ผู้เขียน หัวข้อ: สำหรับคนขับรถพยาบาล  (อ่าน 4105 ครั้ง)

ออฟไลน์ Insideout

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 565
สำหรับคนขับรถพยาบาล
« เมื่อ: เมษายน 27, 2015, 13:43:44 »
ข่าวน่าสลดใจมากๆเมื่อวานที่จังหวัดระยอง
แชร์กันในกลุ่มแพทย์และพยาบาล แต่อยากให้เป็นข้อเตือนใจ
สำหรับคนขับรถพยาบาลที่ต้องรีบไปส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
ถึงแม้เปิดไฟแล้ว แต่ต้องระวังให้มากที่สุด
โดยเฉพาะถนนใหญ่ในต่างจังหวัด
และคนขับรถใหญ่ๆ อยากให้ระวังมากขึ้นหากได้ยินเสียงรถพยาบาล

ผู้ป่วยหญิงอายุ 51 ปี เป็นอัมพาตฉับพลัน แต่ยังรู้่สึกตัวดี
รพ.นิคมพัฒนา ซึ่งเป็นรพ.อำเภอ จำเป็นต้องส่้งผู้ป่วย
ไปรับการรักษาด่วนที่รพ.จังหวัด ตอนตีสี่ครึ่ง

ขณะขับรถออกมาจากรพ.ได้แค่ 300 เมตร
ได้ถูกรถ 18 ล้อวิ่งออกมาจาก ตลาดนิคมมุ่งหน้า ซ 13
ชนด้านประตูกลางรถ
ผู้ป่วยกระเด็นออกมาเสียชีวิตนอกรถทันที
น้องพยาบาลที่นั่งดูแลข้างผู้ป่วย ไหปลาร้าหัก กระดูกเชิงกรานแตก
สมองบวม มีเลือดออกในสมอง แต่ข่าวล่าสุดบอกว่าน้องเริ่มรู้สึกตัวแล้ว
ส่วนคนขับรถพยาบาล บาดเจ็บเล็กน้อย ปลอดภัยดี











เครดิตจาก Nurse Team Thailand และ ศูนย์สื่อสารจังหวัดระยอง

ออฟไลน์ Dubee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,530
Re: สำหรับคนขับรถพยาบาล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 27, 2015, 14:23:41 »
เสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บด้วยนะครับ

ส่วนตัวคิดว่า คนขับรถพวกภารกิจพิเศษเหล่านี้ (ไม่ว่าจะเป็นรถตำรวจ รถทหาร รถพยาบาล รถปอเต็กตึ้ง รถหน่วยงานพิเศษต่างๆ ฯลฯ) ควรมีใบขับขี่เฉพาะทางเลยครับ และควรได้รับการอบรมจากขนส่งก็ดี หรือหน่วยงานก็ดี ให้ขับในภารกิจพิเศษ เพราะล้วนเป็นภารกิจเสี่ยง ที่จะต้องใช้ความเร็วไม่เหมือนรถธรรมดาครับ จะได้ควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดเคราะห์หามยามร้าย ไม่เราไปชนเขา เขาก็มาชนเรา จะได้มีทักษะการขับขี่ที่พอจะแก้ไขสถานการ์นั้นๆได้อย่างฉับพลันครับ

ออฟไลน์ kris-lack

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,761
Re: สำหรับคนขับรถพยาบาล
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 27, 2015, 14:51:12 »
เสัยใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วยค่ะ

กระทู้รถพยาบาล เราเคยแสดงความคิดเห็นรวมทั้งตั้งกระทู้แล้วว่า
คนที่ขับรถเหล่านี้ พวกเรายินดีที่จะหลีกทางให้คุณ แต่คุณก็ต้องดูจังหวะและความเหมาะสมด้วย
เช่น ทางกลับบ้าน มันจะมีช่วงนึ่งที่เป็นวิ่งสวนทาง และแคบมาก พอรถพยาบาลวิ่งมา เขาจะไม่สนใจอะไรเลย แซงอย่างเดียว โดยที่ไม่มองคันข้างหน้าด้วยซ้ำว่าเขามีที่หลบมั้ย ยังไงก็ฝากผู้ขับรถเหล่านี้ด้วยค่ะ คนไทยเรามีน้ำใจเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว

ออฟไลน์ Mike

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,566
Re: สำหรับคนขับรถพยาบาล
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 27, 2015, 17:58:51 »
เสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บด้วยนะครับ

