เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)

tongteeratas

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 01:22:56 »
วันๆ ดูแต่เรื่องรถ  จนไม่เป็นอันทำงานทำการ Y^Y ก็คนมันอยากได้อ่า เครียด ใครเคยประสบปัญหานี้ช่วยมาบอกทีควรจัดการยังไง
-1
ขอโทษนะครับที่จะบอกว่าคุณกำลังตกอยู่ในอุ้งมือของกิเลส ควรใช้สติตรองให้มากๆ ไม่อย่างงั้นทุกข์ในวันข้างหน้าจะหนักกว่าทุกข์ในวันนี้เยอะครับ ตราบใดที่คุณยังมีแฟ็กเตอร์ความเสี่ยงเยอะมากบนเส้นทางธุรกิจ ถ้าคุณตอบคำถามผม3ข้อนี้ว่า "ได้" คุณก็ซื้อเลยครับ อย่าว่าแต่ซีรี3เลยจะซีนี่อะไร คุณก็ซื้อได้แต่ถ้าตอบว่า "ไม่ได้" ชีวิตธุรกิจคุณยืนอยู่บนความเสี่ยงครับ
1. คุณกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนได้ตามใจคุณต้องการหรือไม่?
2. คุณควบคุมสภาวะเศรษฐกิจได้หรือไม่?
3. คุณควบคุมคู่แข่งไม่ให้มาแข่งการค้ากับคุณได้นหือไม่?

สั่นๆ ง่ายๆ3คำถามพอ ยังมี 4,5,6... อีกเยอะครับ ที่พูดมานี่คือประสบการณ์การทำธุรกิจมา30ปีกว่าๆ
อย่าพยายาม "เห็นช้างขี้ จะขี้ตามช้าง"
หวังดีจึงเตือนมา



โอ้โห ถ้าทำได้หมดก้คงเปนเศรษฐีระดับโลกแล้วหล่ะครับ ถ้าเอาตามจริงแล้วพวกนี้มันเป็น macroeconomic ครับ ไม่ไช่ microeconomic ซึ่งไม่น่าจะมีผู้ประกอบการคนไหนกำหนดได้หรอกครับ ปล. ถ้ามีใครตอบได้ช่วยบอกทีนะครับ จะไปคุกเข่าคารวะเป็นลูกศิษย์ - -"



KLANG MR-S

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 01:26:52 »
วันๆ ดูแต่เรื่องรถ  จนไม่เป็นอันทำงานทำการ Y^Y ก็คนมันอยากได้อ่า เครียด ใครเคยประสบปัญหานี้ช่วยมาบอกทีควรจัดการยังไง
-1
ขอโทษนะครับที่จะบอกว่าคุณกำลังตกอยู่ในอุ้งมือของกิเลส ควรใช้สติตรองให้มากๆ ไม่อย่างงั้นทุกข์ในวันข้างหน้าจะหนักกว่าทุกข์ในวันนี้เยอะครับ ตราบใดที่คุณยังมีแฟ็กเตอร์ความเสี่ยงเยอะมากบนเส้นทางธุรกิจ ถ้าคุณตอบคำถามผม3ข้อนี้ว่า "ได้" คุณก็ซื้อเลยครับ อย่าว่าแต่ซีรี3เลยจะซีนี่อะไร คุณก็ซื้อได้แต่ถ้าตอบว่า "ไม่ได้" ชีวิตธุรกิจคุณยืนอยู่บนความเสี่ยงครับ
1. คุณกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนได้ตามใจคุณต้องการหรือไม่?
2. คุณควบคุมสภาวะเศรษฐกิจได้หรือไม่?
3. คุณควบคุมคู่แข่งไม่ให้มาแข่งการค้ากับคุณได้นหือไม่?

สั่นๆ ง่ายๆ3คำถามพอ ยังมี 4,5,6... อีกเยอะครับ ที่พูดมานี่คือประสบการณ์การทำธุรกิจมา30ปีกว่าๆ
อย่าพยายาม "เห็นช้างขี้ จะขี้ตามช้าง"
หวังดีจึงเตือนมา



โอ้โห ถ้าทำได้หมดก้คงเปนเศรษฐีระดับโลกแล้วหล่ะครับ ถ้าเอาตามจริงแล้วพวกนี้มันเป็น macroeconomic ครับ ไม่ไช่ microeconomic ซึ่งไม่น่าจะมีผู้ประกอบการคนไหนกำหนดได้หรอกครับ ปล. ถ้ามีใครตอบได้ช่วยบอกทีนะครับ จะไปคุกเข่าคารวะเป็นลูกศิษย์ - -"

ผมว่าพี่เค้าน่าจะออกแนวเปรียบเปรยว่า ในโลกนี้ไม่มีใครควบคุมเศรษฐกิจได้ ความเสี่ยงมีอยู่ตลอดเวลา จงมีสติ อย่าประมาทมากกว่ามั๊งครับ



KLANG MR-S

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 01:35:06 »
อายุ จขกท. ยังน้อยมาก (ห่างกะผมเป็นสิบปีเลย) หาเงินได้ระดับนี้ เก่งมากครับ มุมมองผม ผมเชียร์ให้ซื้อนะ

อายุยังน้อย มีเงินซื้อไปเลย ถ้าธุรกิจไปต่อได้ดีไม่มีปัญหาก็ถือว่าดีไป แต่ถ้าสมมติมันเกิดมีปัญหามาทีหลัง ก็ถือว่าเป็นบทเรียน

คนอายุน้อยยังมีเวลาให้ล้มและก็ลุกขึ้นอีกหลายครั้ง ยิ่งไม่ได้มีภาระอะไร ลองเจ็บบ้างจะเป็นไรไป



H.

