Nissan Pulsar 1.6DIG-T-
แฮทช์แบ็คโลกสบายคืออะไร?
มันก็เหมือนๆกับ Pulsar กับ Tiida ล่ะครับ เป็นรถท้ายตัดที่เหมือนจะเป็นรุ่นใหญ่กว่า Jazz และ Mazda 2 แต่มีการออกแบบให้เนื้อที่ในห้องโดยสารนั้นกว้างขวางสะดวกสบายชนิดเกินหน้าเกินตาคู่แข่งไป อย่างที่คุณจะพบว่าถึงแม้คนจะไม่กรี๊ด Pulsar มากเท่า Mazda 3 หรือ Ford Focus แต่ในความเป็นจริง หากพูดถึงความสบายเรื่องเนื้อที่ในห้องโดยสารแล้ว Pulsar ก็ยังจัดการจนได้พื้นที่ที่น่าประทับใจ เช่นเดียวกับ Tiida ที่มาแล้ว..และไปแล้วนั่นเอง
ทีนี้..เอา Pulsar รถนกกระจอกเทศมาคันนึง ..แล้วยัดพลังที่รุนแรง 190 แรงม้า 240Nm ลงไป หน้าปัด แผงคอนโซล เอาไว้แบบเดิม มีแค่ไมล 260 กับคันเกียร์มี +/-เพิ่มเข้ามาที่ทำให้มันดูต่าง ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือหมาป่าในคราบลูกแกะตัวใหญ่ๆ แต่แน่นอนครับ ไม่มีอะไรดีไปเสียหมดหรอก
ช่วงล่างเห็นบอกว่าปรับให้สปอร์ตขึ้น เอาเข้าจริงก็แค่สะเทือนกรวด แต่ทิ้งโค้งยังไม่มั่นใจเท่า Focus,3,EX อยู่ดี เพียงแต่มั่นใจกว่า Altis ESport, Civic FB เท่านั้น เบรก ฟีลลิ่งคล้ายเดิม พอใช้ได้ พวงมาลัยจะหน่วงมือเท่าๆกับ Pulsar 1.8V แต่คันนี้ไม่มีมูนรูฟนะ นกกระจอกเทศคงไม่ชอบ แต่ไหนๆนกกระจอกเทศก็มีแฟนน่ารักขับตัว 1.8V มีซันรูฟอยู่แล้ว นกกระจอกเทศคงอยากเปิดหลังคาชิลล์มากกว่า
เอาตัวเทอร์โบมาให้ผมขับแล้วกันนะ
0-100 8.1 วิ มันไปช้าตอนออกตัว ต่อให้เทอร์โบติดบูสท์เร็วแต่เกียร์ต้องเย่อไว้เพื่อความทนทาน..แต่พอ 80-120 5.61 วิ นี่สิแซ่บเพราะใกล้เคียงกับยุโรปเทอร์โบ 200ม้าทั้งหลายมาก ดึงแบบไม่โหดแต่ดึงตลอด เหมือนฟังเสียง Pavarotti ร้องท่อนยาวจบในเพลง The Prayer กลายเป็นรถ C-Segment ป้ายแดงราคาต่ำกว่า 1.4 ล้านที่เร็วที่สุดในตลาดตอนนี้ ไม่มีรถโรงงานรุ่นใดที่แตะ 190 ได้เร็วเท่ามันแล้วยังสามารถทำราคาได้ถูกกว่า ผมนึกออกแต่ Skoda Fabia RS ที่ราคายังแพงกว่ากันหลายแสนอยู่ รถคันนั้นมีอารมณ์ที่ดุโหดและมันส์กว่า Pulsar คันนี้มาก แต่สมรรถณะช่วงเลย 60 ก.ม./ช.ม.ไป เมื่อวัดด้วยการจับเวลา คุณจะพบว่ามันไม่ได้ต่างกันตามความรู้สึกที่ได้...ผมบอกแล้ว นิสสันครับ CVT มันเร็วก็จริง แต่มันขาดอารมณ์ร่วมไปอยู่ดีครับ
แล้วก็อย่าลืมว่าเจ้านี่นั้นเติมได้แค่ E10 หรือ 95 ไม่รองรับ E20, E85 ซึ่งในยุคนี้ การใช้น้ำมันที่มีเอธานอลสูงได้ คุณได้ความสนใจจากลูกค้ามากกว่า และสามารถเค้นสมรรถณะได้มากกว่าอีกด้วย ผมเสียดายตรงนี้แม้จะเข้าใจว่าไม่มีประโยชน์ที่จะลงทุนทำรถที่เขาจะขายแค่ 350 คันให้เติม E20, E85 ได้
และนอกจากนี้ฟีลการขับเวลาบู๊ยังไม่เร้าอารมณ์เท่ามาสด้า 3 และช่วงล่างยังเก็บกรวดกับรอยต่อถนนมากกว่า Focus แต่เวลาทิ้งโค้งจะไม่คมเท่า เวลาขับ ผมรู้สึกได้ว่ามันเป็นรถที่ไต่ความเร็วได้เยี่ยม แต่อารมณ์การเข้าโค้งมันเหมือนรถธรรมดาๆที่ช่วงล่างแข็งขึ้นหน่อย ในขณะที่ Mazda และ Ford นั้นให้ความรู้สึกได้ว่าคนพัฒนารถเขามีความตั้งใจทำให้มันขับสนุกได้จริง
สำหรับราคา 1.07 ล้าน ถ้าใครบอกว่าแพง ผมคงเอาขาหลังเกาหูสองสามทีก่อนแล้วค่อยถามว่าคุณจะไม่ให้เครดิตอะไรกับม้า 20-30 ตัว กับแรงบิด 30-40Nm ที่มันเหนือคู่แข่งเลยหรือครับ จุดประสงค์ของรถคันนี้ชัดเจนว่าเน้นพละกำลังและการทำความเร็วเป็นสำคัญ คู่แข่งรายอื่นๆที่ราคาเท่าๆกันก็ไม่มีใครบอกว่าแพง Traction Control และถุงลมข้างก็มีมาให้ ..แต่มันจะสวนหมัดกันที่ออพชั่นอย่างอื่นที่คู่แข่งเอามาเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค และเรื่องการเซ็ตช่วงล่างกับการเลือกเกียร์ที่นิสสันยังต้องเข้าใจอารมณ์ของคนรักความเร็วอีกนิดครับ