ส่วนตัวคิดว่า คนขับรถพวกภารกิจพิเศษเหล่านี้ (ไม่ว่าจะเป็นรถตำรวจ รถทหาร รถพยาบาล รถปอเต็กตึ้ง รถหน่วยงานพิเศษต่างๆ ฯลฯ) ควรมีใบขับขี่เฉพาะทางเลยครับ และควรได้รับการอบรมจากขนส่งก็ดี หรือหน่วยงานก็ดี ให้ขับในภารกิจพิเศษ เพราะล้วนเป็นภารกิจเสี่ยง ที่จะต้องใช้ความเร็วไม่เหมือนรถธรรมดาครับ จะได้ควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเกิดเคราะห์หามยามร้าย ไม่เราไปชนเขา เขาก็มาชนเรา จะได้มีทักษะการขับขี่ที่พอจะแก้ไขสถานการ์นั้นๆได้อย่างฉับพลันครับ


เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

ต่อไปเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมบ้างนะครับ อ่านแล้วจะมาม่า ไวไว ผมก็ไม่ว่า แต่มันเป็นสื่งที่ผมเห็นจากตาตัวเองบ่อยๆ

พวกคนขับรถพิเศษพวกนี้ ส่วนน้อยที่จะขับดี มีมารยาท ส่วนใหญ่ชุ่ย ไม่เคารพกฏ ไม่ต่างอะไรจากพวกนักเลงรถ
ยิ่งพวก มูลนิธิอาสากู้ภัย และ เป็น รถแต่ง นี้ยิ่งชุ่ย หนัก กว่ารถของโรงพยาบาล

พอด่าไปก็ย้อนเรา ด้วยเหตุผลที่ว่า พวกเค้าเป็นคนเสียสละ ทำด้วยจิตอาสา ฟรีๆ ทำไมไม่เห็นใจ ต้องมาด่า ซ้ำเติมอีก

คนไทยเป็นคนมีน้ำใจครับ เวลาคับขับ เดือนร้อน ผมเชื่อว่าทุกคนพร้อมช่วย พร้อมเบี่ยงเลน หลบให้
แต่ไอ้การ ที่คุณ ขับจี้ ปาดซ้าย ปาดขวา เบิ้นเครื่อง ควันดำ ประกอบกับรถคุณ มันมีลักษณะแต่งซิ่งเนี่ย มันทำใจยาก ที่จะให้อภัย และเห็นใจครับ
ที่ยอมหลบให้ เพราะทุกคนล้วนเห็นแก่ผู้บาดเจ็บ

ถ้าคุณขับดีๆ แต่ขับเร็ว ผมเชื่อว่าทุกคนบนถนนพร้อมให้ทาง
คนขับเร็วแย่ หรือ ขับเร็วดีๆ มันถึงจุดหมายไม่ต่างกันหรอก เผลอๆ ขับเร็วดีๆ คนพร้อมให้ทาง อาจจะถึงเร็ว กว่าขับแบบส้มจีน ด้วยซ้ำ
Next Gen Ford Everest 2.0 Titanium+ 4x4
Honda HRV e:HEV RS 22
SUBARU XV 2.0i-P 16
HONDA City SV 12
FORD Ranger Hi Rider 4DR XLT 2.2 TDCi 12
FORD Ranger Hi Rider OpenCab LIMITED 2.5 TDCi 08
ISUZU Dragon Eye SpaceCab SLX 2.8 00
TOYOTA Hilux Mighty X 94
MITSUBISHI Cyclone 94
TOYOTA Hilux Super Star 88

ออฟไลน์ zapdos191

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 683
Re: สำหรับคนขับรถพยาบาล
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 27, 2015, 22:48:44 »
เอางี้นะครับ ประสบการณ์ผมบนรถพยาบาลพอมีบ้าง ผมทำงานในโรงพยาบาลมาซักพักแล้ว