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 03:17:48 »
BMW ถ้าไม่ซีเรียสว่าต้องปีไหน ผมว่าถอยมารุ่นที่ไม่เกิน 1 ล้านดีกว่า

เพราะอย่างว่าข้อแรกเลย ผมไม่อาจรู้ได้ว่า 170k ของคุณ เป็นเงินที่กำไรใช้จ่ายได้จนหมด net หรือ เงินที่ไว้เผื่อสำหรับหมุนใช้จ่ายในกิจการในภายภาคหน้าด้วย
รวมถึงความมั่นคงของกิจการที่ทำ สินค้าที่ขายเป็นสินค้าสั้น กลาง ยาว แค่ไหน

ถ้าเป็นอย่างแรก เก็บแล้วซื้อสดไปเลยครับ รถมือสองดอกแพง ถ้าคนทำธุรกิจน่าจะพอเข้าใจว่า Power of ดอกเบี้ยมันน่ากลัวแค่ไหน
ถ้าเป็นอย่างที่สอง คำนวนเงินที่เป็นของเราจริงๆ ที่ว่าเป็นเงินที่กันไว้ส่วนตัว แล้วค่อยว่ากันอีก เพราะเอาจริงๆ E90-E93 ปีเก่าหน่อยก็สภาพยังดีนะ

แต่ส่วนตัวนะ ผมว่าซื้อไปเถอะ แต่ต้องซื้อสดนะ เป็นรางวัลชีวิต
ผมว่าถ้าผมทำได้เท่าคุณ ไม่ต้องเท่าอะ เอาซักเดือนละ 70-80k ที่เป็นเงินของเราจริงๆ ผมก็คงหา GC8 มาโมเล่นตอบสนองฝันตัวเองซักคันแล้วละ
H.



ฟง อวิ๋น

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 06:44:54 »
ผมก็ทำธุรกิจเองครับ แต่ก็ขับกระบะแค็ปรุ่นต่ำสุดไปทำงาน เพราะงานต้องลุยและพึ่งเริ่มกิจการ
พอกิจการเริ่มดีขึ้นก็ออก Fortuner มาใช้ แต่ก็ยังขับกระบะไปหาลูกค้า หากคุณแคร์ให้อ่านนี่ครับ

หากขับกระบะไป -> เป็นเจ้าของกิจการยังขับกระบะอยู่เลย ไม่เจ๋งเลยอะ
หากขับ Fortuner ไป -> พอมีตังก็อวดรวยเลยนะ
หากขับ Benz / BMW / หรือ Premium Car อื่นๆไป -> โห นี่พี่ฟันกำไรไปจากผมเท่าไหร่เนี่ย ถึงออกรถแบบนี้ได้

คนจะมองเราได้แง่ร้าย และติเราได้ทุกเรื่อง คุณขับรถอะไรก็โดนหมดแหละครับ
Isuzu SLX, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 I, Mazda2 II, D-Max, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer II, Lander III, Ranger, XL7, Forester SK, Swift, Stargazer, Aion V



Blackforlife

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 07:03:49 »
ซื้อเลยครับ ไม่ลองไม่รู้  มานั่งคิดวนไปวนมาสุภาพจิตเสีย  เป็นผมจะออก Z4 ไปเลย  ;D

ถ้าเกิดผ่อนไม่ไหวก็ขายครับขาดทุนก็ขายไปถือว่าเป็นบทเรียน
N/A  



sukhontha

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 07:20:55 »
  ผมว่ารายได้ของคุณ  ซื้อได้สบายมาก   แต่
เหตุผล...  คุณเห็นรถเป็นภาหนะแค่นั้น  หรือ  แสดงฐานะ  +  ส่งเสริมการทำงาน +สังคม ฯลฯ
    หากคุณเห็นแบบแรก  คุณจะไม่แคร์รถที่คุณใช้อยู่  แต่หากเห็นแบบหลัง  ควรเปลี่ยน

