ผู้เขียน หัวข้อ: เลือกไม่ถูกจริงๆIsuzu 2.5 Vgs z at 925,000 Ford 2.2 Wildtrack AT วิจารณ์ทีครับ  (อ่าน 13663 ครั้ง)

ออฟไลน์ art343

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
    • อีเมล์
1 Ford 2.2 at wt                     
ความปลอดภัย  aBS esc airbag 6 limited เฟืองท้าย
ครุ้ยคอลโทร
เบอะหนัง
ไม่มีจอ
ไม่มีกล้องถอย
สวยมุมมองดีกว่า จากที่ไปลองขับ
กินน้ำมันมากกว่า
นั่งสบายกว่า
พี่สาวชอบแม่ไม่ชอบ
มีไฟตัดหมอก ไม่มีเดย์ไลท์
ฟรีประกัน
ฟรีค่าจด
ดอก 1.35 ที่60 ปี
กำลังจะมีMC แต่MC มาก็ไม่ได้แบบนี้
ถ้าจะเสียดายกับตัวMC กลัว2.2WT ได้แอร์ดิจิตอล

2. Isuzu Dmax Vgs z prestige 2.5  AT
ไฟหน้าโปรเจคเตอร์
แอร์ดิจิตอล
มีจอพร้อมเนวิเกเตอร์
จากที่ลองขับเป็คคนขับแลมึนๆๆ
มีไฟเดย์ไลท์ ไม่มีไฟตัดหมอก น่าหนาวมันจำเป็นนะ
เบอะผ้า
ไม่มีครุ้ยคอนโทร
เข้าไปนั่งแล้วมุมมองแปลก
ถุงลม2 มีABS EB ESC TCS
push start
ประหยัดน้ำมันกว่า กว่าแค่ไหนไม่รู้ อยากรู้เหมือนกันตัว ที่ผมจะเอาเฉลี่ย มันได้15โลเลยจริงๆเหรอวิ่ง90-110ราคา

ปัจจัยอื่นๆ
ราคาขายต่อ. อันนี้ผมคิดว่าถ้าเป็นรุ่นสูงๆยังไงราคาก็หายไปหลายบาท
ค่าซ่อม ผมว่าถ้าเข้า 0 ราคาใกล้กัน
Isuzu ในรัสมี 20 โล แถวบ้านจัดไป 5 ศูนย์. ฟอร์ม 1
ผมไม่แน่ 2 รุ่นนี้มีใครใช้เกิน 150000 โลรึยัง. อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
จะแหวกแนวไปเอาเชฟก็ไม่กล้า

คิดไม่ออกจริงๆ รบกวนทุกท่านด้วยครับ

ออฟไลน์ kez

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,591

 เลือกรถที่ชอบ และคันที่ใช่สำหรับตัวเอง  เวลาขับจะได้มีความสุขกับมัน

ออฟไลน์ shikimaru

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
    • อีเมล์
[/font]
1 Ford 2.2 at wt                     
ความปลอดภัย  aBS esc airbag 6 limited เฟืองท้าย
ครุ้ยคอลโทร
เบอะหนัง
ไม่มีจอ
ไม่มีกล้องถอย
สวยมุมมองดีกว่า จากที่ไปลองขับ
กินน้ำมันมากกว่า
นั่งสบายกว่า
พี่สาวชอบแม่ไม่ชอบ
มีไฟตัดหมอก ไม่มีเดย์ไลท์
ฟรีประกัน
ฟรีค่าจด
ดอก 1.35 ที่60 ปี
กำลังจะมีMC แต่MC มาก็ไม่ได้แบบนี้
ถ้าจะเสียดายกับตัวMC กลัว2.2WT ได้แอร์ดิจิตอล

แอร์ดิจิตอล ถ้าไม่แท้ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรครับ ดีแต่ปรับตัวเลขหลอก แต่ผมไม่รู้ว่าของฟอร์ดจะแท้รึเปล่านะ

สิ่งที่ต้องคิดสำหรับฟอร์ด wt คือ อะไหล่ตัวถัง คนรู้จักชนหน้ามา ไฟหน้าแตก หม้อน้ำ กระจัง กันชน แก้มข้าง รอ 6 เดือนครับ ที่กทม ก็ 6 เดือนอะไหล่ต้องรอผลิตเป็นล๊อตๆ ขับ110-120 มีเร่งแซงบ้างประมาณ 11-12 โลลิตร ช่วงล่างไว้ใจได้ ค่อนข้างหนึบในกระบะตอนนี้ แต่ท้ายดีดไปหน่อย ต้องเปลี่ยนแหนบแต่งใส่ ไฟหน้าสว่างดี ตัว 2.2 จะอืดๆ หน่อยนะต้องลองเทสแล้วแต่คน เงียบน้องๆ d-seg ราคาขายต่อทำใจได้ ตกไม่มากนัก แต่ยังไงก็ยังเยอะกว่ารถตลาด แต่ยังตกน้อยกว่าตัวธรรมดา

