ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบข้อมูล Volkswagen Passat 1.9 TDI  (อ่าน 34684 ครั้ง)

ออฟไลน์ Syn_dy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 33
อยากทราบข้อมูล Volkswagen Passat 1.9 TDI
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2010, 16:12:38 »

   รบกวนคุณจิมมี่และเพื่อนสมาชิกครับ อยากทราบข้อมูล + Review รถ Volk Passat 1.9 TDI

  เครื่องดีเซลครับ พอดีมีเพื่อนสนใจจะซื้อรุ่นปี 2004-2006 ฝากถามมาครับ

  รถรุ่นนี้เป็นยังไงบ้าง ซ่อมจุกจิกมั้ย ราคาน่า(ช่วงนี้)จะประมาณเท่าไหร่

  รบกวนเพื่อนๆที่มีข้อมูลและ Review ช่วยแบ่งปันข้อมูลกันครับ  :D

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: อยากทราบข้อมูล Volkswagen Passat 1.9 TDI
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2010, 21:01:28 »

   รบกวนคุณจิมมี่และเพื่อนสมาชิกครับ อยากทราบข้อมูล + Review รถ Volk Passat 1.9 TDI

  เครื่องดีเซลครับ พอดีมีเพื่อนสนใจจะซื้อรุ่นปี 2004-2006 ฝากถามมาครับ

  รถรุ่นนี้เป็นยังไงบ้าง ซ่อมจุกจิกมั้ย ราคาน่า(ช่วงนี้)จะประมาณเท่าไหร่

  รบกวนเพื่อนๆที่มีข้อมูลและ Review ช่วยแบ่งปันข้อมูลกันครับ  :D

เอาที่เคยใช้นะครับ (เอ๊ะ เหมือนเคยพิมพ์ไปแล้ว http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=4280.0)

เล่าใหม่แล้วกัน

ปลายปี 2003 ผมกำลังหารถขนดครอบครัว มาแทน E39 ที่มีคนมาขอทาบทาม แต่ตัวผมก็ยังไม่จริงจังมาก ที่จะขาย เพราะคิดว่ารถยังไม่ได้เก่าขนาดจะขาย

ได้ไปแวะ โชว์รูมแห่งหนึ่ง แถว........ (งดโฆษณาแฝง) มี ซึ่งไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปดูรถPassat TDi แต่อย่างไร เพราะตอนนั้น ไม่ได้นึกถึงว่ามันได้ถูกเอาเข้ามาพร้อม Look ใหม่เรียกว่า B5.5
สิ่งที่สะดุดตาที่สุดในโชว์รูม ไม่ใช่ Pretty หน้าหวานที่ยืนคุยกับลูกค้าอีกท่านหนึ่ง (ขืนบอกว่า Pretty สะดุดตาสุด คงไม่ได้เล่ากันต่อ) แต่เป็นป้ายราคา 1.69 ที่แปะอยู่ข้าง VW Beetle  ซึ่งถ้าใครเดินผ่าน คงนึกว่า Beetle คงราคาเท่านั้นแน่ ๆ แต่ คุณเข้าใจผิดครับ

มันเป็นราคาของเจ้า VW PASSAT Tdi ที่ตอนนั้น รถที่โชว์ เป็นรถประกอบนอก แต่ตัวจริงที่ขายจะประกอบใน มีกำหนดส่งมอบ ทันทีที่ต้องการ โอ้โห (ซึ่งจริง ๆ แล้ว รถไม่ได้ประกอบในซักหน่อย)

ไอ้ผมก็เงอะ ๆ งะ กับน้อง Pretty อยู่ว่าจะเดินไปขอ Brochure ดีรึเปล่า แต่ แค่คิด น้องก็เดินมาหา ผมก็ พร้อมกับเสนอรอยยิ้มหวานให้ ก่อนจะเอ่ยปากถามว่า "สนใจรุ่นไหนคะ" ซึ่งไอ้เพื่อน(ลืมเล่าว่าเพื่อนไปด้วยครับ)สัปดนของผมก็ปากไว ใจกล้า หน้าหนา บอกน้องไปว่า "รุ่นเดียวกับน้องครับ" เวรแล้วครับมันทำเอาผมยืนเซ่อ ไปหน่อย ไม่คิดว่ามันจะไว แต่ ที่ไปกว่านั้น น้องคนนั้นดันไวกว่า
" ดีเลยคะ เมย์กำลังโปรโมทรุ่นนี้พอดี นี่คะ โบรชัวร์"
นั่นงัยครับ น้องเอาโบรชัว Passat Tdi มาให้ พร้อมผายมือเล็ก ไปที่รถ แล้วก็สาถยาย สรรพคุณ ต่าง ๆ นา ๆ ซึ่งผมก็บอกได้เลยว่า จำไม่หมดล่ะครับ
มาสะดุดเอาอีกทีที่ประโยค 17Km/Litre