            กิเลส   ทุกคนมีครับ  แต่การควบคุมต้องพยายามทำให้อยู่ในสภาวะสมดุลย์สำหรับตัวเรา

                 ถามว่า บีเอ็ม  ผมชอบไหม?  ชอบครับ  สวย  น่าใช้  อยากได้  แต่ผมไม่ซื้อ  เงิน  มีพอซื้อ  แต่ผมกลัวใช้ไม่คุ้มค่า  กับเงินที่เสียไป   ปัจจุบันจึงใช้รถมือสอง.....
   ลดความอยากอย่างไร?   เปิดดูรถคันที่อยากได้  ทุกครั้งที่มีเวลาว่าง   เดี๋ยวความสวยก็ค่อย ๆ ลดลง  มีที่ติดตรงนั้น  ตรงนี้ ฯลฯ  จนความอยากลดลงสู่ภาวะปกติ  ประมาณนั้น



leenawat_sri

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 07:51:31 »
มีอีกเหตุผลเลยอยากให้เพื่อนๆ ช่วยตอบทีว่าผมมโนหรือคิดมากไปเองหรือปล่าวครับ

1.อยู่บ้านหลังใหญ่ แต่ ขับแค่มิราจ

2.ซื้อขายทำงาน เจ้าของบริษัท มาแล้ว ลงมาจากรถ....มิราจ

ปล.กลัวคนจะดูถูก ดูถูกผมไม่เท่าไหร่ แต่กลัวจะมาดูถูกแฟนหรือว่าที่ภารยาผมครับ

คนไข้ผมนะ ที่รวยๆ หลายคน ก้อขับรถกระบะมาหาผมนะคับ บางคนก้อแจ๊ซ..ค่ารักษาที่จ่ายผมต่อคนเกินล้าน...
(ทำรากเทียมในปาก 20ตัวในปาก เฉลี่ยตัวละ70000 อย่างต่ำ)
บางคน เสื้อผ้าเก่าๆเลย จ่ายเงินสด2-3แสน เฉยๆ เลย



mamaman

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 08:03:28 »

โห รายได้เยอะนะครับ ลองเก็บเงินสดเล่นๆ ดูซัก ปีนึงไหมครับ ดาวน์หนักๆ ไปเลย
รถมันออกมาเรื่อยๆครับไม่หนีไปไหน
แนะนำไปเช่า รถมาขับดูก่อนครับ ว่า สมเหตุสมผลไหม
ปกติ คนทำธุรกิจ เค้าจะงกนะ ไม่ยอมเสียเงินอะไรที่ฟุ่มเฟือยง่ายๆ




V221

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 08:06:45 »
ผู้หญิงเค้าจะเป็นห่วงอนาคตมากกว่าผู้ชายซะเป็นส่วนใหญ่ครับ อย่างน้องแฟนผมก็เคยบอกสามีว่า ไม่ต้องซื้อรถแพงๆอย่าง Ferrari Lamborghini หรอก แค่ Camry ก็พอแล้วแต่น้องเขยก็ไม่ยอมทำตาม เค้าก็เคยบ่นกับผมว่า สู้เอาเงินที่ขาดทุนไปกับรถมาเก็บไว้ให้ลูกเมียเผื่อเป็นอะไรไปจะได้มีเงินจุนเจือไปได้ถึงแม้ปัจจุบันจะมีเงินแบบสบายๆแต่ก็ไม่แน่ว่าธุรกิจอาจจะมีปัญหาในอนาคตได้ใครจะรู้ น้องเขยไม่ยอมเลยมีแต่ Super Car เต็มบ้านไปหมดทั้งๆที่บ้านก็หลังไม่ใหญ่
แฟนผมก็เหมือนกัน เธอบอกถ้าเอาเงินไปซื้อ Porsche ก็เก็บไว้ดีกว่าเพราะซื้อ Porsche มีแต่ขาดทุนหลายล้าน ตอนนี้ก็เลยมีตังค์เก็บแทนที่จะมี Porsche หลายๆคันแทน ความคิดก็แตกต่างกันแบบนี้แหละครับสำหรับผู้หญิงกับผู้ชาย
BMW 750E M SPORT



TorTy

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 08:08:20 »
ลองคิดดูดีๆครับผมกล้าพูดเลยว่าพอได้มาสักพักจะกลายเป็นเฉยๆไม่ได้รู้สึกอะไรมากเท่าตอนแรก
ยิ่งหาเองยิ่งเสียดายต่อไปพอประเทศเปิดผมว่าโอกาสความเสี่ยงมันมากขึ้นนะครับช่องทางของผู้ขายผู้ผลิต
จากต่างชาติเข้ามาในประเทศมีมากขึ้นยังไงต้องเจอคู่แข่งแน่ๆและถ้าเป็นผู้ผลิตเห็นช่องทางตลาดเข้ามาแข่งกับคุณเอง

จะทำยังไงอันนี้มองในแง่ร้ายนะครับอาจจะเป็นหรือไม่เป็นผมว่าซื้อรถใหม่นะซื้อได้เลยลองถามตัวเองดูจำเป็นต้องบีเอ็มไม๊
ต้องขับรถเกิน 2 ล้านไม๊ตอนนี้ผมเชียร์ให้ซื้อใหม่นะเพราะอย่างน้อยไปรถใหญ่กว่านี้คุณก็ได้รถที่ปลอดภัยมากขึ้นผมเคยเห็น
มิราจโดนซีวิคเกี่ยวบนทางด่วนต่อหน้าท้ายโดนเกี่ยวรถหมุนไปฝาดขอบทางดีไม่ตกไปข้างล่างถือว่ารถซับแรงดีอยู่ผู้หญิงใน