2. Isuzu Dmax Vgs z prestige 2.5  AT
ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ไม่ค่อยสว่าง+แยงตาชาวบ้านหน่อย
แอร์ดิจิตอล รับได้กับคำว่าหนาวมั้ย ปรับ 18-28 หนาวเท่ากัน มีให้เลือกแค่ หนาว หนาวมาก หนาวสุดๆ ต้องปรับออโต้ แต่ ปยอ มากสำหรับผม ออโต้แล้วพัดลมชอบเอ๋อ ปรับลงพื้นด้วยไม่ได้ เป็นรุ่นแรกที่ผมต้องยุ่งกับระบบแอร์บ่อยสุดๆ ใช้แบบธรรมดามือบิดผมยังชอบมากกว่า ง่ายดี
มีจอพร้อมเนวิเกเตอร์ มีเหมือนไม่มี ไปที่เก่าๆได้ ที่ใหม่ๆอย่าหวัง เนวิอัพเดทล่าสุด ปลายปี 2012
จากที่ลองขับเป็คคนขับแลมึนๆๆช่วงล่างจะนุ่มๆ โยนๆ แต่ท้ายดันเซทมาบรรทุก หน้านิ่ม แต่หลังดีด ต้องปรับแหนบออกอีกเพื่อให้มันไม่ดีดมาก ในกรณีไม่เปลี่ยนโช็ค ถ้าขับทางไม่เรียบรถเหมือนจะเลื้อยอยู่นั่น
มีไฟเดย์ไลท์ ไม่มีไฟตัดหมอก น่าหนาวมันจำเป็นนะอันนี้แล้วแต่คนชอบมันแปลงเอาของเก่า mu-x ใส่ได้ ได้สวย แต่กินไม่ได้ในบางที
เบอะผ้าแล้วแต่คนชอบ ถ้าเบาะหนังเทียม ไวนิล ผมว่าดีไม่ดีแย่กว่าเบาะผ้าอีก
ไม่มีครุ้ยคอนโทรทำใจ mu-x ยังไม่มีครับ
เข้าไปนั่งแล้วมุมมองแปลก
ถุงลม2 มีABS EB ESC TCS
push startอันนี้แล้วแต่คนนะครับ สำหรับผมเฉยๆมือบิดกะได้ ไม่ยากอะไร
ประหยัดน้ำมันกว่า กว่าแค่ไหนไม่รู้ อยากรู้เหมือนกันตัว ที่ผมจะเอาเฉลี่ย มันได้15โลเลยจริงๆเหรอวิ่ง90-110ประหยัดน้ำมันจริงๆ วิ่ง 90-110 15 โล ได้สบายๆครับ คนรู้จักหลายๆคันได้ประมาณนี้หมด ขับเกิน 120 ไม่ค่อยต่างกับคนอื่นเท่าไหร่ แต่หลักๆอยู่ที่การเหยียบคันเร่งด้วย คันเร่งของ izuzu จะเซทมาอืดๆ อีกอย่างนึงวิ่งในเมืองรถติดๆก็ประหยัดกว่ายี่ห้ออื่นครับ

สิ่งหนึ่งที่ผมเจอคือ เรื่องเสียง ความเงียบในห้องโดยสารค่อนข้างไม่เวิคสำหรับผมนะ มันไม่เงียบเอาซะเลย
ผมไม่มีตัวดีแมค แต่เคยขับของญาติ 3.0 และมีมิว x 3.0 4*4

ออฟไลน์ art343

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
    • อีเมล์
ท่านตอบซะผมเห็นภาพเลย. จริงๆแล้วผมก็ขับรถเร็วนะเวลารีบๆ หรือเดินทางไกล. ประมาณว่าทำเวลา แต่ไม่ได้บ่อยอะไรมากมาย
ดีแม็ก ก้อดี ในระดับหนึ่ง แต่ผมอยากลองฟอร์ด  มากกว่า.  อยากรู้ว่าแน่นหนึบเป็นแบบไหน ฟอร์จูนตัว ท็อป4x4. ตอนที่ผมใช้ก็ไม่ได้รู้สึกเด่นอะไรแค่เวลาเดินทางไปเที่ยวขึ้นเขาดอย จะมั่นใจมากกว่าฟรีด หรือทีด้า. ที่เคยพาไปมา  เส้นทางก็เดิมๆ. อ่างขาง. ปลาย ปางอุ๋ง  ประมาณนี้อ่ะครับก็แค่ปีล่ะครั้ง กระจะออก4*4เหมือนเดิม คันเก่ายังขายทิ้ง ใช้มาสามปี ได้ใช้ตอนขึ้นเขากระโจมครั้งเดียวเลยเป็นที่มาของ. รถที่กำลังเลือกนี่ล่ะครับ

ออฟไลน์ okashi

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 660
    • อีเมล์
ขออนุญาตเสริมเรื่องระบบปรับอากาศ

แอร์ดิจิตอลใน3.2 มีฮีตเตอร์มาให้ครับ ใช้งานได้จริง ยิ่งตอนนี้ช่วงหน้าหนาวสบายสุดๆ อุณหภูมิข้างนอก18องศา ปรับแอร์21 องศาก็ฟินแล้ว

แต่...แอร์ของ 2.2 เป็นแบบมือบิดธรรมดา ไม่มีฮีตเตอร์มาให้ หนาวจนไข่สั่น แถมพัดลมแอร์เบอร์1 จะแรงไปไหน
Puma PoweR 🐯🐯

ออฟไลน์ Poj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 353
เอา wt เลยครับ

ผมใช้ bt50 pro อยู่

เห็น wt ทีไร ต้องหันกลับไปมองทุกคันเลย

dmax แค่ผมลองเปิดปิด ประตู กับเคาะตัวถัง ผมเดินออกจาก 0 เลย

ปล. อยากได้ แต่ไม่มีรถให้ ช่วงรถคันแรก

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,191
    • อีเมล์
เลือก Isuzu Dmax เพราะประหยัดน้ำมัน และศูนย์บริการเยอะครับ

Ford 2.2 ขึ้นชื่อว่า Wildtrack กินน้ำมันมากกว่าเดิมครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ View

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,890
  • -SIXFLOOR-
    • อีเมล์
FORD RANGER ครับหล่อกว่า ออฟชั่นเหมือน้อยแต่ไม่น้อยนะครับ ระบบปลอดภัยเหนือกว่าแน่นอน

ส่วนแอร์ดิจิตอลแบบ 3.2 มีคนรับติดอยู่ราคา 15,000
2013 Honda City 1.5V
2013 Chevrolet Trailblazer 2.8 LTZ 4WD

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
ผมว่า D-Max นี่น่าใช้ครับแม้จะไม่โดดเด่นด้านตัวรถนักแต่มีดีที่ประหยัดน้ำมันและศูนย์บริการอย่างที่หาเจ้าไหนมาเทียบไม่ได้แต่การซื้อรถบางทีไม่ได้มีแค่นี้ครับขึ้นอยู่กับความชอบด้วย ต้องมาดูว่าคุณชอบเรนเจอร์มากขนาดไหนมากพอที่รับข้อเสียของมันได้รึเปล่าทั้งเรื่อง กินน้ำมันมากกว่า คันใหญ่อาจเทอะทะเวลาขับในเมืองมากกว่า (แต่วงเลี้ยวน้อยกว่าพอทดแทนกันได้) ศูนย์บริการด้อยกว่าเยอะ ทั้งเรื่องอะไหล่ การเคลม ระยะเวลารอซ่อม   ถ้าคิดว่ารับได้ก็จัดไปครับ

ส่วนตัวแล้วผมชอบ Ranger นะ ถ้าให้ซื้อจริงๆก็ตัวนี้แหละลงได้ชอบมากๆแล้วที่เหลือก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ขับรถที่เราชอบมันสุขใจจริงๆนะไม่อยากให้ถึงที่หมายไวๆเลย ถ้าเราขับรถที่เราไม่ได้ชอบก็ได้แต่เพ้อเหลียวมองรถคันอื่นอยู่ร่ำไป