"17 Km/Litre !"  ผมเผลอหลุดปากถามกลับไป ถึงกับทำให้น้องเมย์สะดุด อึ๊ก แต่เธอก็รับได้ และตอบยืนยันกลับมา

โฆษณา ทุกอย่างสามารถทำให้เกิดได้ นี่ก็อาจจะเป็นเพียง ข้อมูลที่ใช้ในการนี้เท่านั้น การใช้งานจริง อาจจะม่ได้อย่างนั้น ผมกับเพื่อนตัวแสบ เดินวน ๆ ดูรถPassat และ New Beetle อยู่พักหนึ่งก่อนจะลากลับบ้าน แต่ก็มิวายที่จะมีเบอร์น้องเมย์ติดมือเพื่อนผมมาด้วย ซึ่งนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เจอน้องคนนั้น และนั่นแหละที่เรียกว่า ความสำเร็จของการโฆษณา เพราะอย่างน้อย มันก็ทำให้ผม และเพื่อน ถือโบรชัวร์เจ้าPassat ติดมือกลับไปอ่านได้

ผมวางโบรชัวร์นั้นอยู่บนโต๊ะทำงานเกือบ ๆ เดือน ก่อนที่พี่สาวผมจะกลับบ้านมาเย็นวันหนึ่งพร้อมกับบ่นเรื่องรถ E39 ว่ามันกินน้ำมันเหลือเกิน
คุยไปคุยมา อย่างไรมิทราบได้ ผมก็หยิบเอาโบรชัวร์ที่ถูกวางทิ้งในกองกระดาษบนโต๊ะมาให้พี่สาวผมดู แต่ถึงแม้ว่ารถจะประหยัดขนาดไหนมันก็ไม่คุ้มที่จะออกรถใหม่อยู่ดี เพราะเงินที่ต้องเพิ่มไปกับรถใหม่ ก็ยังเอาไปเติมน้ำมันได้ตั้งหลายปี

เหมือน ๆ ว่าโปรเจ็กนี้จะล่ม แต่ ก็เหมือนโชคชะตาพาไป

ห้าเดือนต่อมา เพื่อนตัวแสบ ทีแอบไปกุ๊กกิ๊กกับน้องเมย์ โทรมาหาผมขอความช่วยเหลือ และไม่ใช่อะไรนอกจากเรืองเงิน มันมีปัญหา ผมก็อยากช่วย แต่จะอย่างไรล่ะ ?
ข้อเสนอตอนนั้น เป็นเรื่องที่ทำให้ผมแปลกใจอยู่คือ มันออกรถ Passat Tdi ออกมา ตั้งแต่อาทิตย์แรกหลังจากไปดูรถโดยไม่ได้พูดกับผมมาก่อน แต่เงื่อนไขที่มันได้คือ จ่ายเช็คสิบหกงวดไม่มีดอก และนั่นก็หมายถึง มันไม่สามารถจ่ายต่อในงวดที่เหลือ ซึ่งหากคำนวนดู หากผมขาย E39 ก็ยังเหลือเงินไปออกPassat ต่อจากมันได้เลย

สามวันให้หลัง ผมไปบ้านมัน เพื่อไปรับรถ สภาพรถถูกจอดอยู่ใต้ผ้าคลุมสีดำ ราวกับไว้ทุกข์ให้เจ้าของที่มีปัญหาการเงินอย่างนั้น
รถถูกใช้ไปเพียง 1xxx โลเท่านั้น มันบอกว่า ไม่ได้ใช้รถเลย เพราะมันก็ใช้รถอีกคันอยู่

ผมขับรถกลับบ้าน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 14, 2012, 13:33:19 โดย jaesz »

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: าก Volkswagen Passat 1.9 TDI
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2010, 23:04:48 »
ผมขับรถกลับบ้าน และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้ขับเจ้า Tdi

ก่อนขึ้นขับรถคันนี้ผมไม่ได้คาดหวังอะไรจากมันเลย เพราะตอนดูรถที่ศูนย์ การออกแบบภายในที่แสนจะโบราณไม่สปอร์ททำให้นึกถึงรถยนต์ 10-20 ปีก่อนและพาลคิดรวบไปว่ารถคงขับได้พอ ๆ กับรถเก่าๆ สมัยนั้นนั่นแหละ

