ไม่รู้ว่าทำไมเอามาเทียบกัน แต่ผมคิดว่าประเด็นของเจ้าของกระทู้สงสัยว่าทำไมสองถึงแพงใช่มั้ยล่ะครับ
จริงๆ ต้องไปดูข้อกำหนดนะครับ ว่า Eco Car Phase 1 กับ Phase 2 มันมีข้อกำหนดอะไรต่างกันบ้าง
เอาเพียงประเด็นอย่างอัตราสิ้นเปลืองต้องโดดจาก 20 กม./ลิตร ไปเป็น 23.25 กม/ลิตร (+16.25%)
หรืออย่างอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จาก 120 กรัม/กม. เป็น 100 กรัม/กม. (+20%)
เงินลงทุนและต้นทุนในการพัฒนารถมันต่างกันอยู่แล้ว และยังมีข้อบังคับอื่นๆ มากมายอีก
ถ้ามาสด้า 2 ไม่ได้เข้าโครงการ Eco Car Phase 2 ผมบอกเลยว่าไม่มาทำตลาดแน่นอน
เพราะราคารวมภาษีแล้วจะต้องโดดไปขี่กับ C-Segment แล้วก็แป้กอย่าง Vios Turbo, Jazz Hybrid, Fiesta Ecoboost
บอกได้เลยครับว่าถ้ากระแสเป็นแบบนี้มากๆ ต่อไปคงต้องเลิกโอดครวญกันแล้ว ว่าทำไมเทคโนโลยีดีดี เครื่องเจ๋งเจ๋ง ถึงไม่ได้มาเมืองไทย จะเอาเปรียบคนไทยไปถึงแค่ไหน เพราะนี่ขนาดจังหวะเหมาะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้ราคาลงมาเกาะกลุ่มในเซกเมนต์เดิมได้ ยังโดนสับเป็นพักๆ กันขนาดนี้เลย
นานนานไปผมชักจะเริ่มเข้าใจโตโยต้า เครื่องบล็อคเดิม เกียร์ลูกเดิม ปรับปรุงจูน ECU ใหม่ ต้นทุนการผลิตนี่คุ้มทุนไปตั้งแต่เจนแรกแล้ว ก็ทำราคาได้ถูก แถมยังไม่โดนคนด่า และขายดีอีกต่างหาก มองจากมุมบริษัทยังไงก็คุ้ม
ผมไม่คิดเช่นนั้นครับ
เครื่อง 1.3 ของมาสด้า ถูกพัฒนา และขายอยู่แล้ว ที่ ญี่ปุ่น จะเหมารวมว่าพัฒนาใหม่เพื้อตลาดไทยก็ไม่ใช่
มาตราฐาน eco car เฟสสอง เราก็ไม่ได้ อุตริคิดขึ้นมาเอง
ก็อ้างอิง ตามมาตราฐาน ของประเทศต่างๆมาปรับใช้ ซึ่ง มันก็มีรถที่รองรับมาตราฐานนี้อยู่ทั่วโลกอยู่แล้ว
และผมเชื่อว่า เมื่อหมด yaris gen นี้
Toyota ก็จะสามารถทำรถ ที่เอาเกณ eco car เฟสสองได้ ในราคาไม่ต่างจากเดิม
โดยส่วนตัว ผมมองว่า M2 ดีเซลยังถูก สมราคาครับ
แต่ M2 เบนซิน ก็ตามที่เห็น
หากจะเทียบกันจริงๆ ให้ลองเทียบ อัตรสิ้นเปลือง M2 กะ yaris ไปเลย ว่าต่างกันกี่ %