บอกได้เลยว่า คนขับรถของโรงพยาบาล ถ้าด้านหลังคนไม่เจ็บหนัก เป็นแบบเบาๆ ไม่มีอะไรมาก เค้าไม่ขับเร็วหรอกขับ เปิดไฟอย่างเดียว ไม่ได้เปิดหวอด้วยซ้ำ ถึงไฟแดง ก็ติดไฟแดงกับรถตามท้องถนนทั่วไป แต่ถ้าด้านหลังเป็นเคสด่วน ที่มันด่วนจริงๆ ยกตัวอย่างนะครับ โรคหลอดเลือดในสมองตีบที่คนไข้อยู่ต่างอำเภอไกลๆเป็น 100 กิโลเมตรจากจังหวัด คนไข้กลุ่มนี้ไม่มีอะไรครับ แขนขาอ่อนแรงด้านเดียว ปากเบี้ยวหน้าเบี้ยว แต่ยังรู้สึกตัว แต่ความจริงแล้วคือถ้าเค้าเวลายังพอเหลือ กล่าวคือ โรคนี้ถ้าเป็นมีเวลาตั้งแต่เริ่มเป็นจนถึงต้องได้รับยาละลายลิ่มเลือดซึ่งต้องทำการเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์สมองก่อน มีแค่ 270 นาที หลังจากนี้ไปถือว่าไม่ทัน และโอกาสพิการสุดท้ายนอนติดเตียงสูงมากครับ ซึ่งส่วนใหญ่มันจะไม่ทันครับ เลยต้องรีบ แต่ถ้าเลยเวลานี้แล้ว ก็ถือว่าไม่ทันแล้ว ความรีบก็ลดหลั่นลงไป ใครๆก็อยากหายถูกไหมครับ ใครๆก็ไม่อยากนอนติดเตียงกินอาหารทางสายยางกันหรอกครับ

อีกประการคือพวกคนไข้ที่หัวใจหยุดเต้นบนรถ ผมเคยอยู่ในเหตุการณ์แบบนั้น ผมเป็นคนคุมการปั๊มช่วยหัวใจ เหล่าเจ้าหน้าที่เวชกิจฉุกเฉิน พยาบาลที่ไปด้วยเค้าก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้บนรถซึ่งค่อนข้างทุลักทุเล ปั๊มได้ไม่เต็มที่ พอปั๊มได้ไม่เต็มที่ โอกาสช่วยคนไข้นั่นก็ลดลงครับ ทุกครั้งที่ผมออกแล้วเจอคนไข้หัวใจหยุดเต้นบนรถผมจะมองเสมอว่า "เมื่อไหร่จะถึงโรงพยาบาล"

ถ้าจะเหมารวมและบอกว่าส่วนน้อยที่ขับดีๆแบบนี้ ผมเรียนตามตรงว่าไม่เห็นด้วยครับ จะอารมณ์ประมาณว่า Fortuner โดนเหมารวมว่าขับนักเลงนั่นแหละครับ ประมาณเดียวกัน ส่วนรถมูลนิธิอันนี้ยอมรับครับ ส่วนใหญ่ขับกันเร็วจริงๆ และแต่ละคันแต่งมาไม่ธรรมดา ลงสนาม Drag หรือ Drift ได้สบายๆ แล้วเหล่านี้ถึงจุดเกิดเหตุ และช่วยเหลือเบื้องต้นได้เร็วกว่าทีม Advance อีกนะครับ

ประเทศเราเรื่องกฏหมายรถพยาบาลยังไม่มีครับ เพียงแต่ต้องอาศัยน้ำใจบนท้องถนนกันไป ซึ่งจากประสบการณ์ผม คนไทยเริ่มรู้และให้ความร่วมมือค่อนข้างดีแล้ว ตรงนี้ก็ต้องกล่าวขอบคุณล่ะครับ ที่เปิดทาง ให้โอกาสให้กับคนไข้ที่นอนอยู่ด้านหลัง  ;D ;D

ปล. ผมขอโพสรอบนี้รอบเดียว ไม่ตอบโต้ ไม่พิมพ์ต่อนะครับ เผื่อกรณี Drama ซึ่งผมไม่อยากจะให้เกิดต่อไป  :) :)
-------- Toyota Vios 2003 --------
-------- Subaru WRX STi 2015 --------
-------- Honda Jazz GK5 --------
-------- BMW G20 330i --------
-------- Subaru Impreza WRX STi 2008 (GRF) --------
-------- Subaru Forester XT (SJG) MC --------

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,604
    • อีเมล์
Re: สำหรับคนขับรถพยาบาล
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 28, 2015, 00:33:10 »
^^^

ผมขอถามเป็นความรู้นิดเดียวครับ  ทำไมบนรถถึงปั้มหัวใจได้ไม่เต็มที่ครับ



ผมก็เคยเจอรถพยาบาลบนทางด่วน ช่วงเลยหัวลำโพงมานิดนึง เย็นวันศุกร์รถติดมาก ทุกคันพร้อมใจกันแหวกซ้ายขวา ทำให้ที่รถพยาบาลพอจะวิ่งคร่อมเลนไปข้างหน้าได้ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากขวางรถพยาบาลแน่ๆ ไม่เหมือนพวกรถตู้ vw ที่โดนตำรวจบังคับปิดถนน ผมก็ไม่อยากว่าอะไรไปมากกว่านี้ แต่ถ้าเปลี่ยนจาก vw เป็นรถพยาบาลทุกคนเต็มใจแน่