แต่ความคิดนั้นหมดลงเมื่อแป้นคันเร่งถูกกดลงเบา ๆ ไปครึ่งทาง อัตราเร่งที่ถูกผลักดันจากเครื่อง 1.9l ดีเซลเทอร์โบ พารถน้ำหนักเกินกว่าตันปลาย ๆ ทยานไปข้างหน้าอย่างกับรถจะบอกกับคนขับว่า "เป็นอย่างไรละ เห็นแรงผมมั๊ย" ซะอย่างนั้น

การควบคุมรถด้วยพวงมาลัยที่มีน้ำหนักกำลังดี( แต่อาจจะเบาไปสำหรับคนที่เคยขับรถยุโรปคันอื่น ๆ ขนาดเดียวกันมาก่อน)ทำได้อย่างง่ายได้ ไม่แสดงอาการของรถขับหน้าแต่อย่างไร (ในเมืองนอกมีตัวขับสี่ด้วยครับ) ทุกครั้งที่หมุนพวงมาลัยแม้ในความเร็วสูง ความรู้สึก และ ตัวรถ บอกคุณให้รู้ว่า คุณควบคุมมันจริง ๆ

เสียงเครื่องยนต์ภายในห้องโดยสารนั้นยากจะบอกว่ารถคันนี้ใช้เครื่องดีเซล และหากไปฟังภายนอกรถ อาจจะเหมือนกับว่ารถคันนี้เสียงดังกว่ารถเป็นซินทั่วไป แต่ก็ไม่ได้ดังขนาดรถกระบะรุ่นเก่า ๆที่ใช้โซ่ราวลิ้น เพราะรถคันนี้ใช้สายพานราวลิ้น และการเก็บเสียงใต้ฝากระโปรงหน้า ทำได้ดีสมเป็นVW

ตั้งแต่รถคันนี้มาอยู่ในรั้วบ้าน มันถูกขับออกไปทุกวัน วันละหลาย ๆ ครั้ง เพราะมันเป็นรถกลางสำหรับทุกคนในบ้าน ที่ผมเรียกรถคันนี้ว่าครอบครัวเพราะมันเป็นรถขนาดครอบครัว และใช้กันทั้งครอบครัวจริง ๆ เหมือนยาสีฟันขนาดครอบครัวนั่นแหละครับ
และด้วยความที่มีหลายมือขับ การดูแลรักษาอยู่ทีผมคนเดียว แต่การเิติมน้ำมันนั้น แตกต่างไปตามคนเติม บางครั้งมันถูกป้อนด้วย B100 จากปั๊มแถวบ้านที่ปัจจุบันเลิกกิจการไปแล้ว(ใครเคยขับไปบนถนนเพชรเกษม ก่อนเข้าเมืองนครปฐมจะเห็นปั๊มร้างทางซ้ายมือ นั่นแหละครับ) บางครั้งก็เติมVPower เรียกว่าเติมมันทุกอย่างที่มีคำว่า Diesel นั่นแหละ แต่รถก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างไรจนถึงวันที่ขายมันไปก็ยังใช้ได้ดีตามปรกติ ที่ 180000 กิโลเมตร

ท้ายรถนั้นเปิดกระโปรงมาอาจจะดูเล็กหลอกตาอยู่ แต่เอาเข้าจริง ๆ จักรยานล้อ 26 นิ้วสองคัน ถอดล้อหน้าออก สามารถเข้าไปอยู่ในท้ายรถได้

อัตราสิ้นเปลืองของรถคันนี้ ตั้งแต่ 10-20 กิโลเมตรต่อลิตรกลายเป็นเรื่องปรกติ ขึ้นกับสภาพการใช้งาน ในฤดูฝน เคยต้องขับรถช้า ๆ พากันไป 60-80km/Hr ก็ทำได้ 20 Km/L แต่ถ้ารถติด ก็อยู่แถว ๆ 10Km/l หรือถ้าขับนอกเมือง สบาย ๆ 100-120 ก็ยังได้ 17 Km/l

ฟังข้อดีมาเยอะ

ข้อเสียบ้างนะ อย่างแรกเลยคือศูนย์บริการ
15000 โลแรก เสียไป 5000 บาท จำรายการไม่ได้ แต่ไม่ได้เข้าอีกเลย
ไปอู่นอกครับ ไม่เคยเกินครั้งละ 2000 มีบางครั้งจ่ายแ่ค่ 700