รถรัดเข็มขัดเลยไม่เป็นอะไรมากแต่รถเละถ้ารถใหญ่กว่านี้น่าจะเจ็บน้อยกว่านี้เยอะหรือไม่เบาพอที่ซีวิคชนแล้วหมุน
ตอนนี้คุณได้เปรียบนะเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นเป็นสินทรัพย์หรือเกร็งกำไรศึกษาพวกหุ้นด้วยผมว่าดีกว่า
ถ้าถามใจแล้วทนไม่ไหวอยากได้บีเอ็มมากและคิดว่ารายได้จะไม่ต่ำไปกว่านี้เสี่ยงน้อยทนไม่ไหวจัดไปเลยครับ

ถ้ามันจะเป็นแรงผลักดันให้คุณตั้งใจทำงานผมเชียร์ซื้อมือหนึ่งไปเลยไม่ต้องมาเสี่ยงมาปวดหัวกับรถใช้แล้วโดยเฉพาะบีเอ็มที่กล้าพูดเพราะเป็นรถที่ถือว่าจุกจิกบ้าง
สมัย E90 ผมก็มีเครมบ้างเลยไม่คิดจะซื้อบีเอ็มมือสองเด็ดขาดเพราะขนาดมือหนึ่งก็ยังมีจุกจิกเลยตอนนี้ที่บ้านกลับมาใช้บีเอ็มอีกครั้งก็ซื้อศูนย์ BSI ยาวๆหวั่นๆเหมือนกันว่า X5 จะจุกจิกไม๊
ถ้ามือ 2 มี BSI คุณต้องมั่นใจว่าที่ขายเพราะเบื่อหรือผ่อนต่อไม่ไหวไม่ใช่รถมีปัญหาจุกจิกขี้เกียจซ่อมเลยปล่อย

สิ่งสำคัญตอนนี้อย่าซื้อโดยไม่ไปลองขับเด็ดขาดเพราะความจริงกับความอยากมันมักจะไม่ไปด้วยกันคนส่วนใหญ่คิดไปไกลกว่าเยอะพอสัมผัสผมว่า
จะเบาความอยากลงตอนนี้ใกล้มอเตอร์โชว์รอเลยครับช่วงนี้อำนาจต่อรองเต็มที่ใจเย็นๆดูหลายๆที่นะครับไม่เท่ากันสักที่ยอมเสียเวลาหน่อย
เป็นผมนะจะกัดฟันรอตัว LCI ไปเลยไหนๆก็มาขนาดนี้แล้วเผื่อถึงตอนนั้นอยากได้รุ่นอื่นขึ้นมาเดี๋ยวพอใกล้ๆ 30 อยากได้เบนซ์อีกหลายคนเป็นแบบนี้แนะนำว่าดูทั้งสองยี่ห้อ

และในเมืองไทยบอกเลยว่าถ้าคุณทำธุรกิจอยากได้ภาพตามที่คุณคิดไว้บีเอ็มสู้เบนซ์ไม่ได้ได้แค่ใกล้เคียงอันนี้ในไทยนะครับจริงๆมันก็รถระดับเดียวกันนั้นแหละต้องแบ่งเป็นสองอย่างนะ
บางธุรกิจคุณขับรถดีเกินไปใช่ว่าจะดีนะกลายเป็นขายของไม่ได้คนหมั่นไส้ซะอีกถ้าเป็นแนวนี้บีเอ็มเล็กซัสช่วยได้ถ้าอยากขับแนวเดียวกับเบนซ์แต่ภาพลักษณ์เบาลงหน่อย
อยากได้ก็จัดไปเลยถ้ามันคันนัก 555+ แต่อย่าซื้อช่วงนี้เลยตัวใหม่มาตัวเก่าตกรุ่นปุ่บราคาฮวบตามถ้าทำธุรกิจเข้าใจเรื่องนี้ดีอยู่แล้วรอ LCI ไปเลยไม่ถูกใจไปสอยตัวเก่าลดเยอะอีก



Napat14

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 08:44:32 »
ผมขอทราบธรุกิจ ที่คุณทำได้ไหมครับ จะได้ประเมิญความเสี่ยงถูก ว่า ควรซื้อเลยหรือ อดเปรียวไว้กินหวาน