เลือกเอาครับว่าจะเอาแบบสุขใจหรือสบายใจ สุขใจไปเรนเจอร์ สบายใจไปดีแมกซ์ ไม่มีอันไหนผิดหรืออันไหนถูกครับ
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ opor

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 130
Isuzu  =  ไม่หล่อ, โหล, option น้อย, body ไม่แกร่ง แต่ซื้อมาแล้วไม่ปวดหัวกับศูนย์บริการ เคลมง่าย ซ่อมง่าย อะไหล่เพียบ
Ford   =  หล่อ, ไม่โหล (มีน้อยบนถนน) , option เยอะ, body แกร่ง, แต่ซื้อมาแล้วต้องวัดดวงเอาเองกับศูนย์บริการ การเคลมหากมีอุปกรณ์ชำรุด, มาตรฐานและฝีกมือการซ่อมของช่างศูนย์, และต้องรออะไหล่ 
              นาน....... และ ฯลฯ

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
ราคาขายต่อ
RANGER WT ได้ราคาสูงกว่า D-MAX

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
โจทย์เดียวกับผมครับ
แต่สุดท้ายผมเลือก Ranger
เพราะดีกว่าในหลายๆด้าน
ยกเว้นราคาขายต่อ ส่วนศูนย์บริการ
ผมไม่มีปัญหาครับ ดูแลดีกว่าศูนย์ Isuzu ใน
จังหวัดด้วยกันอีก มีคนชมว่าศูนย์ Isuzu ดีมากๆ
ดีที่สุดในประเทศ แต่ศูนย์ใกล้บ้านผมไม่ใช่ครับ
บริการก็งั้นๆ แถมโชว์รูมใหญ่ แต่ไม่เปิดแอร์ ??
ศูนย์ Ford แถวบ้านบริการดี เครมง่ายมาก
บางอย่างไม่เสีย ก็เครมให้ตามใบแจ้งของ
โรงงานครับ พนักงานรับรถเดินมาบอกสั่งของให้
เสร็จสรรพ เลยครับ

อีกข้อที่ผมไม่เอา Isuzu เพราะวัสดุไม่สมราคา
ภายในดูเกรดต่ำเกินไปหน่อย ถ้าเทียบกับ WT
แล้ว งานดีกว่าเยอะครับ แต่เรื่องความนุ่มนวล
และประหยัดน้ำมันต้องยอมให้ Isuzu เค้าจริงๆ
WT ผมเติมเต็มถังวิ่งได้ 750 กม.+ นิดหน่อยครับ
Isuzu อาจทะลุ 800 ไปไกล ก็ได้ครับ

ลองดูครับว่าชอบแบบไหน Ranger แรง ช่วงล่างหนึบ
แต่กระด้างนะครับ นั่งไม่สบายบอกตรงๆ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ TnP_PKt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,430
ผมว่ามันขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคลครับ สำหรับผมรถคันเดียวกันอาจจะบอกว่าดี อีกคนบอกว่าไม่ดีก็ได้

มันขึ้นอยู่กับการใช้งานของตัวเรา แต่ถ้าเอา fact ทุกคนก็คงต้องบอกว่าในตอนนี้ Ford Ranger ดูสวยกว่า

คุณภาพรถดีกว่า ความปลอดภัย ช่วงล่าง ดีกว่าแน่นอน ราคาสมเหตุสมผล แต่มันต้องมาดูว่าตรงกับการใช้งานของเราขนาดไหน

ที่บ้านผมเองช่วงปลายปี 2012 ก็กำลังมองหารถกระบะ 4 ประตูมาใช้งานซักคัน ในตอนแรกมองไปที่ Ranger นั่นแหละครับ

ทว่าเมื่อมามองเงื่อนไขการใช้รถของที่บ้านผมพบว่าปีนึงวิ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 70,000 กม. บางปีอาจจะทะลุถึง 100,000 กม.ก็ถึงมาแล้ว

และโดยปกติผมจะเปลี่ยนรถที่ประมาณ 5 ปี หากในวันนั้นผมตัดสินใจถอย Ranger จะมีคนรับประกันให้ผมได้มั้ยว่าเมื่อ

ขับไป 2 ปี 150,000 กม.เกียร์จะยังไม่พัง? รับประกันได้ม้ัยว่าเมื่อครบ 5 ปีที่ประมาณ 320,000 กม.จะไม่เจอการซ่อมจุดใหญ่ๆ?

และคุณคงมองออกใช่มั้ยว่าเมื่อ Ranger อายุครบ 5 ปี ราคามือสองมันจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่? แต่ในทางตรงกันข้ามกัน

หากผมซื้อ Dmax ปัญหาเหล่านี้ผมสามารถตอบตัวผมเองได้เพราะรถวิ่งใช้งาน ขนส่งสินค้าวิ่งกันในภาคเหนือส่วนใหญ่

เป็น Vigo กับ Dmax ทั้งสิ้น ประกอบกันรถคันเก่าก็เป็น Dmax ซึ่งก่อนขายไปแทบไม่มีปํญหาใดๆเลยยกเว้น SCV valve เพียงอย่างเดียว

จนถึงวันนี้ All new Dmax 2.5 AT Z prestige 2012 ที่บ้านนั้นใช้งานมาเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง เลขไมล์ก้าวผ่าน 80,000 กม.เรียบร้อยแล้ว

ยังไม่พบปัญหาใดๆและกลับพบอีกว่ามันเป็นรถที่ใช้ได้พอสมควร แม้จะยังไม่เท่า Ford Ranger,BT50 pro และรถรุ่นอื่นๆ แต่มันก็เป็นรถที่ขับง่าย

บุคลิกกลางๆ นั่งสบายพอสมควร พละกำลังพอไหว้วานได้และมาพร้อมกับความประหยัดที่มากที่สุดในกลุ่มเดียวกัน

เมื่อช่วงวันพ่อที่ผ่านมาผมเพิ่งนำ Dmax คันนี้ไปภาคเหนือจากบ้านผมที่จังหวัดภูเก็ตยิงยาวผ่านสุพรรณบุรีไปที่เชียงใหม่ ขึ้นม่อนแจ่ม

สะเมิง อ่างขาง อินทนนท์ แวะเที่ยวรายทางเข้าแม่สอด พบว่าอัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 14.5 กม./ล วิ่งความเร็ว 90-120  กม./ชม.