ที่น่าเบื่อก็คือ 60000 โลต้องเปลี่ยนสายพาน Timing และ มันถูกระบุในคู่มือ ครั้นจะยืดออกไปกว่านั้นก็กลัวว่าจะทำรถพังซะก่อน
ตอนขายไปที่ 180000 สรุปว่าต้องเปลี่ยนสายพานถึง 3 ครั้ง

แอร์รถรุ่นนี้ บอกได้เลยว่า ออกแดดไม่เก่ง ต้องเอารถไปติดฟิลม์หนา ๆ ถึงพอช่วยได้ ตามประสารถที่มี Heater ที่ต้องเร่งแอร์กันสุด เพื่อหนีน้ำร้อนที่จะไหลมาในระบบปรับอากาศ
ราคาขายต่อตอนนั้นถ้าต้องซื้อราคาเต็มมา คงเจ็บปวดใจมิน้อย
สรุป รถคันนี้ เป็นรถที่น่าประทับใจ ขับดี ประหยัดน้ำมัน แรงพอตัวเมื่อนึกถึงว่ามันถูกผลิตบนพื้นฐานรถอายุเกินสิบปีแล้ว หากไม่ติดว่าภายในอัปลักษณ์ คงจะเก็บมันไว้ใช้จนรถมันพังไปแน่ ๆ เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 02, 2010, 09:11:27 โดย jaesz »

ออฟไลน์ Syn_dy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 33
Re: อยากทราบข้อมูล Volkswagen Passat 1.9 TDI
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2010, 11:19:51 »
ขอบคุณมากครับ คุณ jaesz 

  จากข้อมูลที่เล่าให้มานี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นรถที่น่าใช้มากเลยครับ

  ว่าแต่คุณ jaesz ขายรถไปนานหรือยัง แล้วขายไปเท่าไหร่พอจะบอกได้มั้ยครับ

  เท่าที่ใช้มา 180,000 กิโล มีปัญหาจุกจิกอะไรบ้างมั้ยครับ

                  ขอบคุณ คุณ ขอบคุณน้ำใจ

ออฟไลน์ Syn_dy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 33
Re: อยากทราบข้อมูล Volkswagen Passat 1.9 TDI
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2010, 11:21:58 »
ขอบคุณ คุณ jaesz (ขอบคุณในน้ำใจที่แสนดี ของสังคมดีดี ที่ Headlightmag แห่งนี้ครับ)

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: อยากทราบข้อมูล Volkswagen Passat 1.9 TDI
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2010, 21:29:41 »
ขอบคุณมากครับ คุณ jaesz 

  จากข้อมูลที่เล่าให้มานี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นรถที่น่าใช้มากเลยครับ

  ว่าแต่คุณ jaesz ขายรถไปนานหรือยัง แล้วขายไปเท่าไหร่พอจะบอกได้มั้ยครับ

  เท่าที่ใช้มา 180,000 กิโล มีปัญหาจุกจิกอะไรบ้างมั้ยครับ

                  ขอบคุณ คุณ ขอบคุณน้ำใจ

ขายไปต้นปี 2008 ราคาขายตอนนั้น 680,000บาท ส่วนตัว ไม่จุกจิกครับ แต่ห้องเครื่องมันแน่น เวลาเปลี่ยนสาบพานTIMING แต่ละครั้งเอารถไปทิ้งเป็นวันเหมือนกันเพราะต้องรื้อกันชนหน้าออกถึงจะทำได้

แวะไปอ่าน http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=4280.0 ผมบอกไปแล้วว่าซ่อมอะไรไปบ้าง

มีหลายคนที่ใช้แล้วเจอปัญหากับอู่นอก กับศูนย์ ทำให้รถมีปัญหา คือถ้าหาช่างไม่ดี ก็ไม่จบครับ ช่างที่ผมใช้เป็นช่างซ่อมรถโนเนม เปลี่ยนสายพาน ถ่ายน้ำมันเครื่อง อะไรพื้น ๆ ทำได้หมด แต่ถ้าพวกระบบ VAG COM คงไม่ได้ แต่ผมไม่ได้เจอปัญหาที่ต้องทำอะไรเกี่ยวกับไฟฟ้าเลย สบายไป

อย่าเพิ่งคิดว่าน่าใช้นะครับ เพราะผมเคยเจอในเว็บโฟลค์ คนบ่นก็มี ลองไปอ่าน ๆ ดูก่อนจะดีกว่าครับ