PM มานะครับ ผมเข้าใจว่าไม่อยากเปิดเพิย
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018



maxillofacial surgeon

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 08:55:42 »
ตอบแบบไม่คิดมากรายได้170,000  ถือว่าเยอะ น่าจะผ่อนได้สบายๆนะครับ    ซี่รี่3 ตอนนี้ ส่วนลดเยอะ ดาวถูก  ผ่อนบอลลูนก็ได้
ถ้าคิดหน่อยก็  170,000 เกิดอยากใช้จริงๆ วันเดียวก็หมดได้นะครับ  ถ้าชอบท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง
ต้องเลือกเป้าหมายในชีวิต ว่าชอบใช้ชีวิตแบบไหน  
สรุป  อย่ามโนว่าคนอื่นจะมองเราอย่างไร เช่นมีบ้านหลังใหญ่แต่ขับรถคันเล็ก มันไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นหรือแย่ลง
แต่ถ้าคุณต้องการอะไรก็จงหาเอามันมาให้ได้  คนทำธุรกิจแบบคุณทำไมจะทำไม่ได้ครับเรื่องแค่นี้เอง ;D



udis

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 09:04:09 »
เชื่อแฟนดีกว่า อย่าซื้อเลยครับ เงินเหลือๆแล้วค่อยว่ากันครับ
มีรายได้ต่อเดือนตั้งเยอะ แต่มีความกังวลกับรถแค่ 2 ล้านขนาดนี้ แสดงว่ายังไม่พร้อมเอามากๆครับ
 ;D ;D ;D



fhasociety

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 09:06:27 »
สำหรับผมนะ อย่ารีบร้อนเลย ใจเย็นๆครับ

ตัวผมเองมีบ้านหลังน้อยๆอยู่ 2 หลัง มีเงินเก็บ 7 หลัก ผมยังขับ civic fd กับ แฟนผมขับ altis 1.6 หน้าหมู อยู่เลย

อย่าได้แคร์เรื่องภาพลักษณ์มากครับ อาแปะข้างบ้านรวยระดับจังหวัด มีเงินเก็บเยอะแยะ

เขายังขับ cr-v gen 3 เลย แกสอบผมตลอดว่า อย่าไปแต่งเปลือกนอกมาก สวยข้างนอกแต่ก็เน่าข้างในเยอะแยะ

สู้เอาเงินที่มีไปต่อยอดสร้างรายได้ในอนาคตดีกว่า ผมนี่จำใส่สมองเลย...

ปล.ผมว่ารอมอเตอร์โชว์แล้วค่อยจัดดีกว่า ไม่ก็รอช่วงใกล้ mc ลดกระจายยยย



Spec C Wannabe

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 09:25:08 »
ผมคิดว่าเจ้าของกระทู้คิดมากไปนะครับ ;D

ซื้อรถคันเดียว คิดมาก + เครียดซะขนาดนี้ ==> จริงๆแล้วผมก็เคยเป็นครับ :D  แต่เดี๋ยวนี้ไม่เอาแล้ว เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า

รถ หรือข้าวของใดๆ ถ้าซื้อแล้วเราไม่เดือดร้อนก็ซื้อได้ครับ   มันมา แล้วมันก็ไป คุณคงไม่ใช้ BMW คันนี้ไปจนตายหรอก สุดท้ายก็เบื่อ พอขายไปเงินเราก็หายไปกับมัน มีแต่ความทรงจำและประสบการณ์ที่ยังเหลืออยู่ สุดท้ายแล้วมันก็เหมือนจ่ายค่าเช่าใช้นั่นแหละ จะเช่ากี่ปีก็แค่นั้นเอง เราเองนั่นแหล่ะที่ชอบไปคิดเองว่ามันเรื่องใหญ่

อยากทำ ก็ทำซะ แต่หากซื้อแล้วเดือดร้อนตัวเองและคนรอบข้าง ก็อย่าทำ ไม่มีสูตร ไม่มีข้อคิด ไม่มีคำแนะนำใดๆ  ใช้เหตุผลและการไตร่ครองของตัวเราเองนั่นแหละจะบอกได้ดีที่สุดว่าเราสมควรซื้อหรือยัง

เอากรณีผมไปเลย.....ผมซื้อรถคันละสองล้านสอง ตอนนั้นมีเงินเดือนห้าหมื่นกว่า ผ่อนเดือนละสองหมื่นนิดๆ เงินเก็บในแบงค์มีเป็นหลักหมื่น :o  ผ่อนไหวครับ ผมผ่อนรถมาสามคัน ไม่เคยขาดกส่งเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ลำบากอะไรมากมาย แค่กระเบียดกระเสียนนิดหน่อย ;)  แต่ก็ไปเที่ยวต่างประเทศ ไปเฮฮากับเพื่อนได้นะ มีเงินเหลือแต่งด้วย เพราะเงินเดือนค่อยๆขึ้น มีโบนัสเข้าปลายปี เล่นอยู่เจ็ดปี ขายไปนานละ

คุณมี 170K/month เงินเก็บหลักล้าน ไม่มีหนี้ มีบ้าน หากคุณไม่มีภาระอื่นๆมากมาย และไม่มีแผนจะต้องเอาเงินไปลงทุนในกิจการของตัวเอง อ่านเคสผมแล้ว แล้วคุณจะรออะไรอยู่ครับ?
 