รวมเฉลี่ยกับตอนขึ้นดอยแล้ว ผมพอใจมากกับการไปทริปทรหดครั้งนี้ 4,200 กม. ค่าน้ำมันอยู่ที่ 8,500 บาท ตกประมาณ กม.ละ 2 บาท

ซึ่งหากเทียวกับ Ranger 2.2 ของญาติที่บ้านอีกคนขับประมาณนี้คงจะที่ 2.5-2.6 บาท/กม. เมื่อผมมาคิดคร่าวๆว่าสมมติ Dmax ประหยัดกว่า

Ranger ราวๆ กม.ละ 0.3 บาทละกัน ปีนึงผมขับ 80,000 กม.จะประหยัดไปปีละ 24,000 บาท และถ้าผมใช้รถ 5 ปี ผมจะประหยัดไป

ในส่วนของค่าเชื้อเพลิงถึง 120,000 บาท ยังไม่นับรวมถึงราคาขายต่อและค่าซ่อมที่ Dmax จะได้เปรียบกว่าในตรงนั้นอีกพอสมควร

ต่างคนต่างวาระครับ รถที่ดีสำหรับคนอื่นอาจจะไม่เหมาะสมสำหรับเรา คุณต้องตอบตัวคุณเองว่าคุณเหมาะสมกับอะไร ขอให้โชคดีครับ

ออฟไลน์ ponggu52

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 189
จากประสบการณ์ใช้ทั้ง D-max 3.0 hi-lander (รุ่นก่อน all new ใช้ 7 เดือน ของพี่ชาย) ช่วงทำงานใหม่ๆ และซื้อเป็นของตัวเอง คือ Ford Ranger 2.2 XLT MT

บุคลิกการขับของผม
1. ไม่ชอบรถที่ช่วงล่างนุ่ม เกินไป ขับด้วยความเร็วแล้วโยนๆ ไม่จิกโค้ง ส่วน ranger ช่วงล่างจะหนึบๆ แข็งๆ หน่อย (Ranger ชนะ (ใจผม)) ตัว all new ก็บุคลิกเหมือนกัน
2. แรงบิด (Ranger ชนะ (ใจผม)
3. ความมั่นใจในการขับ ford ranger ขับมั่นใจ ช่วงล่างดี พวงมาลัย เวลาใช้ความเร็วสูง มากกว่า 110 km/hr. นิ่งมั่นใจ ขับมือเดียวได้แบบชิวๆ จนเผลอถึง 140 แล้วหรือ การหักหลับ หรือเพื่อแซง ควบคุมพวงมาลัยแบบชิวๆ ไม่วอกแวก (ถ้าเทียบเป็นคน ก็นิ่ง สุขุมนุ่มลึก) อันนี้ชอบมากครับ เพราะชอบขับรถที่ความเร็ว ประมาณ 110-120 km/hr แต่ความเร็วต่ำ พวงมาลัยจะหนักนิดนึง ถ้าใครไม่ชินกระบะ ส่วน D max ขับความเร็วสูง ไม่นิ่ง ต้องใช้มือควบคุมพวงมาลัยทั้ง 2 มือ  (Ranger ชนะ (ใจผม)
4. ศูนย์บริการ (D-max ชนะ)
5. การประหยัดน้ำมัน จากความรู้สึกผม ford ranger ขับช้าๆ ตามเมือง หรือขับด้วยความเร็ว ประมาณ 110 km/hr กินน้ำมันไม่ต่างกัน อาจจะเนื่องจากรอบเครื่องยนต์อยู่ไม่เกิน 2,500 รอบต่อนาที นอกจากนี้ผมขับไม่เกิน 120 km/hr ก็ประมาณ 12-13 km/lr (จากการใช้งานจริง แต่ไม่ได้วัดจริงจัง) ขณะที่ D-max ขับในเมือง หรือขับช้าๆ ประหยัดมาก แต่ถ้าขับเกิน 110 km/hr เรียกว่า แดกเลยครับ เพราะรอบเครื่องยนต์สูงเกิน 3,000 รอบต่อนาที (D-max ชนะ)
ุ6. เช็คระยะ ford ทุกๆ 15,000 km ก็ประมาณ 3,000-4,000 บาทต่อครั้ง ผมเข้าเช็คระยะ 2 ครั้งแล้ว
ึ7. อะไหล่ ranger ผม 30,000 km แล้ว ยังไม่ได้ซ่อมเลยครับ มีแต่เคลม อะไหล่ก็รอไม่นาน ปัญหาของรถผม ไม่เจอปัญหาเบาและหนัก ส่วน isuzu น่าจะถูกกว่า ช่างก็เก่งกว่า ทั้งในและนอกศูนย์ (D-max ชนะ)

ข้อเสียของ ranger
1. บันไดข้างประตูรถมันเล็ก และอยู่สูงไปหน่อย แม่ผม หรือคนตัวเล็กขึ้นลำบาก (อาจจะซื้อบันไดตัว mc มาเปลี่ยนก็ได้ น่าจะดีขึ้น)
2. ถ้าสีขาว สีจะบาง มีจุดถลอกเล็กๆ แต่ผมแนะนำให้เจ้าของกระทู้เอาสีส้มครับ เท่มาก เผอิญตอนนั้น ผมเงินไม่ถึง และรอนานด้วย อยู่ตามถนนก็ยังเหลียวมอง WT ตลอดครับ
3. มันสูงมาก เวลาจะเอาของที่กระบะลำบาก ยิ่งถ้าใครมีความสูงต่ำกว่า 165 ซม. ลำบากเลยครับ และล้างรถเองก็ลำบาก อาจจะต้องมีบรรได หรือเก้าอี้ช่วย

สรุป ผมคิดไม่ผิดเลยที่เลือก ranger (ตอนแรกอยากได้ bt-50 pro เพราะช่วงล่างนุ่ม หนึบดี แต่ไม่มี airbag เลยไม่เอา)

ปล. เลือกในสิ่งที่ชอบ และมีความสุขกับมัน จงอย่าไปฟังคนรอบข้างมากครับ เหมือนเราเลือกแฟนหรือเมีย คนอื่นก็บอกว่าเขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่ได้ไปสัมผัสกับเขาเลย แฟนอยู่ด้วยกันก็มีเถียงกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ก็อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า เหมือนเราใช้รถอาจจะมีส่วนไม่ดีบ้าง แต่เราก็มีความสุขในสิ่งที่เราชอบ หรือข้อดีของมัน