ออฟไลน์ imvile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 627
Re: สำหรับคนขับรถพยาบาล
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 28, 2015, 02:19:45 »
การช่วยชีวิตพื้นฐาน (ACLS) มันต้องมีทั้งคนปั้มหัวใจ (ที่ถูกต้องคือ 2มือกดกัน ลึก 1/3 ของความลึกหน้าอก เร็ว>100ครั้งต่อนาที) ใส่ท่อ บีบอ๊อกซีเจน หาเส้น ให้ยากระตุ้นหัวใจ จับเวลาที่ต้องให้ยาถูกเวลา สารพัด บนรถบางทีเราใส่ท่อช่วยหายใจเสร็จรถก็ออกตัวเลย พยาบาลหาเส้น ไอรถก็ขับเร็ว บางทีต้องมือโหนมือนึง ปั้มหัวใจมือเดียว มันจะไปปั้มหัวใจเต็มที่ได้อย่างไร

พวกโรคทางเส้นเลือดเนี่ยตัวดี โรคทางหัวใจ หากเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจอุดตัน การให้ยาละลายลิ่มเลือดควรให้ภายใน 3 ชม. (จริงๆควรให้ใน 30 นาทีด้วยซ้ำ) กว่าญาติจะโทรตาม ไปถึง พอไม่ทัน มันต้องเปลี่ยนการรักษาเลยนะ รีบย้ายไปสถานพยาบาลที่ทำ balloon ได้ซึ่งก็ไม่ได้มีทุกที่

อุบัติเหตุบางอย่าง ง่ายๆเช่นกระดูกสะโพกหัก เลือดออกภายใน เราทำได้แค่รัดเอวภายนอก ให้สารน้ำชดเชย จะแก้ต้องผ่าตัดฉุกเฉินที่รพ. ตอนแรกบางคนยังรู้สึกตัวดี คุย ถามประวัติระหว่างทางได้ด้วยซ้ำ กว่าจะไปถึง ก็เลือดออกในเชิงกรานความดันตก หัวใจหยุดเต้นหน้าห้องฉุกเฉินก็มี น่าเศร้าไหมหล่ะ คุยกันอยู่หลัดๆ

ผมเคยเป็นนักเรียนอยู่ที่รพ.แห่งหนึ่งใจกลางอนุเสาวรีย์ ที่ทางเข้าห้องฉุกเฉินเป็นซอยแคบๆ พอมหัรถไปได้แค่ 2 คัน ซึ่งแน่นอนว่าคลาคล่ำไปด้วยรถตู้ในซอย ซอยนั้นเป็น one way เข้าทางฝั่งถนนราชวิถี ออกทางพญาไท รถที่จะออกซอยนั้นก็ติดไฟแดงฝั่งพยาไท ริมถนนแน่นอนว่าถูกแย่งไป 1 เลนด้วยรถตู้ พอฉุกเฉินมา รถก็ไปไม่ได้ ติดรถไฟแดงฝั่งพยาไท อีกเลนก็รถตู้จอด จนผอ.ทำไฟสีเหลืองไว้หน้าถนนฝั่งพยาไทริมรั้ว ว่าหากจะมีฉุกเฉินมาให้รีบขับไป ไม่ได้ผลครับ คนในรพ.ต้องออกมาโบกอยู่ดี อนาถมาก บางทีต้องถอยไปส่งรพ.ทหารใกล้ๆนั้นด้วยซ้ำ (ซึ่งต้องผ่าข้ามถนนไปอีกฝั่ง บางทีรถก็ไม่ยอมจอด บางทีจอดทับเส้นอีก) ตอนคสช.จัดระเบียบรถตู้ให้จอดนอกถนนฝั่งราชวิถีก็ดีหน่อย ไม่ทันไรตอนนี้กลับมาจอดในซอยเหมือนเดิม นี่สถานพยาบาลตติยภูมิ แถมเป็นศูนย์รถฉุกเฉินแห่งหนึ่งด้วยนะเนี่ย