faora

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 10:19:59 »
ถ้างานที่ทำอยู่จดเปนรูปบริษัทฯ
ก็ไปเช่ารถแบบระยะยาว 4-6ปี
และเอาค่าเช่ามาเปนค่าใช้จ่ายของบริษัทครับ
ลดภาระภาษีของบริษัทด้วย



chinjung

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 10:47:20 »
ตอนแรกว่าจะพิมพ์อะไรเยอะกว่านี้ แต่เห็นรูปโปรไฟล์ จขกท แล้ว เหมือนอยู่ในภวังค์คิดอะไรไม่ออก
บอกได้แค่ว่า รถทำให้คนสนใจเรามากขึ้นจริง แต่เราอยากให้คนสนใจเราเพราะรถหรือเพราะตัวเรา
ภาระทางสังคมเพิ่มขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะทิปเด็กจอดรถเห็นเป็นรถยุโรปก็คาดหวังว่าจะได้เยอะให้ยี่สิบบาทมีเคือง
ต้องกังวลเรื่องที่จอดอีก(จอดขนานไม่ได้) คาร์แคร์บางเจ้าเก็บเยอะกว่ารถญี่ปุ่นทั้งที่ขนาดรถเล็กกว่า  
เกิดเฉี่ยวชนเราไม่ผิดก็ต้องปล่อยๆไปเพราะคุณรวยผมจน ฯลฯ
ตอนไม่มีคนก็ดูถูก  มีแล้วคนก็อิจฉา ขายทิ้งคนก็ซ้ำเติม ยังไงก็หนีไม่พ้นครับ
ถ้ารายรับ  170k ไม่มีภาระ ผมคิดว่าผ่อนได้ ดาวน์ 25% ยื่นไฟแนนซ์ไหนก็ผ่าน สบายๆเลย ถือว่าเป็นรางวัลชีวิต
แต่ถ้าเกิดวิกฤตทางการเงินต้องตัดสินใจเร็ว ขายทิ้งอย่ายืดเยื้อ ขายดาวน์ถูกๆไป
แล้วตอนที่ออกมิราจ จขกท กังวลหรือเปล่า ?

อ่ออีกอย่าง 320i luxury  2,350,000  น่าจะได้ส่วนลดสัก  250,000++ เผลอๆไปช๊อปช่วงมอเตอร์โชว์อาจได้มากกว่านี้อีกเยอะ
ล่าสุดที่ได้มา 116i M Sport 1,999,000  ได้ส่วนลด 230,000 ลองเก็บไว้พิจารณาอีกคัน
BMW ไม่ได้เลือก ไม่ได้ลอง ไม่ได้ช๊อบ อย่าซื้อครับ ถ้ากลัวว่าขับมิราจไปแล้วเซลล์จะไม่สนใจ ให้ไปมอเตอร์โชว์เลยรับรองเนื้อหอมเซลล์รุมตอมแน่น่อน
ขอให้มีความสุขกับรถคันใหม่ครับ

320i luxury ตัวลดออฟชั่นใช่ป่าวคับ ผมก้กำลังสนใจเหมือนกันแต่ตอนนี้หาส่วนลดได้แค่150K + (ไม่ค่อยมีเวลาคุยกับเซลด้วยคับ)
ส่วนตัวผมก้รายได้100k-140k เองคับต่อเดือน ธุระกิจส่วนตัว เมีย1 ลูกเล็ก1 ตอนแรกจะเอารถครอบครัวคับแต่ใจมันมาทางbmwเต็มร้อย อีกอยางแฟนก้ชอบ ได้ส่วนลดเยอะสุดที่ไหนผมก้จัดที่นั้นเลยคับไม่มีลังเล ใจมันรักไปแลัว^^

ปล. สงสัยได้เจอ จขกท ที่motorshow เดือนนี้แน่เลย


อิอิ ขอบคุณที่มาตอบครับ ผมก็หลงBMWเหมือนกันเลย อิอิอิ แต่ยังไม่มีลูกกับภารยาเลยครับ มีแต่แฟน



chinjung

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 10:49:13 »
ผมว่าคุณใจเย็น ๆ  กลับมาตั้งสติก่อนดีไหม   อายุคุณยังมีโอกาสขับรถดีดีได้อีกมากมายไม่จำเป็นต้องเป็น BM   ที่พูดน่ะคือรถ BMW  มันไมไ่ด้น่าหลงไหลถึงขนาดกินไม่ได้นอนไม่หลับขนาดนั้น    แต่ก็นะคนชอบคนหลงเหมือนผ่านไปเจอสาวสวยคงหลงบ้างแต่อาจไม่ใช่รักแท้ก็ได้ 
รถ BMW  เป็นรถที่มีเกลือนในตลาด  ไม่ได้หายากอะไรเลย         มือ 2 ในตลาดรถเพียบราคาร่วงเป็นดาวตกจากป้ายแดง 
ตอนนี้พอีเงินอยู่บ้างสำหรับผ่อน    คุณลองไปเช่าจากบริษัทรถเช่ามาขับซัก 1 เดือนก่อน จากนั้นเปลี่ยนรุ่น BMW  ไปเรื่อย ๆ   เอาที่พอใจบางทีมันจะลดความหยากได้ของคุณลงแล้วจะหันมามองรถหรือรุ่นรถที่คุณได้ใช้มันจริง ๆ   หรือบางทีอาจไปดูรุ่นอื่นแทนเลยก็ได้     ไหนไหน ๆ มีเงินผ่อนอยู่แล้ว    ลองมาเช่าขับให้หายอยากจะพบคำตอบว่ายังรักมันจริงหรือไม่