ออฟไลน์ TnP_PKt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,430
ขออณุญาติอ้างถึงนะครับ เนื่องจากว่าผมเป็นผู้ใช้ดีแม็กมาตั้งแต่ตัวก่อนและเปลี่ยนมาเป็น All-new ประกอบกับที่บ้านมีคนใช้ Ranger ขอแสดงความคิดเห็นนิดนึงนะครับ

จากประสบการณ์ใช้ทั้ง D-max 3.0 hi-lander (รุ่นก่อน all new ใช้ 7 เดือน ของพี่ชาย) ช่วงทำงานใหม่ๆ และซื้อเป็นของตัวเอง คือ Ford Ranger 2.2 XLT MT

เนื่องจาก จขกท จะซื้อ AT ซึ่งเกียร์ AT กับ MT ค่อนข้างแตกต่างกันครับ แต่อย่างไรก็ตาม Ranger ดีกว่าเพราะมี 6 speed

บุคลิกการขับของผม
1. ไม่ชอบรถที่ช่วงล่างนุ่ม เกินไป ขับด้วยความเร็วแล้วโยนๆ ไม่จิกโค้ง ส่วน ranger ช่วงล่างจะหนึบๆ แข็งๆ หน่อย (Ranger ชนะ (ใจผม)) ตัว all new ก็บุคลิกเหมือนกัน

-เห็นด้วยครับ แต่ All new ช่วงล่างดีกว่าตัวเก่ามากฮะ และผมมองว่าไม่โยนมากนะครับ หากเทียบกับ Ranger โยนกว่าจริง แต่เมื่อใช้งานจริงกลับพบว่าดีใช้ได้

2. แรงบิด (Ranger ชนะ (ใจผม)

3. ความมั่นใจในการขับ ford ranger ขับมั่นใจ ช่วงล่างดี พวงมาลัย เวลาใช้ความเร็วสูง มากกว่า 110 km/hr. นิ่งมั่นใจ ขับมือเดียวได้แบบชิวๆ จนเผลอถึง 140 แล้วหรือ การหักหลับ หรือเพื่อแซง ควบคุมพวงมาลัยแบบชิวๆ ไม่วอกแวก (ถ้าเทียบเป็นคน ก็นิ่ง สุขุมนุ่มลึก) อันนี้ชอบมากครับ เพราะชอบขับรถที่ความเร็ว ประมาณ 110-120 km/hr แต่ความเร็วต่ำ พวงมาลัยจะหนักนิดนึง ถ้าใครไม่ชินกระบะ ส่วน D max ขับความเร็วสูง ไม่นิ่ง ต้องใช้มือควบคุมพวงมาลัยทั้ง 2 มือ  (Ranger ชนะ (ใจผม)

-อันนี้ผมเห็นต่างอีกนิดนึงครับ ผมมองว่า Ranger ทำจุดนี้ได้ดีมากๆเรื่องความมั่นใจในการขับขี่ดีกว่าดีแม็กแน่นอน แต่ถ้าสมมติจะให้ขับมือเดียวผมจะเลือก Dmax เพราะผมพบว่า Ranger จะมีระยะฟรีของพวงมาลัยน้อยกว่าดีแม็ก แม้จะมากกว่า BT50 ก็ตาม(รายนี้คมและไวมาก 555)

4. ศูนย์บริการ (D-max ชนะ)

5. การประหยัดน้ำมัน จากความรู้สึกผม ford ranger ขับช้าๆ ตามเมือง หรือขับด้วยความเร็ว ประมาณ 110 km/hr กินน้ำมันไม่ต่างกัน อาจจะเนื่องจากรอบเครื่องยนต์อยู่ไม่เกิน 2,500 รอบต่อนาที นอกจากนี้ผมขับไม่เกิน 120 km/hr ก็ประมาณ 12-13 km/lr (จากการใช้งานจริง แต่ไม่ได้วัดจริงจัง) ขณะที่ D-max ขับในเมือง หรือขับช้าๆ ประหยัดมาก แต่ถ้าขับเกิน 110 km/hr เรียกว่า แดกเลยครับ เพราะรอบเครื่องยนต์สูงเกิน 3,000 รอบต่อนาที (D-max ชนะ)

-ผมว่าอันนี้ข้อมูลคุณอาจจะผิดพลาดค่อนข้างมากนะครับ ผมยืนยันว่าทั้งในเมืองและนอกเมืองดีแม็กกินเรียบ แล้วก็เรื่องที่ดีแม็กวิ่ง 110 กม./ชม. รอบเครื่องเกิน 3000 ร/น
ไม่ทราบว่ารุ่นไหน เครื่องอะไร เสปกไหนครับ? ผมใช้มาทุกรุ่นพบว่ามีเพียงตัวแรกเครื่อง Di เท่านั้นที่รอบเกิน ที่เหลือต่ำกว่า 3,000 ร/น ทั้งตัวก่อนและ All-new เกียร์ AT/MT ยิ่ง All new AT รอค่อนข้างต่ำด้วยซ้ำ


ุ6. เช็คระยะ ford ทุกๆ 15,000 km ก็ประมาณ 3,000-4,000 บาทต่อครั้ง ผมเข้าเช็คระยะ 2 ครั้งแล้ว

ึ7. อะไหล่ ranger ผม 30,000 km แล้ว ยังไม่ได้ซ่อมเลยครับ มีแต่เคลม อะไหล่ก็รอไม่นาน ปัญหาของรถผม ไม่เจอปัญหาเบาและหนัก ส่วน isuzu น่าจะถูกกว่า ช่างก็เก่งกว่า ทั้งในและนอกศูนย์ (D-max ชนะ)

ข้อเสียของ ranger
1. บันไดข้างประตูรถมันเล็ก และอยู่สูงไปหน่อย แม่ผม หรือคนตัวเล็กขึ้นลำบาก (อาจจะซื้อบันไดตัว mc มาเปลี่ยนก็ได้ น่าจะดีขึ้น)
2. ถ้าสีขาว สีจะบาง มีจุดถลอกเล็กๆ แต่ผมแนะนำให้เจ้าของกระทู้เอาสีส้มครับ เท่มาก เผอิญตอนนั้น ผมเงินไม่ถึง และรอนานด้วย อยู่ตามถนนก็ยังเหลียวมอง WT ตลอดครับ
3. มันสูงมาก เวลาจะเอาของที่กระบะลำบาก ยิ่งถ้าใครมีความสูงต่ำกว่า 165 ซม. ลำบากเลยครับ และล้างรถเองก็ลำบาก อาจจะต้องมีบรรได หรือเก้าอี้ช่วย

