บริษัทผมใช้มาสด้า 2 สีขาวเป็นรถบริษัท
ตอนนี้ทยอยขายทิ้งครับ
ค่าดูแลโหดเอาเรื่อง
คุณพูดเว่อร์ไปรึเปล่า ทำไมรถรุ่นนี้ถึงมีค่าดูแลกว่ารุ่นอื่นล่ะ ยี่ห้ออื่นมีตั้งเยอะนะ ผมว่ามันก็พอๆกันแหละหรืออาจจะใกล้เคียงกัน แต่ที่มันแพงอาจเป็นเพราะการเพิ่มบริการเสริมอื่นๆที่อาจจะไม่จำเป็นที่เราสามารถทำข้างนอกได้ เช่นล้างแอร์หรืออบโอโซนเป็นต้น อย่างรถผมโดยเฉลี่ยก็ตกครั้งละพันกว่าหรือเกือบสองพัน ตอนนี้รถวิ่งได้หกหมื่นโลแล้วก็ยังไม่คิดว่าค่าดูแลโหดเอาเรื่องอย่างที่คุณว่านะ
เช็คระยะ 1.2 แสนโล TOYOTA Fortuner 2.7 รุ่น ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังมีราคาถูกกว่า Mazda 2 -3 เลยครับ ถ้าหิ้วน้ำมันไปเองได้เหลือเพียงไม่กี่พันบาท ยืนยันว่าราคาต่างจากรถเก๋งขับหน้าอย่าง Mazda เยอะมาก เปรียบเทียบเข้าศูนย์เหมือนกัน รถ Mazda ไม่ได้เป็นรถที่ค่าซ่อมแซมดูแลถูกซักเท่าไหร่ อะไหล่ส่วนใหญ่ก็ใช้ของดีมีคุณภาพ ส่วนราคาออกมาที่ศูนย์มาสด้าจะแพงกว่าศูนย์ที่เป็นรถตลาดอยู่แล้ว
เมื่อก่อนรถบริษัทก็เคยมีเป็นรุ่น Mazda 3 ให้คนญ๊ปุ่นใช้ 2 คัน เหตุผลเพราะ AAT ต้องการให้ซื้อเนื่องจาก...ผลิตงานโปรเจกต์ใหญ่ ๆส่งให้เค้า ทางโน้นจึงอยากให้ Maker ช่วยสนับสนุนการซื้อรถในเครือด้วย ทางบริษัทก็ต้องซื้อมาใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง ราคาค่าเช็คระยะสมมุติเปรียบเทียบกับ toyota cOROLLA
ถ้าเป็นโตต้าโคโรลล่าเสียประมาณ 2000 กว่าบาท แต่ Mazda มักจะเสียประมาณ 4-5 พันบาท
ถ้าเป็นรถที่ต้องเปลี่ยนของเหลวครั้งใหญ่ TOYOTA เสีย 4- 6 พันบาท Mazda เสีย 8000 กว่าบาทขึ้นไป
2 ยี่ห้อนี้ค่าดูแลต่างกันชัดเจนแล้วถือว่าต่างกันมากด้วย เข้าศูนย์เหมือนกันทุกระยะ
พอหมดค่าเสื่อม 5 ปี บริษัทก็โล๊ะรถทุกรุ่นทิ้ง ตอนออกขายทอดตลาด ราคาโตโยต้าดีกว่าพอควร แต่ Mazda ราคาหล่นมากกว่าเยอะหลายหมื่นบาท พอซื้อครั้งต่อไปรถบริษัทไม่ได้โดนบังคับซื้อ พวกเขาฝ่ายจัดซื้อก็ซื้อเฉพาะ TOYOTA COROLLA รุ่นใหม่เข้ามาประจำการอย่างเดียว ใช้ง่ายซื้อง่ายขายง่ายไม่จุกจิก ค่าซ่อมไม่แพงถ้าเทียบคู่แข่ง เหมาะเป็นรถบริษัทอย่างมากไม่ปวดหัว
คนที่บอกค่าซ่อมถูกโน่นถูกนี่นั่น ได้เข้าศูนย์เปรียบเทียบเหมือนกันทุกระยะหรือเปล่า ถ้าเอาอู่นอกมาคิดขอยกเว้นดีกว่า