ขอบคุณมากๆเลยครับ ที่มาบอก น่าคิดมากครับ สงสัยต้องลองหาๆๆมาเช่าขับดูบ้างละ



chinjung

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 11:01:23 »
ขอบคุณทุกคนเลยที่มาตอบคำถามนะครับ ส่วนตัวผมจะเอาคำที่ทุกคนบอกไปคิดอีกทีครับ  ขอบคุณมากเลยครับที่แนะนำครับ



chinjung

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 11:05:14 »
ผมก็ทำธุรกิจเองครับ แต่ก็ขับกระบะแค็ปรุ่นต่ำสุดไปทำงาน เพราะงานต้องลุยและพึ่งเริ่มกิจการ
พอกิจการเริ่มดีขึ้นก็ออก Fortuner มาใช้ แต่ก็ยังขับกระบะไปหาลูกค้า หากคุณแคร์ให้อ่านนี่ครับ

หากขับกระบะไป -> เป็นเจ้าของกิจการยังขับกระบะอยู่เลย ไม่เจ๋งเลยอะ
หากขับ Fortuner ไป -> พอมีตังก็อวดรวยเลยนะ
หากขับ Benz / BMW / หรือ Premium Car อื่นๆไป -> โห นี่พี่ฟันกำไรไปจากผมเท่าไหร่เนี่ย ถึงออกรถแบบนี้ได้

คนจะมองเราได้แง่ร้าย และติเราได้ทุกเรื่อง คุณขับรถอะไรก็โดนหมดแหละครับ


คำตอบพี่ น่าคิดมากครับ ขอบคุณครับ



Mekkub

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 11:38:03 »
เป็นผมรายได้ขนาดนี้เงินเก็บขนาดนี้แถมไม่มีหนี้ผมจัดซีรีย์ 5 ไปแล้ว แหะๆ



mick

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 11:52:11 »
ผมว่าชอบก็เอาเลยครับ เอาตัว base หรือ 316i ไม่ถึง 2 ล้าน ก็ได้มือ 1 แล้วครับ
เผื่อได้มาแล้วจะมีความสุขขึ้นครับ ชีวิตไม่แน่นอน อยากทำอะไรไม่เดือนร้อนก็ทำครับ



chinjung

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 13:09:56 »
ผมว่าชอบก็เอาเลยครับ เอาตัว base หรือ 316i ไม่ถึง 2 ล้าน ก็ได้มือ 1 แล้วครับ
เผื่อได้มาแล้วจะมีความสุขขึ้นครับ ชีวิตไม่แน่นอน อยากทำอะไรไม่เดือนร้อนก็ทำครับ

ขอบคุณมากครับ ส่วนตัวน่าจะจัดแล้วละครับในงานมอเตอร์โชว์ที่จะถึงนี้ครับ ขอบคุณมากครับ



JeansZ

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 13:12:16 »
รายได้​ระดับ​นี้ ออก​มือ 1 ป้าย​แดงดีกว่า​ครับ ถ้ามือสองควรเก็บเงินไว้ซื้อสด อีก​อย่างรถ​พวก​นี้ คน​ส่วนใหญ่นิยม​ซื้อ​สด​กัน​ครับ

ส่วนเรื่องขับรถ​ไม่สมฐานะ โดยทำธุรกิจรายได้​สูงแต่ขับรถราคาถูก อันนี้​อย่า​ไป​แคร์ครับ มีญาติผม ครอบครัวนึง เป็นเจ้าของ​ฟาร์มวัวเนื้อ+สวนมะนาว+สวนส้ม แล้ว​ยัง​มี​โรงงาน​ผลิต​น้ำดื่มสำหรับขายในพื้นที่ด้วย กำไร​ต่อ​เดือนหลาย​แสน​อยู่ แต่ลุง (หัวหน้าครอบครัว) ยัง​ขับ Dmax 4 ประตูอยู่​เลยครับ ลูกสาวสอง​คนขับ Vios และ Yaris