สรุป ผมคิดไม่ผิดเลยที่เลือก ranger (ตอนแรกอยากได้ bt-50 pro เพราะช่วงล่างนุ่ม หนึบดี แต่ไม่มี airbag เลยไม่เอา)

ปล. เลือกในสิ่งที่ชอบ และมีความสุขกับมัน จงอย่าไปฟังคนรอบข้างมากครับ เหมือนเราเลือกแฟนหรือเมีย คนอื่นก็บอกว่าเขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่ได้ไปสัมผัสกับเขาเลย แฟนอยู่ด้วยกันก็มีเถียงกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ก็อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า เหมือนเราใช้รถอาจจะมีส่วนไม่ดีบ้าง แต่เราก็มีความสุขในสิ่งที่เราชอบ หรือข้อดีของมัน


ออฟไลน์ hutzero

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,561
    • อีเมล์
ผมขับมาทั้ง 2 รุ่น   ไม่ได้แค่ลองขับด้วย  แต่ใช้ในชีวิตจริงเลยครับ

ช่วงล่าง Ford หนึบกว่านิดนึง ไม่ได้ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเหมือนที่บางคนพูด

มีเรื่องน่าแปลกตรงที่เวลาเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูงๆ  Dmax กลับรู้สึกมั่นใจกว่า  พวงมาลัยมั่นคงกว่า  แม้ตอนวิ่งตรงๆมันจะไม่นิ่งเท่า Ford


ส่วนอัตราเร่ง   จังหวะจะแซง เวลาใช้งานจริง   Dmax ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดมาก

ส่วน Ford นั้นต้องเหยียบแช่ให้มิดคันเร่ง "ย้ำว่าเหยียบมิดจริงๆ"  และต้องรออย่างต่ำ 3 วินาที!!  รถถึงจะเริ่มขยับตัวแซงคันหน้า


เอาเป็นว่าถ้าไม่เคยขับรถช่วงล่างและอัตราเร่งดีๆมาก่อน  ออก Ford ไปก็พอขับได้สบาย    แต่ไม่ใช่  ผมแนะนำให้ออก Dmax เถอะ  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 20, 2014, 11:01:32 โดย hutzero »

ออฟไลน์ Ponthakorn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 436
    • อีเมล์
ถ้าเป็นรถคันแรกของบ้านต้องใช้รถทุกวัน isuzu น่าจะดีกว่าครับปัญหาน่าจะน้อยกว่า แต่ของผมที่บ้านมีรถอยู่แล้ว 2 คันเลยเลือก ranger xlt 4ประตู เพราะถ้ามีปัญหาผมสามารถทึ้งรถให้ศูนย์ได้

ออฟไลน์ นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,873
  • เส้นขอบฟ้า
ถ้ารถกระบะเลือก Ford ชอบ Wildtrack เพราะสวยดีแกร่งสมกับคำว่ารถกระบะอ่ะ คิดว่าชอบไรก็ซื้ออันนั้นแหละดีที่สุด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 20, 2014, 11:43:19 โดย Fah »

ออฟไลน์ Highway Star

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
ถ้าที่บ้านมีรถคันเดียวและเน้นใช้ยาวๆเลือกดีแมคซ์เลยครับ ศูนย์บริการ ราคาขายต่อดีกว่า เครื่องแรงและประหยัดกว่าแม้ม้าจะน้อยกว่าก็เหอะ ภายในวัสดุดูลดต้นทุนไปหน่อยแต่ได้แอร์ออโต้กับจอเนวี พุชสตาร์ท ส่วนฟอร์ดจะดีในแง่บังคับควบคุมที่ดีกว่า ตัวถังแข็งแรงกว่า ภายในวัสดุดีกว่า แต่ไม่มีแอร์ออโต้ กับจอเนวี แต่แน่นอน ราคาขายต่อกับศูนย์ก็คนละเรื่องกับอีซูซุ ถ้ามีรถหลายคันจะเลือกฟอร์ดก็ได้ครับเพราะมันขับดีกว่าบังคับดีกว่า ถ้าที่บ้านมีรถหลายคันงานนี้ก็แล้วแต่ชอบเลยครับ

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
เรื่องราคาขายต่อ ดูเคสพี่ชายผมได้ครับ
คันของพี่ชายผม Ranger 4 ประตู 2.2 AuTo
ขับ 2 ยกสูง Wildtrak วิ่งไป 25,000 กม. รถปี 2012
ซื้อมา 915,000 บาท ขายไปเมื่อตอนต้นเดือน
ขายได้ 765,000 บาท ครับ 2 ปี ขาดทุน 1.5 แสน
ผมว่าราคาก็ OK อยู่นะครับ (ขายเองนะครับไม่ใช่ตีเตนท์)
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องราคาขายต่อ ดูเคสพี่ชายผมได้ครับ
คันของพี่ชายผม Ranger 4 ประตู 2.2 AuTo
ขับ 2 ยกสูง Wildtrak วิ่งไป 25,000 กม. รถปี 2012
ซื้อมา 915,000 บาท ขายไปเมื่อตอนต้นเดือน
ขายได้ 765,000 บาท ครับ 2 ปี ขาดทุน 1.5 แสน
ผมว่าราคาก็ OK อยู่นะครับ (ขายเองนะครับไม่ใช่ตีเตนท์)

ปี 2012 ป้ายแดงราคา 8แสน6 ได้ราคาดีมากๆ
ในเต้นเขาก็ขายออกราคานี้
ราคามือสองแพงกว่าดีแม๊กมาก

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
เรื่องราคาขายต่อ ดูเคสพี่ชายผมได้ครับ
คันของพี่ชายผม Ranger 4 ประตู 2.2 AuTo
ขับ 2 ยกสูง Wildtrak วิ่งไป 25,000 กม. รถปี 2012
ซื้อมา 915,000 บาท ขายไปเมื่อตอนต้นเดือน
ขายได้ 765,000 บาท ครับ 2 ปี ขาดทุน 1.5 แสน
ผมว่าราคาก็ OK อยู่นะครับ (ขายเองนะครับไม่ใช่ตีเตนท์)

ปี 2012 ป้ายแดงราคา 8แสน6 ได้ราคาดีมากๆ
ในเต้นเขาก็ขายออกราคานี้
ราคามือสองแพงกว่าดีแม๊กมาก

เอ.....เห็นพี่ผมบอกซื้อมา 915,000 น่ะครับ
ไม่ใช่ 860,000 หรือว่าพี่ผมจำปีรถผิด ???
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ sith(สิทธิ์)