สุดท้ายรถพยาบาลจริงๆ เค้าฉุกเฉินจริงๆ เค้าถึงขับเร็ว ไม่ใช่ปอเต๊กตึ๊ง ขับแดรกเล่นแข่งกัน (รถดีๆก็คงมีด้วยแหล่ะ) รถฉุกเฉินจริงๆจะเอารถออกไปใช้ต้องลงทะเบียน พวกนี้มีการฝึกกู้ชีวิตพื้นฐานมาแล้ว มีใบอนุญาติจริงจัง ผมก็เข้าใจนะ บางท่านติดภาพรถกระบะควันดำแว๊นกวนเปิดไฟหวอทั่วเมือง ก็ไม่อยากหลบให้ ไม่รู้ว่าฉุกเฉินจริงรึเปล่า ไอรถฉุกเฉินจริงๆเลยเดือดร้อน (พวกเค้าก็พนงกินเงินเดือนเหมือนกัน ไม่ได้แข่งทำค่าหัว เอาไปส่งรพ.รัฐธรรมดา เยินๆงานหนักมานี่ยิ่งไม่ชอบ) เราควรจะมีการจัดระเบียบเปิดไฟฉุกเฉินให้ดีกว่านี้ ให้มันศักดิ์สิทธิจริงๆ



^^^

ผมขอถามเป็นความรู้นิดเดียวครับ  ทำไมบนรถถึงปั้มหัวใจได้ไม่เต็มที่ครับ



ผมก็เคยเจอรถพยาบาลบนทางด่วน ช่วงเลยหัวลำโพงมานิดนึง เย็นวันศุกร์รถติดมาก ทุกคันพร้อมใจกันแหวกซ้ายขวา ทำให้ที่รถพยาบาลพอจะวิ่งคร่อมเลนไปข้างหน้าได้ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากขวางรถพยาบาลแน่ๆ ไม่เหมือนพวกรถตู้ vw ที่โดนตำรวจบังคับปิดถนน ผมก็ไม่อยากว่าอะไรไปมากกว่านี้ แต่ถ้าเปลี่ยนจาก vw เป็นรถพยาบาลทุกคนเต็มใจแน่


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2015, 02:32:54 โดย imvile »
J32 since 2011
F30 since 2014
W205 since 2019
ACV70 since 2021

ออฟไลน์ natty ib-cm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 667
Re: สำหรับคนขับรถพยาบาล
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 29, 2015, 01:17:22 »
      ขอแชร์จากประสบการณ์ที่ได้ทำงานเกี่ยวข้องกับองค์กรมูลนิธิที่เกี่ยวกับการแพทย์ฉุกเฉินครับ (ช่วงหลังไม่ค่อยได้ออก ว.4 กับน้องๆแล้ว อดนอนไม่ไหว 555) สำหรับบางกรณีจำเป็นต้องด่วนมากๆ ถ้าเป็นเคสถึงชีวิตหรือทุพพลภาพ โดยเฉพาะคนป่วยบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่อาจเสียชีวิตบนรถกู้ภัย ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวความน่าเชื่อถือขององค์กร การขับขี่รถพยาบาลฉุกเฉินบนถนนถ้าคนเห็นเป็นรถตู้ของโรงพยาบาลก็จะถูกมองก่อนว่าป่วยหนักจริง แต่หากเป็นรถกู้ภัยของมูลนิธิจะถูกมองตรงข้าม แบบว่า ไม่ป่วยหนัก แต่ชอบซิ่ง (เท่าที่เคยทราบมาครับ) ตรงนี้ตอบยากครับ บางครั้งเป็นนาทีชีวิตจริงๆที่ทั้งคนป่วยที่นอนอยู่กับคนขับและเจ้าหน้าที่อาจเสี่ยงพอๆกันแต่ช่วงหลัง (5 ปี หลัง) คนไทยเริ่มเข้าใจการทำงานของหน่วยกู้ชีพ กู้ภัย ประเภทมูลนิธิมากขึ้น ภาพลักษณ์ไม่ดีที่เคยมีเริ่มเบาบางลงมากครับ ซึ่งองค์กรที่ผมเกี่ยวข้องอยู่ก็จะไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ หรือ อาสาสมัคร ตกแต่งรถยนต์ส่วนตัวแล้วนำตราสัญลักษณ์ขององค์กรไปติด และนำมาใช้ปฏิบัติหน้าที่ครับ เป็นกฏเหล็ก พบเมื่อไหร่เชิญออก ยึดบัตรทันที่ครับ เพราะห่วงเรื่องชื่อเสียงมาก การทำงานด้านนี้ความน่าเชื่อถือสำคัญ แต่ยังพบองค์กรอื่นๆที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน ปล่อยให้ทำได้ ก็กลายเป็นแฟชั่นแต่งรถไป ติดสัญญาณไฟวับวาบโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งก็มีการปราบปรามไปช่วงก่อน
     ต้องขอขอบคุณผู้ใช้รถใชัถนนหลายๆท่านที่เข้าใจและให้ทาง เพราะเราทุกคนต่างก็มีส่วนช่วยรักษาชีวิตเพื่อนมนุษย์นะครับ  ;D