แต่​ถ้า​ขับรถ​ไม่สมฐานะแบบว่าขับรถ​เกินตัว เช่น​ผม​เอง เพิ่ง​เรียนจบ ขับ Fiesta ecoboost ให้​พ่อ​ดาวน์​ให้ แต่พ่อยังขับกระบะคันเก่าๆ (mighty X) อยู่เลย อันนี้​จะ​เป็นที่ไม่น่าภูมิใจ​ครับ เพราะถูก​ญาติๆ หลายคนว่ามาเหมือนกัน
Ford Fiesta 1.0 Ecoboost
Toyota Yaris 1.2



dht_tubes

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 13:24:24 »
มีอีกเหตุผลเลยอยากให้เพื่อนๆ ช่วยตอบทีว่าผมมโนหรือคิดมากไปเองหรือปล่าวครับ

1.อยู่บ้านหลังใหญ่ แต่ ขับแค่มิราจ

2.ซื้อขายทำงาน เจ้าของบริษัท มาแล้ว ลงมาจากรถ....มิราจ

ปล.กลัวคนจะดูถูก ดูถูกผมไม่เท่าไหร่ แต่กลัวจะมาดูถูกแฟนหรือว่าที่ภารยาผมครับ

แคร์รึครับ ถ้าแคร์แสดงว่าคนพวกนั้นมีอิทธิพลกับชีวิตของคุณละ (ทั้งที่ไม่ได้หาเลี้ยงคุณ)

ใครจะกล้าดูถูกคุณ นอกจากคุณดูถูกตัวเอง ผมพูดจริง ๆ นะ ลองคิดให้ดี ๆ ครับ

เห็นด้วยกับเม้นท์นี้

ความคิดผมรายรับ 170,000 / เดือน ก็ปีละ  เต็มที่เลยนะ40% รวมค่าน้ำมัน + ค่าซ่อมบำรุงในระยะ 5 ปี ก็เอาเป็นว่าผ่อนรุ่นไหนก็ดูเอา เดือนละไม่เกิน 50,000.- กี่ปีจบก็ว่ากันไป น่าจะพอไหวนะ



Nismo De Alpina

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 13:47:47 »
ถ้ารู้สึกไม่เดือดร้อน ไม่เป็นภาระ และอยู่กับมันแล้วสุขทุกครั้ง ผมแนะนำซื้อเถอะครับน้อง
คนเราชอบอะไรไม่เหมือนกัน อย่าเอาความคิดคนอื่นมาทำให้เราทำหรือไม่ได้ทำอะไรที่เรารัก
สำหรับผมแล้วถ้าผมพร้อม ผมจัดแน่นอนและจัดมาแล้วด้วย ผมรู้ตัวว่าบ้ารถมาตั้งแต่เด็ก ชีวิตชอบ
ที่สุดคือรถ

บางคนชอบสะสมทอง ที่ดิน บ้าน ชอบเที่ยวต่างประเทศ กินหรู นอนหรูแต่ขับรถเก่าๆก็มีเยอะแยะ
นั่นมันก็ชีวิตเขา ไม่ใช่เรา แต่ผมก็มีที่ทางพอที่จะให้ลูกหลานได้อยู่อาศัยทำมาหากินเมื่อเขาเติบใหญ่
ห่วงครอบครัวก็ส่วนหนึ่ง แต่ความฝันมันก็ส่วนหนึ่ง ทำทั้ง 2 อย่างให้สมดุลย์ ถือคติทำงานหาเงินแทบตาย
สุดท้ายฝันก็ยังเป็นฝัน

เมื่อมีโอกาสที่เหมาะสมแล้วทำไมไม่ทำให้ฝันเป็นจริงล่ะ ตอบแทนตัวเองบ้างตามฐานะ ถามตัวเอง เราเกิด
มาเพื่ออะไร? ความสุขเราคืออะไร? แล้วได้ทำอะไรที่ฝันไว้ก่อนตายหรือยัง แค่นั้นจริงๆ

ขออภัยถ้าคำแนะนำของผมอาจจะห่ามๆ แต่ที่เล่ามานี่คือหลักการใช้ชีวิตของผมจริงๆ ที่เหลือก็แล้วแต่คุณแล้ว
 
Eventually i've made my home country,Thailand.



chinjung

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 14:45:45 »
ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆที่มาตอบผมนะครับ ขอบคุณมากเลยครับ



porcupine

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 15:10:54 »
จัดป้ายแดงไปเลยครับ เก็บเงินดาวน์อีกนิด ตอนนี้มีโปรแกรมผ่อนหลายแบบตามใจลูกค้า ทำธุรกิจมันดิ้นได้ครับ หมุนเงินกันให้วุ่น ยังไงผมเชื่อว่าผ่อนไดั ผมก็หมุนไปผ่อนรถไปจนปีหน้าจะหมดแล้วครับ อยากได้ต้องได้ อิอิ



laempiab

Re: เครียด+เรื่องรถ?? (ขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต)
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: มีนาคม 14, 2015, 20:14:53 »
ผมเชื่อว่า
ตอนนี้
อะไรก็ห้ามคุณไม่อยู่แล้วล่ะครับ

http://www.autoevolution.com/news/2014-bmw-316i-m-sport-review-by-car-advice-74233.html#