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,415
  • นับ1ใหม่
    • อีเมล์
ราคาขนาดนี้ผมได้ บีทีโปร 3.2 ตัวท็อป ออฟชั่นเกือบครบ
ขาดจอกะกล้อง ส่วนลดเกือบสองแสน จากราคา 990,000
ลดแล้วเหลือ 8แสน ช่วงเวลานี้ ผมว่าบีทีโปร 3.2 คุ้มสุดๆ

อ้าวไม่มีบีทีในตัวเลือกเหรอครับ  ;D

ออฟไลน์ Deaw

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,073
    • อีเมล์
dmax กับ ranger ใกล้จะ MC แล้วนี่ครับ
ไม่ลองมองยี่ห้ออื่นบ้างหรอครับ

ออฟไลน์ sarawut66

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 92
    • อีเมล์
ชอบ ford แต่ซื้อ dmax

ออฟไลน์ JeansZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,239
    • อีเมล์
สองตัวนี้ ไป dmax ดีกว่า​ครับ ถ้า​จะ​เอา wt ต้อง​เป็นตัว 3.2 เท่านั้น

และ​แนะนำให้รอ MC ดีกว่าครับ
Ford Fiesta 1.0 Ecoboost
Toyota Yaris 1.2

ออฟไลน์ ball.design

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 158
    • อีเมล์
ford ดีกว่าครับ สวยใหญ่บึกบึน น่าใช้ ไม่ซ้ำใคร
dbx

ออฟไลน์ art343

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
    • อีเมล์
สองตัวนี้ ไป dmax ดีกว่า​ครับ ถ้า​จะ​เอา wt ต้อง​เป็นตัว 3.2 เท่านั้น

และ​แนะนำให้รอ MC ดีกว่าครับ
พอดีว่าที่บ้านไม่อยากได้ 4*4 แล้วอ่ะครับ 3.2 เลยโดนตัดออกไปแบบจำเป็น


dmax กับ ranger ใกล้จะ MC แล้วนี่ครับ
ไม่ลองมองยี่ห้ออื่นบ้างหรอครับ

รุ่นอื่นโปรน้อยมากครับ ถ้าเทียบกับสองตัวนี้ Dmax ที่ผมดูเค้าแถมประกันนะ ดอกเบี้ย 1.99 เองครับ
Ranger นี่โปรเพียบ แต่ผมแอบเสียดายภายในนะ แอบเห็นภายในตัวใหม่มาล่ะ สวยเลย ตรง วิทยุ แบ่งเป็น 2 Zone น่าจะ ปุม เพิ่มลดเสียง แบบ หมุน  ปุ่มแอร์ แบบหมุน คล้ายอีสุสุ  มีแถบคาดเหมือน เอเวอร์เรส

ราคาขนาดนี้ผมได้ บีทีโปร 3.2 ตัวท็อป ออฟชั่นเกือบครบ
ขาดจอกะกล้อง ส่วนลดเกือบสองแสน จากราคา 990,000
ลดแล้วเหลือ 8แสน ช่วงเวลานี้ ผมว่าบีทีโปร 3.2 คุ้มสุดๆ

อ้าวไม่มีบีทีในตัวเลือกเหรอครับ  ;D

BT 50 PRO ราคาน่าสนจริงๆครับ 3.2 มาเต็มเหมือนกัน แต่ก็นั่นล่ะครับ 4*4 อีก เคยมีแล้วยังขายเลยเพราะไม่ค่อยได้ใช้อ่ะครับ


ออฟไลน์ SETTHASART

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,306
  • รักชาติ ไม่คลั่งชาติ
ปกติผมใช้เก๋ง
ถ้าใช้รถคนเดียวเอาฟอร์ดไปเถอะครับ เท่ห์ดี ฟิลลิ่งการขับขี่ก็ได้ใจคนหนุ่ม ผมเคยขับตัว 2.2 มาบ้าง รถสูงๆกล้องมองหลังไม่มี เวลาถอยจอดในเมืองมันโคตรลำบากน่ะ
แต่ถ้าทำเพื่อแม่ เอาอีซูสุเถอะครับ เพราะช่วงล่างถูกใจเด็กและผู้สูงอายุ ตำแหน่งจอกลางคอนโซลก็โอเคกว่ามาก ผมได้ขับเรื่อยๆ ขอบอกคุณเลยว่าไม่ได้อืดอย่างที่เขาว่า เวลาขับ 120 มันก็ไม่ได้โคลงเคลงมากหนิครับ รอบเครื่องอยู่ไม่เกิน 2,500 คนที่บอกรอบเกิน 3 พันไม่รู้นั่งทางในมาจากไหน แต่มันไม่ตอบโจทย์พวกตีนหนักเท่านั้นเอง

รถตลาดกับรถตีตลาด ข้อดีข้อเสียต่างกันคนละด้านเลยครับ คุณต้องเลือกเอาว่าต้องการอะไรจากรถคันนี้ แต่ถ้าผมมีเงื่อนไขแบบคุณ ผมเลือกอีซูสุเพื่อแม่ครับ ส่วนเรื่องช่วงล่างถ้าคุณคิดว่ามันห่วย ก็เปลี่ยนโช็คอัพและสปริงก็น่าจะโอแล้ว จ่ายไม่เท่าไหร่

ออฟไลน์ ponggu52

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 189
ขออณุญาติอ้างถึงนะครับ เนื่องจากว่าผมเป็นผู้ใช้ดีแม็กมาตั้งแต่ตัวก่อนและเปลี่ยนมาเป็น All-new ประกอบกับที่บ้านมีคนใช้ Ranger ขอแสดงความคิดเห็นนิดนึงนะครับ

จากประสบการณ์ใช้ทั้ง D-max 3.0 hi-lander (รุ่นก่อน all new ใช้ 7 เดือน ของพี่ชาย) ช่วงทำงานใหม่ๆ และซื้อเป็นของตัวเอง คือ Ford Ranger 2.2 XLT MT

เนื่องจาก จขกท จะซื้อ AT ซึ่งเกียร์ AT กับ MT ค่อนข้างแตกต่างกันครับ แต่อย่างไรก็ตาม Ranger ดีกว่าเพราะมี 6 speed

