก แล้วปวดตับแทนจริงๆครับ
เคสประมานนี้ สิ่งที่จะช่วยได้คือหา community ของรถอยู่ครับ
แชร์ข้อมูลแชร์อาการกัน หัวเดียวโดดๆเข้าไปอู่ไหน 70% หวดได้ หวดทั้งนั้น
แถวๆเอกมัยผมก็เคยโดนมาก่อน  แต่ยืนยันว่ารถรุ่นนี้จาก ปสก มันไม่ได้ซ่อมแพงขนาดนั้น

ดูรถ แค่สภาพตัวถังไม่ได้ชนมิดมา เกียร์ไม่กระตุกเวลาเปลี่ยน เครื่องไม่สั่น
แอร์เย็นไม่มีเสียงน้ำยารั่ว ไฟไม่โชว์ หมุนพวงมาลัยไม่ดัง
แค่นี้แหละครับ ได้มา เปลี่ยนถ่ายของเหลว วิ่งได้เป็นปี
อะไรเสียก้อหาข้อมูลซ่อมไป
M power Thailand
M5 e60 V10

ออฟไลน์ bluelawn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 664
ซ่อม 3-4แสน เอารถไปมิดกำแพงมาแลัวไม่มีประกันเหรอครับ แพงไร้สาระมากเลย. ผมเคยใช้ e60 525i ปี04 พิ่งขายปีที่แล้ว หมดค่าซ่อมไม่ถึงแสนบาทเลยครับ อู่นอกนะครับดีๆมีเยอะแยะ bmw