บุคลิกการขับของผม
1. ไม่ชอบรถที่ช่วงล่างนุ่ม เกินไป ขับด้วยความเร็วแล้วโยนๆ ไม่จิกโค้ง ส่วน ranger ช่วงล่างจะหนึบๆ แข็งๆ หน่อย (Ranger ชนะ (ใจผม)) ตัว all new ก็บุคลิกเหมือนกัน

-เห็นด้วยครับ แต่ All new ช่วงล่างดีกว่าตัวเก่ามากฮะ และผมมองว่าไม่โยนมากนะครับ หากเทียบกับ Ranger โยนกว่าจริง แต่เมื่อใช้งานจริงกลับพบว่าดีใช้ได้

2. แรงบิด (Ranger ชนะ (ใจผม)

3. ความมั่นใจในการขับ ford ranger ขับมั่นใจ ช่วงล่างดี พวงมาลัย เวลาใช้ความเร็วสูง มากกว่า 110 km/hr. นิ่งมั่นใจ ขับมือเดียวได้แบบชิวๆ จนเผลอถึง 140 แล้วหรือ การหักหลับ หรือเพื่อแซง ควบคุมพวงมาลัยแบบชิวๆ ไม่วอกแวก (ถ้าเทียบเป็นคน ก็นิ่ง สุขุมนุ่มลึก) อันนี้ชอบมากครับ เพราะชอบขับรถที่ความเร็ว ประมาณ 110-120 km/hr แต่ความเร็วต่ำ พวงมาลัยจะหนักนิดนึง ถ้าใครไม่ชินกระบะ ส่วน D max ขับความเร็วสูง ไม่นิ่ง ต้องใช้มือควบคุมพวงมาลัยทั้ง 2 มือ  (Ranger ชนะ (ใจผม)

-อันนี้ผมเห็นต่างอีกนิดนึงครับ ผมมองว่า Ranger ทำจุดนี้ได้ดีมากๆเรื่องความมั่นใจในการขับขี่ดีกว่าดีแม็กแน่นอน แต่ถ้าสมมติจะให้ขับมือเดียวผมจะเลือก Dmax เพราะผมพบว่า Ranger จะมีระยะฟรีของพวงมาลัยน้อยกว่าดีแม็ก แม้จะมากกว่า BT50 ก็ตาม(รายนี้คมและไวมาก 555)

4. ศูนย์บริการ (D-max ชนะ)

5. การประหยัดน้ำมัน จากความรู้สึกผม ford ranger ขับช้าๆ ตามเมือง หรือขับด้วยความเร็ว ประมาณ 110 km/hr กินน้ำมันไม่ต่างกัน อาจจะเนื่องจากรอบเครื่องยนต์อยู่ไม่เกิน 2,500 รอบต่อนาที นอกจากนี้ผมขับไม่เกิน 120 km/hr ก็ประมาณ 12-13 km/lr (จากการใช้งานจริง แต่ไม่ได้วัดจริงจัง) ขณะที่ D-max ขับในเมือง หรือขับช้าๆ ประหยัดมาก แต่ถ้าขับเกิน 110 km/hr เรียกว่า แดกเลยครับ เพราะรอบเครื่องยนต์สูงเกิน 3,000 รอบต่อนาที (D-max ชนะ)

-ผมว่าอันนี้ข้อมูลคุณอาจจะผิดพลาดค่อนข้างมากนะครับ ผมยืนยันว่าทั้งในเมืองและนอกเมืองดีแม็กกินเรียบ แล้วก็เรื่องที่ดีแม็กวิ่ง 110 กม./ชม. รอบเครื่องเกิน 3000 ร/น
ไม่ทราบว่ารุ่นไหน เครื่องอะไร เสปกไหนครับ? ผมใช้มาทุกรุ่นพบว่ามีเพียงตัวแรกเครื่อง Di เท่านั้นที่รอบเกิน ที่เหลือต่ำกว่า 3,000 ร/น ทั้งตัวก่อนและ All-new เกียร์ AT/MT ยิ่ง All new AT รอค่อนข้างต่ำด้วยซ้ำ


ุ6. เช็คระยะ ford ทุกๆ 15,000 km ก็ประมาณ 3,000-4,000 บาทต่อครั้ง ผมเข้าเช็คระยะ 2 ครั้งแล้ว

ึ7. อะไหล่ ranger ผม 30,000 km แล้ว ยังไม่ได้ซ่อมเลยครับ มีแต่เคลม อะไหล่ก็รอไม่นาน ปัญหาของรถผม ไม่เจอปัญหาเบาและหนัก ส่วน isuzu น่าจะถูกกว่า ช่างก็เก่งกว่า ทั้งในและนอกศูนย์ (D-max ชนะ)

ข้อเสียของ ranger
1. บันไดข้างประตูรถมันเล็ก และอยู่สูงไปหน่อย แม่ผม หรือคนตัวเล็กขึ้นลำบาก (อาจจะซื้อบันไดตัว mc มาเปลี่ยนก็ได้ น่าจะดีขึ้น)
2. ถ้าสีขาว สีจะบาง มีจุดถลอกเล็กๆ แต่ผมแนะนำให้เจ้าของกระทู้เอาสีส้มครับ เท่มาก เผอิญตอนนั้น ผมเงินไม่ถึง และรอนานด้วย อยู่ตามถนนก็ยังเหลียวมอง WT ตลอดครับ
3. มันสูงมาก เวลาจะเอาของที่กระบะลำบาก ยิ่งถ้าใครมีความสูงต่ำกว่า 165 ซม. ลำบากเลยครับ และล้างรถเองก็ลำบาก อาจจะต้องมีบรรได หรือเก้าอี้ช่วย

สรุป ผมคิดไม่ผิดเลยที่เลือก ranger (ตอนแรกอยากได้ bt-50 pro เพราะช่วงล่างนุ่ม หนึบดี แต่ไม่มี airbag เลยไม่เอา)

ปล. เลือกในสิ่งที่ชอบ และมีความสุขกับมัน จงอย่าไปฟังคนรอบข้างมากครับ เหมือนเราเลือกแฟนหรือเมีย คนอื่นก็บอกว่าเขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่ได้ไปสัมผัสกับเขาเลย แฟนอยู่ด้วยกันก็มีเถียงกันบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ก็อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า เหมือนเราใช้รถอาจจะมีส่วนไม่ดีบ้าง แต่เราก็มีความสุขในสิ่งที่เราชอบ หรือข้อดีของมัน

ผมบอกว่า ผมใช้รุ่นก่อน all new คือรุ่นปี 2002-2011 ครับ เครื่อง 3.0 ผมก็บอกจากที่ผมเคยใช้